ตอนที่ 1673 บุปผาร่วงมีใจ สายน้ําไหลไร้รัก (1)
สายตาหลงใหลและคำชมเชยทั้งหลายดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับกู่ซินเยียนเลยนางเดินช้าๆไปนั่งที่ของตัวเอง
กู่อิ่งเดินอยู่ข้างๆกู่ซินเยียนเขาย่อมไม่พลาดสายตาที่คนพวกนั้นแอบมองกู่ซินเยียน รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลายิ่งกดลึกขึ้น ดวงตาที่ฉายแววรื่นเริงของเขากวาดมองพวกผู้ชายที่แอบกระซิบกระซาบกันอยู่ในมุม
แค่กวาดมองเพียงครั้งเดียวคนพวกนั้นก็เย็นวาบไปทั้งตัว ไม่รู้เพราะอะไร รอยยิ้มที่สดใสเช่นนั้นถึงทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้มากขนาดนี้
“ข้าอยากควักตาพวกมันซะจริง”กู่อิ่งกระซิบเบาๆขณะลงนั่งข้างๆกู่ซินเยียน
กู่ซินเยียนตัวแข็งทื่อแล้วขมวดคิ้วมองกู่อิ่ง
“ให้ข้าดึงลิ้นสกปรกของพวกมันมาเป็นของขวัญให้เจ้าดีไหม?”ดูเหมือนกู่อิ่งไม่ได้สังเกตเห็นความไม่พอใจของกู่ซินเยียนเลย เขาพูดพร้อมกับยิ้มอย่างสดใส
กู่ซินเยียนหน้าซีดเล็กน้อยจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงข่มอารมณ์ “ท่านพ่อสั่งเราไว้ว่าห้ามก่อเรื่อง”
กู่อิ่งหัวเราะเบาๆและตอบว่า“รับทราบขอรับคุณหนู”
ระดับเสียงของเขาสูงขึ้นเล็กน้อยแม้จะพูดด้วยท่าทางล้อเล่น แต่มันก็ทำให้กู่ซินเยียนรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย นางหันหน้าหนี ไม่อยากจะพูดกับกู่อิ่งอีกต่อไป
กู่อิ่งไม่สนใจเลยสักนิดเขาหยิบเหล้ารสเลิศบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอย่างช้าๆ
จูเก๋ออินและเฟยเหยียนก้าวเข้ามาในห้องโถงใหญ่พร้อมกันเฟยเหยียนผู้งดงามได้รับความสนใจจากฝูงชนในทันที แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีเสน่ห์น่าหลงใหลเท่ากู่ซินเยียน แต่ก็ยังสวยมากอยู่ดี แถมไม่มีท่าทางหยิ่งและถือตัวแบบกู่ซินเยียน ยิ่งทำให้คนรู้สึกเอ็นดูมากขึ้น นอกจากนั้นเขามีรูปร่างที่สูงเพรียว ยืนอยู่ข้างๆจูเก๋ออินเช่นนี้ก็ยังสูงเท่ากัน ร่างเพรียวบางนั้นทำให้คนจำนวนไม่น้อยหัวใจเต้นแรง
จูเก๋ออินแอบรู้สึกภูมิใจเฟยเหยียนเป็นคนของวิหารมังกร เขาตั้งใจที่จะได้นางมาเป็นคนรักอยู่แล้ว สายตาชื่นชมและคำชมเชยทั้งหมด สำหรับเขาก็เป็นเพียงความอิจฉาของคนอื่น
การเดินไปรอบๆโดยมีหญิงสาวที่โดดเด่นเช่นนี้อยู่เคียงข้างมันแสดงถึงพลังอำนาจของเขา
แต่ไม่นานสายตาของจูเก๋ออินก็ถูกดึงดูดไปอยู่ที่กู่ซินเยียนซึ่งนั่งเงียบอยู่ทางด้านหนึ่ง
เขาเคยพบกู่ซินเยียนเพียงครั้งเดียวตอนเป็นเด็กด้วยอายุของเขาในตอนนั้น ความทรงจำจึงค่อนข้างเลือนลาง พบกันอีกครั้ง กู่ซินเยียนก็กลายเป็นสาวงามขนาดนี้แล้ว ใบหน้าที่งดงามมีเสน่ห์นั้นทำให้จูเก๋ออินไม่สามารถละสายตาจากนางได้
จูเก๋ออินเดินตรงไปทางที่กู่ซินเยียนนั่งอยู่โดยที่ยังไม่ได้ลงนั่งที่ของตัวเองด้วยซ้ำ
“น้องซินเยียนใช่ไหม?”จูเก๋ออินแสร้งทำเป็นมองกู่ซินเยียนอย่างแปลกใจ
กู่ซินเยียนชะงักเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้นมองจูเก๋ออินด้วยแววตางุนงง นางเห็นว่าอีกฝ่ายสวมเครื่องแบบของวิหารมังกร แต่ใบหน้าของเขากลับไม่คุ้นเอามากๆ
“เจ้าคือ?”
จูเก๋ออินยิ้มอย่างสง่าและพูดว่า“น้องซินเยียนคงจำข้าไม่ได้แล้ว ข้าคือจูเก๋ออิน ท่านพ่อเคยพาข้าไปเล่นที่วิหารมารโลหิตตอนที่ข้ายังเด็กกว่านี้มาก ข้าได้รู้จักกับน้องซินเยียนตอนนั้น แต่เราไม่ได้เจอกันมานานแล้ว ตอนนี้เราทั้งคู่ก็โตขึ้นมาก เป็นธรรมดาที่น้องซินเยียนจะจำข้าไม่ได้”
เมื่อได้ยินจูเก๋ออินเอ่ยคำว่า“น้องซินเยียน” ทุกประโยค เฟยเหยียนที่อยู่ข้างๆเขาก็ขนลุกเกรียวขึ้นมา แต่จำต้องฝืนยิ้มเอาไว้ขณะยืนอยู่ตรงนั้น
สีหน้าของกู่ซินเยียนก็ไม่เป็นธรรมชาติเช่นกันแม้ว่าจะรู้ตัวตนของอีกฝ่ายแล้ว แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกว่านางกับจูเก๋ออินสนิทกันมากขนาดนั้น
“งั้นหรือ?เช่นนั้นเราก็ไม่ได้พบกันนานมากจริงๆ” ไม่ว่านางจะรู้สึกอึดอัดแค่ไหน แต่การอบรมเลี้ยงดูที่ดีก็ทำให้กู่ซินเยียนยังคงรักษารอยยิ้มสุภาพเอาไว้บนหน้าได้
แม้ว่าความแข็งแกร่งของวิหารมังกรจะด้อยกว่าวิหารมารโลหิตแต่มันก็ไม่ได้ห่างชั้นกันมากนัก