ตอนที่ 377
พบเสียที
“ตรงนั้นเจ้าค่ะ ต้นไม้ใหญ่ๆตรงนั้น”อสูรแฮมเตอร์ที่ตอนนี้ไป๋หลินตั้งชื่อให้ว่าอาจูพูดพลางชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่าลึกที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอสูร
“เขตอสูรของอสูรนกฮูกงั้นเหรอ”ไป๋ไป่พูดพลางมอองไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่าต้นไม้อื่นๆอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่เตะตาที่สุดคงหนีไม่พ้นเงาร่างของอสูรนกฮูกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้
พรึบ!! ดวงตากลมโตของอสูรนกฮูกเปิดออกช้าๆพลางจ้องมองมาทางร่างของพวกไป๋ไป่ที่กำลังบินเข้ามาในเขตของมัน แต่เพราะเป็นเวลากลางวันมันเลยยังไม่ได้ออกไปโจมตีทันทีแต่อย่างไร
“ยัยหนูนั่น”อสูรนกฮูกรำพึงพลางกางปีกออกเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอสูรของอาจู แต่เมื่อสัมผัสพลังอสูรอีก 4 จุดได้ปีกของอสูรนกฮูกก็หุบลงช้าๆ ตัวมันเองมีพลังระดับมายาขั้นที่ 10 เช่นเดียวกับอาจู เมื่อสัมผัสพลังของราชสีห์เพลิงและไป๋ไป่ได้ความคิดที่จะต่อสู้ก็หายไปทันที
“พี่นกฮูก ไม่ได้เจอกันตั้งหลายร้อยปีแนะ”อาจูว่าพลางกระโดดลงจากหลังของไป๋ไป่ลงไปยืนที่โคนต้นไม้
“…….”อสูรนกฮูกมองอาจูด้วยท่าทีระแวง อยู่ๆนางก็มาพร้อมอสูรแปลกหน้า มีเรื่องอะไรกันแน่
“พี่นกฮูก ท่านอย่าทำเหมือนเราเป็นคนอื่นคนไกลสิ ท่านยังเคยพยายามจะจับข้ากินอยู่เลยนะ”อาจูว่าพลางยิ้มกว้างราวกับเรื่องตนเองโดนจับกินเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียอย่างนั้น
“พี่อาจู พี่แน่ใจนะว่าอสูรนกฮูกเป็นเพื่อนพี่”ไป๋หลินถามพลางมองมาทางอาจูด้วยท่าทีสงสัย
“ใช่สิ ข้ากับพี่นกฮูกเล่นไล่จับกันบ่อยจะตาย แต่ไม่รู้ทำไมพี่นกฮูกถึงชอบเอาจริงนัก”อาจูว่าพลางกระพริบตาปริบๆ ทำเอาไป๋หลินได้แต่หัวเราะเจื่อนๆ ไม่ใช่ว่านั้นกะจะกินกันจริงๆหรอกนะ
“พี่นกฮูก ลงมาคุยกันก่อยเถอะ”อาจูว่าพลางโบกมือให้อสูรนกฮูกด้วยท่าทีร่าเริงแปลกๆเหมือนไม่ได้เจอเพื่อนมานาน
ตุบ…ร่างของอสูรนกฮูกร่อนลงมาช้าๆก่อนจะลงมายืนตรงหน้ากลุ่มของไป๋หลินในทันที แม้ทั้งกลุ่มตอนนี้จะอยู่ในร่างมนุษย์ แต่ก็มีอสูรระดับบรรพกาลระดับ 2 ถึง 2 ตน ประกอบกับอาจูและอสูรระดับต่ำอีก 2 ตน ทำให้อสูรนกฮูกไม่ไว้วางใจเท่าไหร่
“พวกท่านมาที่นี่ต้องการอะไร”อสูรนกฮูกถามพลางมองเหล่าแขกผู้มาเยือนนิ่ง แต่เพราะอีกฝ่ายอยู่ในร่างมนุษย์ทำให้มันต้องก้มมอง
“พวกเรากำลังตามหาเขตอสูรแห่งหนึ่ง เจ้าพอจะรู้จักหรือไม่”ราชสีห์เพลิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พลางจ้องมองอสูรนกฮูกพร้อมปล่อยพลังอสูรออกมาพร้อมๆกัน ทำให้อสูรนกฮูกเกิดอาการร้อนๆหนาวๆมันเลยจัดการเปลี่ยนร่างตนเองเป็นมนุษย์เช่นกันเพราะรู้สึกตัวเองค้ำหัวอีกฝ่ายอยู่อย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าท่านต้องการแค่มาถามข่าวละก็ ข้ายินดีช่วย”อสูรนกฮูกในร่างชายชราตอบพลางกระแอมออกมาเบาๆ อย่างน้อยพวกมันก็ไม่ได้มายึดเขตอสูรของมันทำให้สามารถโล่งใจไปได้หน่อย
“ดี ข้ากำลังตามหาเขตอสูรที่เต็มไปด้วยดอกไม้ และมีราชาเป็นนางพญาผีเสื้อ”ได้ยินเช่นนั้นอสูรนกฮูกก็ชะงักไป มิน่าเล่าอาจูถึงพาพวกมันมาที่นี่ หากจำไม่ผิดมีครั้งหนึ่งมันเคยเล่าถึงนายหญิงเก่าของมันให้อาจูฟัง
“ท่านมาถูกที่แล้ว สมัยก่อนข้าเคยเป็นอสูรในเขตอสูรนั้นพอดี”อสูรนกฮูกตอบพลางมองราชสีห์เพลิงนิ่ง พลังของมันแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับไป๋ไป่ แต่หากเทียบกับนายหญิงของมัน อาจจะยังอ่อนเกินไป
“แต่ข้าไม่แนะนำให้พวกท่านไปที่นั่น ไม่อย่างนั้นนายหญิงต้องเล่นงานพวกท่านแน่ๆ”อสูรนกฮูกเตือนออกมาจากใจจริง
“ไม่เป็นไร เราไม่ได้ไปต่อสู้”ไป๋ไป่ส่ายหน้าช้าๆ ปกติพวกนางก็แทบไม่จำเป็นต้องสู้กับอสูรด้วยกันอยู่แล้ว
“เอ่อ..ข้าไม่คิดว่านายหญิงจะปล่อยให้ท่านได้คุยเฉยๆหรอก”อสูรนกฮูกตอบด้วยท่าทีมั่นใจ ปกตินายหญิงไม่ชอบเวลามีอสูรแปลกหน้าเข้ามาในถิ่นของนางอยู่แล้ว ยิ่งเป็นอสูรที่แข็งแกร่งยิ่งแล้วใหญ่ ไหนจะ…..
“ถ้านายหญิงสัมผัสได้ถึงพลังอสูรของอสูรแมงมุมละก็ นางต้องคลั่งแน่ๆ”อสูรนกฮูกมองมาทางไป๋หลิน ทำเอาไป๋หลินได้แต่กระพริบตาปริบๆ พอมุ่งมาทางเหนือก็มีแต่คนพูดถึงย่าแมงมุมตลอด แม้แต่เหล่าอสูรยังพูดกันเป็นเสียงเดียวเลย
“ไม่เป็นไรหรอกพี่นกฮูก ไป๋หลินน่ารักจะตายนายหญิงของพี่ไม่ทำอะไรพวกเราหรอก”อาจูว่าพลางยิ้มกว้าง ทำเอาอสูรนกฮูกได้แต่ถอนหายใจ
“ได้ ข้าจะบอกทางให้ แต่หากพวกท่านตายก็ไม่ใช่ความผิดของข้าเข้าใจหรือไม่”อสูรนกฮูกว่าพลางเปลี่ยนร่างเป็นนกฮูก ก่อนจะบินขึ้นไปบนต้นไม้ของตนเองเพื่อเก็บเอาใบไม้ใบหนึ่งลงมา เพราะต้นไม้มีขนาดใหญ่ทำให้ใบไม้ใหญ่ไปด้วย อสูรนกฮูกจึงใช้ใบไม้แทนกระดาษเพื่อวาดแผนที่ให้กับไป๋ไป่
“ข้าขอเตือนอีกครั้ง อย่าไป”อสูรนกฮูกย้ำคำเตือนของตนก่อนจะส่งใบไม้ที่ใช้แทนกระดาษให้กับไป๋ไป่
“ไม่เป็นไรหรอก”ไป๋ไป่ว่าพลางเปลี่ยนร่างเป็นมังกรอีกครั้งก่อนจะพาพวกไป๋ไป่บินออกไปด้วยความรวดเร็วปล่อยให้อสูรนกฮูกอยู่ใต้ต้นไม้เพียงตนเดียว
“ข้าเตือนแล้วนะ”อสูรนกฮูกถอนหายใจก่อนจะบินขึ้นมานั่งบนกิ่งไม้เหมือนเดิม หากนายหญิงเก่าของมันเป็นอสูรที่ใจเย็นพอจะคุยมันคงไม่หนีออกมาสร้างเขตอสูรเองหรอก
.
.
ตามแผนที่ของอสูรนกฮูก การเดินทางไปยังเขตอสูรของนางพญาผีเสื้อใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วันแม้จะด้วยความเร็วของไป๋ไป่ก็ตาม
“กลิ่นนี่มัน”ชิงชิวพูดพลางลุกขึ้นยืนบนหลังของไป๋ไป่ด้วยท่าทีสนใจ มันเพ่งมองไปข้างหน้าตามเส้นทางที่อสูรนกฮูกบอก แต่กลับไม่พบสถานที่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้แต่อย่างไร เพียงแต่กลิ่นหอมกลับโชยออกมาก่อนเสียอีก
“เจ้าได้กลิ่นแล้วงั้นหรือ”ราชสีห์เพลิงถามพลางมองไปทางชิงชิว เจ้าหนูนี่จมูกดีกว่าอสูรเสียอีก ไม่ทราบมันได้ความสามารถนี้มาได้ยังไงกันแน่
“ขอรับ เป็นกลิ่นที่หอมมาก”ชิงชิวตอบออกไปตามตรง ซึ่งไม่นานทั้งไป๋ไป่ อาจู ราชสีห์เพลิงก็เริ่มได้กลิ่นหอมเช่นกัน
“น่าจะใกล้ถึงแล้ว”ไป๋ไป่ว่าพลางร่อนลงไปในหุบเขาที่เห็นอยู่ตรงหน้า แม้จะไม่ใช่สวยดอกไม้อย่างที่คิดเอาไว้ แต่ซอกเขาเหล่านี้ก็เต็มไปด้วยดอกไม่แปลกประหลาดที่บานบนก้อนหิน ทำให้กำแพงธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวไป๋ไป่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธ์บานอยู่เต็มไปหมด แต่ถึงจะมีดอกไม้มากมาย แต่กลิ่นกลับไม่เปลี่ยนไปเลย มันยังคงเป็นกลิ่นหอมเพียงกลิ่นเดียวที่สัมผัสได้ตั้งแต่ยังไม่ถึงเขตอสูรเสียด้วยซ้ำ
“เป็นกลิ่นที่หอมจริงๆ อย่างกับจะซึมซาบเข้าไปในวิญญาณเลย”ราชสีห์เพลิงว่าพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ท่าทางเรื่องที่ทู่เยว่เล่าจะเป็นเรื่องจริงเสียด้วย
“ท่านน้า”ไป๋หลินเรียกพลางกระตุกชายเสื้อราชสีห์เพลิงเบาๆ
“มีอะไรหรือ”ราชสีห์เพลิงถามพลางมองมาทางไป๋หลิน กลิ่นหอมของหุบเขานี้น่าสนใจจริงๆ มันเป็นกลิ่นหอมที่กระจายไปทั่ว แต่กลับไม่ฉุนหรือแรงเกินไป เป็นกลิ่นหอมละมุนที่ทำให้ร่างกายรู้สึกดีเลยทีเดียว
“ท่านน้ายังสัมผัสกลิ่นอายของข้าได้อยู่หรือเปล่า”ไป๋หลินถามพลางมองน้าของตนอย่างคาดหวัง
“จริงสิ”ราชสีห์เพลิงมองไป๋หลินนิ่ง จะว่าไปกลิ่นหอมนี่ก็กลบเอากลิ่นของดอกไม้ชนิดอื่นๆจนมิดเลยนี่นา บางทีอาจจะ…..
“สัมผัสไม่ได้แล้ว”ราชสีห์เพลิงพูดด้วยท่าทีตกตะลึง ความรู้สึกอบอุ่นชวนหลงใหลที่ทั้งไป๋จูเหวินและลูกๆมักจะแผ่ออกมายามนี้กลับสัมผัสไม่ได้เลย ท่าทางดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมออกมาจะช่วยปิดบังความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรได้จริงๆ
“ท่าทางเราจะหาเจอแล้ว”ราชสีห์เพลิงว่าพลางลูบหัวของไป๋หลินอย่างเอ็นดู แม้จะไม่มีความสามารถดึงดูดเหล่าอสูร แต่ความผูกพันที่ผ่านมาของพวกมันไม่ได้หายไป แม้ไม่ต้องพึ่งพาพลังดึงดูดเหล่าอสูรไป๋หลินก็ยังเป็นหลานสาวที่น่ารักของมันเสมอ
“เอ่อ…แต่กลิ่นมันมาจากดอกไหนละขอรับ”ชิงชิวถามพลางมองไปรอบๆ ดอกไม่นานาพันธ์รอบกายยามนี้มีเป็นร้อยชนิด แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าดอกไหนที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลนี้ออกมา
“………”ไม่มีใครตอบชิงชิวเลยแม้แต่คนเดียว แม้จะเจอกลิ่นที่ต้องการแล้ว แต่ดอกไม้ดอกไหนคือตัวส่งกลิ่นออกมา เรื่องนี้ไม่มีใครแยกออกเลยแม้แต่คนเดียว
“ถ้างั้นก็เก็บมันไปหมดเลยแล้วกัน”ไป๋หลินว่าพลางบอกให้ไป๋ไป่ลงพื้นในทันที หากเด็ดกลับไปท่านน้ามังกรน่าจะสามารถปลูกขึ้นมาใหม่ได้แน่ๆ
พรึบ….อยู่ๆพวกไป๋หลินก็สัมผัสได้ถึงพลังอสูร และเสียงกระพือปีกที่ดังออกมาจากในหุบเขา ท่าทางเจ้าของเขตอสูรจะออกมาแล้ว
เปรี้ยง!!! ไม่พูดพร่ำทำเพลง ร่างของผึ้งตนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาแทงเหล็กในใส่ร่างของไป๋ไป่ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นอสูรระดับตำนานเท่านั้นทำให้โจมตีผ่านผิวหนังของไป๋ไป่มาไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ระวังด้วยไป๋น้อย”ไป๋ไป่ว่าพลางกางปีกทั้ง 6 ออกเพื่อป้องกันพวกผึ้งเอาไว้
ตูม!! หมัดของราชสีห์เพลิงต่อยร่างของผึ้งตนหนึ่งกระเด็นออกไป พร้อมๆกับอาจูที่โจมตีใส่พวกผึ้งด้วยรากไม้ที่นางเรียกออกมา
“พี่ไป๋ไป่ ให้ข้าจัดการเอง”ไป๋หลินพูดก่อนจะเดินออกไปข้างหน้า แต่ก่อนจะได้เดินออกไปไป๋ไป่กลับใช้หางของนางหยุดตัวไป๋หลินเอาไว้
“ลืมแล้วหรือไง พลังของเจ้าใช้ที่นี่ไม่ได้”ไป๋ไป่ว่าพลางผลักร่างของไป๋หลินให้ถอยออกไป ในเมื่อกลิ่นนี้กลบเอาพลังดึงดูดเหล่าอสูรของไป๋หลินได้ ก็หมายความว่าตราบใดที่กลิ่นยังอยู่ก็ไม่มีทางให้ไป๋หลินช่วยเจรจากับอสูรพวกนี้ได้
“บังอาจบุกรุกเข้ามาในเขตอสูรของนายหญิง”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างของอสูรผึ้งที่ตัวใหญ่กว่าตนอื่นๆ
“ฆ่ามันให้หมด อย่าให้พวกมันไปรบกวนนายหญิง”อสูรผึ้งคำรามพลางสั่งให้ผึ้งงานโจมตีใส่พวกราชสีห์เพลิง
“กรรร”ราชสีห์เพลิงไม่พูดพร่ำทำเพลงคำรามออกมาก่อนจะกำหมัดแน่นต่อยออกไปข้างหน้า
ตูม!!!! ฝูงผึ้งถูกหมัดของราชสีห์เพลิงกระแทกกลับไปเสียหมดท่า ทำให้นางพญาผึ้งที่อยู่ตรงกลางเบิกตากว้าง ไม่นึกว่าผู้บุกรุกจะแข็งแกร่งปานนี้
“แก”นางพญาผึ้งคำรามพลางพุ่งเข้ามาหาราชสีห์เพลิง พริบตนนั้นเพลิงรอบๆตัวของราชสีห์เพลิงก็สว่างวาบพร้อมต่อยเข้าใส่ร่างของนางพญาผึ้งทันที
ตูม!! ตูม!!! ตูม!!! หมัดของราชสีห์เพลิงรัวใส่ร่างของนางพญาผึ้งหลายครั้ง แต่ระดับของนางไม่ธรรมดาเลย นางที่อยู่ระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 นั้นทนหมัดของราชสีห์เพลิงได้หลายหมัดเลยทีเดียว
“ท่าทางเจ้าจะลำบากนะ”เสียงของหญิงสาวอีกคนดังขึ้นพร้อมร่างของอสูรนกที่มีขนาดเล็กมากตัวหนึ่ง นางบินเข้ามาหาราชสีห์เพลิงในทันทีเพื่อช่วยนางพญาผึ้ง
เปรี้ยง!!! ปีกของไป๋ไป่พุ่งเข้ามาโจมตีใส่ร่างของนางในทันที ทำให้นางได้แต่ถอยออกมาแล้วหันไปรอบมือกับไป๋ไป่ทันที
“ชิงชิว เจ้าดูองค์หญิงเอาไว้”ไป๋ไป่พูดจบก็บุกเข้าไปโจมตีอสูรนกในทันที นางอยู่ระดับบรรพกาลขั้น 1 เช่นกัน นับเป็นคู่ต่อสู้ที่ตึงมือเกินกว่าจะให้ไป๋ไป่มากังวลกับไป๋หลินได้
“ขอรับ”ชิงชิวว่าพลางวิ่งเข้ามายืนด้านหลังไป๋หลิน ก่อนจะเรียกเอาผ้าคลุมใยแมงมุมออกมาจากแหวนมิติแล้วคลุมร่างของไป๋หลินเอาไว้ เพียงพริบตาต่อมาทั้งไป๋หลินและชิงชิวก็หายไปจากสายตาของพวกอสูรในทันที ตอนนี้พลังของพวกอสูรรุนแรงมาก ระดับพลังอสูรที่เล็ดลอดออกไปของไป๋หลินไม่ทำให้พวกมันสังเกตการหายตัวของชิงชิวแน่ๆ
“ท่านน้า พี่ไป๋ไป่”ไป๋หลินมีท่าทีเป็นห่วงทั้งสองตนมากทีเดียว เพราะนางไม่เคยเห็นการต่อสู้เอาเป็นเอาตายระหว่างอสูรมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่นางโดนอสูรเข้าโจมตี
“ไม่ต้องห่วงขอรับ พวกท่านรับมือได้แน่ๆ”ชิงชิวว่าพลางพาร่างของไป๋หลินให้หลบออกมา