ตอนที่ 482: เถ้าแก่เย่

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 482: เถ้าแก่เย่

 

หลังจากเถ้าแก่มองดูพวกเขาที่อยู่หน้าร้านคราหนึ่งก็ได้เปิดประตูออกช้าๆ แต่ก็ไม่ได้เปิดจนหมด เปิดแค่พอให้คนเดินเข้าไปได้คนหนึ่งเท่านั้น

 

นี่มันการเปิดร้านที่ไหนกัน ก็แค่เปิดประตูให้พวกเขาเข้าไปเท่านั้น

 

โม่ฉู่พูดขอโทษออกมา “ขอโทษด้วย เถ้าแก่เย่ก็เป็นแบบนี้แหละ ในเมืองกว่างหยุนแห่งนี้ สมุนไพรวิญญาณส่วนใหญ่ล้วนแต่อยู่ที่นี่ ที่ร้านอื่นมี ที่นี่ก็มี ที่ร้านอื่นไม่มี ที่นี่ก็ยังมี!”

 

“ฮึ่ม เข้ามา….” เถ้าแก่ได้ยินที่โม่ฉู่พูดก็ไม่สบอารมณ์ พร้อมกับแค่นเสียงเย็นชาออกมา

 

ภายใต้การนำของโม่ฉู่ อี้เทียนหยุนก็เดินนำเข้าไป เริ่นเหลียงเฉินกับพวกสายตาเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าทำไมอี้เทียนหยุนถึงต้องการซื้อหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณด้วย โดยเฉพาะหลังจากได้ฟัง ก็ตามมาโดยที่ไม่สงสัยอะไรแม้แต่น้อย

 

หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณพวกเขาเคยได้ยินมา เห็นว่าเป็นสมุนไพรที่มีส่วนช่วยเพิ่มพลังวิญญาณ แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าทำไมอี้เทียนหยุนถึงให้ความสำคัญกับมันนัก?

 

หลังจากเข้ามา ที่ปรากฏต่อสายตาของพวกเขาไม่ใช่ห้องมืดๆ โทรมๆ แต่รอบๆ กลับเต็มไปด้วยหยกราคาแพง ที่เป็นเหมือนกับตัวให้แสงสว่าง ทำให้ห้องแห่งนี้ดูสว่างไสว ไม่ได้ต่างไปจากข้างนอก

 

ยิ่งกว่านั้น ผนังรอบๆ ยังเต็มไปด้วยเม็ดยาหลากชนิด ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ หลังจากที่พวกเริ่นเหลียงเฉินมองดู ก็พลันตกใจกับสิ่งที่วางอยู่

 

“นี่ นี่มันโอสถชั้น 5, โอสถแปลงเทวะ!”

 

“นั่น นั่นก็โอสถชั้น 5 เช่นกัน….. สมุนไพรวิญญาณชั้น 5, ดอกพิรุณหกสี…. สมุนไพรวิญญาณชั้น 6 สวรรค์ ที่นี่ช่างร่ำรวยจริงๆ แม้แต่ของที่ไม่เคยเห็นก็ยังมี…..”

 

พวกเขาพากันมองอย่างตกตะลึง สมุนไพรวิญญาณและโอสถพวกนี้ มีอยู่หลายอย่างที่หาในโลกภายนอกไม่มี แต่ทุกสิ่งกลับหาพบได้จากที่นี่ ที่มีระดับสูงที่สุดคือชั้นที่ 6 บางทีอาจจะมีระดับที่สูงกว่านี้ แต่อย่างน้อยเท่าที่เห็นก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว

 

ในนี้มีบ้านอยู่ แต่หลังจากที่เถ้าแก่เข้ามา เขาก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้หิน จากนั้นก็รินชาให้ตัวเอง พร้อมกับลิ้มรสมันอย่างช้าๆ โดยไม่คิดที่จะรินชาต้อนรับแขกเลยสักนิด

 

อี้เทียนหยุนมองไปยังเถ้าแก่เย่อย่างระวัง จากนั้น ข้อมูลของเขาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

 

เถ้าแก่เย่ : ระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 2, ไม่ได้สวมใส่เครื่องป้องกัน, ฝึกวิชายุทธ์ ฝ่ามือวิญญาณมืด, ลมปราณวิญญาณมืด, ท่าเท้าวิญญาณมืด, จุดอ่อนไม่มี พลังรบ 180 ล้าน(สภาพปกติ) เมื่อสังหารมีโอกาสได้รับ ฝ่ามือวิญญาณมืด, ลมปราณวิญญาณมืด, ท่าเท้าวิญญาณมืด และไอเทมหายากอื่นๆ

 

ไม่เสียทีที่เป็นถึงระดับราชาวิญญาณ แค่ตัวเปล่าๆ ยังมีพลังรบถึง 180 ล้าน แค่โบกหลังมือเบาๆ ก็สามารถตบผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้จนตายได้ ในตรอกเล็กๆ แห่งนี้ ถึงกับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณอาศัยอยู่ ช่างลึกลับจริงๆ

 

มองดูที่นี่เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย หากไม่มีพลังแข็งแกร่งพอ ก็คงไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้

 

“นั่นคือใบวิญญาณฟ้า….. เอาใบวิญญาณฟ้ามาทำเป็นชา ช่างเสียของจริงๆ…..” เริ่นเหลียงเฉินกลืนน้ำลาย ดูเหมือนว่าเขาจะมีความรู้พอตัวทีเดียว ถึงกับรู้สึกสมุนไพรวิญญาณมากมายขนาดนี้

 

อี้เทียนหยุนก็สังเกตเห็นจุดนี้เช่นกัน ใบวิญญาณฟ้าเป็นสมุนไพรวิญญาณชั้น 4 การที่เอามาทำชาอย่างนี้ ช่างสิ้นเปลืองอย่างมาก ถึงจะช่วยให้เลือดลมเดินสะดวกก็เถอะ

 

แต่หากคิดว่าเขาที่มีระดับถึงราชาวิญญาณ ก็ไม่น่าแปลกอะไร

 

“เถ้าแก่เย่ ครั้งนี้ข้าพาแขกมาให้ท่าน เขาบอกว่าอยากจะได้หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่ามีอยู่ หากว่ามีคนอยากได้หญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณนี้ ก็ให้พามาที่นี่…..” โม่ฉู่กุมมือ ทำความเคารพเถ้าแก่เย่ผู้นี้

 

“ต้องการหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ?” เถ้าแก่เย่วางถ้วยช้าลงช้าๆ พร้อมกับมองมาที่พวกเขาแล้วถามขึ้น “ใครในพวกเจ้าที่ต้องการหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ?”

 

“ผู้น้อยเอง” อี้เทียนหยุนตอบออกไป

 

“คนที่ต้องการหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ มักจะเป็นผู้ฝึกฝนด้านจิตวิญญาณ หรือว่าเจ้าจะเป็นนักสลักอาคม?” เถ้าแก่เย่ถามขึ้นมาเบาๆ

 

“ผู้น้อยเป็นนักสลักอาคม ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนตอบ

 

เริ่นเหลียงเฉินกับพวกพากันตกใจ อี้เทียนหยุนเป็นนักสลักอาคมด้วย? ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเขาเป็นนักกลั่นโอสถหรอกเหรอ ทำไมถึงได้เป็นนักสลักอาคมด้วย หรือว่าเขาจะพูดผิด?

 

“ระดับไหน?” เถ้าแก่เย่ถาม สายตาบนใบหน้าแก่ชราเป็นประกายขึ้นหลายส่วน ราวกับต้องการมองทะลุตัวเขา

 

“ที่ถามถึงระดับ เป็นไปได้ว่าเถ้าแก่เย่อาจจะต้องการสร้างค่ายกล หรือไม่ก็ต้องการทำลายลายกลงั้นสินะ แต่ไม่ว่าจะอย่างไหน ก็ขอให้บอกมาได้เลย” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้มไม่ใส่ใจ

 

เถ้าแก่เย่หรี่ตา พร้อมกับจ้องไปที่เขา “เจ้าหนู ดูเหมือนว่าเจ้าคงจะมั่นใจในตัวเองมากสินะ?”

 

“ก็พอตัวอยู่” อี้เทียนหยุนพูดพร้อมรอยยิ้มบางๆ

 

เถ้าแก่เย่หันไปมองยังโม่ฉู่ พร้อมกับพูดว่า “เรื่องที่เจ้าพูดก่อนหน้า ข้าบอกออกไปเมื่อไหร่?”

 

“นี่….. ก็ราวๆ หกเดือนได้” โม่ฉู่ถู่ฝ่ามือแล้วพูดขึ้น

 

“ครึ่งปีแล้ว ขนาดข้ายังจำไม่ได้ แต่ว่าเจ้ายังจำได้” เถ้าแก่เย่ลุกขึ้นแล้วพูดออกมา “ข้าไม่อยากออกไป แต่ตอนนี้เจ้าก็พาคนมาแล้ว เจ้าหนูที่ช่วยข้าไปหาคนมาเปิดกล่องตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าไปทำอะไรอยู่”

 

“ท่านหมายความว่า ที่ให้หาคนที่ต้องการหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณ ก็เพื่อต้องการหานักสลักอาคมมาเปิดกล่องอย่างงั้นเหรอ?” โม่ฉู่พูดด้วยความตกใจ

 

“จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ก็ไม่” เถ้าแก่เย่ไม่ตอบ พร้อมกับโบกมือ จากนั้นก็นำพวกเขาเดินออกจากร้านไปโดยที่ไม่ปิดประตู

 

มีโอสถสำคัญขนาดนี้อยู่ แต่กลับไม่ปิดประตู ไม่กลัวว่าจะมีคนมาขโมยไปหรือไง?

 

เริ่นเหลียงเฉินกับพวกพากันประหลาดใจ ไม่มีใครรู้ว่าตาแก่คนนี้คือผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ หากมีคนเข้ามา เขาจะไม่รู้ได้ยังไง? หากว่ามีคนคิดขโมยของ ชะตาของมันผู้นั้นคงสามารถจินตนาการได้

 

ภายใต้การนำของเถ้าแก่เย่ พวกเขาก็มาถึงถนนด้านนอก ซึ่งไม่ไกลนั้น มีคนกำลังต่อแถวอยู่อย่างแน่นขนัด คนที่ต่อแถวอยู่พวกนี้ เหมือนกำลังต่อแถวเพื่อประลองอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร

 

หลังจากเข้าไปใกล้ ก็เห็นว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ ตรงหน้าเขามีกล่องเล็กๆ ใบหนึ่ง บนนั้นเต็มไปด้วยอักขระนับไม่ถ้วน ดูแล้วค่อนข้างซับซ้อน กล่องที่ถูกปิดไว้ด้วยอักขระที่ซับซ้อนเช่นนี้ ทำให้ผู้คนอดสงสัยไม่ได้ว่าในนั้นเป็นอะไร ทำไมถึงได้มีการป้องกันแน่นหนาขนาดนั้น

 

“ที่นี่มีหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณอยู่ 3 ต้น ตราบเท่าที่เจ้าช่วยข้าแก้อักขระบนกล่องนี้ได้ หญ้าทั้ง 3 ต้นนี้ รวมถึงอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 2 ชิ้นที่อยู่ใกล้ๆ ศิษย์ของข้าก็จะเป็นของเจ้า” เถ้าแก่เย่หยิบขวดโอสถออกมา 1 ขวด พร้อมกับโยนออกไป “ขอบใจเจ้ามากโม่ฉู่ ที่ยังคงจำเรื่องที่ข้าเคยพูดเมื่อ 6 เดือนก่อนนี้ได้ นี่คือรางวัลของเจ้าที่พานักสลักอาคมมาได้ รอมาตั้งนานก็ไม่มีใครต้องการหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณสักคน ดูเหมือนว่าเวลาจะผ่านมานานจนผู้คนไม่รู้ถึงประสิทธิภาพของหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณอีกแล้ว…..”

 

เถ้าแก่เย่ส่ายหัว พร้อมกับมองไปที่อี้เทียนหยุนแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าต้องการหญ้าเพิ่มพูนจิตวิญญาณไปทำอะไร?”

 

“เอาไปปรุงเม็ดยาเพิ่มพูนจิตวิญญาณ” อี้เทียนหยุนตอบออกไปตามตรง

 

เถ้าแก่เย่ส่ายหัว “ช่างเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติจริงๆ…. แต่จะยังไงก็ตาม ตราบเท่าที่เจ้าสามารถเปิดกล่องได้สำเร็จ ของสองสิ่งที่ข้าบอกก่อนหน้าจะเป็นของเจ้า!”

 

อี้เทียนหยุนเลื่อนสายตาไปที่กล่อง พร้อมกับรู้สึกผิดคาดกับสิ่งที่เห็น