ถังเจิ้นหวาเข้าใจความหมายจากสายตาเฉียวเหลียงได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน แต่เขาไม่ได้โกรธ กลับชื่นชมชายหนุ่มคนนี้มากขึ้น เพราะวิธีที่เขาปฏิบัติต่อถังซี ชายหนุ่มตรงหน้าเขาดีกว่าเขาสมัยยังหนุ่มมาก อย่างน้อยชายหนุ่มคนนี้คือผู้ที่จะไม่ยอมให้ใครมากุมชะตาเขา แต่เขาจะกุมไว้ในมือของเขาเอง
เมื่อคิดเช่นนี้ ถังเจิ้นหวาก็ลุกขึ้นแล้วสูดหายใจลึกๆ ขณะกล่าวว่า “พ่อหนุ่มฉันเชื่อว่าเธอจะดูแลซีซีด้วยความรักและเอาใจใส่ ฉันดีใจที่เธอให้คำมั่นสัญญากับฉันได้”
เฉียวเหลียงลุกขึ้นยืน และถามถังเจิ้นหวาด้วยความเคารพว่า “ผมขอถามได้ไหมครับ ว่าท่านทราบได้ยังไงว่าเซียวโหรวคือซีซีจริงๆ”
ถังเจิ้นหวามองเฉียวเหลียงและหัวเราะ จากนั้นก็ตบไหล่เฉียวเหลียง “พ่อหนุ่ม ทำใจให้สบาย เธอไม่ต้องหวาดวิตกในตัวฉันหรอก ฉันเป็นปู่ของซีซี เธอไม่ต้องวิตกกังวลเลยจริงๆ” ว่าแล้ว ชายชราก็ก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “ฉันรู้จักซีซีดีกว่าเธอ และที่สำคัญคือฉันเป็นคนเลี้ยงดูซีซีให้เติบโตขึ้นมาด้วยมือฉันเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าเธอจะพยายามปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเธอจากฉันมากแค่ไหน ฉันก็จะรู้ว่าจริงๆ แล้วเธอคือใคร”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังเจิ้นหวาด้วยความประหลาดใจ ตัวเขาเองแทบยอมรับไม่ได้เลยว่าซีซีกลายเป็นบุคคลอื่น หากเขาไม่เคยสงสัยมาก่อน เขาจะไม่มีทางเชื่อเลยว่าเธอคือถังซี ตอนที่เธอบอกเรื่องนี้กับเขา ทำไมคุณปู่ถังถึงมั่นใจเหลือเกินว่าเซียวโหรวคือถังซี
“ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องยากสำหรับคุณถังที่จะยอมรับเรื่องนี้” เฉียวเหลียงเดินมาข้างๆ ถังเจิ้นหวา
ถังเจิ้นหวามองดูเฉียวเหลียงที่เดินอยู่ข้าง ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถึงฉันจะแก่แล้ว แต่ไม่ใช่คนหูหนวกตาบอด เพราะฉะนั้นฉันบอกได้ว่าเธอเป็นใคร ไม่มีอะไรแปลกประหลาดเกินไปหรอกในโลกใบนี้ เพราะฉันมีประสบการณ์มากเกินไป เรื่องนี้จึงไม่แปลกสำหรับฉัน”
เฉียวเหลียงพยักหน้า “ผมเข้าใจครับ คุณถัง”
ถังเจิ้นหวาพยักหน้า “นี่ ในเมื่อเธอก็จะแต่งงานกับซีซีอยู่แล้วในวันหนึ่ง เพราะฉะนั้นเธอเรียกฉันว่าคุณปู่ก็ได้ ฟังดูห่างเหินเหลือเกินที่เธอเรียกฉันว่าคุณถัง”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังเจิ้นหวาอย่างประหลาดใจและพยักหน้า “ตกลงครับ… คุณปู่”
ถังเจิ้นหวาพยักหน้า “ซีซีไปเรียนแล้ว แต่นี่ยังเช้าอยู่เลย เธอจะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะขอไปเยี่ยมชมบริษัทของเธอ”
“ผมได้ยินมาว่าคุณ… คุณปู่ตั้งใจจะร่วมมือกับบริษัทเคมีภัณฑ์ในเมือง A ท่านคิดอย่างไรกับเซียวกรุปครับ” เฉียวเหลียงชี้บอกทางแก่ถังเจิ้นหวา แล้วเดินตามหลังท่าน
ถังเจิ้นหวาเดินเอามือไพล่หลังและขมวดคิ้ว “เป็นบริษัทของพ่อแม่ในปัจจุบันของซีซีใช่ไหม”
เฉียวเหลียงพยักหน้า “ถึงแม้พ่อแม่ในปัจจุบันของเธอจะเคยทำผิดกับเธอ เคยปฏิบัติไม่ดีกับเธอ แต่ทุกคนก็ปรับความเข้าใจกันได้แล้ว และเข้ากันได้ดี ผมตรวจสอบบริษัทของพวกเขาแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาภายในใดๆ ครับ”
ถังเจิ้นหวาส่งเสียงฮึดฮัดออกจากจมูก “ฉันไม่รู้จักบริษัทนี้ แต่ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ ฉันจะให้ถังจงตรวจสอบเซียวกรุปเมื่อฉันกลับไป ฉันจะพิจารณาการลงทุน ถ้าคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร”
ทันทีที่เดินออกจากสวนสาธารณะ ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นฉินซินหยิ่งลงจากรถวิ่งเข้ามาหา เฉียวเหลียงขมวดคิ้วเมื่อเห็นฉินซินหยิ่ง และถังเจิ้นหวาไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ แต่ก็ยังส่งรอยยิ้มให้เธอ ขณะกล่าวด้วยเสียงที่มีเพียงเขากับเฉียวเหลียงเท่านั้นที่ได้ยิน “ดูเหมือนเธอจะเป็นห่วงฉันเสียจริง”
“คุณปู่คะ ทำไมไม่บอกหนูล่ะคะ ว่าคุณปู่จะมาเมือง A หนูจะได้ไปรับคุณปู่ที่สนามบิน” ฉินซินหยิ่งวิ่งเข้ามาหา แล้วจับแขนถังเจิ้นหวาอย่างสนิทสนม ขณะทักทายเฉียวเหลียง
เฉียวเหลียงพยักหน้าให้ฉินซินหยิ่งตามมารยาท แต่ไร้ความรู้สึก “คุณไม่ไปทำงานหรือ คุณฉิน”
ฉินซินหยิ่งยิ้มอย่างเขินอาย “ฉันเพิ่งรู้ว่าช่างน่าอายจริงๆ ที่เจ้านายเป็นคนจับได้ว่าฉันหนีงาน”
เฉียวเหลียงมองหน้าถังเจิ้นหวา และกล่าวเสียงเรียบ “ท่านมีธุระเสียแล้ว เราเอาไว้คุยกันใหม่อีกครั้งวันหลังนะครับ คุณถัง”
ถังเจิ้นหวาพยักหน้าให้เฉียวเหลียง “ตกลง เอาไว้คุยกันวันหลังนะ ประธานเฉียว”
ฉินซินหยิ่งฟังคนทั้งสองและขมวดคิ้ว คุณปู่ถังมาที่นี่เพื่อเล่นงานเซียวโหรวไม่ใช่หรือ
“ทำไมจู่ๆ คุณปู่ถึงมาเมือง A ล่ะคะ” ฉินซินหยิ่งยังคงจับมือถังเจิ้นหวาไว้ และถามด้วยรอยยิ้ม
ถังเจิ้นหวาหดแขนกลับ สั่งให้พ่อบ้านถังเปิดประตูรถ แล้วกล่าวว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อติดต่อธุรกิจ นี่เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
ใบหน้าฉินซินหยิ่งนิ่งขึงไปทันที แต่ไม่นานเธอก็ยิ้มออกมา “คุณพ่อหนูไปหาคุณปู่ที่บริษัทของคุณปู่วันนี้ แต่พนักงานที่บริษัทบอกว่าคุณปู่ออกไปทำธุระข้างนอก และบังเอิญหนู…” ฉินซินหยิ่งยิ้ม หันมองไปทางโรงเรียนแล้วกล่าวว่า “หนูบังเอิญมาหาใครบางคนที่โรงเรียนนี้ค่ะ และหนูเห็นคุณปู่นั่งมาในรถ หนูก็เลยตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นคุณปู่จริงๆ หรือเปล่า ปรากฏว่าเป็นว่าคุณปู่จริงๆ”
ถังเจิ้นหวามองดูฉินซินหยิ่ง แย้มริมฝีปากให้เธอเล็กน้อย และมองกลับไปที่โรงเรียน “ในเมื่อเธอไม่ว่าง ฉันก็คงไม่รบกวน”
“ไม่เป็นไรค่ะ จริงๆ แล้ว…” เมื่อเห็นถังเจิ้นหวาไม่ได้สนใจจะถามเธอเลยว่าเธอมาทำไมที่นี่ เธอจึงรีบอธิบายเสียเอง “จริงๆ แล้ว ซีซีขอให้หนูมาทำแบบนี้ค่ะ”
ถังเจิ้นหวามองดูเธอและขมวดคิ้ว “ซีซีขอให้เธอทำอะไร”
ฉินซินหยิ่งแกล้งทำเป็นไม่เต็มใจบอกท่าน เธอเม้มริมฝีปาก ทำท่าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่า “นักเรียนของโรงเรียนนี้คนหนึ่งมีความสัมพันธ์กับเฉียวเหลียง ซีซีก็เลยขอให้หนูมาถามคำถามบางอย่างกับผู้หญิงคนนั้น อย่างน้อยพวกเขาก็จะได้ไม่…”
“ไร้สาระ!” ก่อนฉินซินหยิ่งจะพูดจบ ถังเจิ้นหวาก็ขัดจังหวะเธอ ฉินซินหยิ่งตกตะลึงมองถังเจิ้นหวาด้วยความประหลาดใจ ถังเจิ้นหวาทำหน้าบึ้งใส่ฉินซินหยิ่ง กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ซีซีกับเฉียวเหลียงเลิกกันไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ไม่ใช่ธุระอะไรของเธอเลย ไม่ว่าเขาจะมีคนอื่นหรือไม่ก็ตาม! ไม่ว่าซีซีหรือเฉียวเหลียง ทั้งสองคนไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของกันและกัน! เวลาผ่านมานานหลายปีแล้ว พวกเขาจะยังคงเข้าไปยุ่งกับชีวิตของอีกฝ่ายได้ยังไง!”
ฉินซินหยิ่งรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดของถังเจิ้นหวา เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าเธอจะกล่าวออกมาเสียงต่ำ “แต่ซีซียังคงรักเฉียวเหลียง…”
เท่าที่เธอรู้จักถังเจิ้นหวามา ไม่ว่าถังซีต้องการอะไร เขาจะช่วยให้ถังซีได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
“ถ้าอย่างนั้นซีซีก็ต้องมาไล่ตามเขาเองสิ” ถังเจิ้นหวามองตรงเข้าไปในดวงตาฉินซินหยิ่ง และกล่าวอย่างเยือกเย็น “และเธอก็ไม่ควรทำอะไรเด็กผู้หญิงคนนั้น ถ้าเฉียวเหลียงกับถังซียังคงคบกัน ฉันจะไม่ปล่อยเด็กผู้หญิงคนนั้นแน่ แต่ตอนนี้ทั้งสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกันอีกต่อไป เพราะฉะนั้นปล่อยเฉียวเหลียงไปได้แล้ว!”