ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 413 ที่แต่งกับผมเพราะตาบอดงั้นหรือ?
“ใช่น่ะสิ คุณล่ะ คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร คุณคณาธิป คุณเป็นใครกันแน่”
เส้นหมี่ขมวดคิ้วมองไปที่เขา ถามออกไปตรงๆ
คณาธิปยิ้มออกมาอย่างน่าเห็นใจ “คุณอย่าเข้าใจผิด แค่ช่วงนี้ผมสมัครเข้าทำงานที่บริษัทนี้เท่านั้นเอง ครั้งนี้ผมเป็นตัวแทนมาเข้าประชุม”
เส้นหมี่:“……”
สมัครงาน?
เส้นหมี่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เพราะคนคนนี้โกหกเธอมากี่ครั้งนับไม่ถ้วน เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาแต่ละคำนั้น ล้วนแล้วแต่ต้องพิจารณา
บริษัทคลาวน์โปรออกจะยิ่งใหญ่ เขาเพื่อจะตีสนิทเธอ ยังทำลายมันลงได้
เธอจะเชื่อเขาได้อย่างไร?
“โอเค ถ้าอย่างนั้น คุณก็ทำงานเถอะ พวกเราต้องไปแล้ว แสนรัก พวกเราไปกันเถอะ”เส้นหมี่เบนสายตาไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า พูดออกไปอย่างระมัดระวัง แฝงไปด้วยการขอร้อง
ไม่มีทางเลือก ถ้าเธอยังไม่ไปจากตรงนี้ น่าจะมีคนอยากจะฆ่าคนตาย
แต่แสนรักกลับไม่ขยับ
เขานั่งกระดิกเท้าไปมา สองนิ้วหนีบกระดาษเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขากำลังอ่านอะไรอยู่จริงหรือเปล่า แต่บรรยากาศรอบข้าง ชวนให้ขนหัวลุก
“ซาจากรุ๊ปเจแปนเป็นบริษัทในเครือญาติ ตั้งแต่ประธาน ไปจนถึงอำนาจภายในทุกๆแผนก ต่างเป็นคนในตระกูล รวมถึงคณะทนายของพวกเขา คุณคณาธิป บอกว่าสมัครเข้ามาทำงานที่บริษัทของพวกเขา งั้นผมขอถามหน่อยสิ ซาจากรุ๊ปมีการเปลี่ยนแปลงภายในแล้วเหรอ?”
“……”
หนึ่งวินาที เส้นหมี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังมองเห็นสีหน้าของคณาธิปเปลี่ยนไป
“ประธานแสนรักอย่าได้เข้าใจผิดไป ผมเป็นแค่พนักงานธรรมดาในบริษัทเท่านั้น”
“งั้นเหรอ? คนที่พึ่งเข้ามาไม่นานกลับสามารถเป็นตัวแทนบริษัทมายังสถานที่แบบนี้ได้ คุณคณาธิป ซาจากรุ๊ปใจกว้างกับพนักงานธรรมดาไม่น้อยเลยนะครับ”
แสนรักหน้านิ่งๆตอบกลับไปอีกหนึ่งประโยค
แต่ครั้งนี้ เขาได้มองเขาอย่างเต็มตาสักที ริมฝีปากบางโค้งได้รูปของเขา ดวงตาดำคลับงดงาม ใบหน้าอิ่มเอิบราวเทพบุตร
เส้นหมี่ที่อยู่ด้านหลังตอนนี้รู้สึกใจเต้นจนเนื้อสั่น
น่ากลัวมาก ผู้ชายคนนี้ยังยิ้มออกมาได้
สีหน้าของคณาธิปซีดเผือด
อยากจะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้าย เขามองมาที่เส้นหมี่ที่อยู่ด้านหลัง ถอนหายใจออกมา หลังจากนั้น เขาชักสีหน้า แล้วก็เดินจากไป
เส้นหมี่อึ้งไปเล็กน้อย นานพอสมควรเธอถึงกล้าส่งเสียงออกมาถาม “คุณ…ที่คุณพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง หรือว่าเขา….มีความเกี่ยวข้องอะไรกับซาจากรุ๊ปเหรอ”
“ใช่แล้ว ไม่แน่ซาจากรุ๊ปอาจจะเป็นของเขาก็ได้ เป็นไงล่ะ รู้สึกหวั่นไหวแล้วสิ”
พอชายหนุ่มเปิดปากพูดอีกครั้ง ก็ไม่หลงเหลือคำพูดน่าฟังอย่างเมื่อสักครู่
เขาส่งกลิ่นอายความชั่วร้ายออกมา ดวงตาคู่นั้นจ้องมองมาที่เส้นหมี่อย่างไม่พอใจ เหมือนเด็กน้อยที่เอาแต่ใจ แปรเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดและไม่มีเหตุผล
คนแบบไหนกัน?
เส้นหมี่จึงรีบลุกขึ้น “หวั่นไหวอะไรล่ะ ฉันหาเงินเองไม่ได้หรือไง จะว่าก็ว่าเถอะ เมื่อก่อนแม้แต่หิรัญชากรุ๊ปยังไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลย ฉันจะไปหวั่นไหวอะไรกับซาจาล่ะ”
คำพูดพรั่งพรูออกมา ชายหนุ่มจึงสบายใจได้
แต่ว่า คำแบบนี้เหมือนแสกหน้ากันชัดๆ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินออกไป ชายหนุ่มรู้สึกว่าไม่ถามออกมาไม่ได้ “เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้อยู่ในสายตาคุณงั้นเหรอ”
“ใช่ไง”
“งั้นคุณแต่งงานกับผมทำไม”
“…….ตาบอด”
เส้นหมี่คิดอย่างถี่ถ้วน สุดท้ายก็ตอบออกมาสองคำ
ผลลัพธ์ เธอพึ่งพูดจบไป ก็ถูกชายหนุ่มผลักเข้าในลิฟต์อย่างไร้เยื่อใย “คุณกล้ามาก ผมให้โอกาสพูดอีกครั้ง!”
เส้นหมี่อึ้งไปชั่วขณะ
ผ่านไปหลายวินาที เธอถึงได้สติขึ้นมา ถึงได้พบว่า ชายหนุ่มกดร่างเธอเอาไว้ ร่างสูงเหมือนหอคอยเหล็กที่ปกคลุมลงมา ลมหายใจร้อนที่รดลงมาบนใบหน้าของเธอ
เขากำลังจะทำอะไร?
สมองขาวโพลน ใบหน้าเรียวเล็กเท่าฝ่ามือ แดงขึ้นเหมือนจะมีเลือดหยดออกมา
“คุณ…คุณจะทำอะไร รีบปล่อย นี่มันที่สาธารณะ”
“แล้วยังไง คุณคุยกับผมให้เคลียร์ก่อน ที่คุณแต่งงานกับผม เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร”คนปัญญาอ่อน เมื่อไม่ได้ดั่งใจแล้วก็พูดจาหาเรื่อง
เส้นหมี่อยากจะบ้าตาย
มองดูลิฟต์ที่กำลังจะถึงชั้นหนึ่งแล้ว เธออายหน้าแดงแล้วพูดออกมาอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้ตาบอด เพราะว่าชอบคุณ โอเคหรือยัง!”
เธอยอมแพ้…..
แสนรักพอใจขึ้นมา
แต่มือของเขายังไม่ได้ปล่อยลง กลับก้มหน้าลงมองเธอเจ้าแมวน้อยขนฟู หลังจากนั้น ก้มศีรษะลงมาแล้วประกบเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่ม
เส้นหมี่ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที
“ติ๊ง”
ประตูลิฟต์เปิดออก
ชายหนุ่มจึงปล่อยเธอ ขายาวก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ล่ะ เป็นจินตนาการของเส้นหมี่เองล้วนๆ
ไอ้สารเลว
การประชุมครั้งนี้ เพราะถูกจัดขึ้นเป็นเวลาสามวัน คืนวันนี้ พวกเขาจึงต้องพักที่โรงแรม
“คือว่า….ฉันเปิดอีกห้องดีไหม”
เส้นหมี่เดินตามชายหนุ่มมายังห้องพักชั้นบนสุดของโรงแรม หลังจากเห็นว่ามีเพียงห้องชุดเพียงห้องเดียว เธอจึงกลืนน้ำลายลงคอ แล้วถามอย่างระมัดระวังออกไป
ผลลัพธ์ ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเธอ
เขาผลักประตูเข้าไป แล้วดึงเนกไทออก อย่างรวดเร็ว เขาหยิบชุดคลุมอาบน้ำแล้วไปอาบน้ำ
ดูจากสถานการณ์แล้วใบหน้าเรียวของเส้นหมี่แดงระเรื่อขึ้น ทำได้แค่เดินตามเข้ามา