ตอนที่ 492 อาหารค่ำใต้แสงเทียน / ตอนที่ 493 คุณเป็นของผม

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 492 อาหารค่ำใต้แสงเทียน

 

 

           ตาถูกปิดไว้ มองอะไรไม่เห็น ประสาทสัมผัสส่วนอื่นก็กลายเป็นอ่อนไหวขึ้นมา ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าพวกเขาเดินไม่หยุด เธอแม้แต่ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง

 

 

           รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ฉู่เจียเสวียนเกลียดความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกไร้อำนาจที่อยู่เหนือการควบคุมของเธอ

 

 

           “ตอนนี้ลืมตาได้แล้ว” เผยหนานเจวี๋ยโอบฉู่เจียเสวียนจากด้านหลัง พูดอย่างอ่อนโยนข้างหูของเธอ

 

 

           เมื่อลืมตาขึ้น ก็มองเห็นทะเลดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ดอกไม้พวกนั้นราวกับถูกเคลือบด้วยรัศมีอ่อนๆ ภายใต้แสงไฟ บางครั้งลมอ่อนพัดโชยมา ดอกไม้เหล่านั้นก็พริ้วไหวไปตามสายลม

 

 

           สวนดอกไม้หลังวิลล่า เผยหนานเจวี๋ยได้ปลูกดอกไม้หลากสีนานาชนิดที่สวนดอกไม้ด้านหลังโดยจะมีดอกไม้บานทั้งสี่ฤดูของปี

 

 

           “สวยจังเลย” ฉู่เจียเสวียนหลงใหลในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เธอเอ่ยอุทานออกมาจากใจจริง

 

 

           ดอกไม้เหล่านี้ดูเหมือนถูกคนดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ตำแหน่งของมันก็ถูกจัดอย่างจำเพาะเจาะจง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยไม่เคยพาผู้หญิงกลับมาที่วิลล่าหลังนี้มาก่อนเลย แม้แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันกับฉู่อีอี เขาก็ไม่เคยพาเธอมา ฉู่เจียเสวียนคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาพากลับมาที่นี่

 

 

           “ฤดูนี้ ดอกไม้ใกล้จะบานหมดแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยมองทะเลดอกไม้ผืนนั้นพร้อมเอ่ย

 

 

           “เห็นโต๊ะตรงนั้นหรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยเปลี่ยนหัวข้อ หันมามองเธอแล้วพูด

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองไปยังด้านหน้า มีโต๊ะตัวหนึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลดอกไม้ มันคือโต๊ะยาวสีขาวเรียบง่ายตัวหนึ่ง

 

 

           “คืนนี้พวกเรากินข้าวกันที่นี่” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว จูงมือของฉู่เจียเสวียนแล้วเดินไปที่โต๊ะ

 

 

           อาหารได้ถูกวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ฉู่เจียเสวียนมองดูเทียนสีขาวที่อยู่กลางโต๊ะ มุมปากยกยิ้ม ที่แท้ก็เป็นอาหาค่ำภายใต้แสงเทียน เขาลงทุนลงแรงไปมากจริงๆ

 

 

           เมื่อมาถึงข้างโต๊ะ เผยหนานเจวี๋ยลากเก้าอี้ให้ฉู่เจียเสวียนนั่งลง เธอนั่งลงตาม

 

 

           จากนั้นเผยหนานเจวี๋ยก็นั่งลงตรงข้ามฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนมองจานอาหารที่อยู่ตรงหน้า สีสันของจานอาหารดูโบราณ ไม่ใช่สีสันแบบโปร่งใส ทำให้ทายไม่ถูกว่าในจานนั้นมีอะไร

 

 

           “แปะๆ” จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้นสองครั้ง เงยหน้ามองเผยหนานเจวี๋ย ก็มองเห็นรอยยิ้มล้ำลึกของเขา

 

 

           ทันใดนั้นไฟในสวนดอกไม้ก็สลัวลง และดูเหมือนว่ามีเสียงไวโอลินอันไพเราะดังมาจากที่ไม่ไกล

 

 

           ฉู่เจียเสวียนตกใจเมื่อพบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังเล่นไวโอลินพร้อมเดินมาทางพวกเขา และคนนั้นก็คือซูหยานที่เปลี่ยนเสื้อสูทเรียบร้อยแล้ว

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างภาคภูมิใจ เลิกคิ้ว ทักษะการเล่นไวโอลินของซูหรานเป็นระดับนานาชาติเชียวนะ

 

 

           ทวงทำนองของไวโอลินนั้นมีชีวิตชีวามาก ฉู่เจียเสวียนชื่นชมไปกับการแสดงสดที่หายากอยู่เงียบๆ

 

 

           ซูหรานมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่มีท่าทางร่าเริงอย่างไม่พอใจ เขารู้สึกว่าอีกไม่นานเขาก็จะกลายเป็นเครื่องมือจีบผู้หญิงของเขาไปแล้ว เจอกับเจ้านายแบบนี้ เขาก็ทำได้เพียงยอมรับความโชคร้ายของตัวเอง

 

 

           ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าต่างดูไม่สมจริง เธอไม่มีทางเพิกเฉยได้จริงๆ อาหารค่ำใต้แสงเทียนครั้งนี้โรแมนติกกว่าคืนทานาบาตะคืนนั้นเสียอีก

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยหลับตาลงฟังเสียงดนตรี ลักษณะงดงามราวกับนายแบบหน้าปกนิตยสาร ฉู่เจียเสวียนแอบสำรวจท่าทางของเผยหนานเจวี๋ยในเวลานี้อย่างเงียบๆ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกได้ถึงสายตาของฉู่เจียเสวียน เขาลืมตาขึ้นกะทันหัน ฉู่เจียเสวียนละสายตาไม่ทันถูกจับได้พอดี เธอตกใจก้มหน้าลงทันที ซ่อนเร้นความเคอะเขินของตัวเองเอาไว้

 

 

           “หล่อไหม” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ริมฝีกปากบางๆ ยกยิ้ม เลิกคิ้วขึ้น จากนั้นก็เอ่ยถาม

 

 

           “หล่อ” ฉู่เจียเสวียนรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขายหน้าเหลือเกิน ก็เมื่อครู่เธอแอบมองเขาอยู่จริงๆ

 

 

           “ผมจะเข้าไปในจานแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยมองดูท่าทางของฉู่เจียเสวียนในตอนนี้ รู้สึกอารมณ์ดีมาก

 

 

           ความรู้สึกที่ได้อยู่กับเธอมันดีจริงๆ

 

 

           “หา” ฉู่เจียเสวียนรีบเงยหน้าขึ้น เมื่อเงยหน้าขึ้นก็สบตาที่เป็นประกายราวกับดวงดาวของเผยหนานเจวี๋ยเข้า เผยหนานเจวี๋ยในตอนนี้แตกต่างกับเขาในเมื่อก่อนราวกับเป็นคนละคน

 

 

           เธอไม่เคยเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่เป็นแบบนี้เลย เขาที่เป็นแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สมจริง

 

 

 

 

       ตอนที่ 493 คุณเป็นของผม

 

 

           “นี่คืออาหารค่ำที่ผมจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับคุณ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปาก ซ่งฉือเคยบอกเขาว่าฉู่เจียเสวียนขาดแคลนสารอาหาร สามารถบำรุงเธอด้วยเนื้อวัวกับฟัวกราส์ได้

 

 

           “ขอบคุณ” ฉู่เจียเสวียนก้มหน้ามองอาหารที่อยู่ในจานพร้อมเอ่ย ทั้งหมดนี้มันไม่สมจริงเกินไปแล้วซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเธอต้องการอยู่ในนั้น

 

 

           เธอแต่งงานกับเผยหนานเจวี๋ยมาสามปี แต่ว่าในสามปีนั้น เขาไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆ ให้เธอได้เห็นเลย แม้แต่เศษเสี้ยวของความอบอุ่นเขาก็ไม่เคยให้เธอ

 

 

           ตอนนี้ เมื่อมองดูผู้ชายที่เธอเคยรักหมดชีวิต ในใจก็รู้สึกสับสนเหลือเกิน

 

 

           ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าตอนนี้เธอกำลังจมดิ่งลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ทำให้หัวใจวัยสาวของเธอหวั่นไหว

 

 

           “คุณกำลังขอบคุณอาหารของคุณอยู่เหรอ” มองดูฉู่เจียเสวียนที่ก้มหน้าตลอดเวลาและไม่กล้ามองเขา เผยหนานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก น้ำเสียงเจือปนความขบขัน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้น มองเผยหนานเจวี๋ยอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เผยหนานเจวี๋ยในขณะนี้ดูผิดปกติอย่างแปลกประหลาด

 

 

           “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ความสวยงามของคุณมันเพียงพอที่จะทำให้ผมจัดเตรียมทั้งหมดนี้ด้วยความเต็มใจ” ทุกอย่างในค่ำคืนนี้ล้วนเป็นการวางแผนอย่างรอบคอบของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           เขาต้องการมอบสิ่งที่สวยงามที่สุดและโรแมนติกที่สุดให้กับเธอ

 

 

           อาหารมื้อค่ำจบลงท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก ฉู่เจียเสวียนไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นเจ้าหญิงแบบนี้มาก่อนเลย เธอแม้แต่ปรารถนาที่จะหยุดเวลาไว้ชั่วคราว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกลับมาถึงห้องจากสวนหลังบ้าน เหมือนในใจหนักอึ้ง เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย

 

 

           เมื่อครู่เธอถูกดูดเข้าไปในโลกอันอ่อนโยนของเผยหนานเจวี๋ยอย่างสมบูรณ์จริงๆ ตอนนี้เธอกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าตัวเองอยู่ในใจ

 

 

           “มานี่” เผยหนานเจวี๋ยพูดกับฉู่เจียเสวียนที่นั่งสับสนอยู่บนเตียงด้วยความเอาแต่ใจ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้า เดินเข้าไปหาเผยหนานเจวี๋ยด้วยความลังเล เผยหนานเจวี๋ยดึงมือของเธอ เอามือของเธอมาวางไว้ที่ตรงหัวใจของเขา “จงจำไว้ว่าตอนนี้มันกำลังเต้นเพื่อคุณ”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นมองดวงตาที่ล้ำลึกของเผยหนานเจวี๋ย เธอตกใจกับคำพูดของเขาจนรีบชักมือกลับ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเงยหน้า รอยยิ้มจางๆ ยังคงอ้อยอิ่งอยู่บนใบหน้า ไม่ถือสาพฤติกรรมของฉู่เจียเสวียนเลยแม้แต่น้อย

 

 

           “จำได้แล้วยัง” เผยหนานเจวี๋ยมองการแสดงออกของฉู่เจียเสวียนที่ราวกับโดนสายฟ้าฟาด เบิกบานใจมาก

 

 

           “คุณอย่าไร้สาระแบบนี้ได้ไหม” ฉู่เจียเสวียนไม่หวั่นไหวกับเล่ห์กลของเขาแบบนี้หรอกนะ

 

 

           เขาลุกขึ้น ก้มหน้า แล้วประทับจูบบนศีรษะของฉู่เจียเสวียน มันเป็นเพียงจูบธรรมดา จูบที่ไม่มีสิ่งสกปรกใดๆ เจือปน

 

 

           “คุณชอบการเตรียมการในคืนนี้ไหม” ก้มหน้า มองเธอพร้อมถามด้วยสีหน้าจริงจัง แววตามีประกายแห่งการรอคอย

 

 

           “พอได้” ฉู่เจียเสวียนเบือนหน้าหนี ตอบอย่างเฉยเมย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าฉู่เจียเสวียนเชื่อว่าชั่วชีวิตนี้เธอก็จะไม่มีวันลืมเรื่องราวทั้งหมดของค่ำคืนนี้ได้ รวมถึงความอ่อนโยนของเขา

 

 

           “ผมว่าคุณจะต้องอร่อยกว่าอาหารค่ำในคืนนี้แน่” เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงแหย่เย้า

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นลงฉับพลัน หันหน้าหนีต้องการจะจากไป

 

 

           “อย่าโมโหสิ ผมก็แค่ล้อเล่น คุณนอนที่นี่แหละ ผมจะนอนห้องข้างๆ” เผยหนานเจวี๋ยกลัวจริงๆ ว่า

 

 

ฉู่เจียเสวียนจะจากไป เขาไม่กล้าทำอันตรายต่อเธอและยิ่งไม่ต้องการใช้กำลังบังคับเธอด้วย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเบือนหน้าหนี เงยหน้าสบตากับเผยหนานเจวี๋ย สายตาของเขาราวกับว่าต้องการจะมองเธอให้ทะลุปรุโปร่ง

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยก้มหน้า จูบลงบนคิ้วของฉู่เจียเสวียน

 

 

           “คุณสวยมาก เจียเสวียน ตอนที่คุณมองผม คุณก็เป็นของผมแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดอย่างลึกซึ้ง

 

 

           “ขอโทษทีฉันจะนอนแล้ว” ฉู่เจียเสวียนพูดตัดบทเขาเสียงดัง เธอแทบจะทนเผยหนานเจวี๋ยผู้อ่อนโยนแบบนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอไม่สามารถประเมินพลังแห่งคำรักของเผยหนานเจวี๋ยได้เลย