ตอนที่ 483: ทุบกล่อง

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 483: ทุบกล่อง

 

อี้เทียนหยุนมองไปที่อักขระที่ปกคลุมทั่วทั้งกล่อง บนนั้นสลักไว้ด้วยอักขระมากมาย แต่ก็ไม่ได้ชั้นสูงอะไร อย่างมากก็เป็นเพียงอักขระชั้น 5 และที่เป็นชั้น 5 ก็เพื่อที่จะทำให้ผู้คนงง

 

“ติ๊ง รับภารกิจรอง “ช่วยเถ้าแก่เย่เปิดกล่อง” สำเร็จ เมื่อสำเร็จจะได้รับค่าประสบการณ์ 30 ล้าน, ค่าความคลั่ง 30 ล้าน, ค่าความชอบของเถ้าแก่เย่เพิ่มขึ้น 100”

 

ไม่คิดว่าอยู่ๆ จะมีภารกิจโผล่ขึ้นมา การที่มีภารกิจโผล่ขึ้นมาแบบนี้ ก็แสดงว่าคนตรงหน้าจะต้องมีความสำคัญมากอย่างแน่นอน แต่ไม่ว่าอี้เทียนหยุนจะดูยังไง เถ้าแก่เย่ผู้นี้ก็ไม่ธรรมดา สร้างร้านแต่ไม่เปิดต้อนรับแขก คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหละที่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร

 

“ล้มเหลวอย่างงั้นเหรอ!” นักสลักอาคมกระโดดผึงด้วยความโกรธ พร้อมกับชี้ไปที่กล่องใบนี้แล้วสบถออกมา “นี่มันอักขระชั้น 5 จริงๆ? เป็นไปได้ยังไง อย่างน้อยต้องเป็นนักสลักอาคมระดับต้าซือขึ้นไปถึงจะเปิดออก ยิ่งกว่านั้น อักขระพวกนี้ยังมีความซับซ้อนอย่างมาก!”

 

“หากเปิดไม่ได้ก็ให้ข้าเข้าไป อย่าเอาแต่บ่นเหมือนผู้หญิง!” นักสลักอาคมที่ต่อแถวอยู่ขมวดคิ้วพูดขึ้นมา นักสลักอาคมตรงหน้าฉุดกระชากลากถูอยู่นานแล้ว ทำให้เขาทนรอต่อไปไม่ไหว

 

“ก็ได้ ตาเจ้าลอง!” นักสลักอาคมผู้นั้นโบกมือ พร้อมกับมองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้นด้วยความโกรธ “เจ้าหนู กล่องนี่ปกคลุมไว้ด้วยอักขระชั้น 5 จริงๆ?”

 

“ขอรับรองว่าเป็นความจริงอย่างแน่นอน นี่เป็นแค่อักขระชั้น 5 จริงๆ ไม่ใช่ว่าท่านก็มองเห็นกับตาตัวเองอย่างงั้นเหรอ? แต่ต่อจะไม่ใช่อักขระชั้น 5 แต่แค่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 2 ชิ้นนี้ ยังไม่พอให้นักสลักอาคมระดับจงซือลงมือเหรอ? หากว่าความสามารถไม่ถึงก็อย่าเอาแต่โวยวาย รีบเปิดทางให้คนอื่นเข้ามา ทำอย่างนี้มันจะทำให้เสียเวลาของข้า” เด็กหนุ่มคนนั้นคาบหญ้าไว้ในปาก คนที่มีความรู้หน่อยหากได้เห็นก็จะรู้ว่าที่เขาคาบไว้ในปากไม่ใช่หญ้าธรรมดา แต่เป็นหญ้าวิญญาณหยก ซึ่งเป็นถึงสมุนไพรวิญญาณชั้น 4

 

ซึ่งหญ้านี้สามารถนำไปกลั่นเป็นโอสถชั้นดีได้ แต่การที่เขาเอามันมาคาบไว้ในปากอย่างนี้ ก็จะช่วยให้เขาได้รสหวานนิดหน่อยจากมัน

 

“เจ้าเด็กนี่!” เมื่อนักสลักอาคมชั้น 5 ได้ฟังก็โกรธขึ้นมา ขณะที่กำลังจะตวาดออกไปนั้น เด็กหนุ่มผู้นี้ก็มีสีหน้าเย็นชา พร้อมกับมีลำแสงเย็นเยียบปล่อยออกมาจากนัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาอย่างแรง

 

ทำให้ในใจของนักสลักอาคมชั้น 5 ผู้นี้รู้สึกเย็นเยียบ ความโกรธในใจราวกับถูกน้ำเย็นราดรด สุดท้ายก็แค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง แล้วหมุนตัวจากไป

 

อี้เทียนหยุนมองไปยังเด็กหนุ่มผู้นี้ ดูแล้วก็ยังไม่แก่ อายุประมาณ 21 ปี แต่ระดับกลับไม่ต่ำ ถึงกับมีพลังระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 7

 

ดูจากอายุแล้วฝึกจนมีพลังระดับนี้ ถือว่ามีความสามารถท้าทายสวรรค์ แต่เมื่อคิดว่าเบื้องหลังของเขามีเถ้าแก่เย่อยู่ พร้อมกับได้รับการสนับสนุนจากสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายเหล่านั้น ต่อให้คิดจะไม่แข็งแกร่ง ก็เป็นไปไม่ได้

 

“วันนี้ทำไมถึงมีคนเยอะนักล่ะ?” เถ้าแก่เย่เดินไปตรงหน้าเด็กหนุ่มผู้นั้น

 

“อาจารย์ ในที่สุดท่านก็มาสักที….. ข้าวางแผนว่าจะเก็บของกลับแล้ว แต่ไม่คิดว่าวันนี้จะมีคนมามากขนาดนี้ กระทั่งมาเป็นกลุ่มก็ยังมี ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านเพิ่มของรางวัลเข้าไป จึงทำให้พวกเขาพากันสนใจ” เด็กหนุ่มพูดอย่างช่วยไม่ได้

 

“นี่เป็นเรื่องที่เจ้าต้องทำอยู่แล้ว ยิ่งมีคนมากเท่าไหร่ยิ่งดี ที่สำคัญคือเมื่อกี้เจ้าคิดจะทำอะไร อย่าคิดจะสร้างปัญหาให้ข้า เข้าใจไหม!” เถ้าแก่เย่ดุเขาเสียงดังฟังชัด

 

“ทราบแล้วครับ อาจารย์….” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อย

 

“นี่คือศิษย์ของเถ้าแก่เย่ ปู๋เยี่ยน เหมือนจะเก็บได้จากในนี้ ถือว่าโชคดีมาก….. ยังไงก็ตาม การที่ข้าพาท่านมาคราวนี้ก็ถือว่าโชคดีเช่นกัน!” โม่ฉู่ยิ้มออกมา พร้อมกับหยิบเม็ดยาเดินจากไปอย่างไม่เกรงใจ

 

พวกเขาอาศัยของเหล่านี้เพื่อยังชีพ เมื่อมีโอกาสก็ต้องรับไว้ ไม่อย่างนั้นจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง

 

อี้เทียนหยุนเหลือบตามองเขา แล้วก็ไม่ไปสนใจอะไรอีก จากนั้นก็เดินไปเข้าแถวต่อหลังผู้ฝึกตนเหล่านั้น

 

หลังจากเถ้าแก่เย่พาเขามาที่นี่ นอกนั้นก็ไม่ทำอะไรอีก ทำเพียงนั่งดูอยู่ข้างๆ มองดูนักสลักอาคมทำการทำลายอักขระเหล่านี้ แต่ก็ยังไม่มีใครทำสำเร็จ ถึงอย่างนั้น สีหน้าของเขาก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความดีใจหรือเสียใจ กลับเป็นความเฉยชาซะมากกว่า

 

อี้เทียนหยุนเดาว่าเถ้าแก่เย่ผู้นี้คงชินกับความล้มเหลวอย่างนี้ดี ดังนั้นจึงได้ไม่ใส่ใจเท่าไหร่

 

“บัดซบ ทำไมอักขระพวกนี้ถึงได้ทำลายยากนัก…. บิดาเป็นถึงนักสลักอาคม ทำไมถึงทำลายอักขระพวกนี้ไม่ได้สักที?” นักสลักอาคมผู้นั้นมองไปยังกล่องใบนี้ด้วยความโกรธ มีหลายคนมองดูอยู่ การที่เขาไม่สามารถทำลายอักขระเหล่านี้ได้ จะไม่ให้เขารู้สึกอับอายได้ยังไง จากนั้นเขาก็มองอย่างโมโหไปทางเถ้าแก่เย่ แล้วพูดขึ้นว่า “ข้าทุบกล่องนี้ได้หรือเปล่า?”

 

“จะทำยังไงก็แล้วแต่เจ้า ขอแค่เปิดกล่องนี้ได้ก็พอ ไม่ว่าจะโจมตีหรือทำลายอักขระ ก็ตามสบาย แต่หากเจ้าคิดจะโจมตีกล่องนี้ เจ้าคงเข้าใจดีสินะ ว่าอักขระที่อยู่บนนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น” เถ้าแก่เย่พูดอย่างไม่แยแส

 

“ก็ไม่บอกให้เร็วกว่านี้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าอักขระพวกนี้จะแข็งแกร่งไปกว่าอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ของข้า!” นักสลักอาคมผู้นั้นเรียกกระบี่หนักออกมา พร้อมกับฟันลงไปที่กล่องอย่างแรง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณ กระบี่นี้จึงค่อนข้างร้ายกาจ มองเห็นตัวกระบี่เป็นลำแสงลางๆ

 

“ปัง!”

 

เมื่อกระบี่ฟันลงที่กล่อง ก็ถูกพลังสะท้อนกลับอย่างแรง จนนักสลักอาคมผู้นั้นกระเด็นไปชนร้านที่อยู่อีกฝั่ง ก่อนที่จะหยุดลง จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ปีนขึ้นมาจากร้าน ภายใต้พลังสะท้อนกลับ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรง

 

“เป็นพลังสะท้อนกลับที่รุนแรงมาก…. ข้าขอยอมแพ้!” นักสลักอาคมผู้นั้นแค่นเสียงออกมา จากนั้นก็หมุนตัวเดินจากไป หากอยู่ที่นี่ต่อ ก็มีแต่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าเท่านั้น

 

คนอื่นที่อยากจะเปิดกล่องด้วยวิธีรุนแรงเช่นนี้ก็พลันรู้สึกสะท้านในใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นวิธีที่ผิด พวกเขาเทียบไม่ได้กลับนักสลักอาคมที่ถูกซัดปลิวผู้นั้นด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะให้พวกเขาทำยังไง?

 

“ให้ข้าลองดู!” ผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้เดินเข้าไป ในมือของเขามีค้อนเหล็กยักษ์อยู่ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นต่ำ

 

กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างของเขาโปร่งพอง จนเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน ดูแล้วค่อนข้างร้ายกาจ หลังจากเข้ามา ก็รีบทำให้ทางสะดวก ดูแล้วคงคิดใช้กำลังเพื่อเปิดกล่องนี้ แต่กลัวว่าถึงกล่องจะเปิดออก แต่ของข้างในคงจะแหลกเสียก่อน

 

“ข้าไม่ใช่นักสลักอาคม ดังนั้นข้าจะขอทำลายกล่องเพื่อเปิดได้หรือเปล่า?” ชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามถามออกมาเสียงใส

 

“ข้าบอกไปแล้วว่าจะใช้วิธีอะไรก็ได้ ตราบเท่าที่เปิดกล่องนี้ได้ ก็จะได้รับอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นนี้ไป” เถ้าแก่เย่พูดอย่างจริงจัง

 

“ดี แค่คำพูดนี้ของเจ้าก็พอแล้ว ไม่มีของอะไรที่ข้าทำลายไม่ได้!”

 

ชายมัดกล้ามหัวเราะร่า พร้อมกับเงื้อค้อนยักษ์ในมือขึ้น จนเส้นเลือดปูดโปนออกมา พร้อมกันนั้นก็ใส่พลังธาตุทองลงไปยังค้อนเหล็ก ทำให้ค้อนเหล็กเปล่งแสงออกมา ดูแล้วค่อนข้างจ้า

 

“แหลกไปซะ!”

 

ชายมัดกล้ามคำรามเสียงดัง ก่อนจะฟาดค้อนลงมา “เปรี้ยง” เสียงดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมกับร่างของเขาที่กระเด็นขึ้นฟ้า กับละออกเลือดที่โปรยลงมา

 

เห็นได้ชัดว่าชายมัดกล้ามผู้นี้ล้มเหลว ทั้งยังต้องเผชิญกับหายนะอีก! ด้วยพลังสะท้อนกลับที่รุนแรง ทำให้เขาต้องรับบาดเจ็บหนัก อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ในมือเขาตกลงอีกด้าน จนทำให้ร้านค้าพังไป

 

ยังไงก็ตาม ไม่มีใครกล้าหยิบเอาอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์นี้ไป เนื่องเพราะนี่เป็นอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ ดังนั้นมันจึงอยู่รอให้เจ้าของกลับมารับไป

 

“คนต่อไป” เถ้าแก่เย่ยังคงสีหน้าเฉยชา พร้อมกับบอกให้คนต่อไปเข้ามา

 

อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มออกมา หากว่ากล่องสามารถทำลายเพื่อเปิดได้ ป่านนี้เถ้าแก่เย่คงทำลายกล่องไปแล้ว กระทั่งระดับราชาวิญญาณยังเปิดไม่ออก แล้วระดับวิญญาณเที่ยงแท้จะไปทำอะไรได้?