ตอนที่ 476: วันแห่งการเยียวยา
อื้ม ! โหยวเยว่หลับตาของนางลงช้า ๆ และตอบรับเบา ๆ อย่างไรก็ตามนางไม่อาจทำอะไรได้ เพียงแต่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและไม่มีความสุขนักจากวิธีที่เจี้ยนเฉินเรียกนาง
องค์หญิงเกอหลานเป็นชื่อที่ฝ่าบาทมอบให้นาง แต่ชื่อของนางจริงๆคือโหยวเยว่ ย้อนกลับไปยังตอนที่อยู่ในอุทยานภายในวังหลวง โหยวเยว่ได้บอกให้กับเจี้ยนเฉินว่าให้เรียกหานางด้วยชื่อจริงของนาง เมื่อเห็นเจี้ยนเฉินยังคงเรียกหานางว่า ‘องค์หญิง’ โหยวเยว่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าพวกเขายังไม่สนิทกันและยังคงห่างเหินยิ่งกว่าเดิม
เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าโหยวเยว่คิดอะไรอยู่แล้ว เขาจดจ่อกับบาดแผลที่ไหล่ของนางสักพักก่อนที่จะทำบางสิ่งและมองไปที่อื่น แผลที่ได้รับการดูแลด้วยผ้าพันแผลและสมุนไพรต่าง ๆ มากมาย
เจี้ยนเฉินเริ่มถือกรรไกรไว้ในมือของเขาและเริ่มตัดส่วนเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้บาดแผลของโหยวเยว่อย่างช้า ตามมาด้วยเสียง ฉับ ๆ กรรไกรก็ได้ตัดบริเวณนั้นเป็นวงกลมกลางเสื้อผ้าที่หรูหราของโหยวเยว่ ภายใต้ผิวที่ขาวเนียนของโหยวเยว่ที่สามารถเห็นเอี้ยมสีชมพูจาง ๆ ของนาง
เมื่อรู้ว่าหัวใจของโหยวเยว่เริ่มเต้นผิดจังหวะ เจี้ยนเฉินก็อ้าปากอธิบายว่า องค์หญิงโหยวเยว่ มีหินอยู่ในร่างกายของเจ้า เพื่อที่จะรักษาได้อย่างรวดเร็ว ข้าต้องเอามันออกมาก่อน
โหยวเยว่หลับตาของนางลงโดยไม่พูดอะไรออกมา อย่างไรก็ตามขณะที่นางนอนอยู่ที่เตียงนางก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของนางได้แข็งทื่อจากความวิตกกังวลและความรู้สึกเย็น ๆ ก็เริ่มแพร่กระจายออกมาจากไหล่ซ้ายของนาง สิ่งนี้คือสิ่งที่โหยวเยว่รู้สึกผ่านร่างกายของนาง นางสามารถมองเห็นเขาได้อย่างชัด ๆ พอความคิดเหล่านี้เกิดขึ้นมา ใบหน้าของนางก็ขึ้นสีน้อย ๆ นับตั้งแต่ที่นางเกิดมานางไม่เคยให้ผู้ชายคนใดเห็นเรือนร่างของนางเลย
เจี้ยนเฉินหยิบผ้าพันแผลออกมาก่อนที่จะทำความสะอาดบาดแผลของโหยวเยว่และทาบฝ่ามือลงบนแผลอย่างช้า ๆ ช่วงเวลาที่เจี้ยนเฉินได้สัมผัสกับเนื้อตัวของโหยวเยว่ องค์หญิงก็เริ่มแสดงออกทางใบหน้าว่านางรู้สึกเจ็บปวดจากการสัมผัส
เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจลึก ๆ ขณะที่เขาเริ่มสัมผัสเบา ๆ หัวใจของเขาไม่อาจสงบลงได้ อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่งเขาก็สามารถจัดการกับอารมณ์ได้และจ้องมองไปยังบาดแผลของโหยวเยว่ องค์หญิงโหยวเยว่ ข้าจะเริ่มทำการนำหินออกมา โปรดอดทนเล็กน้อย
อื้ม ! โหยวเยว่ตอบรับเสียงเบา ๆ ราวกับยุงบินหึ่ง ๆ ใบหน้าของนางแดงจัดและนางก็ไม่ต้องการที่จะให้เจี้ยนเฉินเห็นว่านางเป็นผู้หญิงที่ขี้อายเพียงใด
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็กดฝ่ามือลงไปที่ไหล่ของโหยวเยว่และจู่ ๆ ก็มีแรงดึงดูดจนทำให้นางต้องร้องออกมา ในเวลาต่อหินก้อนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากร่างกายของนาง
หลังจากที่หินหลุดออกมาแล้วเลือดก็พุ่งไหลออกมาราวกับน้ำพุ เจี้ยนเฉินยกมือซ้ายขึ้นและเริ่มรวบรวมธาตุแสง ความสว่างของลูกบอลเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จบพร่าวพราวละลานตา เพียงพริบตาเดียวห้องสลัว ๆ ก็สว่างเจิดจ้าขึ้นมา
โหยวเยว่ปิดตาของนางแต่นางก็รู้สึกได้ถึงแสงที่สว่างที่ได้ลอดผ่านเปลือกตาที่ปิดอยู่ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนางจึงลืมตามาและเห็นแสงสีขาวรวมอยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน
เมื่อเห็นอย่างนี้โหยวเยว่ก็กระพริบตาที่งดงามของนางอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางเห็น
แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแต่นางก็เคยเห็นพลังเซียนธาตุแสงหลายครั้งในฐานะที่เป็นองค์หญิงของอาณาจักร แสงสีขาวที่บริสุทธิ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่จะลอกเลียนแบบได้ โดยธรรมดาแล้วมีแต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเท่านั้นที่สามารถควบคุมพลังงานธาตุแสงได้
เจี้ยนเฉินค่อย ๆ วางมือลงที่บาดแผลของโหยวเยว่และเริ่มใช้พลังเซียนธาตุแสงรักษาบาดแผล
จุดนี้เจี้ยนเฉินที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ซึ่งมีการควบคุมที่แม่นยำอย่างมากผิดกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงคนอื่น ๆ ความสามารถในการรักษาของเขานั้นมากเกินกว่าที่จะรักษาบาดแผลที่เกิดจากหิน เพียงไม่นานแผลก็หายไปและไม่เหลือร่องรอยอะไรอีก
เจียงหยางเซียงเทียน เจ้า…เจ้า…เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ! สายตาของโหยวเยว่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกใจ ภายในทวีปเทียนหยวนนั้นไม่เคยมีคนพูดว่าสามารถบ่มเพาะได้ทั้งสองทาง เจี้ยนเฉินแต่ไม่เพียงเป็นผู้บ่มเพาะที่มากพรสวรรค์เท่านั้น แต่เขายังเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับสูงอีกด้วยเช่นกัน
เจี้ยนเฉินยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขาพูดว่า องค์หญิงโหยวเยว่ ข้าหวังว่าเจ้าจะเก็บมันเป็นความลับระหว่างเรา !
ตาของโหยวเยว่ยังคงเบิกกว้างขณะมองเจี้ยนเฉิน หลังจากนั้นไม่นานนางก็พยักหน้า ข้าจะเก็บไว้เป็นความลับ ข้าจะไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นนี้กับทุกคน ในตอนนี้ภาพที่น่าทึ่งของเจี้ยนเฉินตอนนี้ยิ่งสมบูรณ์แบบในสายตาของนาง
องค์หญิงโหยวเยว่ ข้าจะรักษาบาดแผลที่หลังของเจ้าต่อ
เมื่อได้ยินอย่างนี้โหยวเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ อย่างไรก็ตามในขณะที่นางเริ่มพลิกตัว อาการบาดเจ็บที่ด้านหลังของนางก็กระตุกวูบ ทำให้ใบหน้าของนางซีดลงจากความเจ็บปวด
เจ้าควรจะอยู่แบบนี้ ปล่อยที่เหลือให้ข้าเอง เจี้ยนเฉินหยุดการเคลื่อนไหวของโหยวเยว่อย่างรวดเร็วและช่วยนางพลิกร่างเพื่อตรวจสอบบาดแผลของนาง
เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ยังคงอยู่ในห้องเดียวกันอีกเกือบชั่วยามก่อนที่จะเดินออกจากห้องมาด้วยกัน เนื่องจากเจี้ยนเฉินเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เขาจึงสามารถชุบชีวิตคนให้กลับมาได้แม้ว่าอวัยวะภายในของเขาจะแหลกเหลว การบาดเจ็บของโหยวเยว่นั้นไม่รุนแรง เขาจึงสามารถรักษานางให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงนัก
หลังจากเปลี่ยนชุดใหม่แล้วโหยวเยว่ก็ยังคงออกอาการเขินอาย นางมักจะแอบดูเจี้ยนเฉินด้วยความรักเป็นครั้งคราว เมื่อราชาและเจียงหยางป้าสังเกตเห็น พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กันและกันอย่างรู้ทัน
บุคคลสำคัญของตระกูลเจียงหยางและตัวแทนคนอื่นจากสามตระกูลได้มารวมตัวกันที่นี่ แม่ของเจี้ยนเฉินและป้าคนอื่น ๆ ได้ถูกยามพาตัวไปรักษาบาดแผล ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่อาจมองเห็นแม่ของเขาได้
หลังจากออกจากห้องใต้ดิน เจี้ยนเฉินก็เริ่มกลับมาเป็นอารมณ์เดิม ใบหน้าที่อ่อนโยนที่เขาแสดงออกที่ใต้ดินก็หายไป เขาเดินไปที่เจียงหวูจี่และพูดว่าสีหน้าขึงขังว่า ลุงเจียง พวกเราสูญเสียมากแค่ไหน ?
สูญเสียหนักมาก มีคนบาดเจ็บและตายกว่า 200 คนในขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บยังไม่คงที่ มียามและคนรับใช้จำนวนมาที่ยังคงเป็นศพอยู่ใต้ซากอาคาร มันจะใช้เวลานานพอสมควรที่จะขุดพวกเขาออกมา อาคารทั้งหมดของเราเสียหายยับเยิน เจียงหวู่จี่ถอนหายใจ
แสงจากจิตสังหารปรากฏอยู่ในดวงตาเจี้ยนเฉิน เขากำมือแน่นและขบกรามเข้าด้วยกันจากความโกรธ อาณาจักรอินทรีสวรรค์ ข้าจะไม่ยอมปล่อยวางเรื่องนี้โดยง่าย
อาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นไร้เมตตาอย่างมาก ราชาก็แสดงความหม่นหมองออกมาเช่นกัน หลังจากถูกจับโดยเซียนสวรรค์ของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ เขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
นายน้อยสี่ สัตว์อสูรที่ท่านเลี้ยงไว้ พวกเราเจอตัวแล้ว ทันใดนั้นก็มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมกับเสือขาวที่ขาวราวกับหิมะ
เจ้าตัวน้อย ! หัวใจของเจี้ยนเฉินกระโดดด้วยความตกใจและรีบอุ้มลูกเสือจากมือของทหารเพื่อตรวจสอบทันที เมื่อตรวจสอบแล้วเจี้ยนเฉินก็เห็นได้เพียงแค่ฝุ่นสีเทาที่ติดอยู่ที่ขนเท่านั้น แต่ดวงตาของมันยังคงปิดเพราะหลับจากการย่อยสมบัติสวรรค์อยู่
เมื่อเห็นว่าลูกเสือยังคงสบายดี เจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่เคยคิดถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะจากไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เอาลูกเสือไปกลับเข้าด้วย หลังจากที่ให้อาหารมัน เขาก็ปล่อยให้มันหลับและมันจะตื่นหลังจากที่เขากลับมา
ตระกูลเจียงหยางจะต้องทำการฟื้นฟูให้รวดเร็ว เจียงหวู่จี่ ข้ามอบหมายเรื่องนี้ให้กับเจ้าและทำสิ่งที่จำเป็นได้ เจียงหยางป้าพูด
ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว ! เจียงหวูจี่พยักหน้า
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ดวงตาของเจ้าเมืองลอร์ก็เบิกกว้าง ท่านเจียงหยาง โปรดไว้วางใจเรื่องหาช่างให้กับข้า ข้าจะทำให้แน่ใจว่าช่างเหล่านี้ต้องฝีมือดีและสร้างคฤหาสน์ชั้นเยี่ยมให้กับตระกูลเจียงหยางโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับค่าใช้จ่ายปล่อยเรื่องนี้ให้พวกเราทั้ง 3 ตระกูล ตัวแทนแต่ละตระกูลหลักทั้งสามพูด ตระกูลเจียงหยางไม่ได้เสียอะไรหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ชื่อเสียงของพวกเขากลับดังไปกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทั้งสามตระกูลและเจ้าเมือง พวกเขาตกตะลึงเมื่อเห็นการพัฒนาความแข็งแกร่งของตระกูลเจียงหยาง ด้วยที่มีเซียนสวรรค์ทั้งหกอยู่กับพวกเขา ไม่มีตระกูลใดสามารถอวดความสามารถเช่นนี้ได้อีก