ตอนที่ 298 ตระกูลที่แท้จริงของแม่เธอคือตระกูลเจียง

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ระหว่างทางกลับบ้าน หลินรูหลับตาไม่อยากพูดคุย ถังซีทำท่าบอกให้มารดาเอนตัวพิงไหล่เธอเพื่อพักผ่อน ไม่นานเธอก็รู้สึกว่าไหล่เธอเปียกชุ่ม เธอมองดูหลินหรู และรู้สึกเสียใจกับหลินหรู เธอเอื้อมมือไปโอบหลินหรูไว้ในอ้อมแขน แล้วกระซิบว่า “ร้องไห้ออกมาเถอะค่ะ ถ้าจะทำให้แม่รู้สึกดีขึ้น ร้องออกมาดังๆ หนูอยู่กับแม่ตรงนี้ค่ะ”

 

 

หลินหรูกอดถังซีแน่น ร้องไห้ออกมาน้ำตาไหลพรากอย่างสุดกลั้น กล่าวด้วยเสียงสะอื้น “โหรวโหรว หนูไม่ได้คิดว่าแม่อ่อนแอและใช้ไม่ได้ใช่ไหม ถึงแม้แม่จะสงสัยมานานหลายปีแล้ว แต่แม่ก็ไม่กล้าถามพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเองหรือเรื่องของหนู ตอนแม่รู้ว่าหนูเป็นลูกสาวแม่ ทีแรกแม่มีความสุขมาก แต่แล้วแม่ก็กลัวว่าการที่หนูมีตัวตนอยู่จะส่งผลกระทบต่อแม่ แต่… แต่เพราะความอ่อนแอของแม่ แม่กลับรับศัตรูเป็นลูกสาว ปล่อยให้เธอฆ่าหนู แม่เสียใจมากกับสิ่งที่แม่ทำกับหนู…”

 

 

“แม่ไม่ต้องเสียใจหรอกค่ะ” ถังซีตบหลังเธอเบาๆ แล้วกระซิบ “แม่ใจดีกับหนู แม่แค่ไม่ได้แสดงความรักของแม่ให้หนูรับรู้ เพราะแม่ไม่รู้ว่าหนูผ่านอะไรมาบ้าง เมื่อแม่รู้ว่าหนูเกือบถูกเซียวจิ้นหนิงฆ่าตาย แม่ก็ลุกขึ้นรักษาความยุติธรรมให้หนู และขอโทษหนู ใช่ไหมคะ แล้วตอนที่หนูอยู่ในโรงพยาบาลแม่ก็คอยดูแลหนูตลอดเวลา หนูรู้ค่ะว่าแม่ทำอะไรเพื่อหนูบ้าง เพราะฉะนั้นแม่อย่าโทษตัวเองนะคะ แล้วที่แม่ต้องสูญเสียพ่อแม่ของแม่ไป ก็ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอของแม่ แต่…เป็นเพราะเถาเยี่ยนชั่วช้าเกินไปค่ะ”

 

 

หลินหรูเม้มริมฝีปาก ไร้รอยยิ้มบนใบหน้า เธอจ้องมองถังซีอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะละสายตาหันไปมองออกนอกหน้าต่าง “เราไปเยี่ยมพ่อของแม่… หลินรั่วจื้อ…กันเถอะ”

 

 

ถังซีพยักหน้า บอกให้คนขับรถพาไปที่โรงพยาบาลหลินอัน

 

 

 

 

ที่โรงพยาบาล

 

 

เนื่องจากหลินรั่วจื้อพยายามฆ่าตัวตาย เซียวส่าจึงไม่กล้าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว ต้องมีคนคอยเฝ้าดู และคนคนนั้นก็คืออาหกที่คอยดูแลเขา อาหกลุกขึ้นทักทายเมื่อเห็นพวกเธอเดินมา ถังซีพยักหน้าบอกให้เขาคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก แล้วพาหลินหรูเข้าไปในห้องคนไข้

 

 

พวกเธอไม่ได้เจอหลินรั่วจื้อมาเดือนหนึ่ง ตอนนี้เขาเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาว่างเปล่า ไร้ความหวังใดๆ ในดวงตา หลินหรูหายใจเข้าลึกๆ แล้วจับมือถังซีแน่นเมื่อเห็นเขา จากนั้นเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ มองดูหลินรั่วจื้ออยู่เงียบๆ

 

 

ครู่ใหญ่ๆ หลินรั่วจื้อก็หันกลับมาทางหลินหรู เขาสะดุ้ง และพึมพำว่า “ดีจริงๆ ที่เธอไม่เป็นอะไร”

 

 

“ฉันเกือบเสียชีวิต” หลินหรูกล่าว

 

 

หลินรั่วจื้อตัวแข็ง ละสายตาไปจากเธอ “แต่ตอนนี้เธอก็ไม่เป็นอะไรแล้วนี่”

 

 

หลินหรูพยักหน้าขณะกล่าวว่า “ใช่ เป็นข่าวดีสำหรับคุณสินะ เพราะฉันยังมีชีวิตอยู่ภรรยาคุณจึงไม่ใช่ฆาตกร”

 

 

หลินรั่วจื้อนิ่งเงียบ หลินหรูกล่าวต่อไป “ฉันไปเยี่ยมเธอ เธอบอกว่าเธอฆ่าแม่และภรรยาคนที่สองของพ่อฉัน… คุณรู้ไหมว่ากฎหมายจะไม่ปล่อยเธอจากคดีเหล่านี้ เธอต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำ แม้เวลาจะผ่านมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม ถึงแม้ฉันจะยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอก็หลบหนีการลงโทษตามกฎหมายไม่พ้นหรอก”

 

 

หลินรั่วจื้อจ้องมองหลินหรูและส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ ถังเยี่ยนไม่ได้เจตนาฆ่าแม่เธอ ถังเยี่ยนแค่พยายามกีดกันแม่เธอไม่ให้เจอกับพ่อเธอ…”

 

 

“พ่อฉันคือใคร! แม่ฉันคือใคร!” จู่ๆ หลินหรูก็ถามขึ้น

 

 

หลินรั่วจื้อชะงัก หลังจากนั้นครู่เดียวเขาก็หลบสายตาและกล่าวด้วยความรู้สึกผิดต่อหลินหรู “ถ้าถังเยี่ยนไม่อยากให้เธอรู้ ฉันก็บอกเธอไม่ได้” จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ฉันจะยอมเป็นทาสเธอไปตลอดทุกชาติเพื่อชดใช้ความผิดของฉัน แต่ในชีวิตนี้ฉันไม่มีวันทำตามคำสั่งของเธอ”

 

 

“ฮ่าๆ …” หลินหรูหัวเราะเสียงดัง มองดูหลินรั่วจื้อซึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียง และกล่าวชัดถ้อยชัดคำว่า “คุณยังต้องมีชีวิตอยู่ และมีชีวิตอยู่กับความผิดของคุณที่ทำไว้กับฉันไปชั่วชีวิต ถ้าคุณกล้าที่จะตาย ฉันจะทำให้ลูกสาวคุณ หลานสาวคุณ และผู้หญิงที่คุณปกป้องมาตลอดชีวิต ไปอยู่ร่วมกับคุณในนรก! จำไว้! คุณเป็นหนี้ฉัน! เพราะฉะนั้นคุณโทษใครไม่ได้!”

 

 

หลินรั่วจื้อขยับริมฝีปากจะพูด แต่หลินหรูก็หันมาจ้องหน้าเขาตรงๆ อย่างฉับพลันและกล่าวอย่างเย็นชา “และอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก! ฉันไม่ต้องการเห็นใบหน้าน่ารังเกียจของคุณอีกต่อไป!”

 

 

หลินรั่วจื้อมองหน้าหลินหรู และจู่ๆ ก็กล่าวขึ้นว่า “แซ่ของเธอไม่ใช่หลิน ตระกูลที่แท้จริงของแม่เธอคือตระกูลเจียง ถ้าเธอคิดว่าตระกูลหลินเป็นที่เสื่อมเสียต่อเธอ เธอจะใช้เจียงเป็นชื่อสกุลเธอก็ได้”

 

 

“เจียง!” หลินหรูค่อยๆ หันศีรษะไปทางอื่น แล้วหันกลับมามองหลินรั่วจื้อด้วยดวงตาปริ่มน้ำตา และคำรามออกมา “คุณมีจุดประสงค์อะไรที่บอกกับฉันแบบนี้ มีคนใช้แซ่นี้ในประเทศจีนมากมายนับไม่ถ้วน! ถ้าคุณไม่อยากบอกฉันในสิ่งที่ฉันต้องการรู้ ก็ไม่ต้องบอกอะไรฉันเลย คำคำนี้ให้ความกระจ่างอะไรกับฉันได้หรือ หลินรั่วจื้อคุณโหดร้ายมาก!”

 

 

ถังซีรู้สึกหายใจไม่ออก ราวกับมีมือขนาดใหญ่มาบีบหัวใจเธออย่างแรง ดวงตาเธอแดงเรื่อ เธอกลั้นน้ำตา กัดริมฝีปาก เข้าไปพยุงหลินหรู นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ทำไมหัวใจเธอถึงเจ็บปวดมากเมื่อได้ยินคำพูดนี้!

 

 

ทำไม!

 

 

น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาถังซี เธอกอดหลินหรูแน่นขณะกล่าวว่า “ไม่ต้องเศร้านะคะ ไม่ต้องเศร้า หนูจะอยู่เคียงข้างแม่ และปกป้องแม่นับจากนี้ไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องเศร้านะคะ”

 

 

เพราะหนูจะเศร้าเมื่อเห็นแม่เศร้า

 

 

นัยน์ตาฝ้าฟางของหลินรั่วจื้อเต็มไปด้วยน้ำตา เขามองหลินหรูด้วยสายตาว่างเปล่า และกล่าวเสียงเบาว่า “ฉันขอโทษ”

 

 

“ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ! ฉันไม่ต้องการ!” หลินหรูผลักถังซีออกไป และพุ่งตัวไปที่เตียงเขา “บอกฉันสิ! พ่อแม่ของฉันคือใคร! พวกเขาคือใคร! บอกฉันมา!”

 

 

หลินรั่วจื้อส่ายศีรษะ “ฉันขอโทษ… …”

 

 

“พอแล้วค่ะ! แม่คะ!” ถังซีรีบวิ่งเข้าไปดึงหลินหรูขึ้นจากพื้น “หนูจะช่วยแม่หาพ่อแม่ของแม่เองค่ะ! อย่าไปขอร้องเขา!”

 

 

ถังซีจ้องหน้าหลินรั่วจื้อ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “คุณควรสวดมนต์อ้อนวอนดีกว่า ว่าอย่าให้ฉันหาครอบครัวคุณเจอ ไม่อย่างนั้นฉันไม่ยอมปล่อยพวกเขาแน่! ฉันจะทำให้คุณรู้ว่า คุณจะได้รับผลยังไงบ้างที่คุณทำเลวทรามไว้กับตระกูลถัง… ตระกูลเซียว!”

 

 

ถังซีดึงตัวหลินหรูออกจากห้องคนไข้ หลินหรูโกรธจนเป็นลมร่วงลงกับพื้นทันทีที่ออกพ้นห้อง อาหกซึ่งเฝ้าอยู่ที่ประตูรีบพาหลินหรูไปยังห้องพักคนไข้อีกห้องหนึ่ง ถังซีรีบโทรหาคุณหมอ โชคดีที่หลินหรูฟื้นขึ้นมาในไม่ช้า ถังซีดูจนแน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว จึงพาเธอออกจากโรงพยาบาล

 

 

หลังจากส่งหลินหรูที่บ้าน ถังซีก็หาข้ออ้างตรงไปยังบริษัทของเธอ ซึ่งฉู่หลิงรออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นว่าเธอเพิ่งมาถึง เขาก็รีบไปที่ห้องทำงานถังซีด้วยความโกรธ