ตอนที่ 490 ท่าทางสะบักสะบอม / ตอนที่ 491 ปิดตาของคุณ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 490 ท่าทางสะบักสะบอม

 

 

           อย่างไรก็ดีตอนนี้เธอไม่ใช่ฉู่เจียเสวียนเมื่อสามปีก่อนแล้ว

 

 

           “ตอนนี้เชิญคุณออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนเสื้อ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว น้ำเสียงเย็นชา ลมหายใจจากตัวเธอก็เยือกเย็นลงเช่นกัน ท่าทางที่เหมือนราชินีของเธอเช่นนี้ทำให้เผยหนานเจวี๋ยทั้งรักทั้งเกลียด

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยหันหลัง ยกมือขึ้นนวดคลึงคิ้ว “ผมไม่มองหรอก คุณเปลี่ยนเถอะ!”

 

 

           มองดูแผ่นหลังที่สูงใหญ่ของเผยหนานเจวี๋ย เธอไม่ต้องการทะเลาะกับเผยหนานเจวี๋ยด้วยเรื่องแบบนี้อีก จึงไม่อิดออดและเปลี่ยนเสื้ออย่างสบายใจ

 

 

           ขณะที่เผยหนานเจวี๋ยหันกลับมา ฉู่เจียเสวียนดึงซิปขึ้นเรียบร้อยพอดี เขาจ้องฉู่เจียเสวียนเขม็ง มองดูท่าทางของเธอที่งดงามในเวลานี้ รอยยิ้มที่แทบมองไม่เห็นผุดขึ้นในแววตา

 

 

           เขารู้อยู่แล้วว่าเขามองไม่ผิด ฉู่เจียเสวียนยิ่งดูร้อนแรงในชุดเดรสสีม่วงนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่ อย่างไรก็ดี ในเวลานี้ ฉู่เจียเสวียนที่อยู่ในชุดเดรสมีทั้งความเปล่งปลั่งดุจแสงอาทิตย์และเต็มไปด้วยความสุกงอมเต็มที่

 

 

           “ไม่เลวเลย” เผยหนานเจวี๋ยพึงพอใจกับสายตาของตัวเองมาก มีรอยยิ้มอยู่บนริมฝีปากบอบบาง

 

 

           สายตาของเผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่เจียเสวียนอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง มันทำให้เธอรู้สึกอยากจะหลบหนี จู่ๆ ราวกับว่าฉู่เจียเสวียนนึกอะไรบ้างอย่างได้ หันหลังวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยนั่งรอฉู่เจียเสวียนกลับออกมาอยู่บนเตียง เขาได้ยินเสียงน้ำไหลชัดเจน

 

 

           ไม่ช้า ฉู่เจียเสวียนก็เดินเท้าเปล่าออกมาอย่างเชื่องช้า

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนที่เดินเท้าเปล่าออกมา มองดูแต่ละก้าวๆ ที่เข้ามาใกล้ เมื่อเธอใกล้ถึงตัวเขาแล้ว ทันใดนั้นเธอก็เปลี่ยนทิศทาง รักษาระยะห่างจากเผยหนานเจวี๋ย เผยหนานเจวี๋ยที่เป็นแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย

 

 

           “ตอนนี้คุณขาดแค่รองเท้าแก้ว” เผยหนานเจวี๋ยจ้องสองเท้าของฉู่เจียเสวียน เท้าที่เปลือยเปล่านั้นบอบบางและขาวใสเหลือเกิน

 

 

           ผู้หญิงไม่น้อยที่มีใบหน้างดงาม แต่บางส่วนของร่างกายไม่ได้สวยงามตามไปด้วย ผู้หญิงประเภทนี้ราคาก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ว่าทั้งเรือนร่างของฉู่เจียเสวียนนั้นสวยงามจนแทบไม่น่าเชื่อ มันหอมหวานในทุกๆ ครั้ง ราวกับว่าหากมากกว่านี้ไปก็จะน่าเกลียด น้อยกว่านี้ก็จะรู้สึกอึดอัดใจ

 

 

           “มานี่” เผยหนานเจวี๋ยกวักมือเรียกฉู่เจียเสวียนที่อยู่ไกลจากเขา

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเหลือบตาขึ้นสบตาของเผยหนานเจวี๋ย เธอรู้สึกว่ายิ่งห่างเขาก็จะยิ่งปลอดภัย

 

 

           “หิวหรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยถามด้วยความเป็นห่วง วันนี้เธอยังไม่ได้กินอะไรเลย

 

 

           เธอส่ายหน้า ตอนนี้เธอจะมีอารมณ์กินข้าวที่ไหนกัน ตอนนี้เธออยู่ในรังหมาป่า หากไม่ระวังเธอก็จะไม่สามารถรักษาตัวเองไว้ได้

 

 

           “แต่ว่าผมหิวแล้ว ไปกินข้าวกับผมหน่อย” พูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนได้มีโอกาสปฏิเสธ พูดอย่างตรงไปตรงมา ก้าวขาเดินไปหาฉู่เจียเสวียน

 

 

           เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้พูดอะไร เขาพูดต่อ “อย่าลืมแต่งตัวให้สวยๆ ล่ะ”

 

 

           สภาพของฉู่เจียเสวียนในเวลานี้แย่มาก เครื่องสำอางค์บนใบหน้าก็หายไปหมดแล้ว แม้แต่ผมที่เป็นระเบียบก่อนหน้านี้ก็ยุ่งเหยิงเล็กน้อย ดูแล้วท่าทางสะบักสะบอมมาก

 

 

           เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เผยหนานเจวี๋ยได้แต่เรียกซูหรานเข้ามา ยกเธอให้

 

 

ซูหรานจัดการ นอกจากซูหรานจะเป็นหมอประจำครอบครัวของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว เขายังดูแลบ้านทั้งหมดด้วย ราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรที่เขาจัดการไม่ได้

 

 

           ธุรกิจของเผยหนานเจวี๋ยนั้นใหญ่มากฉะนั้นหมอประจำครอบครัวไม่ได้มีแค่ซ่งฉือเท่านั้น ยังมี

 

 

ซูหรานคนนี้ที่สามารถดูแลบ้านได้รอบด้าน

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเดินไปยังห้องข้างๆ ที่นั่นมีชุดออกงานที่เขาต้องการจะใส่

 

 

           บนใบหน้าของซูหรานมีรอยยิ้มเป็นมิตร เขาปรากฏตัวขึ้นในห้องอย่างเงียบๆ

 

 

           “คุณหนูฉู่ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” นิสัยของซูหรานค่อนข้างเก็บตัว ไม่พูดจาหยาบคายโดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับสาวงาม

 

 

 

 

       ตอนที่ 491 ปิดตาของคุณ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของซูหราน น่าแปลกใจทั้งๆ ที่เธอรู้วิชาป้องกันตัว แต่ทำไมพอมาถึงที่นี่แล้วความรู้สึกตื่นตัวของเธอถึงได้ต่ำขนาดนี้

 

 

           “ไม่ต้อง” ข่มความตกใจในใจเอาไว้ กวาดตามองเขาจากนั้นจึงเอ่ยปากตอบเรียบๆ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนแต่งหน้าให้ตัวเองบางๆ หวีผมง่ายๆ เพียงเท่านั้นก็ทำให้เธอดูสบายตาขึ้นมาเยอะแล้ว

 

 

           ซูหรานนำของสะสมของเผยหนานเจวี๋ยออกมา มันเป็นรองเท้าคริสตัลแพรวพราวคู่หนึ่งที่ออกแบบอย่างเป็นเอกลักษณ์ ฉู่เจียเสวียนอดใจไม่ไหวต้องเหลือบมอง ในฐานะดีไซเนอร์คนหนึ่ง เพียงแวบเดียวฉู่เจียเสวียนก็รู้แล้วว่ารองเท้าส้นสูงคู่นั้นไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งยังมีราคาสูงมาก

 

 

           แม้ในฐานะนักออกแบบชั้นนำของโลก ฉู่เจียเสวียนก็ไม่เคยเห็นรองเท้าที่สวยแบบนี้มาก่อน

 

 

           นี่เป็นรองเท้าที่เผยหนานเจวี๋ยสะสมไว้นานแล้ว เขาต้องการมอบให้ผู้หญิงที่เหมาะสมกับมันที่สุดในโลกนี้ได้สวมใส่ และฉู่เจียสวียนก็คือคนที่เหมาะสมที่สุดคนนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเพียงแค่สวมสูททักซิโด้สำหรับการออกงานอย่างเป็นทางการเท่านั้น สไตล์ของเสื้อเชิ้ตสีขาวกับชุดทักซิโด้สีดำนั้นดูโบราณ เขาดูเหมือนขุนนางในศตวรรษก่อนที่กำลังนั่งรอฉู่เจียเสวียนที่ชั้นล่างอย่างเงียบๆ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนลงมาจากชั้นบนช้าๆ เผยหนานเจวี๋ยมองเธอด้วยสายตาลุ่มหลง เมื่อเห็นว่าเธอสวมใส่รองเท้าคริสตัล รอยยิ้มก็ผุดขึ้นในดวงตา มีเพียงเธอที่เหมาะสมกับมันจริงๆ

 

 

           ทั้งห้องเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงรองเท้า “ตึกตึก” เท่านั้น ฉู่เจียเสวียนนึกถึงตอนที่ยังเป็นเด็กสาว เธอวาดฝันว่าสักวันหนึ่ง เธอจะเป็นเหมือนสโนไวท์ที่รอการมาถึงของเจ้าชายขี่ม้าขาว

 

 

           ผู้ชายที่อยู่ชั้นล่างมีมาตรฐานแห่งการเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวครบถ้วน แต่ว่าสิ่งที่เขามอบให้เธอกลับเป็นฝันร้าย และในฝันร้ายนั้น เธอได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ

 

 

           ทันทีที่ลงมาถึงชั้นล่าง เผยหนานเจวี๋ยก็เดินเข้าไปหาเธอ ยื่นมือเข้าไปหาเธออย่างสุภาพบุรุษ ฉู่เจียเสวียนลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังยื่นมือวางบนมือของเขา

 

 

           “คุณสวยมาก” เผยหนานเจวี๋ยชมอย่างตรงไปตรงมา

 

 

           ในชั่ววินาทีหนึ่ง เมื่อมองเผยหนานเจวี๋ยผู้มีเสน่ห์ไม่สิ้นสุดตรงหน้า ฉู่เจียเสวียนนึกว่านี่คือการออกเดทที่โรแมนติกจริงๆ แต่ความเป็นจริงกลับปลุกเธอให้ตื่นว่าเผยหนานเจวี๋ยเป็นผีร้ายที่ชอบใช้กำลังเพื่อเอาชนะเท่านั้น

 

 

           “อยู่กับผมแล้วคุณฝืนใจขนาดนั้นเลยเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนที่ขมวดคิ้วกันเล็กน้อย ก็ไม่พอใจอยู่ในใจ

 

 

           เธอไม่ต้องการจะอยู่กับเขาขนาดนี้เชียวเหรอ การแสดงออกแบบนี้ของเธอทำให้เขาหงุดหงิดมากจริงๆ

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย ฉันไม่นักแสดง ทำสิ่งที่ตรงข้ามกับใจไม่ได้หรอก” ฉู่เจียเสวียนพูดด้วยความโมโห แววตาที่มองเขาก็เปี่ยมด้วยความโกรธ เธอไม่พอใจหรือว่าจะให้เธอแสร้งทำเป็นมีความสุขงั้นเหรอ ขอโทษที เธอทำไม่ได้

 

 

           เธอไม่ใช่ฉู่อีอีที่สามารถแสร้งทำเป็นอ่อนโยนแบบนั้นได้ และแสดงได้โดยไม่ละอาย

 

 

           “คืนนี้คุณคือเจ้าหญิงของผม” เผยหนานเจวี๋ยไม่ต้องการพูดหัวข้อนี้กับฉู่เจียเสวียนต่อ

 

 

           “เจ้าหญิงคนสวยของผม ผมจะพาคุณไปที่สวยๆ ที่นึง มีเพียงที่นั่นที่คู่ควรกับความงามของคุณ” เผยหนานเจวี๋ยเคยคิดที่จะเก็บคำพูดอ่อนหวานเพื่อพูดให้ผู้หญิงที่ตัวเองรักฟัง และในตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงพูดได้อย่างอิสระ

 

 

           เมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉู่อีอี เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เลย สำหรับฉู่อีอีแล้ว เขาไม่เคยพูดคำอ่อนหวานอะไรให้เธอฟังเลย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ยที่กำกับเองแสดงเองอยู่ตรงนั้นอย่างเย็นชา จากกันสามปี ฉู่เจียเสวียนยิ่งไม่เข้าใจเขามากขึ้นทุกที

 

 

           “แต่ก่อนอื่น ผมต้องปิดตาคุณ” เผยหนานเจวี๋ยหยิบผ้าสีขาวออกมา ปิดตาของฉู่เจียเสวียนเบาๆ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยังคงไม่พูดไม่จา ปล่อยให้เผยหนานเจวี๋ยปิดตาของเธอ เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่รังเกียจความเงียบงันของเธอ ยังคงพูดกับตัวเองคนเดียว

 

 

           หลังจากปิดตาเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เผยหนานเจวี๋ยยื่นมือคว้ามือของฉู่เจียเสวียน กระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยน “จากนี้ไปผมจะเป็นดวงตาของคุณ”