ตอนที่ 666 การณ์ไกล

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้ชูฮันค่อนข้างตื่นเต้นจนตัดสินใจประกาศเรื่องนี้ในห้องประชุม “คัดเลือกผู้อาศัยกลุ่มแรกไปใช้ชีวิตในเมืองโรแมนติก!”

 

“ฉันจะไปหาสถิติมาทันที” ซางจิ่วตี้อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ฉันไม่คิดเลยว่าสารล่อจะสุดยอดขนาดนี้ ไม่เพียงแค่ล่อซอมบี้มาได้ แต่ยังดึงดูดพวกมันได้ดีกว่าเลือดจริงด้วยซ้ำ ตอนนี้ไม่มีซอมบี้เลยสักสายพันธุ์ในบริเวณรอบๆ มันปลอดภัยและเคลียร์หมด แม้แต่อากาศยังปลอดโปร่ง!”

 

กูเหลียงเฉินเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน “และเพราะจำนวนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเพิ่มขึ้นมาถึง 1,500 นายแล้ว หลังจากใช้สารล่อเพื่อฆ่าซอมบี้ ทหารของเราก็กวาดล้างซอมบี้ที่หลงเหลือในพื้นที่จนเกลี้ยงและจัดการเผาศพเรียบร้อยจนเคลียร์หมด ตอนนี้ผมยืนยันได้ครับว่ามันไม่มีซอมบี้เหลือในบริเวณเลย!”

 

“เฮ้ย ฉันอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นย้าง สภาพแวดล้อมมันดีมาก แม้พวกต้นไม้จะโตเต็มไปหมดแต่ในเมื่อมันไม่มีปัญหาเรื่องซอมบี้ ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ก็แค่พืชสีเขียวตามธรรมชาติ!” เหลาเกา หัวหน้าแผนกโลจิสติกส์พูดอย่างที่ใจคิด เขาเดดินทางระหว่างค่ายเขี้ยวหมาป่าและเมืองทุกวัน แทบจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกขั้นตอนเรื่อยๆทีละวัน

 

“ท่านพลเอกชูฮันเป็นคนมองการณ์ไกล” ติงซือเย้าแสดงความนับถือแก่ชูฮันต่อหน้าทุกคน

 

“ฮึฮึ” ชูฮันยิ้มอย่างมีแผนร้าย เขาพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งข่มขู่ “นายพอจะจับสังเกตอะไรเกี่ยวกับตวนเจียงเหว่ยได้บ้างมั้ย?”

 

ติงซือเย้าโพล่งออกมาอย่างโมโห “ผมบอกแล้วว่าผมไม่รู้อะไรเลย!”

 

ชูฮันยิ้มอย่างมีนัยนะ “ครั้งต่อไปที่เขาเรียกนายไปพบ บอกตวนเจียงเหว่ยว่าถ้าอยากรู้ความลับของ S+ ให้มาที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าพร้อมกับของขวัญ”

 

หลังจากที่ชูฮันพูดเสร็จ สิบกว่าคนในห้องประชุมก็เงียบเสียงลงทันที บรรยากาศในห้องประชุมแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังและตึงเครียด

 

“อะไรคือความลับของหัวหน้า? S+?” หลิวยู่ติงที่มักไม่ค่อยสนใจอะไร หากคราวนี้เขาก็สนใจและจริงจังอย่างมาก ทุกคนเองก็อยากรู้เรื่องนี้เพราะไม่ใช่แค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับอำนาจและพลังที่หัวหน้ามีแต่มันยังอาจจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของค่ายเขี้ยวหมาป่าและอนาคตของทุกคน

 

ความลับของ S+ นั่น ตั้งแต่ครั้งแรกที่ชูฮันเปิดตัวระดับ S+ ขึ้นมาแก่สายตาทุกคนมันก็ผ่านมาเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว ซึ่งชูฮันมักหลีกเหลี่ยงที่จะบอกที่มาเสมอเพราะมันเกี่ยวข้องกับที่ตลอดมาชูฮันจะได้อันดับหนึ่งไปครองโดยไม่มีใครเอาชนะได้ ทุกคนทั่วทั้งจีนต่างอยากรู้กันทั้งนั้น

 

“อยากรู้เหรอ?” ชูฮันหัวเราะเบาๆ และชี้ไปที่หลูฮงเชิง “นายพึ่งจะยกระดับขึ้นเป็นระดับ 2 ใช่มั้ย?”

 

หลูฮงเชิงสบตากับชูฮันจากนั้นก็พยักหน้ารับ “ผมเป็นพรสวรรค์ มันยากที่จะยกระดับขึ้น ผมพึ่งขึ้นมาระดับ 2 หลังจากผ่านไปครึ่งปี”

 

“มันถูกต้องแล้ว” ชูฮันเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “พรุ่งนี้นายเริ่มการฝึกพิเศษหนึ่งอาทิตย์กับซูเฟิง จากนั้นก็เข้าไปในเมืองโรแมนติกไปที่เสาหินเพื่อทำการประเมิณของระยะ 2 ซะ หลังจากที่ทำการประเมิณครอบคลุมแล้วนายจะเข้าใจเองว่า S+ คืออะไร แต่จำเอาไว้ว่ามันอันตรายถึงชีวิต”

 

อึก! อึก!

 

ทุกคนต่างกลืนน้ำลายอึก หลูฮงเชิงไม่รู้ว่าเขาควรตื่นเต้นหรือกลัวดี

 

“ความลับของ S+ อยู่ในการประเมินของเสาหิน” ในที่สุดชูฮันก็เอ่ยความลับที่ฝังเก็บมานานนับปี “มนุษย์ ลูกผสม ซอมบี้ พวกเราถูกแบ่งออกเป็นสามประเภท แต่ที่มีเหมือนกับคือระยะอันกับความแข็งแกร่ง อย่างที่ทุกคนสังเกตเห็นในทุกอันดับบนเสาหิน มันจะมีรายชื่ออยู่แค่สิบอันดับแรกเท่านั้น”

 

ทุกคนเบิกตากว้างขณะจ้องไปที่ชูฮันอย่าเงียบๆ ไม่มีใครเอ่ยอะไร พวกเขาไม่กล้าส่งเสียงขัดชูฮันแม้แต่หายใจยังพยายามให้มันแผ่วๆ ทุกคนมีลางสังหรณ์ว่านี่ต้องเป็นความลับสุดยอดที่มีแค่ท่านพลเอกชูฮันเท่านั้นที่รู้ ซึ่งสิ่งที่ท่านพลเอกชูฮันรู้นั้นเหนือเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้

 

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ชูฮันกันหมด ชูฮันเพียงแค่ยิ้มออกมาน้อยๆ “ในเสาหินขนาดมหึมาที่มีอยู่ทั่วโลก พวกคุณสามารถได้คะแนนประเมิณโดยรวม S+ จากเสาหินเพียงแค่ 10 เสาหินเท่านั้น ซึ่งมันจะตั้งอยู่ตามจุดเฉพาะต่างๆที่ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคือที่ไหนอีกทั้งแต่ละเสาหินก็จะมีระยะประเมิณเฉพาะที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้คนที่จะเข้าไปทำการทดสอบได้จะต้องมีระยะที่ตรงกับเสาหินสำหรับการประเมิณนั้นด้วย”

 

อึก! อึก!

 

มีเสียงกลืนน้ำลายของกลุ่มคนอย่างพร้อมเพรียงอีกครั้ง ในตอนนั้นเองจู่ๆทุกคนก็ตระหนักขึ้นได้ว่ามันมีหลายอย่างในโลกที่เหนือเกินความรับรู้ของพวกเขา

 

หลังจากปล่อยให้ทุกคนตะลึง ชูฮันก็เอ่ยสิ่งที่น่าตกใจออกมาอีกครั้ง ทุกคนช็อคค้าง “พวกคุณสามารถจะสามารถเข้ารับการประเมิณโดยรวม S+ ของเสาหินในระยะ 2 ได้แค่เพียงในเมืองโรแมนติกเท่านั้น!”

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าห้านาที ตาของทุกคนเบิกกว้างอย่างตกใจจัด ข้อมูลที่น่าเหลือเชื่อมากมายที่ได้ฟังจากชูฮันในวันนี้มันเกินกว่าที่พวกเขาจะรับไหว

 

“คุณหมายถึง…” ซางจิ่วตี้ที่หลังจากสงบสติตัวเองลงได้แล้ว ก็เอ่ยถามขึ้น “เสาหินทั้งหมดที่มีในจีน เราจะสามารถเข้ารับการประเมิณโดยรวม S+ ของระยะ 2  ได้แค่เสาหินเดียวที่อยู่ในเมืองโรแมนติกของเราใช่มั้ยค่ะ?!”

 

“ใช่ แค่ที่นี้เท่านั้น” ชูฮันยืนยันคำพูดของชางจิ่วตี้

 

อุณหภูมิภายในห้องประชุมระเบิดขึ้นสูงทันที เลือดสูบฉีดอย่างแรง หัวใจของทุกคนเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น ทุกคนในที่นี้ไม่ได้โง่ พวกเขาเข้าใจสิ่งที่ได้ยินอย่างชัดเจน และตอนนี้เองพวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านพลเอกชูฮันถึงต้องสร้างเมืองโรแมนติกขึ้น ณ  ตำแหน่งนั้นและล้อมเสาหินเอาไว้

 

ท่านพลเอกชูฮันมองการณ์ไกลทุกอย่างเอาไว้แล้ว!

 

หลิวยู่ติงตื่นเต้นจนเผลอทำหน้าประหลาดๆออกมา เขาตื่นเต้นจนแทบอยากจะกระโดดเต้น “เท่ากับว่าตอนนี้เราควบคุมการประเมินของเสาหินไว้ในมือ รวมถึงร้านค้ามากมายรอบๆ เมืองนี้จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว กิน ดื่ม ของนักสู้ที่ต้องการเดินทางเพื่อทำการประเมิณ และตอนนี้เราได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือผู้คนทั่วทุกแห่งที่หลั่งเข้ามาหลังจากได้รู้ถึงความลับของ S+ “

 

“เงิน!” เหลาเกาตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ผลกำไร! เงินจะไหลเข้ามามหาศาล!”

 

“เหนื่อยฉันที่ต้องคอยดูแลการบริหารของเมืองโรแมนติก” ซางจิ่วตี้พึมพำด้วยรู้ว่าภาระอีกมากจะตกมาที่เธอ

 

ก่อนหน้านี้ที่ชูฮันพากลุ่มผู้หญิงจำนวนมากเข้ามาอยู่ในเมืองโรแมนติกจะใช้รูปแบบการบริหารที่ไม่เหมือนกับค่ายเขี้ยวหมาป่า เธอโมโหอย่างมากและคิดว่าชูฮันทำเล่นๆโดยไม่คิดอะไร แต่ตอนนี้หลังจากทุกอย่างเปิดเผยออกมา ซางจิ่วตี้รู้สึกว่าที่ผ่านมาเธอใสซื่อเหลือเกิน ผู้นำของค่ายเขี้ยวหมาป่าและก่อตั้งกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างชูฮันไม่มีทางทำอะไรโดยไม่มีความหมาย!

 

นี่จะเป็นกิจการธุรกิจขนาดใหญ่ เมื่อข่าวเรื่องความลับของ S+ ถูกแพร่กระจายออกไป มนุษย์สายพันธุ์ใหม่จำนวนมหาศาลจะไหลทะลักเข้ามาในเมือง และนอกจากนั้นพวกเขาจะนำผลประโยชน์มาให้อีกด้วย ซึ่งมันจะทำให้ไม่นานค่ายเขี้ยวหมาป่าจะมีทรัพยากรนำไปพัฒนาค่ายให้เติบโตยิ่งขึ้น!

 

ชูฮันที่กุมความลับมาเป็นปี จู่ๆก็ป่าวประกาศให้ทุกคนรู้แบบนี้ มันจะไม่น่าตกใจได้อย่างไรล่ะ?