บทที่ 322 การประกาศตัวล้างแค้นของการันต

รักหวานอมเปรี้ยว

ส้มเปรี้ยวรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาหยุดเดิน โลกทั้งใบเงียบสงบ เงียบจนทำให้เธอหนาวยะเยือกไปทั้งร่าง ลำคอตีบตันเหมือนที่คนอุดเอาไว้อย่างนั้น ความโกรธแค้นอย่างมหาศาลเข้าครอบงำจนเธอหายใจไม่ออก

มายมิ้นท์!

เป็นมายมิ้นท์อีกแล้วเหรอ!

ตลอดทั้งชีวิตนี้ของเธอ กำหนดมาว่าต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้เงาของมายมิ้นท์เหรอ

เพื่อนทางจดหมายของเปปเปอร์คือมายมิ้นท์ ทำไมผู้มีพระคุณของการันต์ก็คือมายมิ้นท์อีก

แล้วตัวเองทำไมต้องบังเอิญ สวมรวยเป็นมายมิ้นท์ถึงสองครั้งด้วย!

มีสิทธิ์อะไร สวรรค์มีสิทธิ์อะไรมากลั่นแกล้งเธอแบบนี้!

“ว้าย!!!!!!” ส้มเปรี้ยวกรีดร้องดังลั่นอย่างใจสลาย

การันต์มองเธออย่างไร้อารมณ์ความรู้สึกใดๆ “ตอนนี้คุณก็รู้แล้วสินะ ว่าทำไมจู่ๆท่าทีของผมที่มีต่อคุณถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน”

ส้มเปรี้ยวสั่นไปทั้งตัวชั่วขณะ จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “คุณ……ตกลงว่าคุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ ว่าฉันไม่ใช่ผู้มีพระคุณของคุณ”

“ก็ตอนที่คุณให้ผมทำการผ่าตัดทำแท้งมายมิ้นท์” การันต์ก็ไม่ได้ปิดบังเธอ ตอบไปตามตรง

ส้มเปรี้ยวทั้งร้องไห้ทั้งยิ้ม “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ มิน่าเล่าสายเลือดชั่วในท้องของเธอถึงยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้ในมือของคุณ ตอนแรกที่คุณบอกว่าไม่ได้ผ่าตัดให้มายมิ้นท์ เพราะว่าเปปเปอร์อยู่ข้างนอก ความจริงแล้วนั่นคือข้ออ้างที่คุณเอามาใช้รับมือฉันก็เท่านั้น!”

การันต์ยักไหล่ ถือว่าเป็นการยอมรับการคาดเดาของเธอไปโดยปริยาย

ส้มเปรี้ยวหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่งมากขึ้น

เธอพลาดไปแล้ว!

เธอน่าจะรู้ก่อนหน้านี้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขาตอนนั้น หากเขากำลังจะฆ่าใครสักคน แล้วเขาจะไปสนใจเปปเปอร์ทำไม เขาก็ไม่ได้กลัวเปปเปอร์นี่!

น่าเสียดายที่ตอนนั้นเธอคิดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้เธอก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

“คุณโชคดีมากที่ผมเพิ่งจะมารู้ตัวเอาป่านนี้ว่าคุณไม่ใช่ผู้มีพระคุณของผม เพราะเรื่องเลวร้ายที่คุณทำกับมายมิ้นท์ทั้งหมด ผมไม่ได้เก็บหลักฐานเอาไว้เลย ไม่งั้น คุณคิดว่าคุณยังจะลอยหน้าลอยตาอยู่อย่างตอนนี้ได้เหรอ” การันต์เชิดหน้า มองส้มเปรี้ยวด้วยแววตาเยาะเย้ยดูถูก

ส้มเปรี้ยวสบตากับเขาอย่างระมัดระวังตัว “แล้วยังไง คุณคิดจะแก้แค้นฉันเหรอ”

มุมปากการันต์ยกขึ้นเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่ความหมายก็เห็นได้ชัดเจนมาก

รูม่านตาของส้มเปรี้ยวหดเล็กลงเท่าปลายเข็ม ร่างเองก็หดลงมา ร้องคำรามด้วยความตื่นตระหนกว่า “ไม่ คุณทำไม่ได้นะการันต์ คุณจะเอาความผิดทั้งหมดมาลงที่ฉันไม่ได้ ฉันยอมรับว่าฉันสวมรอยเป็นมายมิ้นท์ แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจ คุณต่างหากที่เข้าใจผิดว่าเป็นฉันเอง ดังนั้นคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาล้างแค้นฉัน!”

“ที่คุณพูดก็ถูก เป็นผมที่เข้าใจผิดว่าเป็นคุณจริงๆ แต่คุณก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่ใช่ผู้มีพระคุณของผม แต่ตอนที่ผมจำคุณผิด คุณก็ไม่ได้ปฏิเสธไม่ใช่เหรอคุณไม่เพียงยอมรับ แต่ยังใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้มีพระคุณของผมอย่างสบายใจ คุณลองบอกมาสิ ว่าทำไมผมถึงล้างแค้นคุณไม่ได้ ”

คำถามของการันต์ ทำให้ส้มเปรี้ยวพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

ใช่ การันต์เข้าใจผิดว่าเป็นเธอเอง แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธก็เป็นความจริง

ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอหากมีคนมาทำแบบนี้กับเธอ เธอเองก็ต้องโกรธมาก อยากจะแก้แค้นอีกฝ่ายแน่นอน

คิดมาถึงตรงนี้ ส้มเปรี้ยวก็รู้สึกว่ามีความหวาดกลัวเข้ามาปกคลุม เธออดไม่ได้ที่กอดตัวเองเอาไว้แน่น

ถ้าจะบอกว่าคนที่เธอกลัวที่สุดคือใคร ก็คืออีธานกับการันต์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ความกลัวที่มีต่อการันต์นั้น มากกว่าความกลัวที่มีต่ออีธาน

ก่อนหน้านี้ที่เธอไม่ได้แสดงความหวาดกลัวต่อการันต์เลยสักนิด ถึงขั้นว่ายังชักสีหน้าสั่งการันต์ได้ นั่นเพราะการันต์ยังไม่รู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้มีพระคุณตัวจริง แต่ตอนนี้การันต์รู้แล้ว เช่นนั้นความหวาดกลัวที่เธอมีต่อการันต์ ก็ย่อมพลุ่งพล่านออกมา

เพราะคนนี้แท้จริงแล้วคือคนวิปริตคนหนึ่ง ตกอยู่ในมือคนผู้นี้ เธอไม่กล้าจินตนาการเลยว่าตนเองจะต้องมีจุดจบแบบไหน!

เสมือนว่าเขาอ่านใจออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จู่ๆการันต์ก็ตบบนไหล่เธอ

ส้มเปรี้ยวสะดุ้งทันที เกือบจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา

การันต์หยีตา พูดด้วยเสียงน่ากลัวว่า “คุณวางใจเถอะ ช่วงนี้คุณเป็นนักโทษที่ถูกควบคุมดูแลเป็นพิเศษจากทางตำรวจ ผมจะไม่ทำอะไรคุณหรอก รอหลังจากนี้ ทางตำรวจผ่อนคลายมาตรการควบคุมลงแล้ว ผมถึงจะลงมือกับคุณ ดังนั้นคุณก็ตักตวงความสงบสุขของการใช้ชีวิตในช่วงนี้ให้ดีแล้วกันนะ”

พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป ภายใต้สายตาหวาดกลัวของส้มเปรี้ยว

ด้านนอกห้องผู้ป่วย คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์กำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับชวนชม ยิ้มอย่างมีความสุข

มองเห็นการันต์เดินออกมา คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็รีบถามว่า “คุณหมอการันต์ ส้มเปรี้ยวเป็นยังไงบ้างคะ”

“ไม่มีอะไรครับ ก็แค่ยังรับสภาพตัวเองไม่ได้ อารมณ์เศร้าหดหู่เท่านั้น ผ่านช่วงนี้ไปก็จะดีขึ้นเองครับ” การันต์พูดพลางดันแว่นตา

คุณนายตระกูลภักดีพิศุทธิ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก “งั้นก็ดีค่ะ ขอบคุณหมอการันต์มากนะคะ”

“ไม่ต้องเกรงใจครับ” มีแสงประหลาดฉายออกมาจากแววตาการันต์ เขาเอ่ยล่าแล้วจากไป

ความมืดมิดในยามค่ำคืนเข้ามาเยือน

ภายในห้องผู้ป่วยวีไอพีห้องหนึ่ง มายมิ้นท์ยังไม่ตื่น

เปปเปอร์ยังคงนั่งเฝ้าเธออยู่ข้างเตียง

เวลานี้เอง มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น

เปปเปอร์เอ่ยเสียงเข้ม “เข้ามา”

ประตูเปิดแล้ว ผู้ช่วยเหมันต์เดินเข้ามาจากด้านนอก “ประธานเปปเปอร์ครับ คุณชายปีโป้กลับมาแล้วครับ โทรหาคุณแต่โทรไม่ติด ก็เลยโทรมาหาผม ให้ผมถามว่าจะกลับไปทานอาหารเมื่อไหร่ครับ”

เปปเปอร์มองมายมิ้นท์ “นายบอกเขาไปว่า คืนนี้ผมไม่กลับไปแล้ว”

ผู้ช่วยเหมันต์มองตามไปยังมายมิ้นท์ที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย ค่อยๆพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วครับ”

ก็ถูก คุณมายมิ้นท์เป็นแบบนี้ ประธานเปปเปอร์จะทอดทิ้งเธอไว้คนเดียวได้อย่างไร

อีกอย่างตอนนี้ในใจของประธานเปปเปอร์ก็คงเศร้าเสียใจมาก เพราะประธานเปปเปอร์เฝ้ารอ ลูกที่อยู่ในท้องคุณมายมิ้นท์อย่างมาก อยากจะบอกคุณมายมิ้นท์มาตลอด หวังว่าคุณมายมิ้นท์จะเก็บเด็กเอาไว้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทันได้พูด ก็ไม่มีเด็กแล้ว โชคชะตาเล่นตลกกับมนุษย์จริงๆ!

“อีกอย่าง” จู่ๆเปปเปอร์ก็นึกอะไรขึ้นได้ หันลำคอที่แข็งเกร็งไปมองเหมันต์ “สืบดูหน่อยว่าราเม็ง ลาเต้กับทามทอยสามคนนี้ ได้ไปที่ห้องยาในโรงพยาบาลหรือว่าห้องทดลองอะไรพวกนี้บ้างหรือเปล่า รวมถึงคนรอบข้างสามคนนี้ก็ต้องสืบทั้งหมดด้วย”

ต่อให้ทั้งสามคนนี้ไม่ได้ไปซื้อยาเอง ก็ต้องสั่งให้คนอื่นไปทำ

“เข้าใจครับ!” เหมันต์รู้ว่าเปปเปอร์สงสัยว่าสามคนนี้เป็นคนวางยาคุณมายมิ้นท์ ก็รีบรับคำสั่งทันที

ความจริงแล้ว ถ้าไม่ใช่ประธานเปปเปอร์สงสัย ตัวขาเองก็กำลังสงสัย

เพราะสามคนนี้ ล้วนรักและเสน่หาคุณมายมิ้นท์ ต่างก็รับไม่ได้ที่ในท้องของเธอจะมีลูกของผู้ชายอื่น

ผู้ช่วยเหมันต์ออกไปทำตามคำสั่ง

เปปเปอร์นวดคลึงขมับ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของมายมิ้นท์

ตอนที่เขาอุ้มมายมิ้นท์ออกมาเพื่อไปหาหมอ ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอติดมือมาด้วย

เปปเปอร์หยิบโทรศัพท์มือถือที่หัวเตียงมาดู ลาเต้สองคำนี้ก็ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ไม่หยุด

เปปเปอร์หยีตา

ลาเต้โทรมาทำอะไรตอนนี้

ไม่ต้องคิดอะไรมาก เปปเปอร์ก็ตัดสายลาเต้ทิ้งไปทันที

ปลายสายอีกด้านนั้น ลาเต้มองดูโทรศัพท์ถูกตัดสายอย่างตกใจชั่วครู่ “เกิดอะไรขึ้น ทำไมที่รักตัดสายผม”

แต่ไม่นาน ลาเต้ก็ตั้งสติได้ คิดว่ามายมิ้นท์อารมณ์ไม่ดีก็เลยตัดสาย คิดไปคิดมา จึงส่งข้อความไป ที่รัก อย่างเพิ่งท้อแท้เลยนะ พวกเราทำให้ส้มเปรี้ยวถูกคุมประพฤติได้ ต่อไปก็ต้องทำให้เธอเข้าคุกไปได้แน่นอน ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกเราก็คิดหาวิธีหาเรื่องให้ส้มเปรี้ยว ทำให้เธอทำผิดกฎหมายเข้าคุกไปเสียเองเป็นยังไง”

เมื่อเห็นข้อความนี้ เปปเปอร์ก็รู้ถึงจุดประสงค์ที่ลาเต้โทรมา เพราะคิดว่ามายมิ้นท์ไม่พอใจในกาคำตัดสินโทษของส้มเปรี้ยว ก็เลยอารมณ์ไม่ดี ดังนั้นจึงจะโทรมาถามไถ่เป็นพิเศษ

เปปเปอร์เม้มปาก แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับ

ทางฝ่ายลาเต้นั้นรออยู่หลายนาที ก็รู้ว่าคงจะไม่ได้ผล จึงถอนหายใจ ส่งข้อความต่อไปอีกว่า เอาเถอะ ดูท่าตอนนี้คุณอารมณ์ยังไม่กลับมาเป็นปกติ งั้นผมไม่รบกวนคุณแล้ว พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ผมจะไปหาคุณ ราตรีสวัสดิ์

ใครอยากจะเจอนาย