ตอนที่ 268 คำถาม / ตอนที่ 269 ใครทำ?

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 268 คำถาม  

 

 

 

 

จิ้นหยวนไม่ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่รู้เรื่องนี้ ก่อนหมดสติเขาจึงกำชับพ่อบ้านเป็นพิเศษ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ข่าวของเขาก็รั่วออกไปจนไป จิ้นหยวนไม่โทษพ่อบ้านแล้วจะให้ไปโทษใคร?

 

 

เฉียวซือมู่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย แต่เธอก็ไม่มีโอกาสได้แก้ต่างให้พ่อบ้าน เพราะจิ้นหยวนไม่เอ่ยถึงพ่อบ้านเลยด้วยซ้ำ จึงทำให้เธอเอ่ยลำบาก

 

 

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน จิ้นหยวนสามารถขยับตัวได้แล้ว และหลินจื้อเฉิงก็มาเยี่ยมเขาพร้อมข่าวสำคัญ

 

 

หลินจื้อเฉิงเดินหน้าตาเคร่งเครียดเข้ามาในห้อง เขาทักทายพี่ใหญ่ จิ้นหยวนตอบเพียงอืมเบาๆ แต่พอเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขาจึงเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

 

 

หลินจื้อเฉิงใช้มือถูหน้าตัวเอง หน้านิ่วคิ้วขมวด “หร่วนเซียงเซียงหายตัวไปแล้วครับ”

 

 

“หายตัวไปแล้ว?” จิ้นหยวนเงยหน้าขึ้น “หมายความว่ายังไง?”

 

 

เฉียวซือมู่ที่อยู่อีกทางหูผึ่งทันที หร่วนเซียงเซียงหายตัวไป แล้วทำไมพวกเขาต้องทำหน้าแตกตื่นขนาดนั้นด้วย?

 

 

ช่วงที่ผ่านมาเธอมัวแต่ดูแลจิ้นหยวน จึงไม่รู้ว่าระหว่างจิ้นหยวนกับหร่วนเซียงเซียงแตกหักกันแล้ว พอได้ยินคำพูดของหลินจื้อเฉิงจึงรู้สึกแปลกใจมาก

 

 

หลินจื้อเฉิงเล่าไปตามจริง คืนที่เกิดเรื่อง คนร้ายที่แทงจิ้นหยวนถูกบอดี้การ์ดที่อยู่ชั้นล่างจับตัวเอาไว้ได้ทันที หลังจากถูกเค้นถามอย่างหนักจึงยอมคายชื่อหร่วนเซียงเซียงออกมา หลินจื้อเฉิงรู้เรื่องแล้วจัดการสั่งสอนหร่วนเซียงอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นโยนเธอกลับบ้านตระกูลหร่วน เขาเปิดโปงเรื่องชั่วที่เธอทำเอาไว้ให้หร่วนจิงเทียนรู้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหร่วนจิงเทียนโกรธมากขนาดไหน

 

 

ตระกูลหร่วนเป็นครอบครัวหัวโบราณ ดูได้จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของพวกเขาก็รู้แล้ว คราวนี้หลินจื้อเฉิงจึงมั่นใจมากว่าหร่วนเซียงเซียงคงถูกทำโทษอย่างหนักแน่ เธอก่อเรื่องใหญ่มากขนาดนี้ หร่วนจิงเทียนไม่มีทางปล่อยเธอเอาไว้แน่

 

 

เป็นไปตามคาด หร่วนจิงเทียนรีบเข้าไปขอโทษตระกูลจิ้นถึงที่บ้านทันที ไม่กี่วันให้หลังหร่วนจิงเทียนแจ้งข่าวว่าหร่วนเซียงเซียงไม่สบาย นอกจากเรื่องแท้งลูกแล้ว เธอยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าด้วย จำเป็นต้องรักษาตัวและอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น

 

 

แน่นอนว่านี่เป็นข่าวที่แจ้งให้คนภายนอกรู้ ส่วนเรื่องจริงจะเป็นอย่างไรนั้น คงมีแต่คนตระกูลหร่วนเท่านั้นที่รู้

 

 

จิ้นหยวนรู้ข่าวนี้ทันทีที่เขาฟื้น เขาไม่ได้พูดอะไร หลินจื้อเฉิงเสียอีกที่รู้สึกไม่พอใจมาก บ่นงึมงำว่าเสียเปรียบให้เธอแล้ว

 

 

แต่มาวันนี้กลับแย่กว่านั้น เพราะเธอหายตัวไปเลย

 

 

จิ้นหยวนชักหัวคิ้วชนกันแน่น “เช็คดูหรือยังว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวลวง?” เขาหมายความว่าหร่วนจิงเทียนอาจจะกลัวเขาแก้แค้น ก็เลยส่งหร่วนเซียงเซียงไปอยู่ที่อื่น แล้วประกาศให้คนนอกรู้ว่าเธอหายตัวไปแล้ว

 

 

หลินจื้อเฉิงส่ายศีรษะ “ผมส่งคนไปเช็คตั้งหลายคน ทุกคนได้รับการยืนยันจากหร่วนจิงเทียนเองเลยครับ ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นเรื่องจริงนะครับ”

 

 

จิ้นหยวนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ “สั่งคนให้ออกตามหาให้ทั่ว จะต้องควานหาตัวเธอออกมาให้ได้”

 

 

หลินจื้อเฉิงพยักหน้ารับคำสั่ง ไม่แปลกใจสักนิดที่เขาตัดสินใจแบบนี้ “ครับ ผมส่งคนออกตามหาแล้ว เดี๋ยวผมส่งคนออกไปเพิ่มครับ”

 

 

หร่วนเซียงเซียงไม่มีค่ามากพอที่พวกเขาจะให้ความสำคัญ เธอก็เป็นแค่คุณหนูที่ถูกตามใจจนเสียคน ต่อให้เธอแค้นใจมากแค่ไหนก็ตาม คนอย่างเธอคงทำอะไรไม่ได้มากนัก แต่จิ้นหยวนเป็นคนรอบคอบมาก เขาไม่ยอมปล่อยให้เกิดความเสี่ยงแม้เพียงเศษเสี้ยวหรอก

 

 

หลินจื้อเฉิงที่รู้จักนิสัยเขาดีรับคำสั่งทันที เตรียมตัวเพิ่มกำลังคนออกค้นหาหร่วนเซียงเซียง

 

 

หลังจากหลินจื้อเฉิงกลับไปแล้ว เฉียวซือมู่จึงมีโอกาสถามคำถามที่เก็บอยู่ในใจออกมา “ช่วงที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”

 

 

 

 

ตอนที่ 269 ใครทำ?

 

 

 

 

จิ้นหยวนยิ้มๆ “เรื่องอื่นไม่สำคัญหรอก แต่ว่า… คุณต้องแต่งงานกับผมแล้วล่ะ ดีใจไหม?”

 

 

“พูดอะไรเนี่ย ยังไม่รีบเล่ามาอีก” เฉียวซืออิงแอบคลอเคลียอยู่ข้างกายเขา น้ำเสียงออดอ้อน

 

 

จิ้นหยวนเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง เรื่องราวที่ได้ฟังทำให้เธอทั้งตกใจ ทั้งปลงอนิจจัง บางทีก็เบิกตาโตด้วยความตื่นตะลึง

 

 

เขาบีบจมูกเธอเบาๆ “ขืนคุณยังอ้าปากอยู่แบบนี้ เดี๋ยวผมก็จูบหรอก”

 

 

เธอตั้งสติแล้วตวัดสายตามองเขา “เจ็บหนักขนาดนี้ยังจะลามกอีก เชื่อเขาเลย”

 

 

เธอรีบนั่งตัวตรงทันทีเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง “ถ้างั้น ที่คุณแต่งงานกับเธอก็เพื่อคุณพ่อของคุณอย่างนั้นเหรอคะ?”

 

 

“ก็ใช่นะสิ อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าผมชอบเธอจริงๆ”

 

 

“ใครจะไปรู้ล่ะคะ? ถ้าคุณไม่พูดฉันก็คิดว่า…” เธอพูดถึงตรงนี้แล้วสีหน้าเศร้าลง นึกถึงช่วงเวลาที่เธอต้องเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส

 

 

จิ้นหยวนสีหน้าไม่ดีเช่นเดียวกัน “ตอนนั้นผมแค่ต้องการให้คุณพ่อสบายใจถึงได้รับปากแต่งงานกับเธอ ตอนแรกผมแค่จะหลอกคุณไปต่างประเทศ หลังงานแต่งงานก็จะไปรับคุณกลับทันที แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนแอบส่งข่าวให้คุณ”

 

 

เธอมองเขาด้วยความไม่พอใจ “อะไรคือแอบส่งข่าว คุณหลอกฉันได้ แต่ฉันรู้ข่าวไม่ได้อย่างนั้นเหรอคะ? ไม่รู้เหมือนกันว่าใครกันนะที่ใจดีส่งข่าวให้ฉันรู้ ไม่งั้นฉันคงกลายเป็นยัยโง่ที่ถูกคุณหลอกไปแล้ว”

 

 

“คุณเองก็ไม่รู้เหมือนกันเหรอว่าใครเป็นคนส่งรูปให้คุณ?” จู่ๆ เขาก็เอ่ยถาม

 

 

เธอพยักหน้ายอมรับตามจริง “มันเป็นเบอร์โทรที่ฉันไม่รู้จัก ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ”

 

 

เธอเห็นสีหน้าเขาแปลกๆ เหมือนกับว่าทั้งโมโหทั้งเซ็ง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “เป็นอะไรไปคะ? คนคนนั้นสำคัญมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ? วันงานมีแขกตั้งเยอะแยะ มีคนแอบถ่ายแล้วส่งรูปให้ฉันก็ไม่เห็นแปลกนี่นา”

 

 

เขาเอ่ยอย่างฝืดฝืน “คุณพูดถูก น่าจะมีคนแอบถ่ายนั่นแหละ”

 

 

เรื่องนี้เก็บงำอยู่ในใจเขามานาน คำถามนั้นก็คือ ใครเป็นคนส่งรูปถ่ายให้เธอกันแน่ งานวันนั้นแทบจะไม่มีแขกมาร่วมงานเลย นอกจากเขากับหร่วนเซียงเซียงแล้ว ก็มีแต่คุณพ่อคุณแม่และพี่น้องของเขาเท่านั้น เพราะฉะนั้น คนที่ส่งรูปถ่ายให้เธอจะต้องเป็นคนในนั้นแน่

 

 

แต่ว่า ต่อให้เขาสืบเท่าไหร่ก็ไม่พบเสียทีว่าเป็นฝีมือใคร จนถึงตอนนี้คนคนนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่

 

 

วันนี้เขาถือโอกาสถามเฉียวซือมู่ แต่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นฝีมือใคร

 

 

เขาหรี่ตาแคบ แอบคิดบางอย่างในใจ จากนั้นเก็บมันเอาไว้ในใจ

 

 

เฉียวซือมู่ไม่รู้ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง จึงเอ่ยถาม “ทำไมคะ? เรื่องนี้สำคัญมากเลยเหรอคะ?”

 

 

เขาส่ายศีรษะ ตัดสินใจไม่บอกเรื่องที่ตัวเองสงสัยให้เธอรู้ “เปล่า แค่ถามดูน่ะ”

 

 

เอ่ยจบแล้วโอบกอดเธอเบาๆ พลางหอมแก้เธอฟอดใหญ่ “ที่ผ่านมาลำบากคุณแล้วนะ คุณแม่เป็นห่วงผมมาก ก็เลยเข้มงวดกับคุณมากไปหน่อย คุณอย่าถือสาเลยนะ”

 

 

เธอฟังแล้วถึงได้รู้ว่าที่แท้เขารู้มาตลอดว่าคุณแม่ของเขาใจร้ายกับเธอ เขาแค่ไม่ได้พูดมันออกมาก็เท่านั้น เธอมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ฉันไม่เอามาใส่ใจหรอกค่ะ ฉันรู้ว่าท่านเป็นห่วงคุณมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน คุณแม่ฉันจะต้องด่าคุณจนเละเป็นโจ๊กแน่ เพราะฉะนั้น ถือว่าคุณป้าปรานีมากแล้วล่ะค่ะ”

 

 

เขากระชับวงแขนแน่นขึ้น รู้ว่าเธอตั้งใจพูดให้เขาสบายใจ จึงเอ่ยอย่างซึ้งใจ “ขอบคุณนะ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องลำบากเด็ดขาด”

 

 

เธอชายตามองเขาแวบหนึ่ง “ไม่ลำบากหรอกค่ะ เราไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว คงไม่ค่อยได้เจอกันหรอกค่ะ ถึงท่านจะไม่พอใจก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ”