ตอนที่ 472: ใครยังต้องการโอสถอีก

Crazy Leveling System

ไม่คิดว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้แพ้ ยิ่งกว่านั้น บางคนยังล้มเหลวไม่ต่ำกว่า 1-2 ครั้ง กระทั่งเป็นสิบครั้งก็ยังมี ยังไงก็ตาม ไม่มีใครสักคนที่จะเผยแววตาแห่งความพึงพอใจ พวกเขาต่างก็พากันให้ความสนใจยังจุดสูงสุด ขณะที่นั่งพักฟื้นอยู่ใกล้ๆ

 

“มีคนใหม่มา ทั้งคราวนี้ยังมาพร้อมกันถึงสี่คน เจ้าพวกนี้ช่างโชคดีจริงๆ ทำไมถึงออกมาพร้อมกันหลายคนขนาดนี้? ช่างไม่อยากจะเชื่อจริงๆ…..”

 

“ใช่ แต่ถึงจะมาถึงนี่ได้ แต่เมื่อไหร่ที่เขาได้ลองสักครั้ง พวกเขาก็จะรู้ว่าหมอกแห่งความตายนั้นไม่ได้สำคัญอะไรเลย ที่นี่ยังยากกว่าในหมอกตั้งหลายเท่า”

 

“ฮี่ฮี่ คราวนี้จะได้เห็นสีหน้าของคนใหม่ล้มเหลวแล้วสินะ? ครั้งก่อนข้าไม่ทันได้ดู อีกฝ่ายก็ตกมาตายซะแล้ว?”

 

“ไม่รู้ว่าครั้งแรกพวกเขาจะปีนไปได้สูงแค่ไหน ข้าว่าอย่างมากก็ได้แค่ 50 จ้าง ไม่มีทางสูงไปกว่านี้อย่างแน่นอน!”

 

“50 จ้าง? ข้ารู้สึกว่าได้ประมาณ 40 จ้างก็ดีแล้ว เพิ่งจะมาถึง พวกเขาจะทนพลังงานสีดำนี้ได้สักแค่ไหนกันเชียว?”

 

……

 

พวกเขาพากันคุยกันว่าพวกเขาจะตกลงมาจากความสูงเท่าไหร่ นี่เป็นพวกเขาเห็นพวกอี้เทียนหยุนเตรียมจะปีนหน้าผา ดังนั้นจึงพากันเอ่ยหัวข้อนี้ขึ้นมา

 

นี่ดูแล้วเข้ากันอย่างมาก ตามจริงนั้น แต่ละคนต่างก็เป็นผู้โหดเหี้ยมด้วยกันทั้งนั้น เพราะทำชั่วเอาไว้มากถึงถูกบังคับให้ต้องเสี่ยงตายเข้ามาที่นี่ การผ่านมาถึงนี่ได้ เป็นการบอกว่าพวกเขาล้วนไม่ธรรมดา ยิ่งกว่านั้น ผู้ที่จะไปยังโลกวิญญาณนั้น ในจำนวนคนทั้งหมด มากกว่าครึ่งล้วนแต่เป็นคนชั่วร้ายทั้งนั้น

 

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ได้คิดจะลงมือกับอี้เทียนหยุน ในที่แห่งนี้ นอกจาโอสถที่มีผลเล็กๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาวุธหรืออื่นๆ ล้วนแต่ไร้ผลที่นี่ ไม่มีอะไรที่จะช่วยให้พวกเขาผ่านประตูโลกวิญญาณได้ แล้วอย่างนี้พวกเขาจะลงมือไปเพื่ออะไร?

 

นอกเสียจากพวกเขาจะไม่มีโอสถ อย่างนั้นคงได้แต่ปล่อยไป

 

“เด็กใหม่ พวกเจ้ามีโอสถบ้างหรือไม่?” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุดยืนขั้น ดูแล้วเหมือนกับพึ่งฟื้นตัว เมื่อเห็นพวกเขา ดังนั้นจึงได้เดินเข้ามา

 

ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุดนี้ดูแล้วยังหนุ่มมาก เขาอายุเพียง 40 ปีเท่านั้น ดูแล้วท่าทางค่อนข้างสุภาพ แต่ไม่มีใครรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่

 

ในใจพวกเริ่นเหลียงเฉินเย็นเยียบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเข้ามาทำอะไร ในใจต่างก็พากันระวังสุดขีด กังวลว่าผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณผู้นี้จะลงมือ

 

สีหน้าอี้เทียนหยุนยังคงไม่ใส่ใจ เขาหยิบขวดโอสถฟื้นฟูทั่วไปออกมาสองขวด ส่งให้แล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าพอจะบอกข้อมูลให้ข้าได้หรือเปล่า?”

 

ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณผู้นั้นรับไป หลังจากเปิดขวดพร้อมสูดดมเล็กน้อยก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ดี เป็นโอสถฟื้นฟูที่ดี ขอบคุณมาก”

 

หลังจากเก็บขวดไว้แล้ว ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณผู้นี้ก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “สำหรับข้อมูลนั้น ต้องปีนหน้าผานี้ขึ้นไปถึงจะไปถึงโลกวิญญาณได้ เรื่องนี้เจ้าเข้าใจใช่ไหม”

 

เริ่นเหลียงเฉินกับพวกรู้สึกเดือดในใจ นี่ไม่ใช่การพูดเหลวไหลหรอกเหรอ? คนที่มาที่นี่ล้วนแต่รู้เรื่องนี้กันอยู่แล้ว ว่าต้องปีนขึ้นไปถึงจะไปถึงโลกวิญญาณได้ นี่ยังเรียกว่าเป็นข้อมูลได้อีกเหรอ

 

“ใจเย็น ดูอย่างน้องชายท่านนี้สิ ไม่มีท่าทางกังวลแม้แต่น้อย เป็นคนที่จิตใจแข็งแกร่งจริงๆ แล้วก็พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก หลังจากลองหลายๆ ครั้ง พวกเจ้าก็จะเข้าใจว่ากังวลไปก็เปล่าประโยชน์” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณกวาดตามอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เห็นหรือไม่ พวกเขาต่างก็เป็นคนที่ล้มเหลวด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงข้าด้วย ที่นี่มีใครบ้างที่ไม่ล้มเหลวสักหลายๆ ครั้ง? ดังนั้น พวกเจ้าต้องใจเย็นๆ ฟังข้าพูดอย่าได้ใจร้อน”

 

“ที่จริงก็ไม่มีอะไรยาก ยิ่งปีนขึ้นไปสูงเท่าไหร่ พลังงานสีดำที่รุกรานเข้าไปในร่างยิ่งแข็งแกร่ง และยิ่งสูง แรงกดดันก็ยิ่งมาก โดยเฉพาะเมื่อไปถึงเมฆดำนั้น จะรู้สึกเหมือนกับมีแรงกดดันนับหมื่นจินกดทับลงมา เมื่อรวมกับพลังงานสีดำที่รุกรานเข้าไปในร่าง จึงทำให้ร่างกายต้านทานไม่ไหว ทำให้ง่ายที่จะหมดแรง สุดท้ายก็ตกลงมา”

 

“หากพวกเจ้ารู้ตัวเร็วพอ ก็จะสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตกลงมาโดยไม่บาดเจ็บ แต่หากไม่รู้ตัว หรือรู้แล้วยังฝืน สุดท้ายก็จะมีเพียงความตายที่รออยู่ เหมือนกับทางฝั่งนั้น” เขาชี้ไปยังโครงกระดูกที่กองอยู่ไม่ไกล เพื่อที่จะทำให้ศพกลายเป็นโครงกระดูก ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน ไม่นานก็สามารถทำให้ศพกลายเป็นโครงกระดูกได้!

 

หลังจากกลายเป็นโครงกระดูก ก็จะถูกพื้นดิน “กลืน” ลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหายไปอย่างช้าๆ

 

และนี่ก็เป็นเรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง พลังกัดกร่อนของที่นี่แข็งแกร่งมาก ดังนั้น โครงกระดูกพวกนี้ย่อมต้องถูกกลืนไปอย่างรวดเร็วเป็นธรรมดา

 

“แล้วยังมีอีก อย่าได้ประมาท….. หากว่าไม่สามารถผ่านไปได้จริงๆ ข้าแนะนำให้พวกเจ้ากลับทางเก่าไป ที่ข้ายังอยู่ที่นี่ก็เพื่อฝึกฝน หลังจากนี้สักพักข้าเองก็จะกลับเหมือนกัน ขอบคุณมากสำหรับโอสถของเจ้า น้องชาย” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณนั้นยิ้มให้ จากนั้นก็กลับไปนั่งสมาธิตามเดิม พร้อมกับกินยาเพื่อทำการฟื้นฟูต่อ

 

เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการฟื้นฟูค่อนข้างช้า ดังนั้นจึงได้เข้ามาขอยาของพวกเขา

 

“โอ้ ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะมียาอยู่มาก ไม่ทราบว่าน้องชายพอจะแบ่งให้ข้าได้บ้างหรือเปล่า?” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณอีกคนคิดหากำไรจากพวกเขา จึงได้เดินเข้ามาที่นี่

 

“หากว่าเจ้ามีข้อมูลอะไรมาแลก ข้าก็จะมอบโอสถขวดนี้ให้กับเจ้า” อี้เทียนหยุนหยิบโอสถอีกขวดออกมา เขาต้องการที่จะเข้าใจสถานการณ์ของที่นี่อีกหน่อย

 

“ข้อมูลเหรอ? ไม่มีหรอก ข้าก็แค่อยากจะได้ยาของเจ้า” ผู้ฝึกตนคนนี้พูดอย่างยียวน

 

“หากไม่มีข้อมูล งั้นก็ได้โปรดกลับไป” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่แยแส

 

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะกล้ามากสินะ? ข้ามาขอยาจากเจ้า ยังจะไม่ยอมให้อีก เจ้าคิดว่าข้าจะกลับไปทั้งที่ไม่มีอะไรติดมืออย่างงั้นเหรอ?” ผู้ฝึกตนคนนี้หัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา

 

จากนั้น ก็ได้มีผู้ฝึกตนระดับผันแปรวิญญาณ 3-4 คนลุกขึ้น แต่ละคนท่าทางไม่อ่อนแอเลย เห็นได้ชัดว่าคิดว่าพวกเขามาใหม่ จึงคิดจะจับปลามือเปล่า เพราะว่าอยู่ที่นี่มานาน ดังนั้นยาที่เตรียมมาจึงร่อยหรอลงเช่นกัน

 

อี้เทียนหยุนไม่ใช่คนดีอะไร พวกเขาไม่มียา แล้วเกี่ยวอะไรกับเขา?

 

“พอได้แล้ว ไม่ว่าใครก็ห้ามหาเรื่องคนของข้า เจ้าเด็กนี้มีข้าคุ้มครองอยู่!” ผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณได้ยาจากอี้เทียนหยุนเมื่อก่อนหน้าแค่นเสียงออกมา พร้อมกับปลดปล่อยพลังขั้นสูงสุดออกมา ถือว่าเขาเป็นคนที่มีระดับดีที่สุดในผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายเหล่านี้

 

“ลู่เฟิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ไว้หน้าพวกเราเลยนะ?” ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

“ข้าคิดว่าเจ้าหนูนี่ออกจะหน่วยก้านดี สามคนที่เหลือแล้วแต่เจ้า แต่เจ้าเด็กนี่ ไม่ว่าใครก็ห้ามลงมือ!” ลู่เฟิงพูดด้วยสีหน้าไม่แยแส ทั้งยังเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง

 

ผู้ฝึกตนคนอื่นต่างก็มองหน้ากัน จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ตกลง ถือว่าเห็นแก่หน้าเจ้า เจ้าเด็กนี่ข้าจะปล่อยไป คนที่เหลือข้าจะทำอะไรก็ได้สินะ?”

 

“ตามใจเจ้า” ลู่เฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

ผู้ฝึกตนคนนี้หันกลับมามองอี้เทียนหยุน แล้วพูดกับเขาว่า “ถือว่าเจ้าโชคดี รีบส่งโอสถมา ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”

 

พวกเหลิงหู่สีหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ขณะที่กำลังจะด่ากราดออกไปนั้น ก็มีร่างหนึ่งพุ่งออกไป พร้อมกับถีบเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างแรง ผู้ฝึกตนคนนั้นถูกถีบกระเด็นไปติดกำแพง หลังจากที่พ่นเลือดออกจากปาก กลิ่นอายแห่งชีวิตก็หายไป พร้อมกับร่วงลงกับพื้น

 

“ติ๊ง ท่านสังหารเฉิงหยางสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 1.2 ล้าน, ค่าความคลั่ง 12,000, ค่าความชั่ว 600, ได้รับวิชายุทธ์ กรงเล็บวิญญาณอสูร, ท่าเท้าอสูรเหยียบเมฆ, ได้รับไอเทม โอสถฟื้นฟู, โอสถถอนพิษ, ชุดเกราะเทียนยี่”

 

“ใครยังต้องการโอสถอีก?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่แยแส