ตอนที่ 340 ฟู่เหยี่ยนตกน้ำ / ตอนที่ 341 เป็นลม

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 340 ฟู่เหยี่ยนตกน้ำ

 

 

           ‘อยู่ที่นี่ไม่มีคนเฝ้าดู ยังมีคนคุยอยู่เป็นเพื่อน ยังมีพ่อครัวมาทำอาหารให้โดยเฉพาะ โอ๊ะ…แน่นอนตั้งแต่เมื่อคืนเป็นต้นมา ไม่รู้ว่าฟู่เหยี่ยนกินยาไม่เขย่าขวดมาหรือเปล่า เริ่มจะฉ้อโกงยักยอกอาหารกันแล้ว’

 

 

           แต่ว่า ถ้าตัดอาการสมองเป็นตะคริวในบางครั้งของฟู่เหยี่ยนออก สวัสดิการที่ได้รับนี่มันคือการมาเที่ยวพักผ่อนชัดๆ

 

 

           “อะไรกัน คุณไม่อยากชมดอกไม้ตกปลากับผมที่นี่เหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินจนใจ “ฉันคิดว่านายพาฉันมาที่นี่จะมีเล่ห์กลอะไรไม่ธรรมดารอฉันอยู่ ใครจะรู้ว่าจะกินดีอยู่ดีทั้งวัน นี่นายเชิญฉันมาเที่ยวพักผ่อนเหรอ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็รีบเอ่ยถาม “คุณชายเจียง อยู่ที่เกาะเล็กๆ เกาะนี้ต่อเป็นไง”

 

 

           “ก็ไม่เป็นไง”

 

 

           “คุณพักอยู่ที่เกาะเล็กๆ เกาะนี้ ไม่สบายเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินส่ายหัว “ถ้าไม่มีนายมาพูดกรอกหูอยู่ ก็คงจะสบายมากเลยทีเดียว”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนผู้โดนรังเกียจลูบจมูกปอยๆ ด้วยความน้อยใจ

 

 

           เขาหล่อเหลาเอาการ ทั้งยังรวยทรัพย์สินเงินทอง คนที่อยากอยู่กับเขาแบบนี้มีตั้งมากมาย จะมีเพียงเจียงมู่เฉินเท่านั้นที่เขาอยากอยู่ด้วย

 

 

           แต่จะทำอย่างไรได้ เจียงมู่เฉินไม่อยากให้เขาอยู่ด้วย

 

 

           “ฟู่เหยี่ยน ถ้าคุณอยากหาคนมาเล่นเกม นายออกไปจับสุ่มๆ มาคนหนึ่งก็ได้ ต้องยอมอยู่ดูแลใจกับคุณ ชมดอกไม้ชมจันทร์บนเกาะเล็กๆ เกาะนี้แน่นอน”

 

 

           เจียงมู่เฉินเอามือกุมหน้าผากอย่างจนใจ “มีคนตั้งมากมายขนาดนั้น นายกลับเลือกมาหาฉันไปเพื่ออะไร”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนค้านหัวชนฝา “จะมีคนมากกว่านี้ ผมก็ไม่ต้องการ ผมต้องการแค่คุณ”

 

 

           เจียงมู่เฉินขมับกระตุก “พี่ใหญ่ เมื่อก่อนตกลงแล้วฉันทำผิดอะไรกับนายเหรอ ฉันชดเชยให้นายยังไม่โอเคเหรอ”

 

 

           เรื่องราวในอดีต เขาจำไม่ได้แล้ว มีหรือจะรู้ว่าตัวเองกับเขาได้มีความแค้นอะไรกันมาหรือเปล่า

 

 

           ฟู่เหยี่ยนได้ยินคำว่า ‘เมื่อก่อน’ สองคำนี้ แววตาแปรเปลี่ยนเป็นลึกล้ำโดยฉับพลัน

 

 

           เขาฉวยโอกาสตอนที่เจียงมู่เฉินไม่ทันระวังตัว เบี่ยงตัวมากดเจียงมู่เฉินไว้ ทั้งสองคนใกล้กันมาก ใกล้จนฟู่เหยี่ยนรู้สึกว่าขอเพียงแต่ตัวเองก้มหน้าลงก็จูบเจียงมู่เฉินได้

 

 

           เขามองดูใบหน้างามละเอียดได้รูปของเจียงมู่เฉิน โดยเฉพาะนัยน์ตาดอกท้อคู่นี้ ราวกับโดนหลอกให้ลุ่มหลงอย่างไรอย่างนั้น เขาอดจะก้มหน้าลงมาเข้าใกล้อย่างช้าๆ ไม่ได้

 

 

           เจียงมู่เฉินมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพียงแค่แววตาคู่นั้นยามที่ฟู่เหยี่ยนเข้ามาใกล้ กลับยิ่งเพิ่มความเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ

 

 

           เหลือเพียงแค่หนึ่งมิลลิเมตรสุดท้าย ฟู่เหยี่ยนก็จะสัมผัสโดนริมฝีปากเจียงมู่เฉินได้แล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นเขาไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ก็ยกเท้าถีบใส่ทันที

 

 

           ในใจฟู่เหยี่ยนคิดเพียงแค่อยากจูบเจียงมู่เฉิน มีหรือจะรับรู้ถึงการกระทำนี้ของเขา ถูกเจียงมู่เฉินถีบใส่ก็ป้องกันไม่ทัน ถอยหลังก้าวหนึ่ง แต่เสียการทรงตัวจนร่วงตกทะเลสาบไป

 

 

           เจียงมู่เฉินใส่เต็มแรงไม่มียั้ง ไม่เหลือพื้นที่ใดใดให้ฟู่เหยี่ยนเลย

 

 

           การที่เขาตกลงไปในทะเลสาบก็อยู่ในแผนเช่นเดียวกัน

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นฟู่เหยี่ยนตกที่นั่งลำบาก ก็เชิดริมฝีปากหัวเราะเบาๆ “อยากจูบฉันเหรอ…

 

 

           …ถ้าฉันไม่ยอม ทั้งชีวิตนายก็ไม่มีความเป็นไปได้นี้หรอก”

 

 

           ‘ก็เหมือนตอนแรกที่เขาโดนซือเหยี่ยนจับกด ถ้าใจเขาไม่สมัครใจยินยอม ไม่ว่าซือเหยี่ยนจะทำยังไง เขาก็ไม่มีทางจะปล่อยให้ซือเหยี่ยนจับกดเขาหรอก’

 

 

           ใจอ่อนครั้งหนึ่งก็พอแล้ว ก็จะได้ให้บทเรียนตัวเองมากขึ้น

 

 

           ส่วนฟู่เหยี่ยน คดในข้องอในกระดูก เขายังไม่ถึงขั้นจะคิดอะไรอย่างอื่นกับฟู่เหยี่ยนได้

 

 

           เป็นแบบนี้มา การลงมือกับฟู่เหยี่ยนก็ยิ่งจะไม่ออมมือให้แล้ว

 

 

           ฟู่เหยี่ยนยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำทะเลสาบบนใบหน้า เขามองดูรอยยิ้มอวดดีของเจียงมู่เฉิน ใจก็เต้นตึกตักทันที

 

 

           โดนเขาถีบตกทะเลสาบ ฟู่เหยี่ยนก็ไม่โกรธ ตรงกันข้ามกับอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ

 

 

           “จะเป็นไปได้หรือไม่ ลองดูถึงจะรู้ได้” ฟู่เหยี่ยนตอบกลับด้วยท่าทีวางอำนาจบาตรใหญ่

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นเขาตัวเปียกไปทั้งตัว ก็เอ่ยเตือนด้วยความหวังดี “พอเถอะ คุณชายใหญ่ฟู่ ตัวนายเปียกแบบนี้ ถ้ายังไม่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เกิดเป็นหวัดตายขึ้นมา ฉันจะไม่สนใจนายหรอกนะ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนกรอกตาไปที “คุณจะไม่สนใจผมจริงๆ เหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “นายอยากลองดูไหมล่ะ”

 

 

 

 

ตอนที่ 341 เป็นลม

 

 

           เขาพูดจบก็มองฟู่เหยี่ยนแวบหนึ่ง แล้วหันหลังกลับเดินหนีออกจากริมทะเลสาบ ฟู่เหยี่ยนเห็นเขาเดินหายออกไปแล้ว ทำได้เพียงขึ้นมาจากทะเลสาบอย่างว่าง่าย แล้วกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

 

           เจียงมู่เฉินเห็นว่าในระยะเวลาอันสั้นนี้ฟู่เหยี่ยนจะไม่ตามมาได้อีก ก็โล่งอกไปที

 

 

           ไม่กี่วันมานี้ ฟู่เหยี่ยนเอาแต่มาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองได้อยู่แล้ว

 

 

           เขาจำใจแกล้งทำเป็นเหมือนไม่สนใจอะไร กินๆ ดื่มๆ ทั้งวัน ผ่อนคลายความหวาดระแวงฟู่เหยี่ยนไป

 

 

           ฟู่เหยี่ยนคนคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีอันตรายอะไร แต่ในความเป็นจริง เขาก็แค่อ่อนโยนเพียงเปลือกนอกเท่านั้น

 

 

           ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่วางแผนทำเขาหมดสติ แล้วพาเขามายังเกาพเล็กๆ เกาะนี้ได้

 

 

           ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร

 

 

           แต่ว่าจะมาถูกกักตัวอยู่ที่เกาะเล็กๆ เกาะนี้เป็นเวลานานๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน อีกอย่างดูท่าทีของฟู่เหยี่ยนในตอนนี้ เกรงว่าคงจะไม่อยากปล่อยเขาไปภายในช่วงเวลาสั้นๆ นี้

 

 

           ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โดนคุมมีคนเฝ้าเหมือนกับที่อยู่ที่นั่นของซูเตอร์ แต่ว่าเกาะเล็กๆ เกาะนี้ของฟู่เหยี่ยนก็ตัดขาดจากโลกภายนอก

 

 

           แล้วเขาจะมีช่องทางที่ติดต่อกับคนภายนอกได้หรือไม่

 

 

           ที่จริงก็คือการกักบริเวณที่ตบตากันเท่านั้น

 

 

           เพียงแต่ว่าถ้าเทียบกับการเจอซูเตอร์แล้ว ถือว่าดีกว่าเยอะมาก

 

 

           เจียงมู่เฉินกุมหน้าผาก ไม่รู้ว่าทางถานโจวจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว เขาไม่ได้กลับไปตามเวลา มั่วไป๋จะพยายามติดต่อหาตัวเองไปแล้วไหมนะ

 

 

           ยังมีคุณพ่อเจียงและคุณแม่เจียงอีก ตั้งแต่เลิกกันกับซือเหยี่ยนมา ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้พูดคุยกัน

 

 

           ตอนนี้ก็มาจากบ้านตระกูลเจียงไปนานขนาดนี้ ยังไม่ได้กลับไปตามเวลาอีก

 

 

           ไม่รู้ว่าพ่อแม่เขาทางนั้นจะร้อนใจจนจะแย่แล้วหรือเปล่า

 

 

           ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ต้องรีบกลับไปให้ได้

 

 

           เจียงมู่เฉินหงุดหงิดสับสนคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ นานา ไม่รู้ว่าเดินมาถึงที่ไหน กว่าเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ตัวเขาก็เดินถึงริมหน้าผาที่สูงชันแล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินยืนมองดูรอบๆ สักพักหนึ่ง รู้สึกค่อนข้างคุ้นตา เหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างไรนั้น

 

 

           จู่ๆ ในหัวเขาก็ฉายสะท้อนภาพภาพหนึ่งขึ้นมา

 

 

           เจียงมู่เฉินขมวดคิ้วทันที อยากจะนึกย้อนกลับไป แต่ภาพภาพนั้นแค่เพียงวาบผ่านเข้ามา จึงมองเห็นได้ไม่ชัดอยู่แล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินคิ้วขมวด เขาจ้องมองหน้าผาสูงชันนั้น มีระดับความสูงที่สูงมาก ข้างล่างก็คือทะเลผืนใหญ่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

 

 

           ถ้ากระโดดจากตรงนี้ลงไป เกรงว่าคงจะไม่มีความเป็นไปได้ที่กลับมาอย่างมีชีวิตรอดได้

 

 

           เจียงมู่เฉินก้มหน้าลงมองแวบหนึ่ง หัวก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที มีอะไรบางอย่างวาบเข้ามา

 

 

           เขากุมหัวตัวเองไว้ เจ็บปวดจนสั่นเทา

 

 

           ลางสังหรณ์บอกเขา ภาพที่วาบผ่านเข้ามาในสมองเมื่อครู่นี้นั้นสำคัญมากอย่างยิ่ง บางทีเขาอาจจะเพิ่งนึกเรื่องในอดีตขึ้นมาได้ในชั่วพริบตา

 

 

           เจียงมู่เฉินจ้องมองหน้าผาสูงชันนั้นอย่างบ้าคลั่ง คิดนึกย้อนกลับไปไม่หยุด

 

 

           หัวยิ่งปวดยิ่งเจ็บขึ้นเรื่อยๆ ราวกับจะแตกร้าวออกจากกันอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           เจียงมู่เฉินเจ็บจนเหงื่อออกท่วมตัว จนคุกเข่าลงไป มือข้างหนึ่งเขาค้ำยันต้นไม้ด้านข้างไว้ พลางหายใจหอบต่ำ

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบร้อนออกมาตามหาเจียงมู่เฉิน

 

 

           เขาเดินไปรอบปราสาท ก็ไม่เห็นเงาของเจียงมู่เฉินเลย

 

 

           ฟู่เหยี่ยนสีหน้าเคร่งเครียดในทันใด เป็นห่วงอยู่ไม่เบา

 

 

           เขารีบเดินตามหาข้างนอก จนวิ่งไปถึงที่ที่เจียงมู่เฉินกระโดดลงไปจากหน้าผาในตอนนั้น ก็เห็นเงาร่างของอีกฝ่ายแล้ว

 

 

           เขาคุกเข่าอยู่ริมหน้าผา ช่างน่าอกสั่นขวัญแขวน

 

 

           ฟู่เหยี่ยนหัวใจบีบคั้น รีบพุ่งตัวเข้าไปทันที

 

 

           เขาดึงเจียงมู่เฉินไว้ได้ ก็เอ่ยเสียงต่ำ “คุณเป็นไรไป ทำไมถึงหนีมาที่นี่ได้”

 

 

           เจียงมู่เฉินเจ็บจนเหงื่อออกท่วมหัว ได้ยินเสียง เงยหน้ามองฟู่เหยี่ยนแวบหนึ่ง เพิ่งจะกำลังเตรียมพูด เขาก็เป็นลมหมดสติไปเสียก่อน

 

 

           ฟู่เหยี่ยนสะดุ้งตกใจ รีบอุ้มเจียงมู่เฉินวิ่งเข้าปราสาทไป

 

 

           วางเจียงมู่เฉินลงบนเตียงแล้ว ก็โทรหาหมอมาทันที ทำทุกอย่างนี้เสร็จ ฟู่เหยี่ยนก็มองดูใบหน้าซีดเซียวของเจียงมู่เฉิน ร้อนใจจนลุกลี้ลุกลน

 

 

           ยังดีที่หมอประจำตระกูลมาถึงเร็วมาก รีบรุดเข้าไปดู

 

 

           ฟู่เหยี่ยนคว้าตัวเขาไว้ทันที ให้เขาทำการตรวจรักษาเจียงมู่เฉิน

 

 

           หมอประจำตระกูลตรวจอาการดูอย่างละเอียดไปรอบหนึ่ง สุดท้ายถึงได้เอ่ย “คุณชายครับ คุณชายเจียงไม่เป็นไร เพียงแค่สมองได้รับการกระตุ้น อาการจึงไม่ค่อยจะคงตัวก็เท่านั้นเองครับ”

 

 

           “หมายความว่าไง”

 

 

           หมอประจำตระกูลลดแว่นบนใบหน้าลง แล้วเอ่ยอธิบายอีกครั้ง “สมองคุณชายเจียงเมื่อก่อนเคยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ได้รับความเสียหายจนสูญเสียความทรงจำครับ…ครั้งนี้ที่เป็นลมกะทันหัน ก็เพราะสมองได้รับการกระตุ้น”

 

 

           หมอประจำตระกูลครุ่นคิดสักพัก “หรืออาจจะเป็นว่าคุณชายเจียงไปเห็นอะไรมา แล้วทำให้เส้นประสาทสมองได้รับกระตุ้นที่มากจนเกินไป ดังนั้นถึงได้หมดสติไปครับ”