เย่ฉางลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินออกไป เขาเดินลงจากที่นั่งชมไปยังห้องโถงด้วยมือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง เสียงเชียร์ค่อยๆเบาลงเมื่อเขาเดินห่างออกไปไกลมากขึ้น ในมุมหนึ่งมีชายในชุดนักศึกษาและสวมแว่นตาปรากฏตัวขึ้น ข้างหลังเขามีนักศึกษาบางคนเดินตามเขามาด้วย นี่คือประธานสภานักศึกษาของหลินไห่ – เฉินเทียนยี่ เมื่อเห็นเย่ฉางเดินลงมาที่ห้องโถง เขาจึงขมวดคิ้วขึ้น

เย่ฉางเพียงเหลือบมองไปที่เขา ก่อนที่จะเดินผ่านไปตรงๆ เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย ที่สำคัญกว่าคือเขาไม่ได้รู้จักเฉินเทียนยี่มาก่อน มันจึงไม่ได้เป็นเรื่องจำเป็นที่เขาต้องเข้าไปทักทาย

“นายพลที่ดี…” เฉินเทียนยี่หยุดเดินและพูดพึมพำ

“ฮึ่ม นั่นแหละคือเขา …” ประธานสภานักศึกษาเขตเหนือ – โจวเม้งขมวดคิ้วและพูดว่า “ผมจะไปสั่งสอนเขาให้หัดเคารพผู้ใหญ่บ้าง …”

“อย่าเอาตัวเองไปสร้างความอับอายเลย นายไม่สามารถเอาชนะเขาได้หรอก …” เฉินเทียนยี่ส่ายหัวและเดินเข้าไปในที่ห้องประชุม

“ผมก็ต้องการจะดูว่าเขามีความสามารถอย่างนั้นไหม!” โจวเม้งพูด แต่จู่ๆมือที่ละเอียดอ่อนของโจวหนิงชิคว้าเขาเอาไว้ “ลูกพี่ลูกน้องอย่าใจร้อนไปนักสิ ตั้งแต่ท่านประธานใหญ่ได้พูดไปแล้ว มันจะดีกว่าที่นายจะไม่เข้าไปยุ่งกับเขา ตอนนี้เขตตะวันออกก็ยังไม่มั่นคง …”

โจวเม้งสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเดินเข้าไปในห้องประชุมด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี “ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของฮงหยุนคนเดียว เขาทำลายชื่อเสียงของสภานักศึกษาของเรา!”

ณ.ชายหาดแห่งหนึ่ง

เย่ฉางมองชายคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้แสงไฟถนนและยิ้มให้ “Hunting Flame …”

“หัวหน้า ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ …” Hunting Flame เริ่มเดินมาหาเขาอย่างช้าๆ

“นายมาหาฉันเพราะเรื่องอะไร? …” เย่ฉางเดินไปกับเขา

“ผมก็แค่ผ่านมาแถวนี้พอดี จึงแวะมาดูสักหน่อย … ทั้งสองคนที่คุณพามานั้นมีศักยภาพมาก แต่ผมกลัวว่า Thousand Spirits จะร่วมมือกับ Black Tortoise และ Sky Burial เพื่อคอยขัดขวางเรา” Hunting Flame พูดอย่างใจเย็น

“นายกลัว?” เย่ฉางยิ้มใส่

Hunting Flame ส่ายหัว “ผมไม่กังวลเลย เพราะหมายเลข 1 กำลังเฝ้ามองพวกเขาอยู่เงียบๆ”

“หมายเลข 1 ยังเกรงกลัวนาย, ฉันและ Cold Moon เลย นับประสาอะไรกับพวกระดับสูงเหล่านั้น เขาจับตามองอยู่ก็จริง … แต่เขาไม่ต้องการที่จะกำจัดพวกนั้นทิ้งไปหรอก ยังไงฉันว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรที่เด็ดขาด เขาเพียงแค่เฝ้ารอและเฝ้ามองเท่านั้นเอง ความแข็งแกร่งของนายและ Cold Moon ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม เพื่อเขาจะรักษาเก้าอี้ของตัวเองไว้ เขาไม่ต้องการเห็นเราเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนี้แน่ๆ สถานการณ์ทางฝั่ง Thousand Spirits ก็เช่นเดียวกัน ความช่วยเหลือชั่วคราวที่เขาให้แก่พวกนั้นก็คือ กรณีที่ฉันยึดอำนาจจากเขาและทรยศ …” เย่ฉางพูดอย่างช้าๆ

“หัวหน้า ไม่ใช่ว่าคุณต้องการตำแหน่งของเขาหรอกหรือ?” Hunting Flame ถอนหายใจ เขารู้เรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว สำหรับ 10 บทบัญญัติที่จะเติบโตมาได้ขนาดนี้ในปัจจุบัน การมีส่วนร่วมของหัวหน้าของเขานั้นมีมากมายนัก เขาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องภายนอกทั้งหมด ขณะที่หมายเลข 1 เป็นคนรับผิดชอบดูแลเรื่องการบริหารภายใน

“นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของฉันนะ ฉันคิดว่านายควรจะเข้าควบคุมองค์กรนี้ซะ ความเกลียดชังของ Cold Moon และ Bloodthirst มีมากเกินไป นอกจากเราสามคนแล้ว นายเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด ฉันหวังว่า 10 บทบัญญัติจะเป็นนายและ Cold Moon เป็นผู้ดูแล หน้าที่ต่างๆของฉันสามารถดำเนินการได้โดยนาย และเมื่อไหร่ที่เขาโจมตีนาย ฉันจะยืนอยู่เคียงข้างนายและ Cold Moon เอง…” เย่ฉางตบไหล่ Hunting Flame เบาๆ เขาเป็นผู้รอดชีวิตคนหนึ่งจากการทดลองขององค์กรนิพพาน เขาต้องดูพ่อแม่และพี่น้องของเขาถูกฉีดด้วยยีนสัตว์ป่า เขามีความมุ่งมั่นและฉลาดมาก เย่ฉางนึกถึงช่วงเวลาที่เขาขอร้องให้จัดการกับครอบครัวของเขา ที่กลายเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ไปแล้ว … การทำลายล้างที่ผิดธรรมชาติขององค์กรนิพพาน ทำให้เย่ฉางต้องถอนหายใจ

“ฉันรู้เกี่ยวกับพวกแพนโดร่า และเราได้รับข้อเสนอที่ดี” Hunting Flame กล่าว

เย่ฉางขมวดคิ้ว “แพนโดร่า …”

แพนโดร่าเป็นองค์กรใหญ่ที่สุดในโลกใต้ดินซึ่งเป็นกลาง ยา, อาวุธ, การลักพาตัว, ยาเสพติด, สิ่งดีและไม่ดีทั้งหลาย พวกเขาทำทุกอย่าง ยาหลอนประสาท, อาวุธใหม่ล่าสุด, ยาพิษ ทุกๆอย่างที่มีขายในตลาดมืด เกือบทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยแพนโดร่า พวกเขาเป็นเหมือนมาเฟียโลก คุณไม่สามารถฆ่าหรือกวาดล้างพวกเขาได้ พวกเขาแพร่กระจายไปทั่วทุกที่และท่าทางของสหพันธรัฐที่มีต่อพวกเขาก็ไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ด้านหนึ่งพวกเขาห้ามแพนโดร่าผลิตยาเสพติด อีกด้านหนึ่งพวกเขาก็แอบร่วมมือกันเพื่อค้นคว้าวิจัยยาตัวใหม่ แม้แต่ 10 บทบัญญัติก็ตั้งพวกเขาเป็นองค์กรสีเหลือง คือจะไม่ปราบปรามและไม่ช่วยเหลือ จนถึงขณะนี้ สมาชิกของพวกเขาแต่ละคนต่างมีธุรกิจของตัวเอง

“ใครเป็นคนเจรจา?” เย่ฉางถาม

“หมายเลข 4 – Sky Burial …” Hunting Flame ตอบ

“อืม ฉันกำลังจะร่วมมือกับบริษัทตระกูลลั่วและให้เขาแฝงตัวในแพนโดร่า …” เย่ฉางเงยหน้าขึ้นนึกอะไรบางอย่างและหัวเราะเยาะ “อย่างไรก็ตามแต่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่ใช่ความผิดของเรา Hunting Flame นายช่วยหาตำแหน่งในองค์กรให้ตระกูลลั่วหน่อยนะ เพื่อให้พวกเขายืนอยู่ข้างเรา เรื่องการเจรจาและลงทุนในเมืองหลวง ฉันจะปล่อยให้นายเป็นคนจัดการทั้งหมด ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ห่วงเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีใครเข้าร่วมกับ 10 บทบัญญัติได้อย่างง่ายๆ ตรวจสอบพวกเขาสักหน่อยนะ …”

“ผมวางแผนที่จะไปทางเหนือ แต่ผมไม่ได้แจ้งให้ Ardent Wind รู้ …” Hunting Flame พูดด้วยเสียงหัวเราะที่เย็นชา

“อืม มันไม่เหมาะที่จะบอก Ardent Wind เมื่อนายไปถึงที่นั่น ฝากทักทายยัยทอมบอยและเจ้าโล้นให้ฉันด้วยล่ะ แม้ว่าเราอาจจะพ่ายแพ้ใน 10 บทบัญญัติ แต่เราก็ยังคงมีกลุ่มมังกรที่จะให้เราลี้ภัยได้ ต่อให้หมายเลข 1 จะเป็นคนออกโรงเองก็เถอะ เมื่อเร็วๆนี้ เราได้รับจิ๊กซอร์ที่จะเชื่อมต่อแผนการของเรามาแล้ว แต่มันเป็นจิ๊กซอร์ชิ้นเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางของเราจะไม่ชัดเจนอีกต่อไป นายไม่จำเป็นต้องให้ฉันเป็นคนลงมือเอง ถูกต้องไหม?” คำพูดของเย่ฉางทำให้ Hunting Flame รู้สึกผ่อนคลาย ตอนนี้เขาสามารถจัดการทุกอย่างที่หัวหน้าเห็นชอบได้แล้ว เขาจะเป็นคนเล่นกับ Thousand Spirits และพวกนั้นเอง “ไม่จำเป็นต้องให้หัวหน้าลงมือเองหรอก ผมจะเป็นคนทำเอง…”

ตระกูลลั่วในเมืองหลวง

“คุณพ่อคะ 10 บทบัญญัติมาถึงแล้ว ลุงเร็นลองก็อยู่ที่นี่ด้วย …” MistyVeil พูดกับชายวัยกลางคนที่ดูสมาร์ทและมีผิวเหมือนหยก นี่เป็นผู้นำตระกูลลั่ว – ลั่วเฟิงเฉียง “รู่วหยาน ลูกผิดหวังกับการตัดสินใจของพ่อไหม?”

“การที่เราไม่ทำงานร่วมกับองค์กรหมื่นวิญญาณเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วคะ ถ้าตระกูลฉินหรือตระกูลลีพบว่าพวกเราเข้าร่วมกับองค์กรหมื่นวิญญาณ เราจะไม่มีหลักประกันตัวเองอีกต่อไป” MistyVeil ส่ายหัว “เพื่อนของหนูบอกว่า คนที่กำลังมาคือหมายเลข 5 ของ 10 บทบัญญัติ ชื่อว่า Hunting Flame …”

“เอาล่ะ ไปพบเขากันเถอะ …” ลั่วเฟิงเฉียงค่อยๆลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องนั่งเล่น

Hunting Flame และ SpyingBlade เพิ่งพบกันในโลกจริงครั้งแรก Hunting Flame ขมวดคิ้ว ‘เขาแข็งแกร่งมาก บางทีอาจแข็งแกร่งพอๆกับฉัน’ ในทำนองเดียวกัน ลั่วเฟิงเฉียงก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก หมายเลข 5 ของ 10 บทบัญญัติที่อยู่ตรงหน้าเขา อย่างมากที่สุดน่าจะมีอายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น! แต่เขาก็มีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าตัวเอง มันนึกภาพไม่ออกจริงๆว่าหัวหน้าของ 10 บทบัญญัติจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหน! “เป็นเกียรติสำหรับฉันจริงๆที่ได้พบคุณ เชิญนั่งลงก่อน…”

“ขอบคุณ … ผู้นำลั่ว” Hunting Flame รีบนั่งลง จากนั้นเขาก็มองไปยังสามผู้อาวุโสที่กำลังเดินเข้ามาจากด้านหลัง คนเหล่านี้คือผู้อาวุโส 2, 3 และ 4 ของตระกูลลั่ว – ลั่วเทียนเซียง, ลั่วเทียนหยู และลั่วเทียนฟาง พวกเขาทั้งหมดมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามมาก สมกับเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ของจีนจริงๆ แต่ในห้องนี้ปราศจากอาวุโสใหญ่ – ลั่วเทียนป้า Hunting Flame เหลือบมองไปที่ SpyingBlade เพื่อส่งสัญญาณให้เขาแสดงข้อมูลให้กับลั่วเฟิงเฉียง ด้วยความช่วยเหลือของ SpyingBlade การเจรจาจึงเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อการเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นมากขึ้น Hunting Flame จึงร่างสนธิสัญญาลงนามร่วมกัน ในเวลาเดียวกัน เร็นลองก็ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มมังกรในการยอมรับข้อตกลงร่วมกันนี้ จากนั้นไม่นาน เร็นลองก็ขอตัวกลับไปยังกลุ่มมังกรก่อน ในตอนนี้เหลือเพียงแต่ MistyVeil, ลั่วเฟิงเฉียงและสามอาวุโสที่ถูกทิ้งไว้กับแขกสองคนจาก 10 บทบัญญัติ

“ฉันได้ยินมาว่า 10 บทบัญญัติมีปีศาจสีเงินและ Cold Moon ทั้งสองคนสามารถโจมตีและสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อองค์กรหมื่นวิญญาณและองค์กรนิพพาน ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขาเป็นอย่างไร?” อาวุโสสามแห่งตระกลูลั่ว – ลั่วเทียนหยู ถามขึ้นมา

“Cold Moon แข็งแกร่งพอๆกับผม ส่วนปีศาจสีเงินนั้น ผมกลัวว่าไม่มีใครที่สามารถหลบหนีความตายไปต่อหน้าเขาได้ …” Hunting Flame พูดอย่างใจเย็น

“เจ้าหนุ่มพูดเกินจริงไปหรือเปล่า!” ลั่วเทียนหยูหัวเราะอย่างเย็นชา

“หรือว่าตระกูลลั่วอยากจะเป็นเหมือนกับตระกูลเอนอส?” Hunting Flame ยิ้มอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกไปพร้อมกับ SpyingBlade ทิ้งให้คนเบื้องหลังทำหน้าตื่นตระหนก MistyVeil เฝ้าดูเขาเดินจากไป ตระกูลเอนอสเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีความแข็งแกร่งพอๆกับตระกูลลั่ว แต่ในคืนๆหนึ่ง พวกเขาก็หายไปโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่พบซากศพเลยแม้แต่ศพเดียว มันก่อให้เกิดความสยดสยองในหมู่องค์กรใต้ดิน และมันก็เป็นผลงานทั้งหมดของ 10 บทบัญญัติ อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังของตระกูลเอนอสเป็นสมาชิกระดับสูงขององค์กรนิพพาน พวกเขาไม่เพียงแต่มีไพ่ลับอยู่ในองค์กรนิพพานเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็น่าเกรงขามมาก

เมื่อ Hunting Flame เดินออกมาตระกูลลั่วแล้ว เขาก็หันกลับไปมองข้างหลัง ก่อนหน้านั้นเขาพูดเกินจริงไปสักหน่อย อันที่จริงแล้วการทำลายล้างตระกูลเอนอสนั้น เป็นฝีมือของหัวหน้าของเขาและ Red Dragoness แต่หัวหน้าก็สามารถทำคนเดียวได้ แต่มันอาจจะยากขึ้นนิดหน่อย