ตอนที่ 546 มีตาหามีแววไม่

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

เมื่อมู่เฉียนซีหยิบหม้อยาออกมา โม่จิ่นก็รู้สึกว่านางนั้นบ้าไปแล้วจริง ๆ

“เจ้าบ้าไปแล้ว! สถานการณ์อันตรายเช่นนี้ยังจะปรุงยาอีก เจ้า… เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่ ?!”

“ไม่ผิด ข้าฝึกปรุงยาในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้จนคุ้นชินกับมันแล้ว” มู่เฉียนซีขมวดคิ้ว นางรู้สึกขอบคุณการฝึกฝนจากผู้เฒ่าประหลาดในตอนนั้นเป็นอย่างมาก มิฉะนั้นคงไม่สามารถปรุงยาในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายเช่นนี้ได้

ดังนั้น หม้อพิษสามอสูรของเขา นางจะต้องคิดหาวิธีแย่งชิงมันออกมาจากหุบเขาหมอเทวดาให้ได้

“โฮก!”

วิญญาณที่ดุร้ายเหล่านั้นกำลังก่อความวุ่นวายอยู่ด้านข้าง แต่มู่เฉียนซีกลับยังคงสงบนิ่ง นางไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ

โม่จิ่นตะลึงงัน “โอ้! นี่เจ้ากําลังปรุงยาจริง ๆ ด้วย”

“มีสตรีกําลังปรุงยาในสภาพแวดล้อมอันตรายเช่นนี้ ข้าผู้เป็นบุรุษก็ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องกลัวพวกปีศาจ” เขาพึมพํากับตัวเอง จากนั้นก็ฮึดสู้และพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อปกป้องมู่เฉียนซีจากวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้

ประสบความสําเร็จแล้ว สําเร็จในคราเดียว!

โม่จิ่นมองมู่เฉียนซีที่กำลังบรรจุยาน้ำขวดใหญ่ เขากล่าว “ไม่ใช่ยาเม็ด แค่เพียงยาน้ำเท่านั้น”

“โชคดีที่เจ้าแค่สกัดกลั่นและปรุงยาน้ำออกมาเท่านั้น หากเจ้าสามารถหลอมเป็นเม็ดยาออกมาในสภาพแวดล้อมนี้ได้ นั่นคงจะทําให้ข้าตกใจอย่างมาก”

นอกทวีปเซี่ยโจว เกรงว่าหลายคนคงคิดว่ายาน้ำนั้นไม่เป็นที่นิยม ประสิทธิภาพก็ไม่ได้ดีมากนักและสามารถปรุงออกมาได้อย่างง่ายดาย ทว่าหากเขารู้ว่ายาน้ำในมือของมู่เฉียนซีนี้ประสิทธิภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ายาเม็ดเลย เขาจะต้องตกใจมากอย่างแน่นอน

มู่เฉียนซี “โม่จิ่น เจ้าถอยไปเถอะ!”

โม่จิ่นถอนหายใจอย่างโล่งอก “เฮ้อ… ต่อจากนี้เจ้าก็รีบแสดงพลังอันน่าเกรงขามออกมาเร็วเข้า จัดการเจ้าพวกนี้ซะ!”

กระบี่มังกรเพลิงอยู่ในมือ ปลายกระบี่วาดเป็นวงกลมรอบมู่เฉียนซี จากนั้นมู่เฉียนซีก็เคลื่อนไหวในทันใด

“โฮก!”

วิญญาณชั่วร้ายที่นี่ฉลาดมาก พวกมันจะสร้างสิ่งที่ชั่วร้ายน่าสะพรึงกลัวออกมาเพื่อรบกวนมู่เฉียนซี

เขี้ยวที่ยื่นออกมา นัยน์ตาแดงฉาน และกรงเล็บของเหล่าปีศาจปรากฏขึ้นเพื่อต้องการที่จะทําให้สาวน้อยตรงหน้าตกใจกลัว

แต่ก็น่าเสียดายที่พวกมันได้พบกับมู่เฉียนซี สตรีผู้กล้าหาญและถูกลิขิตให้ผู้ที่พบเจอนางต้องพบกับโศกนาฏกรรม

พลังจิตเปิดออกและไล่จับพวกมันได้อย่างว่องไว ขณะเดียวกันกระบี่มังกรเพลิงโจมตีออกไปด้วยการโจมตีที่ร้ายแรงถึงชีวิต

โม่จิ่นรู้สึกว่าความหนาวเหน็บรอบ ๆ ลดลงไปไม่น้อยเลย เขาพึมพํา “นางวิปริตจริง ๆ! เพียงพริบตาเดียวก็จัดการได้มากมายขนาดนี้”

เป็นเรื่องปกติมากที่พลังจิตของนักปรุงยาจะแข็งแกร่ง แต่ของนางอาจจะรุนแรงเกินไปหน่อย หากว่าพลังจิตบริสุทธิ์และแข็งแกร่งมาก มู่เฉียนซีคงต้องใช้เวลานานกว่าจะทําลายวิญญาณชั่วร้ายเหล่านี้ได้ แต่ถ้าเป็นกระบี่มังกรเพลิงที่มีความอยากอาหาร ไม่ว่าวิญญาณเหล่านี้จะแข็งแกร่งเพียงใด …กินมันเข้าไปเสียก็จบเรื่อง!

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

เมื่อวิญญาณที่ชั่วร้ายลดลง โครงกระดูกบ้าบอคอแตกเหล่านั้นก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างรำคาญใจ “โม่จิ่น เจ้าเปิดประตูล่อเจ้านั่นออกไปเร็ว”

โม่จิ่นกล่าว “เจ้าให้ข้าล่อเจ้านั่นออกไปรึ ? ข้า…”

เขาต้องจบเห่แน่!

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “หากข้าจะปล่อยให้เจ้าตาย คงวางยาพิษเจ้าให้ไปพบพญายมเสียตอนนี้แล้ว ล่อมันไป ข้ามีวิธี”

โม่จิ่นมองไปยังดวงตาดำสนิทคู่นั้นพลางพยักหน้า “ได้! ข้าจะเชื่อเจ้า”

— ปัง! —

เมื่อประตูเปิดออก โม่จิ่นก็ชิงโจมตีโครงกระดูกนี้ก่อน

จากนั้นร่างของเขาก็ลื่นไถลและพุ่งออกจากมุมหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มโจมตีด้วยเปลวเพลิงทําให้โครงกระดูกตรงหน้าโกรธกรุ่นอย่างที่สุด

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

โครงกระดูกที่โกรธเกรี้ยว ไม่สนใจเหยื่ออย่างมู่เฉียนซี มันเริ่มไล่ตามโม่จิ่นอย่างบ้าคลั่ง

หน้าผากของโม่จิ่นเหงื่อแตกพลั่ก ตอนที่พวกเขาสองคนหนีออกมา อย่างน้อยก็ยังมีคนหนึ่งมาแบ่งรับแรงกดดันนี้ แต่ตอนนี้เขาคนเดียวเผชิญหน้ากับเจ้าตัวที่ไม่ต่างจากสัตว์ประหลาดน่ากลัว ในใจเขารู้สึกกระวนกระวายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ขณะที่โม่จิ่นกำลังล่อพวกโครงกระดูกนั้นไปและดึงดูดความสนใจจากมันทั้งหมด มู่เฉียนซีก็ตามไปในทันที

— ปัง! —

โม่จิ่นถูกโครงกระดูกนั่นเข้าขวางทาง เขาเองไม่มีความกล้าที่จะเปิดประตูบานนั้น และไปเผชิญหน้ากับวิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นคนเดียว

— ปัง! —

— แคว่ก! —

กรงเล็บของโครงกระดูกคว้าเข้าใส่โม่จิ่น แขนเสื้อครึ่งหนึ่งของเขาฉีกขาดออกมาเป็นชิ้น ๆ ทันใดนั้น โดยไม่ทันได้ตั้งตัว มืออีกข้างหนึ่งก็บีบคอโม่จิ่นไว้

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

มือของโครงกระดูกทั้งแข็งแกร่งทั้งแข็งกระด้าง ดิ้นอย่างไรโม่จิ่นก็ดิ้นไม่หลุด

“ช่วย… ช่วยข้าด้วย…”

ขวดโปร่งใสขวดหนึ่งถูกโยนออกไปกลางอากาศ ตามด้วยเสียงแหลม “บุปผาหลั่งสายฝน!”

ลูกธนูวารีดอกหนึ่งทําลายขวดใสขวดนั้น ของเหลวทั้งหมดในขวดพลันเทลงบนมือกระดูกที่จับคอของโม่จิ่นไว้

— ฉ่า! —

ความสามารถในการกัดกร่อนของยาทําให้ทั้งแขนของโครงกระดูกสึกกร่อนไปในทันที

— ปัง! —

โม่จิ่นได้รับการช่วยเหลือแล้ว เขามองขวดแก้วที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ แล้วจึงรีบหลบหนีไป ดวงตาเบิกกว้าง สิ่งนั้นมันน่ากลัวมาก แขนของผู้ที่เป็นอมตะยังถูกกัดกร่อนได้  นอกจากนี้ แขนข้างนั้นยังไม่มีความสามารถในการงอกใหม่อีกด้วย

แม้ว่าโครงกระดูกจะไม่มีความคิดเหมือนคนปกติ แต่มันก็จับตําแหน่งของคนที่ทําร้ายมันได้ เงาสีขาวพุ่งตรงไปที่มู่เฉียนซี

โม่จิ่นตะโกนว่า “แม่นางมู่ ระวังตัวด้วย!”

มุมปากของมู่เฉียนซีโค้งขึ้นเล็กน้อย “ข้าคิดหาวิธีจัดการเจ้าแล้ว เจ้ายังกล้าเข้าใกล้ข้าอีก ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรอกหรือ ?”

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

ขวดยาหลายขวดถูกมู่เฉียนซีโยนออกไป

“ผนึกมังกรวารี!”

เมื่อยาถูกโรยลงมา พลังสังหารอันทรงพลังอย่างมากก็ออกมาด้วย  โครงกระดูกไร้ความตายที่พวกเขาไล่ฆ่ามาทั้งวันนั้น ก็ได้หายไปเหลือเพียงเศษกระดูกไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

“จัดการแบบนี้เลยรึ ?” โม่จิ่นถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ใช่ จัดการเช่นนี้แหละ พวกเราหาอีกห้องหนึ่งเถอะ ที่นี่ต้องมีโครงกระดูกมากกว่าหนึ่งตัวเป็นแน่”

มู่เฉียนซีสุ่มหาประตูบานหนึ่งเข้าไป ขณะที่โม่จิ่นจับประตูไว้ เขากล่าวว่า “นั่น… นั่นไม่เข้าไปได้หรือไม่ ? มันน่ากลัวมาก”

ไม่ได้ต่างกับโครงกระดูกที่ไล่ตามมาเลย โม่จิ่นไม่อยากเข้าไปในห้องปีศาจที่น่ากลัวนั่นจริง ๆ

มู่เฉียนซีพูดขึ้น “อีกสักพักโครงกระดูกกลุ่มหนึ่งก็จะมาแล้ว เจ้าจะหยุดมันได้หรือโม่จิ่น ?”

“หากว่ามากลุ่มใหญ่ ข้าจะต้องถูกกำจัดอย่างแน่นอน”

— ตึก!  ตึก!  ตึก! —

เสียงหนึ่งดังออกมาจากทางเดินของห้องโดยสาร

โม่จิ่นเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีในใจจึงถามว่า “ไม่ใช่ว่าสิ่งที่เจ้าพูดจะเป็นเรื่องจริงหรอกนะ มันมาแล้วจริง ๆ อ๊าก!”

“พวกเรารีบเข้าไปเร็วเข้า!” ครั้งนี้โม่จิ่นดึงมู่เฉียนซีและรีบวิ่งเข้าไปในห้อง

เพียงแต่ว่าสีชมพูที่เห็นตรงหน้านื้คืออะไรกันแน่ ? ท่าเต้นอันงดงามนั้น ทําให้โม่จิ่นสับสนไปทันที

มู่เฉียนซีเห็นสิ่งเดียวกัน บุรุษรูปงามที่ดูโดดเด่นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้านางอีกครั้ง เขามีความเย็นชา ความยั่วยวน มีเสน่ห์ และ…

มู่เฉียนซีหลับตาลง “อย่ามาเล่นกลเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้กับข้า”

“ฮ่า ๆ ๆ ความมั่นคงในตัวของสาวน้อยไม่ธรรมดาเลย”

“ภาพลวงตาที่พวกเจ้าสร้างขึ้นก็น่าเกลียดเสียจริง ตาไม่ถึงเอาเสียเลย เช่นนี้จะโทษใครได้เล่า ?” มู่เฉียนซีโต้อย่างเผ็ดร้อน

“ตาไม่ถึงรึ ?!”

“แค่ก ๆ ๆ แต่สหายของเจ้าดูเหมือนจะจมลงไปในนั้นนะ” เสียงที่ดูลำพองใจดังขึ้น

.