ตอนที่ 304 ผมจะดูแลทะนุถนอมเธอเป็นอย่างดีด้วยความรัก

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

แต่คุณปู่ไม่มีข้อสงสัยแม้แต่น้อย และไม่ถามคำถามใดๆ เธอเลย เธอคิดไม่ถึงว่าคุณปู่จะยอมรับความจริงที่ว่าเธออาศัยอยู่ในร่างคนอื่นได้ง่ายดายอย่างนี้… ราวกับว่า… ท่านเคยเจอประสบการณ์เช่นนี้กับตัวเองมาก่อน… 

 

 

ถังเจิ้นหวามองถังซีแล้วส่ายศีรษะ ถังซีรีบเข้าไปกอดท่านแล้วกระซิบ “คุณปู่คะ หนูขอโทษค่ะที่ทำให้คุณปู่เป็นห่วง ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูคนเดียว” 

 

 

“ในเมื่อหนูยังมีชีวิตอยู่ หนูควรมาบอกปู่” ถังเจิ้นหวาเอื้อมมือไปลูบหลังเธอเบาๆ แล้วกล่าวอย่างใจหาย “แต่หนูมาอาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้นานเกินไปแล้ว ถ้าปู่ไม่ได้มาที่นี่เอง หนูจะเก็บความลับนี้ไว้จากปู่ตลอดไปเลยหรือ” 

 

 

ถังซีส่ายศีรษะ “หนูกลัวว่าคุณปู่จะรับไม่ได้ หรือคิดว่าหนูเป็นบ้าไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นหนูคงไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้คุณปู่อีกเลย” 

 

 

ถังซีคิดว่าวันนี้เป็นวันที่วิเศษ เพราะเธอได้พบกับคุณปู่อีกครั้ง และสถานการณ์นั้นแสนง่าย เธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถกลับไปเป็นหลานสาวคุณปู่ได้อีกแล้ว ท่ามกลางความประหลาดใจของเธอ คุณปู่จำเธอได้เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำ… 

 

 

ทั้งสองหาม้านั่งแล้วนั่งลงคุยกัน ภายใต้แสงอาทิตย์ ปู่กับหลานสาวมีความสุขกับทิวทัศน์ทะเลสาบ ถังซีเล่าให้ถังเจิ้นหวาฟังว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ยิ่งฟังถังเจิ้นหวาก็ยิ่งใจหาย ถังซีมองท่านและยิ้มขณะกล่าวเบาๆ ว่า “คุณปู่คะ คุณปู่มั่นใจได้ยังไงคะว่าหนูคือซีซีของคุณปู่ เพราะที่สำคัญที่สุดคือเราไม่เหมือนกันเลย ทำไมคุณปู่ถึงจำหนูได้เพียงเพราะคำพูดของหนูไม่กี่คำ ทำไมคุณปู่ถึงไม่คลางแคลงใจเลยล่ะค่ะ ว่าหนูจะตั้งใจมาสวมรอยถังซี…” 

 

 

“คุณย่าของหนู” ถังเจิ้นหวาจ้องมองถังซี ดวงตาเป็นประกายด้วยความสุขขึ้นมาทันที ซึ่งถังซีไม่ค่อยได้เห็นภาพแบบนี้บ่อยนัก เขากล่าวว่า “คุณย่าได้เผชิญสถานการณ์แบบเดียวกันกับหนู หลังจากคุณย่าเสียชีวิตปู่แทบสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่แล้วเธอก็ปรากฏตัวขึ้น แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าที่แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง แต่เธอทำให้ปู่เชื่อว่าเธอยังคงเป็นเธอคนเดิม” 

 

 

ถังซีมองคุณปู่อย่างตกตะลึง เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ แต่ปรากฏว่าคุณย่าก็มีประสบการณ์แบบเดียวกับเธอ อย่างไรก็ตามสีหน้าถังเจิ้นหวาค่อยๆ หม่นหมองลง ชายชรายิ้มเศร้า “แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขอยู่ไม่นาน คุณย่าของหนูจากปู่ไปในที่สุด” 

 

 

ถังซีจับมือถังเจิ้นหวาและถามเสียงต่ำว่า “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกครั้งที่คุณปู่ไปเยี่ยมหลุมศพของคุณย่า คุณปู่จะไปที่หลุมศพสองแห่ง แต่จะเรียกชื่อเพียงชื่อเดียว ใช่ไหมคะ คุณปู่” 

 

 

ถังเจิ้นหวาพยักหน้า “ถึงแม้คุณย่าของหนูจะเสียชีวิต แต่เธอก็มีชีวิตอยู่ในหัวใจปู่ตลอดกาล ดูเหมือนว่าหนูจะเผชิญเหตุการณ์แบบเดียวกันกับเธอ แล้วนี่เมื่อไรกันที่เฉียวเหลียงหาหนูพบ” 

 

 

ถังซียิ้มหวานทันทีที่ได้ยินชื่อเฉียวเหลียง “เขาไปที่ลองบีชค่ะ และค้นหาหนูอย่างบ้าคลั่ง หลังจากหนูส่งอีเมลถึงทุกคนจากอีเมลของหนูเอง เขาสืบหาพื้นที่สัญญาณส่งอีเมลของหนู ก็เลยหาหนูพบค่ะ แล้วเขาก็มั่นใจในเวลาอันรวดเร็วว่าเซียวโหรวเป็นหนู เหมือนอย่างคุณปู่นี่แหละค่ะ 

 

 

“แต่ที่จริงหนูได้พบเขาสองครั้งก่อนหน้านั้น ตอนนั้นเขาจำหนูไม่ได้ แต่คุณปู่จำหนูได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน” 

 

 

ถังเจิ้นหวาพยักหน้ามองถังซี เม้มริมฝีปาก “พ่อหนุ่มคนนั้นใส่ใจหนูจริงๆ ปู่บอกได้เลยจากการกระทำของเขาครั้งล่าสุดที่เขาไปที่อุทยานเอ็มไพร์…” 

 

 

“ใช่ค่ะ เขาอยากไปเยี่ยมคุณปู่ตอนที่เขาได้ยินว่าคุณปู่กำลังตามหาหนู และหนูก็เป็นห่วงคุณปู่ เขาก็เลย…” 

 

 

ถังเจิ้นหวาถอนหายใจ “เขาเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเป็นอย่างมาก ตอนนี้หนูกับเขาได้กลับมาคบกันอีกครั้ง ปู่ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว แต่ที่สำคัญ…” 

 

 

ใบหน้าถังซีเข้มขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำพูดของถังเจิ้นหวา เธอกล่าวอย่างจริงจังว่า “คุณปู่คะ ปล่อยคนพวกนั้นให้หนูจัดการค่ะ คุณปู่ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลย ที่สำคัญคือหนูได้เข้าควบคุมการบริหารงานบริษัทไปแล้วเมื่อสองปีก่อน และหนูก็ทำพินัยกรรมไว้แล้วโดยระบุว่า หากหนูเกิดประสบอุบัติเหตุ ทรัพย์สินทั้งหมดของหนูจะถูกนำไปบริจาคให้กับสาธารณกุศล รวมทั้งบริษัทด้วย หนูคิดว่าพวกเขาอาจรู้ว่าคุณปู่โอนหุ้นทั้งหมดของคุณปู่ให้หนู และหนูทำพินัยกรรมไว้อย่างนั้น พวกเขาก็เลยไม่กล้าทำอะไรตอนนี้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะสูญเสียทุกอย่าง” 

 

 

นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่รีบร้อนกลับไป และไม่กลัวว่าพวกเขาจะวางแผนต่อต้านคุณปู่ 

 

 

เธอเป็นห่วงเอ็มไพร์กรุป แต่สิ่งที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดคือคุณปู่ เธอกลัวว่าคุณปู่อาจรับไม่ได้ถ้าท่านรู้ว่าเธอตายแล้ว ตอนนี้คุณปู่รู้แล้วว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ และก็สงสัยคนพวกนั้นเช่นกัน เธอจึงไม่จำเป็นต้องเก็บงำอะไรไว้เป็นความลับต่อท่านอีกต่อไป 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของถังซีถังเจิ้นหวาก็กล่าวอย่างจริงจังว่า “ปู่ยังไม่ได้โอนหุ้นทั้งหมดให้หนูเลย! เด็กโง่! ไม่ช้าก็เร็วเอ็มไพร์กรุปต้องตกเป็นของหนู แต่ตอนนี้หนูกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปแล้ว ปู่ต้องแก้พินัยกรรม และหนูก็ต้องค่อยๆ ใช้เวลาแก้พินัยกรรมของหนู ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดของหนูเป็นของหนูคนปัจจุบัน” 

 

 

ถังซีหัวเราะ “ว้า แล้วหนูควรทำยังไงดีล่ะคะตอนนี้ คุณปู่ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ พวกเขาจะไม่มีทางทำให้เอ็มไพร์กรุปเป็นของพวกเขาได้ ตราบใดที่หนูยังมีชีวิตอยู่” 

 

 

ถังซีดูจริงจังมากเมื่อกล่าวประโยคสุดท้าย 

 

 

เมื่อเฉียวเหลียงมาถึงเขาเห็นถังซีกับถังเจิ้นหวากำลังพูดคุยและหัวเราะกัน เขาชะลอฝีเท้า ระงับความเร่งร้อนลง ค่อยๆ เดินเข้าไปหาพวกเขาทีละก้าว 

 

 

ถังเจิ้นหวาหันหลังไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเฉียวเหลียง มองดูเฉียวเหลียงซึ่งเหงื่อตกจากความรีบเร่งแล้วยิ้ม “พ่อหนุ่มคนนี้คงกลัวหนูโดนปู่เล่นงาน เขาถึงรีบมาที่นี่” 

 

 

ถังซีโบกมือให้เฉียวเหลียงพร้อมด้วยรอยยิ้มกว้างที่สุดเมื่อเห็นเขาเดินมา เฉียวเหลียงเดินเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าเข้ม ทักทายถังเจิ้นหวา และดึงถังซีขึ้นจากพื้น “คุณถังครับ เซียวโหรวต้องไปเข้าห้องเรียนแล้วครับ เดี๋ยวเราคุยกันตามลำพังก็ได้” 

 

 

ถังเจิ้นหวามองหน้าถังซีและกล่าวว่า “ไปเข้าห้องเรียนเถอะ แล้วค่อยโทรหาปู่หลังเลิกเรียน” 

 

 

เฉียวเหลียงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของถังเจิ้นหวา ถังซีพยักหน้าบอกลาถังเจิ้นหวา แล้วขยิบตาให้เฉียวเหลียง ก่อนจะหันหลังเดินไปทางโรงเรียน เฉียวเหลียงมองตามร่างเธอที่ค่อยๆ ห่างออกไป แล้วหันกลับมามองถังเจิ้นหวา กล่าวอย่างจริงจังว่า “ผมรู้ว่าการกระทำของผมดูเสียมารยาท แต่ว่าคุณถังครับ เธอเป็นคนรักของผม หากมีข้อขัดข้องใจอะไร ได้โปรดถามผมเถอะครับ อย่า…” 

 

 

“ฉันรู้ว่าเธอน่ะรักซีซีอย่างจริงใจ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นกับตาว่าเธอเป็นห่วงยายหนูมากแค่ไหน” ถังเจิ้นหวามองเฉียวเหลียงขณะกล่าวว่า “ขอบใจนะ สำหรับสิ่งที่ทำเพื่อยายหนู ฉันจะรับไว้ในใจ โปรดดูแลซีซีให้ฉันด้วย ฉันมาเมือง A บ่อยๆ ไม่ไหวหรอก เพราะฉะนั้นโปรดทำดีกับเธอให้มากๆ และอย่าปล่อยให้เธอต้องเจ็บปวด” 

 

 

เฉียวเหลียงจ้องมองถังเจิ้นหวาอย่างแน่วแน่ ค่อนข้างนานกว่าเขาจะพยักหน้า “คุณถังวางใจได้ครับ ผมจะดูแลทะนุถนอมเธอเป็นอย่างดีด้วยความรัก”