ตอนที่ 300 ความเห็นต่าง

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ถังซีได้รับโทรศัพท์จากฉู่หลิงระหว่างทาง เธอถูกฉู่หลิงตำหนิทันทีที่รับโทรศัพท์ “คุณแน่ใจหรือว่างานออกแบบพวกนี้เป็นของคุณ ถ้าคุณจะลงสนามแข่งขันในงานปารีสแฟชั่นวีกด้วยงานออกแบบพวกนี้ ผมขอแนะนำให้คุณเลิกฝันเถอะ ไม่มีใครชื่นชอบงานแบบนี้หรอก นอกจากคุณ” 

 

 

ถังซีรับโทรศัพท์ปุ๊บก็ถูกฉู่หลิงตำหนิปั๊บในทันที เธอหน้านิ่วคิ้วขมวดกล่าวอย่างเย็นชา “คุณฉู่ คุณลบหลู่ฉันได้ แต่อย่ามาลบหลู่งานออกแบบของฉัน ฉันออกแบบงานทุกชิ้นด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ!” 

 

 

“ถ้านี่คือสิ่งที่คุณทำด้วยหัวใจและจิตวิญญาณ ผมก็ต้องขอโทษด้วย ผมให้คุณแสดงในงานปารีสแฟชั่นวีกด้วยผลงานแบบนี้ไม่ได้หรอก และ…ไม่มีทางทำให้บริษัทของคุณเป็นที่นิยมในวงการแฟชั่นได้!” น้ำเสียงฉู่หลิงจริงจังมาก ดูท่าทางเขาจะไม่ได้พูดเล่น หลังจากหยุดไปชั่วครู่เขาก็กล่าวว่า “คุณถัง ถ้าคุณไม่แสดงให้เห็นความจริงใจ ผมจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณมีความตั้งใจจริงที่จะทำให้บริษัทของคุณประสบความสำเร็จ!” 

 

 

ถังซีไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เธอไม่รู้จักฉู่หลิงดีนัก ในสายตาเธอเขาเป็นคนขี้โอ่ แม้เฉียวเหลียงจะบอกเธอว่าเขาเก่งกาจมากจริงๆ แต่ในจิตใต้สำนึกเธอคิดว่าฉู่หลิงอาจเป็นคนที่ยึดติดกับตัวเอง ดังนั้นเขาจะทำเฉพาะสิ่งที่ถูกขอร้องให้ทำ และไม่ให้ความสนใจกับบริษัทนี้อย่างจริงจัง เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะโกรธ… 

 

 

…และโกรธเพราะงานออกแบบของเธอ 

 

 

ถังซีอึ้ง อยากถามเขาเหลือเกินว่า ‘คุณเข้าใจการออกแบบหรือเปล่า’ แต่หลังจากคิดทบทวนเธอก็กล่าวว่า “เอาละ ตอนนี้ฉันมีเรื่องต้องทำ แล้วฉันจะกลับไปบริษัทหลังจากเสร็จธุระ ฉันจะแก้งานแล้วส่งให้คุณดูอีกครั้ง” 

 

 

ฉู่หลิงกล่าวด้วยเสียงคำรามอย่างเยือกเย็น “ผมกำลังรอคุณอยู่ที่บริษัท” 

 

 

“ไม่ได้…” ถังซีกำลังจะปฏิเสธ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบฉู่หลิงก็วางสายโทรศัพท์ไปแล้ว ถังซีมองโทรศัพท์อย่างพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปมองอาหกซึ่งกำลังขับรถอยู่ “ฉู่หลิงเป็นคนยังไง” 

 

 

อาหกเริ่มวิตกกังวลเมื่อถังซีเปิดการสนทนา เพราะเขาบอกได้เลยว่าถังซีกำลังโกรธ เขาจึงนิ่งเงียบ เพื่อไม่ให้ถังซีสังเกตเห็นว่าเขามีตัวตนอยู่ อย่างไรก็ตามถังซียังคงสังเกตเห็นเขา… ร่องรอยความสิ้นหวังอย่างขัดเขินปรากฏในสายตาเขา เขาจึงปรับกระจกมองหลังไม่ให้ถังซีเห็นสีหน้าเขา และกล่าวว่า “คุณฉู่เป็นคนลึกลับ แต่ไม่ลึกลับเท่านายน้อยของเรา ซึ่งเป็นคนลึกลับที่สุดในแวดวงธุรกิจครับ” 

 

 

ถังซี: “…” ฉันไม่ได้ถามว่านายน้อยของนายเป็นคนยังไง เข้าใจไหม 

 

 

เมื่อรู้ว่าเธอจะไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการจากอาหก ถังซีจึงตัดสินใจปล่อยไปอย่างนั้น เธอไม่เชื่อว่าฉู่หลิงจะเข้าใจในเรื่องการออกแบบ! 

 

 

หลังจากฝังเข็มให้เฉียวอวี่ซินแล้ว ถังซีก็นวดให้นางครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ออกจากบ้านเฉียวเหลียงไปที่บริษัท เป็นเวลาสามทุ่มเมื่อเธอกลับมาถึงบริษัท พนักงานคนอื่นๆ กลับบ้านไปหมดแล้ว แต่แสงไฟในห้องทำงานฉู่หลิงยังเปิดอยู่ ถังซีเลิกคิ้วแล้วเดินเข้าลิฟต์ เธอตรงไปที่ห้องทำงานฉู่หลิง เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยสีหน้าเข้มจัด กล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่านักเรียนมัธยมปลายจะมีธุระยุ่งมากมายในวันหยุดสุดสัปดาห์” 

 

 

ถังซีไม่อยากเสียเวลาอธิบาย เธอตรงไปที่ประเด็น “ปัญหาในงานออกแบบของฉันคืออะไร ถ้าคุณไม่ให้เหตุผลฉัน คุณฉู่ ฉันจะคิดว่าคุณกลั่นแกล้งฉัน” 

 

 

“กลั่นแกล้งคุณอย่างนั้นหรือ” ฉู่หลิงหัวเราะเยาะ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานพร้อมด้วยเอกสารปึกหนึ่ง เขาเดินเข้าไปหาถังซีพร้อมกับกล่าวว่า “ผมไม่มีเวลาจะทำอย่างนั้นหรอก!” จากนั้นก็โยนเอกสารลงบนโต๊ะน้ำชา แล้วส่งสัญญาณให้ถังซีดู “คุณคิดยังไงกับการออกแบบของคนนี้” 

 

 

ถังซีมองดูกองเอกสารและเลิกคิ้ว งานเหล่านี้เป็นงานออกแบบของเธอเอง แต่… ถูกนำไปเผยแพร่ในชื่อฉินซินหยิ่ง ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงน่าจะได้ชื่อว่าเป็นผลงานของฉินซินหยิ่ง เธอทำเสียงฮึดฮัดนั่งลงบนโซฟาข้างๆ “ฉันคิดว่างานพวกนี้ค่อนข้างดี” 

 

 

“ค่อนข้างดีหรือ” ฉู่หลิงหัวเราะเยาะอีก และจ้องมองถังซีอย่างเย็นชา ขณะถามอย่างดุดัน “คุณให้นิยามงานพวกนี้ว่าค่อนข้างดีอย่างนั้นหรือ” 

 

 

ถังซีขมวดคิ้วมองฉู่หลิง เขาเค้นเสียงคำราม “ผมอาจนำภาพสเก็ตช์งานออกแบบพวกนี้มาเป็นต้นแบบสร้างแรงบันดาลใจได้ แต่ไม่สามารถนำเสนอผลงานแบบนี้ออกไปได้ ถ้าต้องนำไปลงสนามแข่งขัน คนออกแบบต้องเสียสติไปแล้วที่นำมาเผยแพร่ แต่เธอก็ได้เป็นที่รู้จักในฉายา ‘ดีไซเนอร์อัจฉริยะ! ‘ นักออกแบบคนอื่นๆ ในประเทศจีนตายไปหมดแล้วหรือไง” 

 

 

ถังซีหน้าบึ้ง มองฉู่หลิงด้วยสายตาเยือกเย็น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เขามองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของถังซีและกล่าวต่อไป “และคุณยิ่งแย่ไปกว่านั้นอีก! งานออกแบบของคุณสไตล์เดียวกับงานพวกนี้!” 

 

 

ถังซีพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่ได้ลอกเลียนแบบผลงานของเธอนะ!” 

 

 

เธอไม่สามารถบอกเขาได้ว่าภาพสเก็ตช์งานออกแบบเหล่านี้เป็นของเธอเอง เพราะตอนนี้เธอคือเซียวโหรว ไม่ใช่ถังซี แต่ถึงแม้เธอจะบอกเขาว่าภาพสเก็ตช์เหล่านี้เป็นของเธอ ไม่ใช่ของฉินซินหยิ่ง ฉู่หลิงก็คงไม่เชื่อ เพราะผู้ชายอย่างฉู่หลิงจะเข้าใจข้อมูลใดๆ ก็ได้อย่างง่ายดาย เฉพาะที่เขาต้องการเท่านั้น หากเขาพบความจริงว่าภาพสเก็ตช์เหล่านี้ถังซีเป็นผู้ออกแบบ เธอก็จะยังคงเป็นนักลอกเลียนแบบอยู่นั่นเองในใจเขา… 

 

 

ฉู่หลิงมองหน้าเธอตรงๆ เลิกคิ้วขึ้น แล้วเอนพิงไปด้านหลัง “คุณไม่ได้ลอกเลียน แต่สไตล์การออกแบบของคุณคล้ายกับคนคนนี้มาก! ถ้าคุณไม่สามารถเปลี่ยนสไตล์ คุณจะถูกตราหน้าว่าลอกเลียนแบบนักออกแบบที่ชื่อฉินซินหยิ่ง คุณอยากเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือ” 

 

 

ถังซีเงียบ แน่นอนว่าเธอไม่อยาก! 

 

 

“และการออกแบบของคุณดูซ้ำซากน่าเบื่อเกินไป” ฉู่หลิงมองหน้าถังซี “ถ้าคุณรู้จักอุตสาหกรรมแฟชั่นดีพอ คุณควรรู้ว่าคุณจะไม่สามารถหาที่ยืนในวงการแฟชั่นปัจจุบันได้ด้วยงานออกแบบลักษณะนี้ ถึงงานออกแบบของคุณจะได้รับการยอมรับจากวงการแฟชั่น คุณก็จะไม่มีวันได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุด คุณจะได้รับความนิยมเฉพาะในประเทศจีน แต่จะยังคงไม่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ เหมือนกับฉินซินหยิ่งนั่นแหละ เข้าใจไหม” 

 

 

ถังซีมองฉู่หลิงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถามว่า “คุณรู้จักการออกแบบหรือเปล่า” 

 

 

ฉู่หลิงยิ้ม ดวงตาเป็นประกายวาววับ เขาเอนตัวไปด้านหลัง มองหน้าถังซีและกล่าวด้วยท่าทางสบายๆ “คุณยังไม่เกิดเลยมั๊ง ตอนที่ผมสร้างความฮือฮาในวงการแฟชั่น” 

 

 

ถังซีหรี่ตาลง เธอไม่สนใจคำพูดของฉู่หลิงและถามว่า “คุณคิดว่ามีอะไรต้องเปลี่ยน ในงานออกแบบของฉัน” 

 

 

“ในงานออกแบบ เมื่อคุณต้องการให้ดูหรูหราสง่างาม คุณจะต้องเห็นแต่ความหรูหราสง่างามเท่านั้นจากงานที่คุณออกแบบ เมื่อคุณต้องการให้ดูเรียบง่าย ก็ต้องไม่มีองค์ประกอบอื่นใดในนั้นยกเว้นความเรียบง่าย หากงานออกแบบออกมาดูเรียบง่ายเกินไป ก็เพียงตกแต่งเสื้อผ้าด้วยขนนกยูง เพื่อแสดงถึงความหรูหราสง่างาม หรือตัดเย็บด้วยกระสอบผ้าลินิน เพื่อแสดงถึงความเรียบง่ายจากวัสดุ เข้าใจไหม”