ตอนที่ 494 ชุดที่เลือกให้เธอ / ตอนที่ 495 ใครก็ห้ามขวางทางฉัน

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 494 ชุดที่เลือกให้เธอ

 

 

           หลังจากไล่เผยหนานเจวี๋ยออกไปแล้ว ฉู่เจียเสวียนพิงอยู่ที่หลังประตู วางมือไว้บริเวณหัวใจ หายใจหอบแผ่วเบา อีกนิดเดียวเธอก็เกือบจะควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว

 

 

           อุตส่าห์เอาหัวใจคืนมาได้ เธอจะไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองตกสู่มือของศัตรูอีกเด็ดขาด

 

 

           ถอนหายใจแผ่วเบา เดินไปนอนที่เตียง

 

 

           วันรุ่งขึ้น ฉู่เจียเสวียนตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว เธอนอนไม่หลับ เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าแขนของตัวเองถูกเผยหนานเจวี๋ยคว้าไว้แน่น เธอพลิกตัวหนีอย่างยากลำบาก

 

 

           จู่ๆ สมองก็ตื่นขึ้นราวกับถูกสายฟ้าฟาด เมื่อกี้เธอเห็นอะไรกันนะ เผยหนานเจวี๋ย?

 

 

           “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงของเผยหนานเจวี๋ยลอยเข้าหูเธออย่างละมุนละไม

 

 

           “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้!” ฉู่เจียเสวียนแทบตะโกนถามเสียงแหลม มองดูเผยหนานเจวี๋ยตรงหน้าที่ไม่มีทางอยู่ที่นี่ได้ ก็โมโหจนอยากอาเจียนออกมาเป็นเลือด

 

 

           เขาเข้ามาในนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมเธอถึงไม่รู้

 

 

           “ผมจำเตียงได้ ก็เลยละเมอกลับมากลางดึก” เผยหนานเจวี๋ยยกมือนวดๆ หู ตอบด้วยความจริงจัง

 

 

           “คุณออกไปให้พ้นนะ!” ฉู่เจียเสวียนพูดกับเผยหนานเจวี๋ยโดยไม่รักษาภาพลักษณ์เลยแม้แต่น้อย พยายามใช้ขาเตะเขาลงจากเตียง

 

 

           “ผมตื่นก่อนก็แล้วกัน” เขารีบลุกลงจากเตียงก่อนที่ขาของฉู่เจียเสวียนจะสัมผัสเขา เขาไม่ต้องการจะทะเลาะกับเธอตั้งแต่เช้า

 

 

           มองดูเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่ยิ่งไกลออกไป เธอโกรธจนกัดฟันกรอด เมื่อคิดว่าเผยหนานเจวี๋ยแอบฉวยโอกาสกับเธอขณะที่เธอกำลังหลับ เธอก็โมโหจนแทบทนไม่ไหว

 

 

           บ้าจริง ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเธอนอนหลับไม่สนิทเลย ทำไมเผยหนานเจวี๋ยเข้ามาแล้วเธอถึงไม่รู้สักนิด แม้ว่าตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยจะหายไปแล้ว แต่ว่าฉู่เจียเสวียนยังคงจ้องไปยังทิศทางที่เขาจากไปเขม็ง

 

 

           หลังจากเผยหนานเจวี๋ยจากไปไม่ทันไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนลุกจากมาจากเตียงด้วยความยากลำบาก เสียงเคาะประตูยิ่งถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าถ้าเธอไม่เปิดประตูก็จะไม่ยอมแพ้ ฉู่เจียเสวียนลังเลครู่หนึ่งก่อนเปิดประตู

 

 

           เมื่อเปิดประตู ด้านนอกมีผู้หญิงหน้าตาสวยหวานคนหนึ่งยืนอยู่ ยิ้มให้ฉู่เจียเสวียนอย่างสดใส

 

 

           “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหนูฉู่ ท่านประธานสั่งให้ฉันส่งเสื้อผ้าใหม่มาให้คุณ” เสียงที่อ่อนโยนชัดเจนดังขึ้น เธอรู้สึกได้ว่าเผยหนานเจวี๋ยปฎิเสธต่อเธอดีเป็นพิเศษ เธอจึงไม่กล้าละเลยเธอ

 

 

           “ไม่เอา” ฉู่เจียเสวียนเหลือบมองถาดในมือของผู้หญิงคนนั้นเล็กน้อย มันเป็นสีชมพูอีกแล้ว เธอไม่อยากใส่

 

 

           “คุณหนูฉู่ ท่านประธานบอกว่าคุณจะต้องใส่ค่ะ” เธอไม่มีทางเลือกนอกจากต้องย้ายออกจากบ้านเผยหนานหนานเจวี๋ย ถ้าหากเธอทำสิ่งที่เผยหนานเจวี๋ยสั่งไม่สำเร็จ รับรองว่าไม่เป็นผลดีแน่

 

 

           “ไม่ใส่” ฉู่เจียเสวียนปฏิเสธอีกครั้ง เขาอยากให้เธอใส่เธอก็จะไม่ใส่ เธอไม่อยากใส่เสื้อสีชมพูดอีก เธอเป็นผู้หญิงมีชื่อเสียงที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอไม่อยากแสร้งแต่งตัวเป็นเด็กอีก

 

 

           “คุณหนูฉู่ ให้ฉันเข้าไปได้ไหมคะ” เธอคนนั้นเปลี่ยนวิธีพูด อย่างไรก็ดีสถานะของเธอก็ไม่ได้เป็นเพียงสาวใช้ธรรมดา ฉู่เจียเสวียนไม่ได้พูดอะไรอีก ยืนหลบไปด้านข้าง เธอเหลือบมองผ้าปูเตียงที่ยุ่งเหยิง รอยยิ้มผุดขึ้นในดวงตา

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ หน้าก็แดงระเรื่อ เธอยังไม่ทันเก็บเตียงก็ปล่อยให้คนอื่นเข้ามา มันง่ายต่อการเข้าใจผิดจริงๆ

 

 

           “คุณหนูฉู่ ฉันวางเสื้อไว้บนตู้แล้วนะคะ รบกวนคุณหนูฉู่ใส่ด้วย ไม่อย่างนั้นพอท่านประธานกลับมาเห็นเข้าก็จะโทษฉันได้ ฉันไม่อยากเสียงานนี้ไป” เธอพูดกับฉู่เจียเสวียนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เธอมองออกว่าฉู่เจียเสวียนเป็นเจ้านายต้องพูดจาดีด้วยจึงจะยอมช่วย

 

 

           วิธีนี้ใช้ได้ผลกับฉู่เจียเสวียนตามคาด เธอมองเสื้อผ้าบนตู้ด้วยความลำบากใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองผู้หญิงคนนั้นที่มีสายตาอ้อนวอน ถอนหายใจเบาๆ อยู่ในใจ เธอใจอ่อนอีกแล้ว

 

 

           “ฉันจะเปลี่ยน” ฉู่เจียเสวียนไม่มีทางเลือกจริงๆ เธอไม่อยากทำให้คนอื่นลำบากเพราะเธออีก เผยหนานเจวี๋ยคนเลวนั่นเป็นคนอย่างไร เธอไม่มีทางรู้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว มองตัวเองในชุดสีชมพูดในกระจก ความรู้สึกไร้อำนาจอันหนังอึ้งแพร่กระจายอยู่ในหัวใจ

 

 

 

 

       ตอนที่ 495 ใครก็ห้ามขวางทางฉัน

 

 

           หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็เดินออกมาจากห้อง ซูหรานรออยู่ที่ชั้นล่างแล้ว เขาเอ่ยปากอย่างสุภาพอ่อนโยน “คุณหนูฉู่ เชิญทางนี้ครับ”

 

 

           “คุณหนูฉู่คงจะหิวแล้วสินะครับ? ผมเตรียมอาหารเช้าให้กับคุณหนูฉู่ไว้มากมายแล้วครับ รอแค่คุณหนูฉู่มารับประทาน”

 

 

           “ฉันไม่อยากกิน” ฉู่เจียเสวียนกล่าว ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้หน้าแต่ว่าเธอไม่อยากกินจริงๆ

 

 

           “ท่านประธานสั่งไว้ ว่าจะต้องดูคุณทานอาหารเช้าจนหมด” ซูหรานพูด เขาไร้คำพูดต่อความเอาแต่ใจของเผยหนานเจวี๋ยเล็กน้อย แต่อาหารเช้าเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ และโภชนาการก็เป็นสิ่งสำคัญมาก

 

 

           “ฉันจะออกไปข้างนอก” ฉู่เจียเสวียนเดินผ่านซูหรานที่อยู่ตรงหน้า ก้าวเท้าต้องการจะจากไป

 

 

           “ไม่ทราบว่าคุณจะไปไหนครับ” ซูหรานยังคงพูด บนใบหน้ามีรอยยิ้มอบอุ่น

 

 

           “กลับเข้าไปในเมือง” ฉู่เจียเสวียนรับปากเผยหนานเจวี๋ยไว้ว่าจะอยู่กับเขาสามวัน แต่ว่าเธอยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่บริษัท เธอไม่สามารถมัวแต่อยู่ที่นี่ได้

 

 

           “ท่านประธานสั่งไว้ ก่อนที่เขาจะกลับมาคุณก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น คุณหนูฉู่ทานข้าวเช้าก่อนเถอะครับ” ซูหรานเอ่ย ต้องหยิบยกเผยหนานเจวี๋ยขึ้นมา ดูเหมือนว่าเผยหนานเจวี๋ยเข้าใจฉู่เจียเสวียนมากจริงๆ ไม่เช่นนั้นทำไมถึงรู้จักนิสัยเธอดีแบบนี้?

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว มันทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวในอดีต ในตอนนั้นเผยหนานเจวี๋ยขังเธอไว้ในบ้านเพื่อบีบบังคับให้เธอหย่ากับเขา ความรู้สึกแบบนั้นมันเหลือรับมาก

 

 

           “ถอยไป” ฉู่เจียเสวียนพูดด้วยความโมโหเล็กน้อย ด่าทอเผยหนานเจวี๋ยอยู่ในใจ

 

 

           “คุณหนูฉู่ ได้โปรดอย่าทำให้ผมลำบากใจได้ไหมครับ และหวังว่าคุณจะไม่ขัดความปรารถนาของท่านประธานด้วย” ซูหรานไม่ต้องการทำให้ฉู่เจียเสวียนอึดอัด แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของเจ้านายได้

 

 

           “ความปรารถนา?” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด ความโมโหในแววตายิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

 

           ให้ตายเถอะ เผยหนานเจวี๋ย เขาต้องจงใจแน่ๆ ทำไมเขาถึงออกไปได้ แต่เธอต้องรอเขากลับมาอยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายอย่างนั้นหรือ

 

 

           “เขาคิดว่าเขาเป็นเทวดาหรือไง”

 

 

           “คุณหนูฉู่ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือหน่อยนะครับ” ซูหรานหมดความอดทนเล็กน้อย เขาไม่สามารถทำผิดต่อเจ้านายทั้งสองคนได้ อายุปูนนี้แล้ว ทำไมการเป็นคนถึงยากเพียงนี้

 

 

           คนหนึ่งเป็นเจ้านาย อีกคนหนึ่งเป็นคนที่เขาต้องการทะนุถนอม ในใจอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น

 

 

           “คุณกรุณาถอยออกไปด้วย” สีหน้าของฉู่เจียเสวียนเย็นชา

 

 

           “คุณหนูฉู่ ยังไงคุณก็ทานอาหารเช้าก่อนเถอะครับ ไม่เช่นนั้นอีกสักครู่ โรคกระเพาะของคุณจะกำเริบนะครับ” ซูหรานรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย มองท่าทีหยิ่งผยองของฉู่เจียเสวียน เธอหุนหันพลันแล่นแบบนี้ โรคกระเพาะจะกำเริบได้ง่ายมาก

 

 

           “คุณไม่ต้องมายุ่ง ต่อให้เผยหนานเจวี๋ยอยู่ที่นี่ ฉันก็จะกลับเข้าไปในเมือง พวกคุณอย่าคิดที่จะขวางทางฉัน” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย น้ำเสียงเหมือนราชินีเป็นที่สุดและยิ่งเหมือนกับนักรบแห่งเจียงหู

 

 

           “งั้นเหรอ” ทันใดนั้นเสียงที่มีเสน่ห์ก็ดังมาจากหน้าประตู เผยหนานเจวี๋ยกำลังยืนอยู่ข้างประตู พร้อมมองดูฉู่เจียเสวียน

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ย” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากด้วยความประหลาดใจ เขาออกไปแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมถึงกลับมาได้

 

 

           “ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่แล้ว ผมก็อยากดูว่าผมจะขวางคุณได้หรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนพร้อมยิ้มเย็นชา สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น

 

 

เวลาที่ผู้หญิงคนนี้ดื้อรั้นขึ้นมาแล้วช่างน่าเหนื่อยเสียจริง เขาแค่ต้องการให้เธอได้กินอาหารเช้าอย่างเต็มที่ ทำไมมันถึงยากอย่างนี้นะ

 

 

           “ฉันจะกลับไป ฉันมีธุระที่ต้องจัดการ” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้า มองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมพูดอย่างไร้ความหวาดกลัว เธอจะไม่ปล่อยให้ใครขวางทางเธออย่างเด็ดขาด

 

 

           “เรื่องของบริษัทกง อยากให้ผมช่วยจัดการไหม” เผยหนานเจวี๋ยพูดพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ต้องการจะโทรออก

 

 

           “ไม่ต้อง!” เมื่อได้ยินการข่มขู่ในน้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ย เธอรีบก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือมา

 

 

           ผู้ชายคนนี้โหดร้ายจริงๆ ข่มขู่เธออีกแล้ว เธอแอบกัดฟัน มองเขาด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด