ตอนที่ 342 จนตรอก / ตอนที่ 343 เริ่มปฏิบัติการ

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 342 จนตรอก

 

 

           ฟู่เหยี่ยนได้คำพูดนี้ ก็อดจะหวนนึกถึงริมหน้าผาที่เจียงมู่เฉินเกิดเรื่องขึ้นไม่ได้

 

 

           ‘ได้รับกระตุ้นที่มากจนเกินไป ทำให้หมดสติไป?’

 

 

           ‘หรือว่าเป็นเพราะเจียงมู่เฉินเห็นที่ที่ตัวเองกระโดดลงหน้าผาไปเมื่อตอนนั้น นึกย้อนถึงเรื่องอะไรขึ้นมา ถึงได้เป็นแบบนี้ได้’

 

 

           ฟู่เหยี่ยนคิ้วขมวดทันที ในใจค่อนข้างสับสนซับซ้อน สถานการณ์ของเจียงมู่เฉินในตอนนี้ มีความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก

 

 

           ก่อนหน้านี้อยากให้เจียงมู่เฉินฟื้นคืนความทรงจำ อยากให้เขาจำตัวเองได้

 

 

           แต่ตอนนี้กลับไม่อยากให้เจียงมู่เฉินรู้เรื่องในตอนนั้น เขากลัวว่าเจียงมู่เฉินรู้เรื่องในตอนนั้นเข้าแล้ว แม้แต่ความสุภาพอ่อนโยนในตอนนี้ก็จะเสียไปด้วย

 

 

           ถึงอย่างไรสิ่งที่เขาทำกับเจียงมู่เฉินในตอนนั้น ค่อนข้างทำเกินไปจริงๆ

 

 

           แม้แต่ตัวเองนึกย้อนกลับไป ก็ยังรู้สึกผิดบาปในใจ

 

 

           ฟู่เหยี่ยนยกมือขึ้นมากุมขมับ เอ่ยเสียงต่ำ “โอเค ผมรู้แล้ว คุณออกไปก่อน”

 

 

           หลังจากหมอประจำตระกูลออกไปแล้ว ฟู่เหยี่ยนเดินไปยังที่ข้างเตียงเจียงมู่เฉิน ก้มหน้าจ้องเขาเขม็ง นัยน์ตาเจือความสับสันซับซ้อน

 

 

           ผ่านไปนานพอควร เขาก็ขยับมือ ปลายนิ้วประทับลงบนริมฝีปากที่ค่อนข้างซีดเซียวของเจียงมู่เฉิน

 

 

           ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รักเจียงมู่เฉินเข้าให้แล้ว เช่นนั้นก็จะจัดการอย่างไรก็ได้ตามใจชอบเหมือนการประหารชีวิตคนทรยศ

 

 

           จะมีความกลัดกลุ้มเช่นในตอนนี้ได้อย่างไรกัน

 

 

           แต่ตอนนี้…

 

 

           เขาทำกับเจียงมู่เฉินในแบบที่ทำกับคนทรยศแบบนั้นไม่ลง

 

 

           เขาถึงขั้นคิดอยากจะกักตัวเจียงมู่เฉินไว้บนเกาะนี้ ให้เขาไม่จากไปไหนชั่วชีวิต อยู่เคียงข้างตัวเองตลอดไป

 

 

           ไม่รู้ว่าฟู่เหยี่ยนคิดถึงอะไร เขากำมือแน่นสนิท

 

 

           เขารีบยืนขึ้นมา ออกจากห้องของเจียงมู่เฉินไป

 

 

           ……

 

 

           ซังจิ่งสืบอยู่หลายวัน ที่ที่เกี่ยวข้องที่หาได้ก็ไปหามาหมดแล้ว ก็ยังหาร่องรอยของเจียงมู่เฉินไม่เจออยู่ร่ำไป

 

 

           ร่างกายเขาผอมลงเท่าตัว ซูบเซียวอย่างเห็นได้ชัด

 

 

           ที่ที่ฟู่เหยี่ยนพาเจียงมู่เฉินไปเก็บซ่อนไว้ลึกลับเกินไปแล้วจริงๆ ถ้าฟู่เหยี่ยนไม่ได้เป็นฝ่ายบอกให้เขารู้เอง เกรงว่าเขาคงจะหาเจอได้ยากมาก

 

 

           ซังจิ่งไตร่ตรองอยู่สักพัก ตอนนี้สถานการณ์แบบนี้ ดูท่าว่าจะทำได้เพียงขอความช่วยเหลือของซือเหยี่ยนแล้ว

 

 

           เพียงแต่ว่าเขาไม่ชัดเจน ว่าซือเหยี่ยนจะสามารถช่วยเขาตามหาเจียงมู่เฉินเจอได้หรือเปล่า

 

 

           ถึงอย่างไร ก่อนหน้านี้ท่าทีที่ซือเหยี่ยนมีต่อเจียงมู่เฉินก็ออกจะเย็นชาเสียขนาดนั้น

 

 

           ก็ยากจะรับประกันได้ว่าครั้งนี้จะยื่นมือเข้ามาช่วยได้หรือเปล่า

 

 

           ซังจิ่งกุมหน้าผาก เขาไม่รู้ท่าทีของซือเหยี่ยน แต่ว่าตอนนี้คนที่ช่วยเขาได้ก็มีเพียงแค่ซือเหยี่ยน

 

 

           ทำได้เพียงไปลองดู ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

 

 

           ทำอะไรไม่ได้จนในที่สุด ซังจิ่งก็ขับรถไปที่แก๊งมังกรครามเสียเลย

 

 

           คนในแก๊งมังกรครามพอเห็นหน้าซังจิ่ง ก็รีบขวางทันที “นายมาอีกทำไม”

 

 

           ครั้งนี้ซังจิ่งไม่ได้มีท่าทีโมโห แต่พูดไปตรงๆ “ฉันมาหาซือเหยี่ยน”

 

 

           “หาคุณซือ คุณซือไม่อยู่” ชายคนที่มีรอยมีดถากบนใบหน้าคนนั้นที่หน้าทางเข้า เมื่อพูดจาดูดุร้ายชัดเจน

 

 

           “ฉันมีธุระสำคัญมากต้องพบเขา” ซังจิ่งเอ่ยปากอีกครั้ง

 

 

           “บอกนายแล้วไง คุณซือไม่อยู่!”

 

 

           “ซูเตอร์ล่ะ เขาอยู่ไหม” ซือเหยี่ยนปิดมือถือ นอกจากที่ตอนนี้เขามาแก๊งมังกรครามแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นใดจะติดต่อเขาได้

 

 

           “คุณชายน้อยก็ไม่อยู่”

 

 

           ซังจิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกเขาไปไหนกันแล้วเหรอ”

 

 

           “พวกเขาจะไปไหนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย ไม่มีใครอยู่ รีบไปซะ ไป!”

 

 

           ซังจิ่งดูสถานการณ์แล้ว จำใจต้องออกไปก่อน เขาจอดรถอยู่ไม่ไกลนัก สายตาจดจ้องที่หน้าประตูบานใหญ่ของแก๊งมังกรครามอยู่ตลอดเวลา

 

 

           รอตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น ก็ยังไม่เห็นซือเหยี่ยนกับซูเตอร์เลย

 

 

           ซังจิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย หรือว่าซือเหยี่ยนกับซูเตอร์จะไม่อยู่ที่แก๊งมังกรครามจริงๆ

 

 

           เขารอต่ออีกไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำได้เพียงขับรถออกจากที่นั่นไปก่อน

 

 

           อีกฝั่งหนึ่ง ซือเหยี่ยนกับซูเตอร์กำลังเข้าร่วมกิจกรรมอยู่บนเรือสำราญลำหนึ่ง

 

 

           ซูเตอร์เดินอยู่ข้างกายซือเหยี่ยน ในมือถือแก้วไวน์อยู่

 

 

           เหมือนเขาจะเหนื่อยอยู่ไม่น้อย ดึงตัวซือเหยี่ยนไปยังราวจับข้างนอก เอนกายพิงอยู่ตรงนั้น

 

 

           “อ่า สองวันนี้เหนื่อยจะตายแล้วจริงๆ” ซูเตอร์เหนื่อยจนถอนหายใจ

 

 

           ซือเหยี่ยนยังคงอยู่ในท่านั้น ยืนตัวตรงอยู่ข้างๆ อากัปกิริยาของร่างกายที่สูงใหญ่ ภายใต้แสงไฟนั้นยิ่งดูหล่อเป็นพิเศษ

 

 

           ซูเตอร์เงยหน้ามองซือเหยี่ยนที่แสดงสีหน้าเย็นชา ใจก็เต้นตึกตัก

 

 

            

 

 

ตอนที่ 343 เริ่มปฏิบัติการ

 

 

           บนดาดฟ้าของเรือเองก็ไม่มีคน จู่ๆ เขาก็ยันกายขึ้นมากะทันหัน เข้าใกล้ซือเหยี่ยนอยากจะจูบเขา

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นจุดประสงค์ของเขาประจักษ์ต่อสายตา เขาถอยหลังไปเล็กน้อย เพิ่มระยะห่างระหว่างตัวเองและซูเตอร์ได้พอดี

 

 

           “ในที่สาธารณะ” ซือเหยี่ยนเอ่ยเสียงต่ำ

 

 

           ซูเตอร์คว้ามือซือเหยี่ยนไว้ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเราไปห้องกันก็ได้”

 

 

           แววตาสีดำขลับของซือเหยี่ยนปรากฏอยู่บนใบหน้าของซูเตอร์ ค่อยๆ แย้มรอยยิ้มเล็กน้อยออกมาอย่างช้าๆ

 

 

           ซูเตอร์ใจเต้นตึกตัก รีบเอ่ย “ไปเถอะ กลับห้องกัน”

 

 

           ซือเหยี่ยนครุ่นคิดสักหน่อย พยักหน้ารับ “ได้”

 

 

           ได้ยินคำตอบของเขา ซูเตอร์ดีใจแทบบ้า ในที่สุดซือเหยี่ยนก็ยอมรับเขาได้สักที

 

 

           ซูเตอร์ร้อนรนจับมือของซือเหยี่ยน มุ่งหน้าเดินไปยังห้องพัก จังหวะการก้าวเท้าของเขาเร็วมาก เหมือนจะรีบร้อนมากอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           ซือเหยี่ยนปล่อยให้เขาดึงตัวไป เดินอย่างมั่นคงหนักแน่นอยู่ข้างกายเขา

 

 

           พวกเขาเดินผ่านด้านหน้าจนเข้าไปยังส่วนท้ายเรือ เดินเข้าห้องพักไป

 

 

           ไม่กี่วันมานี้ เขากับซือเหยี่ยนอยู่ห้องแยกกันเป็นสองห้อง

 

 

           ห้องของซือเหยี่ยนอยู่ด้านหลังของเขา ซูเตอร์ลากตัวคนมาเข้าห้องของตัวเอง รีบเปิดประตูดันซือเหยี่ยนเข้าไป

 

 

           ทันทีหลังจากนั้นตัวเองรีบแทรกตัวเองเข้าไป แม้แต่ประตูก็ไม่ได้ปิด เขาอยากจะจูบซือเหยี่ยนเต็มทนแล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนกลับหยุดยั้งการกระทำของซูเตอร์พอดีอย่างไม่สนใจ

 

 

           เขาเอ่ยเสียงต่ำ “ไปอาบน้ำก่อนเถอะ ผมจะรอคุณข้างนอก”

 

 

           ซูเตอร์กะพริบตาปริบๆ “อยากอาบด้วยกันไหม”

 

 

           ซือเหยี่ยนเชิดมุมปาก เอ่ยเสียงนุ่ม “ผมไม่ชินเวลาอาบกับคนอื่น คุณไปก่อนเถอะ ผมจะรอคุณข้างนอก”

 

 

           ซูเตอร์รู้สึกว่าตัวเองถูกรอยยิ้มทำให้หลงเสน่ห์จนมึนงง เขารีบพยักหน้าแล้วเข้าห้องน้ำไป

 

 

           หลังจากได้ยินเสียงน้ำจากในห้องน้ำแล้ว ความอ่อนโยนในแววตาของซือเหยี่ยนก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาเพียงชั่วพริบตาเดียว

 

 

           เขาหยิบมือถือออกมาส่งข้อความหาท่านเชน ให้พวกเขาเตรียมลงมือปฏิบัติการได้

 

 

           เขาใช้เวลาตั้งหลายวัน ก็เพื่อวางกับดักนี้ ให้ซูเวลล์ได้ลงมือสะดวก

 

 

           บวกเข้ากับซูเตอร์ที่มุ่งหวังในตัวเขามาตลอด เขาจงใจใช้เล่ห์กลเล็กๆ น้อยๆ ก่อกวนจิตใจของซูเตอร์

 

 

           ตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความอยากจะออกกำลังกายกับตัวเอง ไม่มาสนใจโถงด้านหน้าอยู่แล้ว

 

 

           ซือเหยี่ยนยกมือขึ้นมาปัดตรงบริเวณที่โดนซูเตอร์เคยจับไว้ เขายกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างน่าขัน

 

 

           ไม่รู้ว่าเจียงมู่เฉินเมื่อรู้เข้าแล้ว จะด่าทอต่อว่าที่เขาขายศักดิ์ศรีตัวเองหรือเปล่า

 

 

           ข้างในมีเสียงน้ำดังมาไม่ขาดสาย ในห้องกันเสียงดีมากเป็นพิเศษ อยู่ข้างในไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวใดใดจากข้างนอกอยู่แล้ว

 

 

           มือถือสั่นอยู่สักพัก ท่านเชนตอบกลับมาสองคำ [รับทราบ]

 

 

           ซือเหยี่ยนปล่อยใจเอนพิงอยู่ด้านข้าง ใช้เวลาเพียงไม่นาน คนของแก๊งมังกรครามบนเรือสำราญลำนี้ โดนจับกุมทั้งหมด

 

 

           เขาจัดการเรื่องทุกอย่างนี้ไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย เหลือแค่เพียงซูเตอร์คนเดียว

 

 

           ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับซูเตอร์ เขาไม่อยากให้ใครอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วย สิ่งที่ซูเตอร์ทำกับเจียงมู่เฉิน เขาต้องการช่วยเจียงมู่เฉินทวงคืนกลับมาด้วยมือเขาเอง

 

 

           แต่เดิมที่มีเสียงดนตรีเคล้าคลออย่างรื่นหู แชมเปญเลิศรส บรรยากาศสบายอารมณ์ ทั้งหมดกลับวุ่นวายยุ่งเหยิง เพราะท่านเชนและกำลังคนของปรากฏตัวกะทันหัน

 

 

           ทันทีที่ซูเวลล์เห็นท่านเชน สีหน้าก็ถอดสีในพริบตา เข้าใจได้ในบัดดล หมุนตัววิ่งหนีในทันใด

 

 

           จะทำอย่างไรได้เมื่อกับดักที่ซือเหยี่ยนวางไว้ ทุกเส้นทางของซูเวลล์โดนปิดตายไว้ทั้งหมดเรียบร้อย ไม่มีทางใดจะหนีได้มาตั้งแต่แรกแล้ว

 

 

           ท่านเชนไม่ได้เสียแรงมากมายก็จับตัวคนมาได้

 

 

           ในห้อง ในที่สุดซูเตอร์ก็อาบน้ำพันผ้าเช็ดตัวเดินออกมา

 

 

           เป็นครั้งแรกที่เขามองซือเหยี่ยนด้วยความเอียงอาย “เหยี่ยน ฉันเสร็จแล้ว”

 

 

           ซือเหยี่ยนเอียงหน้ามองเขาแวบหนึ่ง เชิดหางตาขึ้นเล็กน้อย ท่าทางนั้นช่างเหมือนท่าทางของเจียงมู่เฉินในยามปกติที่เป็น

 

 

           เขากวักมือเรียกซูเตอร์ “งั้นพวกเราเริ่มกันเถอะ”

 

 

           หัวใจซูเตอร์เต้นโครมครามตึกตัก ราวกับจะเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมาอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           คิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่จะได้อยู่ด้วยกันกับซือเหยี่ยนแบบนี้จริงๆ

 

 

           พรที่เขาปรารถนามานานหลายปี ในที่สุดก็พอจะเป็นจริงได้แล้ว