ปรากฏว่าเขาป่วยหนัก แต่เธอไม่รู้เรื่องเลย! เขาบอบช้ำเพราะเธอมามากแค่ไหน ความปวดร้าวสาหัสแค่ไหนที่ทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมากลางดึก
น้ำตาไหลพรั่งพรูจากดวงตาถังซีทันที เธอมองหน้าเซียวจิ่ง ปิดปากร้องไห้ เซียวจิ่งเองก็เศร้าเมื่อเห็นเธอร้องไห้ เขานั่งลงข้างถังซี เอื้อมมือไปกอดเธอ ตบหลังเธอเบาๆ “ถึงเฉียวเหลียงจะไม่เคยบอกเรา แต่เราทุกคนรู้ดีว่าเขารู้สึกผิดอย่างมากต่อการตายของเธอ เขาเชื่อว่าถ้าเขาไม่เลิกกับเธอ เธอก็จะไม่ประสบอุบัติเหตุครั้งนั้น ถ้าเขาได้มีโอกาสปกป้องเธอ คนพวกนั้นจะไม่มีวันได้แตะต้องเครื่องบินของเธอ แล้วเธอก็จะไม่ตาย…”
ถังซีร้องไห้หนักขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของเซียวจิ่ง เธอสะอึกสะอื้น “มีใครรู้เรื่องนี้อีกบ้าง”
“นอกจากพี่ อาห้า กับอาหก ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้” เซียวจิ่งเม้มริมฝีปาก “ให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเฉียวกรุปจะเสียหายหนัก”
ถังซีพยักหน้า หลับตาลงระงับอารมณ์ แล้วลุกขึ้นนั่งตัวตรง “พี่จิ่ง ไปทำธุระของพี่เถอะค่ะ ฉันรู้แล้วว่าฉันต้องทำยังไง”
ขณะกล่าวอย่างนั้นออกไปถังซีรู้สึกกลัวจริงๆ เธอกลัวจริงๆ ว่าเฉียวเหลียงจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่หาย อย่างไรก็ตามในใจเธอรู้ดีว่าเฉียวเหลียงไม่ใช่คนที่จะถูกทำร้ายด้วยบาดแผลใดๆ ได้ง่ายๆ …
“โหรวโหรว” จู่ๆ เซียวจิ่งก็เรียกถังซี
ถังซีมองกลับไปที่เซียวจิ่ง เขาลุกขึ้นยืน มองเธอและกล่าวเบาๆ ว่า “เฉียวเหลียงให้ความสำคัญกับความรักมาก พี่คิดว่าเธอรู้จักเขาดีกว่าพี่ ถ้าเขาเป็นคนไร้หัวใจ เขาคงกำจัดพวกคนทรยศจนสิ้นซากไปแล้วด้วยอำนาจของเขา แต่นี่เขากลับไว้ชีวิตและยังให้โอกาสคนพวกนั้นกลับมาทำร้ายเขาได้อีก นั่นแหละ… นั่นคือสาเหตุที่เขามักต้องเจอกับความเจ็บปวด เธอเข้าใจเขาใช่ไหม”
ถังซีซวนเซถอยหลังทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้
…
ในห้องพักผ่อน ถังซีเลื่อนตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม นอนลงข้างเฉียวเหลียง กอดเอวเขาไว้ ดูเหมือนว่าเฉียวเหลียงจะรู้สึกถึงลมหายใจของถังซี เขาเอื้อมมือมาโอบกอดเธอ รั้งเธอเข้ามาแนบชิดเขายิ่งขึ้น ถังซีเงยหน้าขึ้นมอง เห็นคางเขา จมูกเธอเริ่มคัด และน้ำตาก็ไหลริน
เธอคิดว่าเธอรู้จักเขาดีพอ แต่เธอไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาเปราะบางขนาดนี้ กลับกลายเป็นว่าคุณคือคนที่เจ็บปวดง่ายเหลือเกิน คุณคือคนที่ทำร้ายตัวเองเพราะคำพูดของฉัน กลับกลายเป็นว่าหัวใจของคุณมีรอยแผลเป็น
ขอโทษนะ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าคุณเจ็บปวดขนาดไหนจนถึงตอนนี้
ขอโทษ ที่ฉันไม่เคยรู้เลยว่าคุณเจ็บปวดเพราะฉันได้ง่ายดายแค่ไหนจนถึงตอนนี้
ขอโทษ ที่ฉันไม่รู้ว่าคุณห่วงใยฉันมากแค่ไหน
ขอโทษ ที่ฉันรู้ว่าคุณรักฉัน แต่ฉันก็ยังคงพูดจาแบบนั้น ที่เป็นการทำร้ายคุณ
“ผมขอโทษ” น้ำเสียงต่ำและแหบพร่าของเฉียวเหลียงดังขึ้นเบาๆ ในความเงียบ
ถังซีไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้ เธอตัวสั่นด้วยแรงสะอื้น
เธอกำเสื้อเฉียวเหลียงแน่น มือที่กำนั้นสั่นสะท้านขณะที่เธอส่ายศีรษะอย่างสิ้นหวัง “คุณไม่ได้ทำอะไรผิด คุณไม่ต้องขอโทษ ฉันต่างหากที่เอาแต่ใจตัวเองเกินไป ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากให้ฉันไปเมืองหลวงเพราะคุณห่วงฉัน ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากให้ฉันเสี่ยงเพราะคุณเป็นห่วงฉัน แต่ฉันก็ยังยั่วโมโหคุณด้วยการท้าให้คุณเลิกกับฉัน ฉันเคยเห็นแล้วว่าคุณแทบเป็นบ้าเพราะฉัน แต่ฉันก็ยังทำร้ายคุณด้วยความเห็นแก่ตัวของฉัน คนที่ควรเอ่ยคำขอโทษคือฉัน ไม่ใช่คุณ”
“ผมขอโทษ” เฉียวเหลียงกอดถังซีแนบอก เอ่ยคำขอโทษด้วยเสียงแหบพร่า “ผมขอโทษ… คุณไม่เลิกกับผมได้ไหม…”
ถังซีรู้สึกราวกับว่าหัวใจเธอถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง เธอเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง เห็นน้ำตาไหลออกมาจากหางตาเขา และไหลอาบแก้ม ในทันทีนั้นถังซีก็รู้สึกผิดมาก ทำไมเธอถึงทำร้ายเขาแบบนี้ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่ความผิดของเขา!
เธอมักจะบอกว่าเธอรู้สึกผิดต่อเฉียวเหลียง แต่เธอได้ทำอะไรบ้างเพื่อชดใช้ให้เขา
เมื่อครั้งที่เขาขอเลิกกับเธอ เธอก็ทิ้งเขาไป ไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย ถึงแม้จะคิดถึงเขา แต่เธอไม่เคยยอมให้ตัวเองหันกลับมามองเขา หลายครั้งเธอโทรหาเขา แต่ก็วางสายก่อนที่สัญญาณจะเชื่อมต่อ เธอขี้ขลาด แต่เธอคิดว่านั่นเป็นเพราะเธอหยิ่งในศักดิ์ศรีเกินไป เธอทำร้ายผู้ชายคนนี้อย่างหนัก… แม้แต่…
“ฉันขอโทษ…” ถังซีรวบรวมแรงพลังเปล่งสียงออกมา “ขอโทษ ฉันอ่อนแอเกินไป”
เมื่อรู้สึกว่าอ้อมแขนที่กอดเธอจู่ๆ ก็คลายออก ถังซีรีบกอดเขาแน่นยิ่งขึ้น “ฉันขอโทษ ที่ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะขอให้คุณอยู่กับฉันต่อไป…
“…ฉันขอโทษ ที่ไม่เคยบอกคุณก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ฉันอยากบอกคุณ ฉันอยากอยู่เคียงข้างคุณ ถึงแม้ฉันจะสัมผัสคุณไม่ได้ก็ตาม ถ้าฉันไม่อ่อนแออย่างนั้นคุณก็คงไม่เป็นแบบนี้ ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรหยิ่งผยอง ไม่ควรขี้ขลาดจนไม่กล้าโทรหาคุณ หรืออ่านอีเมลของคุณ แม้จะอยากรู้อยู่ทุกวันทุกคืนว่าคุณอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ แต่ฉันไม่กล้าโทรหาคุณเพื่อบอกคุณว่าฉันรักคุณ ฉันไม่กล้าขอให้คุณอยู่ต่อ ไม่กล้าถามออกมาดังๆ ว่าฉันต้องทำยังไงให้คุณเชื่อว่าฉันรักคุณ ต้องทำยังไงให้คุณอยู่กับฉันต่อไป ฉันไม่กล้าบอกคุณว่า เมื่อไม่มีคุณ แต่ละวันนั้นยาวนานเหลือเกินสำหรับฉัน…
“เมื่อไม่มีคุณฉันแทบจะเป็นบ้า ฉันคิดถึงคุณมากเหลือเกิน หัวใจฉันปวดร้าวสุดจะทานทน มีเพียงยานอนหลับเท่านั้นที่ทำให้ฉันหลับลงได้ในเวลากลางคืน…
“เฉียวเหลียง ฉันขอโทษ…”
เฉียวเหลียงลืมตาขึ้น เห็นหญิงสาวในอ้อมแขน ดวงตาเขามีประกายความประหลาดใจ ทันใดนั้นเขาก็ตัวแข็งทื่อ คำพูดที่เขาได้ยินอย่างรางเลือนดังขึ้นฉับพลันในใจเขา ในทันทีนั้นเขาก็รู้สึกสั่นสะท้าน ราวกับสมองเขากำลังจะระเบิด ถังซีลืมตาขึ้น เห็นดวงตาเฉียวเหลียงแดงก่ำ เหมือนกับเขากำลังทุกข์ทนด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เธอรีบจับแขนเขา ถามด้วยความห่วงใยและวิตกกังวล “คุณเป็นอะไรไป เฉียวเหลียง!”
เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติก็ผุดขึ้นในใจ ทันใดนั้นเขาก็กระชากผ้าห่มโยนออกไป และตะโกนอย่างเยือกเย็น “ออกไป!”
ถังซีมองเขาด้วยความตกใจ เขามองตอบเธอ ขณะถามอย่างเย็นชา “คุณขอเลิกกับผมไม่ใช่เหรอ! ตกลง ผมตกลง! ออกไปเดี๋ยวนี้!” เขาชี้ไปที่ประตูห้อง
ถังซีแข็งตัวทื่อ อยากจะลุกขึ้นและออกไปจากที่นี่ แต่เธอลังเล ลุกขึ้นนั่งบนเตียงและมองหน้าเขา เฉียวเหลียงมองหน้าถังซีที่กำลังมองมาอย่างไร้ความรู้สึก เขาขมวดคิ้วถามอย่างเกรี้ยวกราด “คุณอยากเลิกกับผมนักไม่ใช่หรือ ผมตกลงแล้ว คุณยังจะอยู่ที่นี่อีกทำไม! ออกไปจากที่นี่สิ!”
หัวใจถังซีปวดร้าว แต่เธอพยายามอดทนต่อความเจ็บปวด นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น มองหน้าเฉียวเหลียงด้วยน้ำตาที่ไหลพรากไม่ยอมหยุด เธอมองหน้าเฉียวเหลียง เม้มริมฝีปาก แล้วถามว่า “คุณอยากให้ฉันตายอีกครั้งไหม”
เฉียวเหลียงตกตะลึงตัวแข็งทื่อ ถังซีกล่าวต่อไป “ถ้าคุณพูดแบบนั้นกับฉันอีก ฉันจะออกไปจากที่นี่ แล้วไปกระโดดลงแม่น้ำ ฉันเคยตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ฉันไม่รู้สึกอะไรหรอก ถ้าจะต้องตายอีกครั้ง”