ตอนที่ 372 ตรวจสอบพลัง

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 372

ตรวจสอบพลัง

“ทุกตน ออกไปก่อน”มังกรธรณีว่าพลางสั่งให้เหล่าทหารอสูรออกไปจากประตูวัง ก่อนที่ตัวมังกรธรณีเองจะเปิดประตูให้คนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น พวกมันก็คือขบวนเสด็จของไป๋จูเหวินนั่นเอง ที่ต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อปิดข่าวเรื่องที่ชินอี้กลับมาแล้วเอาไว้ในวังเท่านั้นเพื่อป้องกันพวกอสูรในเมืองบุกเข้ามาอีก เพราะทันทีที่พาชินอี้ออกไปจากเมืองหลวงพวกอสูรที่บุกเข้ามาก็หายไปทันที

“ขอบคุณขอรับท่านน้า”ไป๋จูเหวินว่าพลางเดินเข้าไปในวังช้าๆ ตอนนี้ไป๋จูเหวินปล่อยข่าวออกไปว่าชินอี้พักอยู่กับญาติๆที่อาณาจักรชินยังไม่กลับมา อย่างน้อยก็ต้องหาทางช่วยอะไรเรื่องพลังดึงดูดอสูรของชินอี้ให้ได้ก่อน

“ไม่เป็นไร ว่าแต่เจ้าได้ความอะไรมาบ้าง”มังกรธรณีถามพลางเดินนำไป๋จูเหวินเข้าไปในห้องพักของไป๋จูเหวินเอง

“ไม่ขอรับ ข้ายังไม่ทราบวิธีจัดการเลย”ไป๋จูเหวินตอบพลางนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทีเหนื่อยๆ

“เราจะขังชินอี้เอาไว้แบบนี้ตลอดไม่ได้หรอกนะ”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางกอดอกแน่น ตอนนี้มันก็เป็นพ่อคนแล้วเข้าใจความรู้สึกของไป๋จูเหวินดี และก็เข้าใจด้วยว่าพ่อแม่ควรขังลูกเอาไว้ในโลกแคบๆ

“ข้าจะพยายามหาทางทำอะไรสักอย่าง”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปทางเหม่ยหลินที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้ราวกับรอบด้านมืดไปหมด ตอนนี้มันอยากเข้าไปในจิตใต้สำนึกของตนเองเพื่อสอบถามหวังเฉียนบรรพบุรุษของมันจริงๆว่าควรจะทำเช่นไร แต่จนถึงตอนนี้ไป๋จูเหวินอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 แล้วก็ยังไม่สามารถเข้าไปในจิตสำนึกตนเองได้ตามต้องการเลย

“ท่านพี่ เรายังมีเวลาอีกมาก ท่านไม่ต้องเคลียดขนาดนั้นหรอก”เหม่ยหลินว่าพลางจับบ่าของไป๋จูเหวินเอาไว้ นางเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา แต่ตอนนี้ก็แค่มีอสูรบุกเข้ามาในวังเท่านั้นยังไม่ได้มีอะไรร้ายแรง

“จริงสิจูเอ๋อ เจ้าฝากข้าทำอาวุธเอาไว้ไม่ใช่หรือ”น้าราชสีห์พูดพลางนำมีดและดาบสั้นของชิงชิวออกมาให้ไป๋จูเหวินดู แต่ถึงจะบอกว่าเอามาให้ดูแต่สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันเหมือนกล่องเปล่าไม่มีผิด เพราะดาบและมีดของชิงชิวนั้นเน้นไปที่ความโปร่งใส

“ขอบคุณขอรับท่านน้า”ไป๋จูเหวินว่าพลางรับกล่องไม้มา แต่ดาบที่มองไม่เห็นแบบนี้ท่าทางจะใช้ยาก แต่ถ้าไม่ทำให้โปร่งใสไปทั้งเล่มแบบนี้ก็ไร้ความหมาย บางทีอาจจะให้ชิงชิวเอาใยแมงมุมมามัดเป็นด้ามดาบ เวลาใช้พลังของอสูรแมงมุมจะได้ล่องหนหายไปโดยที่เวลาปกติไม่ต้องกลัวว่าจะจับผิดด้านไปด้วย

“…….”อยู่ๆไป๋จูเหวินก็นิ่งไปเมื่อนึกถึงชุดของชิงชิวที่จะหายตัวไปตามพลังของชิงชิว ที่ต้องทำชุดจากใยแมงมุมก็เพราะมีเพียงใยแมงมุมที่ชิงชิวสร้างขึ้นเองเท่านั้นที่หายไปพร้อมกับร่างของชิงชิวได้ แล้วหากมีแร่บางอย่างที่สามารถบดบังพลังดึงดูดเหล่าอสูรได้ไป๋จูเหวินก็สามารถนำมาทำชุดให้ชินอี้สวมได้ไม่ใช่หรืออย่างไร

“ท่านน้า ท่านน้าไก่ฟ้าอยู่ที่ไหนงั้นหรือขอรับ”ไป๋จูเหวินถามพลางนำกระดาษออกมาเขียนจดหมายอย่างรีบร้อน ตอนนี้ไป๋จูเหวินต้องการคลังสมบัติของท่านน้าไก่ฟ้าเป็นอย่างมาก

“อยู่ที่วังทองคำนั่นล่ะ”จิ้งจอกเหมันต์ตอบพลางมองไปทางวังทองคำ ช่วงนี้เหมือนไข่ของจื่อหนิงใกล้จะฟักแล้ว ไก่ฟ้าหงอนทองเลยเฝ้าอยู่ที่นั่นตลอด

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อน”ไป๋จูเหวินว่าพลางพับจดหมายลงก่อนจะเรียกอสูรปักษามาส่งจดหมายให้ตน เมื่อส่งจดหมายเสร็จมันก็ออกจากห้องมุ่งหน้าไปที่วังทองคำทันที

“แร่?”ไก่ฟ้าหงอนทองที่เฝ้าอยู่หน้าห้องของจื่อหนิงพูดด้วยท่าทีสงสัย เพราะอยู่ๆไป๋จูเหวินก็วิ่งมาหาตนพลางถามหาแร่ที่มันมี

“ขอรับ ข้าอยากจะทดสอบอะไรบางอย่าง”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา มันไม่เคยทดสอบพลังดึงดูดเหล่าอสูรของตนเองมาก่อน แต่ในคลังของท่านน้ามีแร่ที่มีความสามารถแปลกๆมากมาย บางทีอาจจะมีแร่บางอย่างที่ช่วยปกปิดพลังดึงดูดเหล่าอสูรของชินอี้ก็ได้

“ก็ได้อยู่หรอก เดี๋ยวข้าเอาให้”ไก่ฟ้าหงอนทองตอบพลางนำแร่ที่ตนมีในมิติออกมาส่งให้ไป๋จูเหวิน ของพวกนี้มันให้ไป๋จูเหวินได้ทุกเมื่อเพียงแต่ไป๋จูเหวินไม่เคยออกปากขอเท่านั้น

“ขอบคุณขอรับ”ไป๋จูเหวินยิ้มรับพลางมองไปที่ห้องด้านในซึ่งจื่อหนิงกำลังนั่งกกไข่ของนางอยู่ในร่างของอสูรปักษา ดวงตาสีม่วงของไป๋จูเหวินสัมผัสพลังของลูกๆที่กำลังจะฟักออกมาได้อย่างชัดเจน ท่าทางจะไม่มีปัญหาอะไร

“ไม่ต้องห่วงขอรับ เด็กๆแข็งแรงดี”ไป๋จูเหวินพูดพลางยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ทำให้ไก่ฟ้าหงอนทองโล่งใจขึ้นมาก จริงๆเผ่าวิหคไม่ได้มีลูกยากอะไร และการฟักไข่ก็ปลอดภัยกว่ามังกรอย่างไข่ของมังกรธรณีมากมายหลายเท่า แต่ถึงอย่างนั้นไก่ฟ้าหงอนทองก็ยังกังวลไปหลายเรื่องอยู่ดี

.

.

“อยู่ๆก็เรียกพวกเรามามีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”รูบี้ที่พึ่งเดินทางมาจากเมืองหลวงเก่าและหลิวเซียนผู้ช่วยของนางเดินเข้ามาในท้องพระโรงด้วยท่าทีงุนงง ในจดหมายไป๋จูเหวินไม่ได้ระบุรายระเอียดอะไรเอาไว้เลย บอกเพียงให้รูบี้รีบเดินทางมาเมืองหลวงเท่านั้น

“จริงๆแล้วข้าอยากให้เจ้าช่วยสร้างของบางอย่าง”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆออกมา

“ถ้าเรื่องนั้นละก็ ไว้ใจพวกเราได้เลย”รูบี้พูดพลางพาเพิร์ลและหลิวเซียนมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามไป๋จูเหวินในทันที ตอนนี้ไป๋จูเหวินเหมือนนายทุนใหญ่ที่ออกทุนให้พวกตนสร้างของตามใจมาตลอด มีหรือที่รูบี้จะปฏิเสธคำขอครั้งแรกของไป๋จูเหวิน

“แล้ว เจ้าอยากให้พวกเราสร้างอะไร”รูบี้ถามพลางหยิบชาตรงหน้าขึ้นมาดื่มด้วยท่าทางสบาบๆ

“ชุดที่สามารถปกปิดพลังดึงดูดเหล่าอสูรได้”ไป๋จูเหวินตอบพลางนำแหวนมิติวงหนึ่งออกมา มันคือแหวนที่ไป่จูเหวินใส่แร่ที่ขอมาจากน้าไก่ฟ้าเอาไว้นั่นเอง

“พลังดึงดูดเหล่าอสูร? อ๋อหมายถึงที่ทำให้อสูรรักเจ้าสินะ”รูบี้ตอบพลางนึกตอนที่ตัวเองเห็นเหล่าอสูรที่ห้อมล้อมไป๋จูเหวินเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นนางก็ได้ทราบแล้วว่าไป๋จูเหวินมีพลังบางอย่างที่ทำให้อสูรหลงรัก

“ใช่ ตอนนี้ชินอี้ได้พลังนี้ไปเหมือนกัน แต่พลังมันแรงมากจนทำให้มีอสูรหลายตนพยายามบุกเข้ามาในวังเพื่อพบตัวชินอี้”ไป๋จูเหวินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นช้าๆเพื่อให้รูบี้เข้าใจ

“แต่…มันจะทำได้งั้นเหรอ พวกเรายังไม่รู้เลยว่าพลังดึงดูดที่เจ้าว่าคืออะไร”เพิร์ลถามด้วยท่าทีงุนงง ถึงจะบอกว่าให้ปิดกั้นพลังได้ แต่พลังของไป๋จูเหวินจับต้องไม่ได้ แถมยังไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับมันอีกต่างหาก รูบี้สามารถสร้างตัวป้องกันไฟฟ้าได้ แต่ตัวป้องกันพลังบางอย่างที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นนี้ออกจะเป็นโจทย์ที่ยากมากทีเดียว

“เช่นนั้นก็ต้องลองถามพวกอสูรดู”หลิวเซียนเสนอพลางมองไปทางรูบี้เหมือนจะถามความคิดเห็น

“ดี ไป๋จูเหวินข้าขอพบพวกท่านน้าได้หรือไม่”รูบี้พยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะขอร้องให้ไป๋จูเหวินพานางไปหาพวกท่านน้าเพื่อสอบถามพวกท่านว่าพลังของไป่จูเหวินนั้นจริงๆเป็นแบบไหนกันแน่ เพราะมนุษย์ไม่สามารถสัมผัสพลังชนิดนี้ได้

“ทำไมพวกเราถึงรักจูเอ๋องั้นเหรอ”มังกรธรณีว่าพลางทำสีหน้าครุ่นคิด

“เจ้าค่ะ ข้าอยากทราบความรู้สึกแรกของพวกท่านที่ตัดสินใจรับไป๋จูเหวินเป็นหลาน”รูบี้ว่าพลางนพกระดาษออกมาเตรียมจดบันทึก

“ดวงตาหรือเปล่า ตอนข้าสบตากับจูเอ๋อครั้งแรกข้าก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมา”พยัคฆ์อัสนีว่าพลางนึกภาพตนเองตอนที่ได้เจอไป๋จูเหวินครั้งแรก แม้ตอนนั้นจะเหมือนโดนอสูรแมงมุมบังคับนิดหน่อยแต่เรื่องที่ตนเห็นจูเอ๋อแล้วหลงทันทีก็เป็นความจริง

“แต่ตอนนี้ไป๋จูเหวินแทบจะหลับตาตลอดเลยไม่ใช่หรือไง”เพิร์ลท้วงพลางมองไปที่ไป๋จูเหวิน เพราะเนตรแมงมุมของมันทำให้สามารถมองเห็นได้โดยไม่ต้องลืมตา ทำให้บางทีไป๋จูเหวินก็ปล่อยให้ดวงตาปิดสนิทเอาไว้

“อืม.มันก็อธิบายยาก จะบอกว่ามันเป็นบรรยากาศหรือกลิ่นอายดี”มังกรธรณีครุ่นคิดพลางมองไปที่ไป๋จูเหวิน ตอนแรกที่พวกมันได้พบกับเพิร์ลก็เหมือนกัน ความต่างแรกที่พวกมันสัมผัสได้คือกลิ่นอายรอบตัวไม่เหมือนกัน แถมยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนไป๋จูเหวินไม่ได้อีกต่างหาก

“กลิ่น…”รูบี้ชะงักไปกับคำว่ากลิ่นอาย บางทีพลังของไป๋จูเหวินอาจจะทำงานเหมือนพวกกลิ่นฟีโรโมนก็ได้ หรือจะเป็นกลิ่นที่ทำให้เหล่าอสูรรู้สึกรักใคร่กันแน่

“หรือจะเป็นคลื่นความถี่”หลิวเซียนเสนอออกมาอีกอย่าง บางทีพลังของไป๋จูเหวินอาจจะปล่อยคลื่นความถี่บางอย่างที่ทำให้อสูรรู้สึกผ่อนคลายและสงบก็ได้

“มันก็มีความเป็นไปได้ แต่แบบนี้ก็ต้องทดลองเท่านั้น”รูบี้ว่าพลางนำกล่องโลหะออกมากล่องหนึ่ง ตอนนี้เธออยากทราบว่าจะสามารถปิดกั้นพลังของไป๋จูเหวินได้หรือไม่

“ท่านน้าราชสีห์ ท่านช่วยหลอมกล่องนี่ไม่ให้มีรูระบายอากาศได้หรือไม่”รูบี้พูดพลางชี้ไปที่กล่องโลหะใบที่ตนนำออกมา

“ก็ได้อยู่หรอก ว่าแต่เจ้าจะทำอะไรงั้นหรือ”ราชสีห์เพลิงถามพลางเดินเข้ามายืนตรงหน้ากล่องโลหะ ช่วงนี้มันหลอมอาวุธมาหลายเดือนแล้ว แค่หลอมกล่องโลหะให้กลายเป็นเนื้อเดียวไม่มีช่องว่างนั้นสบายมาก

“ข้าจะจับไป๋จูเหวินเข้าไปขังไว้ในกล่อง จะดูว่าพวกท่านยังสัมผัสพลังของมันได้หรือไม่หากไป๋จูเหวินอยู่ในที่ๆอากาศไหลผ่านไม่ได้

“เดี๋ยวสิ เจ้าจะขังข้าเอาไว้ในกล่องนั่นขณะที่ท่านน้าหลอมมันให้ไม่มีช่องว่างงั้นหรือ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองมาทางรูบี้

“ไฟแค่นั้นทำอะไรเจ้าได้ที่ไหนกัน แถมกำลังเจ้าก็ตั้งมากถ้าขาดอากาศหายใจก็พังกล่องออกมาสิ”รูบี้ตอบพลางมองมาทางไป๋จูเหวินราวกับจะบอกว่าก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรไม่ใช่หรือไง

“กะ ก็ได้”ไป๋จูเหวินถอนหายใจออกมาพลางเดินเข้าไปยืนในกล่องที่มีขนาดใหญ่พอจะใส่คนลงไปได้ หากไม่ใช่เพราะต้องการปกป้องบุตรชายมันไม่ทำแบบนี้แน่ๆ