ถังซีมองฉู่หลิงซึ่งกำลังโกรธ แล้วเลิกคิ้ว “ว่าไงคะ”

 

 

ฉู่หลิงโกรธมาก แต่เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำของถังซีเขาก็ชะงัก จากนั้นก็กะพริบตาแล้วค่อยๆ ขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน ถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่า “เฉียวเหลียงรังแกคุณหรือ”

 

 

ถังซีตกตะลึงกับคำถาม เธอกะพริบตามองเขาแล้วเลิกคิ้ว “เปล่าคะ ทำไมคุณถามแบบนี้”

 

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงร้องไห้” ฉู่หลิงเม้มริมฝีปาก “คุณตาแดงแล้วดูน่าเกลียดมาก!”

 

 

ถังซีนิ่งอึ้ง นึกออกว่าเมื่อกี้นี้เธอร้องไห้ เธอยักไหล่นั่งลงบนเก้าอี้ เปิดคอมพิวเตอร์แล้วถามฉู่หลิงว่า “มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอคะ”

 

 

ฮึ? ผู้หญิงคนนี้เสียสติไปแล้วหรือ วันนี้เป็นวันแรกที่เขามาทำงานที่บริษัทนี้! เธอไม่ควรแนะนำให้เขารู้จักกับพนักงานคนอื่นๆ หรือไง และ… ผู้หญิงคนนี้ใส่ใจกับบริษัทของเธอจริงๆ หรือเปล่า!

 

 

ถังซีนึกขึ้นได้ เธอรีบผุดลุกขึ้นทันที และมองหน้าฉู่หลิงในเชิงขอโทษ “โอ ขอโทษค่ะ วันนี้ฉันยุ่งเหลือเกินก็เลยลืม ไปกันเถอะค่ะ ฉันจะแนะนำคุณกับพนักงานของเรา ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณนะคะ ประธานฉุ่”

 

 

ฉู่หลิงเบ้ปากอย่างเฉยชา “ก็แค่สองปี อีกสองปีผมก็ไปแล้ว… บริษัทปัญญาอ่อนอะไรไม่รู้ ผมถูกบังคับ…”

 

 

“ฉันคือควีนของคุณ!” ถังซีกล่าวเสียงเครียดขึ้นมาทันที ฉู่หลิงตกใจหันมามองเธอ ถังซียิ้มให้เขา “ฉันคือราชินีของที่นี่ คุณควรทำงานให้กับราชินีของคุณ และบริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทปัญญาอ่อนอะไรไม่รู้ ที่นี่เรียกว่า ‘เดอะควีน’ ช่วยจำไว้ด้วย”

 

 

ฉู่หลิงจ้องมองถังซีด้วยสายตางุนงง ทำอะไรไม่ถูก ล้วงมือเข้าๆ ออกๆ กระเป๋ากางเกง ถังซีมองตามหลังเขาและส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม เธอควรรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ที่เธอพบเขาครั้งแรกในห้องน้ำของร้านอาหารนั้นแล้ว นอกจากนี้… คนที่มีความสามารถมักจะผิดปกติ เธอไม่ควรมีมุมมองอคติต่อเขา…

 

 

เป็นของขวัญสำหรับพนักงานที่มีผู้บริหารหล่อขนาดนี้ หลี่มั่นเหยียนคือคนที่ตื่นเต้นที่สุด และเขินอายฉู่หลิงจนหน้าแดง จิ้นหันทนไม่ไหวต้องลากเธอออกไป แม้แต่เมื่อทั้งคู่เดินออกไปไกลแล้ว ถังซีก็ยังได้ยินหลี่มั่นเหยียนตะโกนว่า ก็เธออยากดูชายหนุ่มรูปหล่อนี่… ถังซีมองดูคู่รักหนุ่มสาวแล้วส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม…

 

 

พนักงานสาวๆ หลายคนที่ห้อมล้อมฉู่หลิงอยู่กล่าวอายๆ ว่า พวกเธอมีคำถามจะถามเขา ฉู่หลิงทำสีหน้าเข้มใส่จนพวกเธอกลัว ถังซียักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉู่หลิงต้องอาศัยพนักงาน หากเขาต้องการบริหารงานบริษัทให้ได้ดี เธอไม่กังวลว่าฉู่หลิงจะให้เย็นชาต่อพนักงาน ท้ายที่สุดฉู่หลิงก็ต้องพึ่งพาพวกเขาและพวกเธอ…

 

 

อย่างไรก็ตามท่ามกลางความประหลาดใจ เธอถูกดึงออกจากสิ่งที่กำลังสนใจในสองนาทีต่อมา ถังซีมองฉู่หลิงด้วยสายตางุนงง เมื่อเขาขัดจังหวะการสื่อสารของเธอกับ 008 เธอกะพริบตาถามเขาว่า “คุณว่าอะไรนะ”

 

 

“ผมบอกว่าต้องมีทีมงานมืออาชีพ ถ้าคุณต้องการให้บริษัทของคุณประสบความสำเร็จภายในครึ่งปี ผมจะใช้ทีมงานของผมเอง ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ผมจะรับประกันประสิทธิภาพการดำเนินงานได้” ฉู่หลิงนั่งลงตรงกันข้ามกับถังซี

 

 

ถังซียิ้ม มองฉู่หลิงขณะกล่าวว่า “ฉันไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายคุณ ฉันไม่มีปัญหาถ้าคุณจะพาทีมงานมืออาชีพของคุณมาทำงานกับคุณที่นี่ แต่ฉันจะไม่จ่ายค่าจ้างพวกเขา”

 

 

“คุณอยากให้…” ฉู่หลิงหลิ่วตามองถังซี “ไม่มีความเจ็บปวด ไม่มีผลกำไร คุณเคยได้ยินคำพูดนี้ ใช่ไหม”

 

 

“ใช่ ฉันช่วยชีวิตคุณไว้ ดังนั้นคุณควรทำงานให้บริษัทฉัน ใช้หนี้บุญคุณฉัน เป็นข้อตกลงที่ยุติธรรม…” ถังซียิ้ม เอนหลังพิงเก้าอี้ขณะมองดูฉู่หลิง “คุณไม่คิดว่าคุณควรตอบแทนฉันหรือ”

 

 

“ผมใช้หนี้คุณด้วยการใช้ร่างกายผมทำงานให้คุณได้ แต่ไม่ได้รวมถึงอย่างอื่นด้วย ขอโทษ” ฉู่หลิงยืนขึ้น “ผมสื่อสารกับคุณไม่รู้เรื่อง ผมคิดว่าผมควรคุยกับเฉียวเหลียง” เขาหันหลังเดินออกจากห้องทำงานถังซี แต่แล้วก็กลับมาในทันที เขาผลักประตูเปิดเข้ามา มองมาที่ถังซี “จู่ๆ ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่า จริงๆ แล้วคุณกับเฉียวเหลียงมีความคิดราวกับเป็นคนคนเดียวกัน เอาเป็นว่า คุณเตรียมงานออกแบบไว้สำหรับปารีสแฟชั่นวีกที่จะถึงนี้หรือยัง”

 

 

ถังซีรู้สึกตื่นเต้นเมื่อมีการพูดถึงงานปารีสแฟชั่นวีก เธอนั่งตัวตรงและพยักหน้า ฉู่หลิงนั่งลงตรงกันข้ามเธอ “มีแผนว่าจะทำยังไงบ้าง”

 

 

“ปารีสแฟชั่นวีกครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเรา ที่จะดึงดูดสายตาผู้คน แต่ฉันคิดวิธีที่จะให้เราได้รับคำเชิญไม่ออก ฉันกำลังพยายามคิดหาวิธีให้ได้ภายในสามวันนี้”

 

 

“ผมหาทางให้เราได้รับคำเชิญได้ แต่คุณก็รู้ว่าไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะทำแฟชั่นไปแสดงในงานปารีสแฟชั่นวีก ไม่ต้องพูดถึงว่าเดอะควีนยังเป็นแบรนด์ใหม่ แม้แต่บริษัทแฟนคุณก็ยังไม่เคยได้เข้าร่วมปารีสแฟชั่นวีกจนกระทั่งปีนี้ ถ้าคุณต้องการดึงดูดความสนใจในปารีสแฟชั่นวีก คุณต้องเตรียมเสื้อผ้าที่ออกแบบอย่างดีเลิศ คุณให้ผมดูสักสองแบบได้ไหมคืนนี้” เมื่อพิจารณาถึงพื้นฐานการศึกษาของเซียวโหรว ฉู่หลิงก็เม้มริมฝีปากก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “ผมหมายความว่า…”

 

 

“ได้ค่ะ” ถังซีพยักหน้า “ถ้าคุณช่วยให้ฉันได้รับคำเชิญ และมีพื้นที่บนรันเวย์ให้เรา ฉันแน่ใจว่า ‘เดอะควีน’ จะต้องเป็นที่กล่าวขานแน่ๆ”

 

 

ฉู่หลิงยิ้ม ลุกขึ้นยืนและมองดูถังซี “ผมหวังว่างานของคุณจะสวยงามเหมือนตัวคุณ”

 

 

ถังซีมองตามหลังเขา และยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นเธอก็กลับมาหารือกับ 008 ต่อ แต่ 008 ไม่ยอมให้คำตอบที่เธอต้องการ เธอขมวดคิ้ว “คุณไม่รู้ใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องมีคุณไว้เพื่ออะไร!”

 

 

เสียงกลของ 008 ดังขึ้น : [ฉันไม่ใช่เครือข่ายข่าวกรอง จะมาคาดหวังว่าฉันควรจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง นอกจากนี้คุณควรค้นหาด้วยตัวเอง ถ้าฉันช่วยคุณทำทุกอย่าง คุณยังจะต้องแก้แค้นด้วยตัวเองอีกหรือ]

 

 

ถังซี : “…มันแตกต่างกัน…”

 

 

[ไม่มีอะไรแตกต่างเลยในเรื่องนี้ อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคุณและแม่ของคุณ จะถูกนำมาเป็นประเด็นในการแก้แค้น คุณควรพัฒนาความสามารถและแก้แค้นด้วยตัวเอง…]

 

 

ถังซี : “…” คุณนี้ไร้ประโยชน์จริงๆ !

 

 

ถังซีเลิกสื่อสารกับ 008 แล้วหันมาเปิดคอมพิวเตอร์ เริ่มเขียนงานออกแบบด้วยปากกาเขียนหน้าจอ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเธอก็ลงนั่งกับพื้นห้องทำงาน พร้อมด้วยปากกาและกระดาษ แล้วเริ่มลงมือวาดลงบนกระดาษ

 

 

ทันทีที่ถังซีเริ่มสเก็ตช์ภาพเธอก็หมกมุ่นอยู่กับงานนั้น ในไม่ช้าเวลาก็ผ่านไปสองชั่วโมงครึ่งก่อนที่จะมีใครมาเคาะประตู ถังซีเงยหน้าขึ้นมอง อาหกเปิดประตูเข้ามา เห็นถังซีนั่งอยู่บนพื้น มีปากกาด้ามหนึ่งคาบอยู่ที่ปาก สองด้ามทัดอยู่ที่หูแต่ละข้าง และอีกหนึ่งด้ามในมือ เธอดูเหมือนศิลปินที่…บ้าคลั่งอย่างแท้จริง เขาชะงัก กล่าวกับถังซีว่า “สวัสดีครับ คุณถัง ผมมารับคุณไปบ้านคุณท่านครับ”

 

 

ถังซีนึกขึ้นได้ว่าถึงเวลาที่เธอต้องไปฝังเข็มให้เฉียวอวี่ซินแล้ว เธอรีบรวบรวมภาพสเก็ตช์งานออกแบบทั้งสองภาพ แล้วบอกอาหกว่า “รอแป๊บนึง” จากนั้นก็หยิบภาพสเก็ตช์ไปส่งให้ฉู่หลิง