ตอนที่ 474: ขอโทษเพื่อหนี

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 474: ขอโทษเพื่อหนี

เมื่อหมิงตงและตู่กูเฟิงที่เป็น 2 เซียนปฐพีที่ได้ทำหน้าที่ปกป้องไป๋หยุนเทียนจนถึงขั้นจุดสูงสุด องค์หญิงนั้นยังคงปลอดภัยเพราะอยู่ข้างนาง

ในขณะนั้นพลังงานลูกหนึ่งได้ถูกยิงลงมาจากบนฟ้า ในไม่ช้าพื้นดินทั้งหมดก็เต็มไปด้วยหลุมมากมายและเศษหินขนาดเล็ก-ใหญ่ได้กระจายไปยังทางหมิงตงและทางอื่น ๆ

ระวัง ! หมิงตงตะโกนออกมาขณะที่เขาวิ่งเข้าไปปกป้องไป๋หยุนเทียนและองค์หญิง กระบี่ในมือของเขาสะบัดวูบวาบเพื่อฟันหินด้านหน้าของเขา

ตู่กูเฟิงใช้ดาบใหญ่ของเขาฟันไปและมีสะเก็ดไฟกระจายไปข้างตัว แม้จะใช้ความแข็งแกร่งของเขาแต่ก็ยังมีก้อนหินมีจำนวนมากเกินกว่าที่จะป้องกันได้ หลังจากที่คลื่นพลังงานกระแทกไปยังพื้นดินบ่อยครั้งและครั้งนี้สะเก็ดหินที่กระเด็นมาทางพวกเขาได้ทะลุการป้องกันของพวกเขาไปและมุ่งตรงไปยังไป๋หยุนเทียนก่อนที่จะถูกบาดและเกิดเลือดไหลขึ้นมา

อ๊าา ! เสียงตะโกนออกมาจากไป๋หยุนเทียน เมื่อนางมองไปรอบ ๆ นางก็เห็นว่าองค์หญิงกำลังกุมไหล่ซ้ายที่กำลังโชกเลือดจนทำให้เสื้อผ้าของนางกลายเป็นสีแดง

เยว่เอ๋อ เจ้าไม่เป็นไรนะ ? ไป๋หยุนเทียนไม่สนใจบาดแผลของนางและมองกลับมายังโหยวเย่วด้วยความเจ็บปวด

ข้า..ข้าไม่เป็นไร โหยวเยว่พูด แต่การแสดงออกที่เจ็บปวดของนางได้พิสูจน์ว่านางยังคงทนการบาดเจ็บได้อยู่

เมื่อเห็นไป๋หยุนเทียนและโหยวเยว่ได้รับบาดเจ็บ ตู่กูเฟยและหมิงตงต่างก็มีท่าทางตกใจ

สารเลว ! หมิงตงสถถ การต่อสู้พวกนี้วุ่นวายเกินไป เราไม่อาจยื้อไว้ได้อีกแล้วเราต้องเข้าไปยังห้องใต้ดิน ! ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็เร่งฝีเท้าของพวกเขา

การต่อสู้บนท้องฟ้าเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่คนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีความได้เปรียบเรื่องจำนวน แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขายังเป็นรองจากเซียนสวรรค์ของอาณาจักรฉินหวง ดังนั้นเซียนสวรรค์ทั้ง 9 จึงถูกตรึงไว้ด้วยเซียนสวรรค์เพียง 6 คน มันถึงชนิดที่ว่าพวกเขาไม่อาจโจมตีได้ ได้แต่มาคอยปกป้องและกัน

ทักษะระดับปฐพียังคงถูกใช้กันอย่างต่อเนื่องโดยเซียนสวรรค์ทั้งเก้า เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาโจมตีใส่คนจากตะกูลเจียงหยาง พวกเขาก็ระเบิดพลังอย่างน่ากลัวจนเห็นพื้นที่รอบ ๆ บิดเบี้ยว พลังของพวกเขาราวกับจะแยกผืนปฐพีออกจากกัน

แม้ว่าจะมีความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างทักษะการต่อสู้สวรรค์และทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี แต่หากว่าเซียนสวรรค์เป็นคนใช้แล้วล่ะก็ พวกเขาไม่อาจดูแคลนได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซียนสวรรค์ทั้งเก้าใช้ร่วมกัน พลังของพวกเขาก็เพียงพอที่จะต้านทานทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์และทำให้ผลที่เกิดจากทักษะสวรรค์หายไป

อ๊ากกก ! ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องที่เกิดจากความเจ็บปวดดังขึ้นมาผ่านเสียงระเบิดจากการต่อสู้ เมื่อทุกคนมองตามเสียงไปก็ได้เห็นเซียนสวรรค์ที่ถูกเจียงหวูจี่ฟันเข้าแขนขวา แขนของเขาขาดร่วงหล่นกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลสาดออกมาอย่างสายฝน

ดวงตาของเจียงหวูจี่มีความกระหายเลือดอย่างมาก ขณะที่เขายังคงเดินหน้าตามชายคนนั้นที่พยายามหลบหนีเขาอย่างไม่ลดละ พร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น กระบี่ของเขาก็แทงเข้าไปยังหน้าอกของชายผู้นั้น

ผู้อาวุโสปิงหยุน ! คนอื่นที่กำลังสู้กับเจียงหวูจี่ก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เขาพุ่งไปด้านหน้าพยายามแทงเจียงหวูจี่ที่หน้าอกเช่นกัน

เจียงหวูจี่แสดงออกถึงความเย็นชา เขาดึงกระบี่ออกจาหน้าอกของชายคนนั้นและเหวี่ยงกระบี่ของเขาด้วยแรงทั้งหมดไปยังศัตรูที่เข้ามา โดยชายคนนั้นเป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 3 เขาจะสู้เจียงหวูจี่ได้อย่างไร ? เพียงแค่การกวัดแกว่งกระบี่เพียงครั้งเดียวของเจียงหวูจี่ก็ทำให้ชายคนนั้นกระเด็นออกไปไกล

ใบหน้าของเจียงหวูจี่หดหู่, ระทมและโกรธแค้นผ่านสายตาของเขา ไม่มีทางที่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับด้านล่างของเขา แต่กับชายสองคนที่เขาต่อสู้ด้วยทำให้เขารำคาญจนอยากจะตายเพราะมันไม่มีทางที่เขาจะลงไปช่วยคนอื่นได้

เจียงหวูจี่จ้องมองไปยังหน้าอกของชายที่เขาแทง เพียงก้าวเดียวเขาก็บินไปหาชายคนนั้นและฟาดฟันกระบี่ออกไปทำให้หัวของชายคนนั้นหลุดลง แม้ว่าการใช้ทักษะระดับสวรรค์จะสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่าย ๆ แต่ก็จำเป็นต้องใช้พลังเซียนอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้นตระกูลเจียงหยางอย่างที่อยู่ด้านล่างยังได้รับผลกระทบ ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ได้ทำลายคฤหาสน์ทั้งหมดลงไป

เมื่อเห็นกระบี่ของเขาฟันลงมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าชายคนนั้นก็กลายเป็นตื่นตระหนก ครั้งแรกเขาสูญเสียแขนขวาของเขาจากนั้นก็มีรูที่หน้าอกของเขา บาดแผลสองแห่งนี้สร้างความเสียหายใหเขาอย่างมาก เขาไม่มีพลังมากพอที่จะป้องกันตัวเองจากการโจมตีที่เข้ามาอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะล้มกลิ้งกับพื้น

พร้อมกับการแค่นเสียงเยาะเย้ย ปลายกระบี่ของเจียงหวูจี่ก็พุ่งออกไปไกลกว่า 10 เมตรทันที กระบี่ตกลงไปอย่างรวดเร็วทะลวงผ่านหัวของชายผู้นั้นและฆ่าแม้แต่วิญญาณ

คนแรกที่สังหารคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์คือเจียงหวูจี่

ผู้อาวุโสปิงหยุน ! น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดถูกตะโกนออกมาจากชายที่ถูกเจียงหวูจี่ฟาดกระเด็นไปก่อนหน้านี้

อาณาจักรอินทรีสวรรค์ วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าแน่ใจได้เลยว่าเจ้าต้องชดใช้มากเพียงไหนจากการกระทำของเจ้า เจียงหวูจี่คำรามออกมาขณะที่เขาบินเข้าใส่อีกคน

หลังจากที่ได้เห็นเจียงหวูจี่สังหารเซียนสวรรค์ไป 1 คน ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าก็เริ่มที่จะตื่นเต้น การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วขึ้นและฝั่งศัตรูก็ได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดที่ไหลออกจากปากพวกเขาสาดกระเซ็นขณะที่พุ่งดิ่งลงมากระแทกพื้น

ปัง ! ทันใดนั้นก็เห็นเลือดกระจายเต็มท้องฟ้า มือของเซียวเทียนก็ได้จัดการหนึ่งในเซียนสวรรค์ที่เป็นหัวหน้าลง จนพื้นนองไปด้วยเลือด

ด้วยเหตุนี้เซียนสวรรค์ที่มาจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์คนที่สองก็ได้ตายลง !

เราไม่อาจเอาชนะได้ รีบหนีเร็ว ! หลังจากที่สมาชิกของกลุ่มถูกสังหารไป 2 คน อีก 3 คนรู้สึกว่าพวกเขาไม่อาจอยู่ได้อีก สมาชิกกลุ่มคนหนึ่งตระกูลร้องบอกออกมาทันทีเพื่อให้คนอื่นทิ้งการต่อสู้และหลบหนี

ถ้าข้าปล่อยให้เจ้ารอดไปได้ ข้า ฉิงเส้าฟานคงไม่อาจบากหน้ากลับบ้านได้อีก ! ฉิงเส้าฟานเยาะเย้ย พร้อมกับใช้พลังธาตุลมห่อหุ้มร่างกายตนเองก่อนที่จะบินไปยังคงหนึ่งที่บินหลบหนี

คนที่มาจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ถูกกดดันอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าพวกเขาจะปกป้องชีวิตของพวกเขาได้ แต่พวกเขาก็คงรั้งไว้ไม่ได้นาน ทุกคนในกลุ่มของพวกเขารู้ว่าเมื่อหัวหน้าของพวกเขาพ่ายและไม่นานพวกเขาก็คงจะเป็นเหมือนกัน เมื่อคนหนึ่งหลบหนี คนอื่น ๆ ก็ไม่รอช้าและเริ่มหลบหนีไปทีละคน

หลังจากการต่อสู้ระยะเวลาสั้น ๆ 2 จาก 9 คนก็ตายและเหลือเพียง 7 คนเท่านั้นที่บาดเจ็บสาหัส อีกด้านแทบไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและยังมีพลังเหลืออยู่ซึ่งต่างจากคนของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ที่แทบจะไม่มีแรงเหลือพอที่จะหลบหนีต่อไปอีกได้

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลบหนีไปได้!

ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนได้ทำการไล่ล่าโดยมีเซียวเทียนเป็นผู้นำกลุ่ม ในขณะที่เจียงหวูจี่ได้ลงมาด้านล่างเพื่อตรวจสอบความเสียหายของคฤหาสน์เจียงหยาง

ผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทุกมุมได้รีบมายังที่เกิดเหตุทันทีที่ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่ตระกูลเจียงหยาง พวกเขาเริ่มสังเกตการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้จากระยะไกลด้วยความตกใจอย่างมาก ในยุคทองของอาณาจักรเกอซุนพวกเขามีเซียนสวรรค์ไม่เกิน 10 คน ตอนนี้เจียงหวูจี่เป็นคนที่ 11 พวกที่เข้ามาเหล่านี้มีจำนวนที่มากกว่าเซียนสวรรค์ของพวกเขาในยุคทองของพวกเขาเสียอีก

สำหรับตระกูลเจียงหยางที่น่าสงสาร พวกเขาเพียงสูญเสียอย่างมาก อาคารทุกหลังพังทลายลงราวกับกองขยะและสามารถมองเห็นศพของยามและคนรับใช้ที่ตายกันอย่างเกลื่อนกลาด

แม้ว่าคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์หนีไปแล้ว การต่อสู้ก็ยังไม่หยุด ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนจากจากฉิงหวงยังคงสร้างความตกใจให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องโดยการไล่ล่าคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์อย่างไร้เมตตา

ฉิงเส้าฟานครอบครองพลังเซียนธาตุลมและสามารถใช้พลังธาตุลมเพิ่มความเร็วของเขาจนเขาเร็วที่สุดในกลุ่ม พริบตาเขาก็สามารถจัดการฝ่ายตรงข้ามและปล่อยพลังออกมาทั้งหมด ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีถูกใช้อย่างง่ายได้และตัดหัวของชายที่บาดเจ็บคนหนึ่งลงได้

ชายคนนั้นไม่ได้ตายทันทีจากการถูกฟันและรีบคว้าหัวของเขาก่อนที่จะพยายามหลบหนี การสังหารเซียนสวรรค์ระดับสูงได้นั้นต้องสังหารทั้งวิญญาณ

อย่างไรก็ตามชายที่ถูกตัดหัวลงไปก็อ่อนแอลงมาก สุดท้ายเขาก็ไม่อาจต้านทานฉิงเส้าฟานและถูกฟันหัวออกเป็นสองส่วน

จากจุดนี้ที่ปรึกษาจักรพรรดิอีก 4 คนได้ติดตามคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ทันและบังคับให้พวกเขาสู้กันบนฟ้าอีกรอบ พลังงานที่กระจายไปรอบ ๆ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากตามท้องถนนและบ้านเรือนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ผู้คนนับไม่ถ้วนตะโกนร้องออกมาด้วยความตกใจและตื่นตระหนก ขณะที่พวกเขาต้องหนีหัวซุกหัวซุนและไม่มีใครช่วยเขาได้ คนที่โชคร้ายก็ถูกลูกหลงต้องตายอย่างอเนจอนาจ

ในช่วงเวลาเดียว เซียนสวรรค์จากอาณาจักรอินทรีสวรรค์อีกคนก็ตายด้วยมือของเซียวเทียน เซียวเทียนดับวิญญาณของชายคนนั้นด้วยการดีดนิ้วและทำให้ร่างกายของเขาล้มลงกับพื้นและไถลไปกับถนน

ชายที่จับกุมราชาและไป๋เต๋าก็ตระหนักได้ว่าหากเขาไม่อะไรสักอย่างตอนนี้ มันคงเป็นการยากที่เขาจะหลบหนี เพียงแค่คิดเขาก็โยนเชลยทั้งสองไปยังทิศทางตรงกันข้ามก่อนที่จะตะโกนว่า ถ้าเจ้าต้องการราชา งั้นเอาเขาไป !

ที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนที่อยู่ในตระกูลเจียงหยางมาหลายวันและได้รู้หลายอย่างจากการพูดคุยกับเจียงหยางป้า ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ตัวตนของสองคนนี้ หนึ่งในนั้นคือว่าที่พ่อตาของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ อีกคนคือลุงของผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ชายทั้งสองคนนี้มีความสำคัญสูงมากและไม่ต้องลังเลอีกต่อไป ชายสองในห้าคนได้ผละออกไปเพื่อช่วยเหลือราชาและไป๋เต๋า

คนที่โยนทั้งสองคนนั้นไม่ได้วิ่งหนี เขานำอาวุธของเขาออกมาและรีบใช้ทักษะระดับปฐพีอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามที่จะช่วยสหายของเขา

เซียนสวรรค์ทั้งสองไม่อาจหนีไปได้เนื่องจากบาดเจ็บสาหัส พวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ราชาและไป๋เต๋าได้รับการช่วยเหลือ พวกเขาสามารถที่จะหนีอย่างน่าสมเพชเพื่อรับการช่วยเหลือจากสหายของเขาและบังคับให้ทั้งสามต้องผงะถอยหลังกลับไป

หลังจากนั้นไม่นานราชาและไป๋เต๋าก็ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย พวกเขาทั้งสองคนหนึ่งอยู่ในสภาพอิดโรยและอีกคนหนึ่งยังคงหมดสติ หากพวกเขาต้องตกกระแทกพื้น มันคงจะโชคดีอย่างมากหากพวกเขาไม่ตาย

เราไม่อาจปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้ ! เทียนลั่วพูดขณะที่เขามองไปยังคนที่หลบหนี เท้าของเขาคันยิบ ๆ ต้องการที่จะตามไปไล่ล่า

เทียนลั่วหยุดลงเมื่อเซียวเทียนพูด ลืมไปเลย ผู้พิทักษ์จักรพรรดิจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาหลบหนีไปได้ง่าย ๆ ตอนนี้สิ่งสำคัญของพวกเราคือการส่งคนเหล่านี้กลับไปยังตระกูลเจียงหยางและช่วยเหลือคนอื่น ๆ

ได้ การช่วยชีวิตพวกเขาสำคัญที่สุด หากมีอะไรเกิดขึ้นกับคนเหล่านี้ เราคงได้แต่ลงโทษตัวเองแล้ว ? ตงยี่จินป่ายเห็นด้วย

หลังจากนั้นที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งห้าคนก็กลับมายังคฤหาสน์ตระกูลเจียงหยางโดยทิ้งศพชายทั้งสองของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ไว้บนถนน การต่อสู้ใช้เวลาไม่นานและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับเมืองลอร์ก็จบลงในที่สุด

สุดท้ายเซียนสวรรค์ทั้งสิบคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ก็มีเพียง 6 คนเท่านั้นที่หลบหนีได้