ตอนที่ 669 ใครกล้าเตะผู้หญิงของฉัน

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

“ท่านพลเอกชูฮันเป็นบ้าไปแล้วเหรอไง? ให้เราไปอยู่ในเมือง? จะโยนเราไปเป็นอาหารซอมบี้ล่ะสิ!”

 

“เหมือนฉันจะได้ยินมาว่าเมืองอันลูถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่โดยท่านพลเอกชูฮัน คนกลุ่มแรกจะได้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีซอมบี้แล้ว”

 

“มันจะไม่มีซอมบี้ได้ยังไง! แม้ตอนนี้เมืองจะได้รับการปรับปรุงและมีคนคอยรักษาความปลอดภัย แต่มันไม่มีทางที่จะฆ่าซอมบี้ได้ทุกคน ยังไงมันก็ต้องมีสักวันที่มันจะโผล่มาฆ่าเรา!”

 

“ใช่! แล้วไหนจะพวกแมลงซอมบี้ต่างๆอีก? ในเมืองนั้นแหละคือบ้านของพวกมันชัดๆ?”

 

“พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีใครสามารถสู้กับซอมบี้ได้เลย ถ้าใครสักคนติดเชื้อขึ้นมา พวกเราก็จะตายกันทั้งหมด”

 

“นี่มันเกินไปแล้ว จะให้เราไปอยู่ในที่แบบนั้นได้ยังไง? มันไม่ต่างอะไรกับผลักเราเข้ากองไฟเลย!”

 

พอชูฮันมาถึง มันก็เป็นช่วงเวลาที่อารมณ์ของทุกคนกำลังเดือดเต็มที่ เสียงโวยวายดังสนั่นไปทั่ว ซางจิ่วตี้และและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายหลายคนยืนเรียงแถวกันอย่างมั่นตง พวกเขาทำการคัดเลือกตัวแทนอย่างละเอียด โดยอิงจากคนที่ทำคุณประโยชน์แก่ค่ายเขี้ยวหมาป่า ซึ่งชูฮันสั่งไม่ให้เปิดเผยรายละเอียดให้ใครรับรู้ แสดงว่ามีข้อมูลหลุดไป

 

เห็นได้ชัดว่ามีคนแอบปล่อยข้อมูล!

 

ในจังหวะที่ชูฮันกำลังจะก้าวเข้าไปในกลางฝูงชน จู่ๆมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

 

ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งที่เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่จู่ๆก็ก้าวเท้าออกมาผลักซางจิ่วตี้กระแทกประตู เสียงกระแทกดังปังกลบเสียงของฝูงชนที่กำลังโวยวาย “แกมันก็แค่เด็กไม่รู้อะไร แกอยากฆ่าพวกเรา แกจะเอาพวกเราไปปล่อยให้ตายในเมือง จิตใจแกมันทำด้วยอะไร?!”

 

“ปัง!”

 

ชูฮันที่ยืนห่างออกไป พลังผันผวนระเบิดในอากาศทันทีพร้อมกับขวานซิ่วโหลที่ปรากฏขึ้นที่หลังชูฮัน จิตสังหารที่อัดแน่นจนทำให้ทุกคนหายใจไม่ออก

 

ร่างของชูฮันสั่นเทิ้มพร้อมกับไอดำที่ลอยกระจายทั่วร่างสร้างความหวาดกลัวให้ฝูงชนรอบๆ รวมถึงนายทหารที่นำชูฮันมาเองก็กลัวและรีบถอยหนีไปไกล บรรยากาศเงียบสนิทไม่มีใครกล้าส่งเสียง

 

พลังงานรุนแรงในอากาศที่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรงส่งผลกับทุกคนในบริเวณ ทุกคนอึดอัดและแทบขยับตัวไม่ได้

 

คนธรรมดาจะไม่รู้สึกเท่ากับมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ คนธรรมดาจะรู้สึกหนาววูบแปลกๆ แต่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่จะตัวสั่นเทิ้ม หายใจไม่ออก เหมือนถูกบีบอัดราวกับจะตายเพราะความหนาแน่นในอากาศ

 

ส่วนเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในบริเวณนั้นคุ้นเคยกับพลังของชูฮันดี และมันก็ชัดเจนว่าตอนนี้อารมณ์ของนั้นรุนแรงและคลั่งมากแค่ไหน!

 

“จบรึยัง?” เสียงของชูฮันดูสบายๆ เขาเดินมาข้างหน้าซึ่งฝูงชนก็รีบหลบทางให้ชูฮันเดินทันทีโดยอัตโนมัติ ขณะเดินออร่าสีดำก็หมุนวนรอบตัวชูฮันตามมาด้วย “รู้มั้ยว่าผู้หญิงที่แกผลักคนนั้นคือว่าที่ภรรยาฉัน?”

 

ไม่มีใครกล้าพูดอะไรทั้งนั้น ทุกคนเพียงแค่มองมาที่ชูฮัน

 

ชูฮันยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มของปีศาจ เขาเดินเข้าไปหาชายที่ผลักซางจิ่วตี้ด้วยน้ำเสียงที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหารรุนแรงและข่มขู่ จนชายคนนั้นต้องคุกเข่าด้วยความเกรง

 

หน้าของชายคนนั้นซีดราวกับกระดาษ หากหลังจากผ่านความกลัวไป ความแข็งข้อก็กลับมาอีกครั้ง “นายในฐานะผู้นำของค่ายจะส่งคนธรรมดาเข้าไปอยู่ในเมืองที่มีซอมบี้ 1.5 ล้านตัว นายบอกว่าซอมบี้อยู่ภายใต้การควบคุมแล้วและมันจะไม่มีซอมบี้มาปรากฏตัวในบริเวณที่พักอาศัยอีก นายโง่เหรอไง?”

 

ชูฮันส่ายหัวเบาๆสีหน้าโกรธจัด “มันไม่มีอะไรต้องอธิบายอีกเพราะแกจะไม่มีโอกาสได้พูดอีกหลังจากนี้?”

 

ทันทีที่ชูฮันพูดอย่างนั้นออกมา ชายคนนั้นก็อึ้งและตะโกนอย่างไม่เชื่อ “แกขู่ฉันเหรอ?! แกจะฆ่าฉันเพราะแค่ฉันผลักซางจิ่วตี้เนี่ยน่ะ? ฮ่าฮ่าฮ่า! เอาสิ ดู ทุกคนกู ผู้นำของค่ายนี้ไม่ต่างอะไรกับพวกโจรเถื่อนที่แสร้งทำเป็นใช้กฏหมาย! ฉันไม่โอกาสแม้แต่จะตั้งคำถาม ถูกปฏิบัติไม่ต่างอะไรกับหมู ทำเป็นพูดดีแต่จะส่งเราไปเมืองอันลูที่มีซอมบี้เต็มไปด้วย ทุกคนดูเอาว่าไอ้พลเอกนี่มันเป็นคนแบบไหน——-“

 

พัฟ!

แสงสีดำตัดกลางอากาศ เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วขัดการพูดของชายคนนั้นอย่างตลอดกาล

 

ปั้ก!

ร่างของชายคนเดิมล้มลงกระแทกพื้น

 

เลือดติดอยู่ที่ปลายใบมีดของขวานซิ่วโหล สีหน้าของชูฮันยังคงนิ่งเหมือนเดิม หากมันกลับให้ความรู้สึกเหมือนปีศาจร้ายที่ผุดขึ้นมาจากนรกที่ปลิดชีวิตอีกฝ่ายโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่แม้แต่จะได้รู้ชื่อ

 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วมาก ไม่มีใครมองทันนอกจากตัวชูฮันเอง ไม่แม้กระทั่งตัวคนที่ตายไปหรือชาวบ้านที่อยู่รอบๆเป็นพันเป็นหมื่นคน หรือแม้กระทั่งเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือพวกผู้บริหารค่ายทั้งหลาย ทุกคนต่างสยองขวัญกับภาพที่เกิดขึ้น มันน่ากลัวเหลือเดิน

 

ไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่ฆ่าเลย!

 

ในเวลานี้แม้แต่เหล่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่ทั้งหลายก็ต้องตกใจจัดกับเหตุการณ์นี้ ชายที่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งจีนราวกับปีศาจ ยศตำแหน่งที่สูงถึงพลเอก หากกลับทำอะไรโดยไม่สนกฏเกณฑ์ ใครที่ไม่ฟังก็ฆ่าทิ้งเลย ใครที่ยั่วอารมณ์ก็ฆ่าทิ้ง มันกดขี่เกินไป

 

ซางจิ่วตี้เป็นคนที่ตระหนกที่สุด แววตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวลใจ ชูฮันฆ่าคนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ มันต้องเกิดการจลาจลขึ้นในค่ายแน่ๆ แล้วคนธรรมดาที่เห็นเหตุการณ์อย่างนี้จะอยู่เฉยกันได้ยังไง? มันจะเป็นชื่อเสียติดค่ายไปไม่ใช่เหรอ?

 

หลิวยู่ติงที่ยืนถัดไปจากซางจิ่วตี้ก็ตกใจและกลัวเหมือนกัน แม้เขาจะคาดเดาเอาไว้แล้วว่าถ้าชูฮันมาจะต้องมีการนองเลือดเกิดขึ้น แต่ไม่คิดเลยว่าชูฮันจะมาไกลถึงขนาดนี้ แล้วฆ่าคนทันทีต่อหน้าชาวบ้านมากขนาดนี้ มันโหดร้ายเกินไป