ตอนที่ 1669 เคยเห็นมาก่อน (1)
“เสี่ยวเสีย? เจ้าแน่ใจนะว่าดูไม่ผิด?” เฟยเหยียนถามอย่างประหลาดใจ
เฉียวอู๋ถูจมูกแล้วพูดว่า “น่าจะไม่ผิดนะ ถึงหน้าตาจะเปลี่ยนไป แต่ดวงตาคู่นั้น ถึงตาย ข้าก็ไม่มีวันจําผิด ยิ่งไปกว่านั้น….ข้าก็ไม่คิดว่ากิริยาท่าทางของเย่ฉาและเย่กูจะมีใครเลียนแบบ ได้ง่ายๆ”
ถ้าเห็นคนที่ดูเหมือนจวินอู๋เสียแค่คนเดียว เฉียวฉู่อาจไม่มั่นใจขนาดนี้ แต่เขาเห็นอยู่ชัดๆว่าอีกสามคนที่อยู่กับคนที่สงสัยว่าจะเป็นจวินอู๋เสียนั้น สองคนในนั้นมีท่าทางเหมือนกับเย่ฉาและเย่กูมาก เขาจึงรู้ว่าตนจําไม่ผิด
เฟยเหยียนหรี่ตา มุมปากยกยิ้มอย่างชั่วร้าย ถ้าจวินอู๋เสียมาที่นี่ด้วยตัวเอง งานเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้จะต้องสนุกสุดยอดอย่างแน่นอน!
ทั้งสองคุยกันอยู่สักพัก แล้วก็แยกย้ายกันไป ทําเหมือนไม่ได้รู้จักกับอีกฝ่ายเลย
ภายในวิหารจิงหงยังคงครึกครื้น กลุ่มคนจากสิบสองวิหารที่มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดนั้นดูเหมือนจะมาถึงกันทั้งหมดแล้ว กลุ่มอํานาจเล็กอื่นๆก็มาด้วยเช่นกัน พวกเขาต่างไม่กล้าพูดคําใดต่อหน้าสิบสองวิหารที่แข็งแกร่ง
กู่ซินเยียนเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ภายใต้การต้อนรับอย่างอบอุ่นของศิษย์วิหารจิงหง ใบหน้างามน่ารักของนางประดับด้วยรอยยิ้มบาง ท่าทางของนางสุภาพและห่างเหิน ความเอะอะอึกทึกรอบด้านทําให้นางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ทําได้เพียงอดกลั้นเอาไว้ขณะยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา พร้อมกับยิ้มและพูดคุยกับพวกเขาเล็กน้อย
ท่ามกลางฝูงชนจํานวนมาก สายตาของกู่ซินเยียนมองฝูงชน แต่เมื่อนางได้สบตากับดวงตาใสกระจ่างเย็นชาคู่หนึ่งเข้า นางก็อดตะลึงไปชั่วขณะไม่ได้
ดวงตาคู่นั้นหันไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็เพียงพอจะทําให้หัวใจของกู่ซินเยียนเย็นยะเยือกแล้ว ความเย็นนั้นได้ไปจุดไฟที่ถูกระงับไว้ภายใน ทําให้การหายใจของนางเร็วขึ้น
[จวินอู๋?]
กู่ซินเยียนไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง ดูเหมือนนางจะได้เจอคนคุ้นเคยอยู่ท่ามกลางฝูงชน สายตาของนางมองตามคนผู้นั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่ได้ฟังสิ่งที่ศิษย์วิหารจิงหงพูดเลยสักคํา
“เจ้ามองหาอะไรอยู่?” ทันใดนั้น เสียงที่แฝงความรื่นเริงก็ดังขึ้นข้างหูของกู่ชินเยียน
กู่ซินเยียนสะดุ้งเล็กน้อย นางรีบเก็บความรู้สึกในแววตา แล้วหันหน้ากลับไปอย่างสงบขณะมองไปที่กู่อิ่งที่อยู่ข้างๆ
ในการเดินทางมาที่วิหารจิงหงครั้งนี้ กู่อี้ได้ส่งกู่อิ่งมาด้วย แต่สองพี่น้องไม่ได้สนทนากันมากนักตลอดการเดินทาง
“ไม่มีอะไร” กู่ซินเยียนปกปิดสิ่งที่นางคิดอยู่โดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ทําไม ความอันตรายที่นางรู้สึกได้จากกู่ยิ่งมักจะทําให้นางอยากลบร่องรอยของจวินอู๋ไปจากสายตาของเขา ไม่ต้องการให้กู่อิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนเช่นนี้อยู่
กู่อิ่งมองสีหน้าของกู่ซินเยียนที่แสร้งทําเป็นนิ่ง แล้วมุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างรื่นเริง แต่เขาก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เขาจะไม่เห็นแววตาของกู่ซินเยียนเมื่อครู่ได้อย่างไร?
กู่อิ่งหรี่ตาเล็กน้อย แล้วกวาดตามองฝูงชนที่เบียดเสียดกันอยู่ พยายามหาบางอย่างจากในนั้น
แต่ภายในห้องโถงใหญ่ของวิหารจิงหง มีผู้คนมาร่วมงานเลี้ยงมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นก็ถูกคลื่นมวลชนพัดพาไปแล้ว ทําให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเจอเบาะแสอะไร
กู่ซินเยียนสังเกตเห็นสายตาของกู่อิ่งที่กวาดผ่านฝูงชน นางก็เกิดความวิตกกังวลขึ้นมาทันที จึงรีบพูดว่า “ข้าเหนื่อย อยากไปพักผ่อนแล้ว เรื่องทางนี้ฝากท่านพี่ดูแลด้วยนะ”
“ได้” กู่อิ่งยักคิ้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
แต่รอยยิ้มของกู่ซินเยียนกลับดูฝืนเล็กน้อย นางออกจากห้องโถงใหญ่โดยมีศิษย์ของวิหารจิงหงพาไปยังที่พัก
งานเลี้ยงวันเกิดของประมุขวิหารจิงหงกินเวลาสิบวัน ภายในสิบวันนั้น ผู้คนที่มาร่วมงานเลี้ยงจะพักอยู่ในวิหารจิงหง