บทที่ 638 ช่วยตามหา

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 638 ช่วยตามหา

หลังจากได้ยินคำแนะนำจากเฉินเอ้อร์กั่ว เหลิ่งหยุนถอนหายใจคราหนึ่งและเอ่ย “ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นเดียวกับราชาวัว เป็นเด็กที่มีชีวิตขื่นขม”

“ช่างเถอะ หินที่แตกไปนั้นไม่ต้องชดใช้แล้วล่ะ”

“งูเขียวหางไหม้ แกไปเรียกใครสักคนให้จัดการเตรียมห้องพักให้แก่เขา”

“เอ้อร์กั่ว นี่ก็ดึกแล้ว คุณก็พักอยู่กับฉันที่นี่เถอะ”

จากร่างกายของเหลิ่งหยุน เขามองเห็นถึงแสงอันรุ่งโรจน์แห่งความรักของแม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเหลิ่งหยุนกล่าวอย่างอ่อนโยนเช่นนี้ เหมือนว่าเฉินเอ้อร์กั่วกำลังหลับฝันอย่างไรอย่างนั้น

เดิมทีเขาแทบรอไม่ไหวที่จะไปสนุกสนานที่สถานเริงรมย์ ทว่าตอนนี้เขาก็ล้มเลิกความคิดนี้ในทันใด

เป็นเสมือนกับคนเสเพลกลับใจอย่างไรอย่างนั้น อยากสัมผัสความอบอุ่นของบ้าน

แต่ทว่า สถานการณ์เช่นนี้ก็คงมีเพียงแค่หนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น

วันถัดมา เมื่อเวลาพลบค่ำ หัวใจที่ปั่นป่วนของเฉินเอ้อร์กั่วนั้นไม่สามารถทนได้อีกต่อไป

เขาไม่กล้าที่จะบอกลาเหลิ่งหยุน เกรงว่าจะทำร้ายหัวใจของเหลิ่งหยุน หลังจากลำบากใจอยู่เนิ่นนาน จากนั้นก็เอ่ยด้วยคำพูดถากถาง “น้องหยุน แกว่าสถานการณ์เช่นนี้พี่ใหญ่ของพวกเราเป็นคนริเริ่ม มีคนมากมายเข้ามา ทว่าตอนนี้เขากลับไม่ปรากฏตัว”

“เขานั้นไม่ปรากฏตัวก็ช่างเถอะ ฉันในฐานะสมาชิกของวิหารเทพ ในวลานี้ ควรจะออกหน้าในฐานะของผู้นำเสียหน่อยดีหรือไม่”

“ไม่ให้แขกเหล่านั้นกล่าวว่าพวกเราเป็นคนไร้มารยาท”

เหลิ่งหยุน “คุณจะทำอย่างไร?”

เฉินเอ้อร์กั่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันต้องการจะออกหน้าลงมือด้วยตัวเอง ในนามของวิหารเทพ ต้อนรับผู้ที่มีอำนาจเหล่านั้นเสียหน่อย”

เหลิ่งหยุนพยักหน้า “ฉันคิดว่ามันสมเหตุสมผล”

“ที่นี่ไม่ไกลจากสถานณ์เริงรมย์ ฉันคิดว่ายึดครองถนนเส้นนั้นทั้งสายและเชื้อเชิญเหล่าผู้มีอำนาจเหล่านั้นมาสร้างความสุขสำราญด้วยกันยังดีเสียกว่า”

เฉินเอ้อร์กั่วปรบมืออย่างตื่นเต้น “ศิษย์น้อง แกก็คิดเช่นนี้ใช่ไหม?”

“คิดเหมือนกับฉันเลย!”

เหลิ่งหยุนจ้องมองเฉินเอ้อร์กั่วด้วยสายตาเย้ยหยัน

จากนั้นเฉินเอ้อร์กั่วพบว่าตนเองนั้นหลงกลอุบายเข้าเสียแล้ว เดิมทีเหลิ่งหยุนเล่นไปตามน้ำกับคำพูดของเขา

“เอ่อคือ ศิษย์น้อง แกฟังฉัน—-”

“ไป ไสหัวไป ไป!”

“คุณคิดว่าฉันอยากจะให้คุณอยู่ที่นี่ต่องั้นสิ? ไปใช้ชีวิตสำมะเลเทเมาของคุณเถอะไป!”

เฉินเอ้อร์กั่วยิ้มและเอ่ย “งั้นฉันไม่เกรงใจแล้ว”

“ศิษย์น้อง แกอาจจะยุ่ง เมื่อถึงวันที่พี่ใหญ่กำหนดไว้ ฉันจะพาผู้มีอำนาจเหล่านั้นไปร่วมตัวกันที่เชิงเขาโทยามะด้วยตัวเอง”

“เมื่อถึงเวลาคนของเทพลักซ่อนไม่สามารถส่งพี่ใหญ่มาได้ ฮึฮึ ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นอย่างไร พวกเขาจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด”

“เฮยเจี่ย พวกเราไปกันเถอะ!”

เฉินเอ้อร์กั่วมาในครั้งนี้ เขาไม่ได้พาลูกน้องใต้บัญชาการมาด้วย มีเฮยเจี่ยเทพที่ร้ายกาจติดตามมาด้วย เขานั้นรู้สึกว่าตนนั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมากแล้ว

จนกระทั่งตอนนี้ องค์กรใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันที่เมืองโทยามะ และมีจำนวนไม่ต่ำกว่า50องค์กร

คนที่มานั้น นอกจากเสาหลักแล้วยังมีเหล่าพี่น้อง จำนวนผู้คนก็คงเกินกว่าสี่ร้อยคนแล้ว

พวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว ราชาเทพที่เป็นเจ้าภาพนั้นก็ยังไม่ปรากฏตัว แม้แต่ข่าวคราวเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่มี

ชายเหล่านี้ ไหนเล่าจะอารมณ์ดีเช่นนั้น? เห็นแก่หน้าของวิหารเทพจึงไม่กล้าก่อเรื่อง ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่เฝ้าคอยข่าวคราวอย่างเงียบๆในช่วงหลายวันมานี้

ตอนนี้ คนมากมายต่างก็เริ่มหมดความอดทนแล้ว

ถ้าหากยังไร้ซึ่งข่าวคราวอีก เช่นนั้นก็คงจะทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วและจะเริ่มทำตามใจตนเองแล้ว

นับว่ายังโชคดี ในตอนนี้มีข่าวที่น่าเชื่อถือได้ปรากฏขึ้น

หนึ่งในสิบสองราชาแห่งวิหารเทพ ราชาหมาผู้โด่งดัง เฉินเอ้อร์กั่ว ได้มายังมูแลงรูจสถานเริงรมย์

ในบรรดาสิบสองราชา ราชาหมานับได้ว่าค่อนข้างมีชื่อเสียง โดยปกติแล้วแวดวงเพื่อนนั้นกว้างขวาง

หลายคนที่มาที่นี่ มีคนมากมายที่เป็นพี่น้องคอยกินและดื่มกับเฉินเอ้อร์กั่ว

เรื่องเหล่านี้ละทิ้งไม่เอ่ยถึง ทีมโล่ฟ้าที่ควบคุมโดยเฉินเอ้อร์กั่ว เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก บอดี้การ์ดภายในสังกัดผ่านการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ มีจำนวนไม่ต่ำกว่าสามพันคน

เพียงแค่อาศัยพละกำลังและอิทธิพลนี้ สถานะของเฉินเอ้อร์กั่วก็สามารถสังหารองค์กรหลายองค์กรภายในโลกได้ในทันที

ผู้คนต่างกรูกันไปรวมตัวที่มูแลงรูจ ชั่วขณะหนึ่ง ภายในร้านก็อัดแน่นเบียดเสียดไปด้วยผู้คน เหล่าหญิงสาวและบริกรภายในลานเต้นรำต่างตกตะลึงจนน้ำตารินไหล

เมื่อเฉินเสี่ยวอี้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็จ้องมองด้วยความตกตะลึงเช่นกัน

ในขณะนี้ เฉินเอ้อร์กั่วตบไหล่เขาและเอ่ย “เหล่าพี่ชาย ช่วยฉันด้วย”

“ช่วยฉันจองสถานเริงรมย์ตลอดทั้งเส้นถนนนี้ จัดหาอาหารและเครื่องดื่มไม่อั้น ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

“ทั้งหมดนั้นคิดเงินกับวิหารเทพได้เลย”

วิหารเทพ?

เมื่อรู้ว่าเฉินเอ้อร์กั่วเป็นราชาหมาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เฉินเสี่ยวอี้คุกเข่าลงในทันที คำก็เรียกพี่กั่ว อีกคำก็เอ่ยเรียกอย่างสนิทสนม

งานรื่นเริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

สถานเริงรมย์ตลอดทั้งเส้นถนนนี้ ร้านเต้นรำและร้องเพลงหลายสิบแห่ง โรงแรมอีกหลายสิบแห่ง ทั้งหมดนั้นถูกจองไว้โดยวิหารเทพ

ภายใต้การเป็นเจ้าภาพของเฉินเอ้อร์กั่ว องค์กรที่มาจากทั่วทุกมุมโลกรวมถึงเหล่าผู้มีอิทธิพลและอำนาจ ต่างร่วมร้องเพลงและเต้นรำไปด้วยกัน

โดยปกติแล้วความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นมีความแค้นต่อกันมากมาย ก่อนหน้านี้ที่มายังโทยามะ เหตุผลที่ไม่กล้าพบหน้ากันเป็นเพราะว่าเกรงกลัวว่าจะโดนอีกฝ่ายลอบสังหาร

ในตอนนี้ วิหารเทพเป็นเจ้ามือ!

ราชาหมาเป็นเจ้าภาพในสถานการณ์อันยิ่งใหญ่นี้!

ใครกล้าใช้มีดในสถานที่แห่งนี้ นั่นเท่ากับว่าเป็นการไม่ไว้หน้าวิหารเทพ เท่ากับเป็นการตบหน้าพี่กั่ว!

ดังนั้นในขณะนี้ทุกคนจึงละทิ้งความแค้นเคืองทุกอย่างที่มีต่อกันอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อก่อนยามได้พบหน้ากัน ผู้คนก็จะชักมีดออกมาและลั่นไกปืน ตอนนี้ภายใต้การกระตุ้นของแอลกอฮอล์ พวกเขาโอบไหล่กอดคอและกลายเป็นพี่น้องกัน

นี่คืองานรื่นเริงของอาณาจักรโลกมืด

เมื่อเป็นเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเทพลักซ่อนจะอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ทว่าก็สามารถทอดถอนหายใจได้อย่างโล่งอก

เมื่อเทียบกับการที่คนเหล่านี้คอยหลบซ่อนตัวอยู่ทั่วทั้งเมืองโทยามะ ตอนนี้คนเหล่านั้นได้รวมตัวอยู่ด้วยกันแล้ว พวกเขาสามารถควบคุมกองกำลังได้แล้ว

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจะยังหาตัวราชาเทพไม่พบ แต่ทว่าเฉินเอ้อร์กั่วได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว ตอนนี้พวกเขาเองก็มีเป้าหมายแล้ว

นั่นก็คือการจัดการเฉินเอ้อร์กั่ว

ด้วยเหตุนี้ ซาโต้และกัปตันอีกสองสามคนจำเป็นต้องละทิ้งสถานะของตน เข้าร่วมงานรื่นเริงของสถานบันเทิงและร่วมดื่มกับทุกคน

หลังจากดื่มติดต่อกันหลายวัน ซาโต้คิดว่าเขาและเฉินเอ้อร์กั่วนั้นสนิทและคุ้นเคยกันมากแล้ว

เมื่อเห็นว่าระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ราชาเทพได้นัดหมายไว้กำลังจะมาถึงแล้ว เขาใช้โอกาสในขณะที่เฉินเออร์กั่วกำลังเมามาย หยั่งเชิงถามถึงข่าวคราว

ดูเหมือนว่าเฉินเอ้อร์กั่วนั้นจะเมาจริง เขาโอบไหล่ของซาโต้ สายตาเลื่อนลอย เอ่ยทุกอย่างภายในใจอย่างไม่ปิดบัง

“ข้าจะบอกเอ็งให้ ครั้งนี้ที่พี่ใหญ่ของพวกข้าเรียกรวมตัวผู้คนมากมายเช่นนี้ เป็นเพราะมีเรื่องสำคัญให้ต้องจัดการ!”

“เป็นเรื่องอะไรนั้น สามวันให้หลัง เชิงเขาโทยามะ เมื่อเขามาแล้วเอ็งก็จะรู้เอง”

จิตใจของซาโต้สั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนก “คุณหมายความว่าอีกสามวันให้หลังราชาเทพจะปรากฏตัวงั้นหรือ?”

เฉินเอ้อร์กั่วเรอออกมา เอ่ยด้วยดวงตาแดงก่ำ “พี่ใหญ่ของพวกเรา มาอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว”

“แต่ตอนนี้ ฉันหาเขาไม่พบ”

“ถ้าหากสามวันให้หลังเขาไม่ปรากฏตัว เช่นนั้นฉันก็ไม่สามารถควบคุมคนเหล่านี้ได้ เมื่อถึงเวลานั้น เหล่าพี่น้อง พวกนายก็จงพยายามแสวงหาความสุขให้ได้ด้วยตัวเองล่ะ”

“ถ้าหากพวกนายคิดว่าพวกนายนั้นมีพละกำลัง ตอนนี้สามารถลงมือได้ เช่นนั้นก็จับกุมคนเหล่านี้ทั้งหมดเสีย”

“ในอันดับแรก พวกนายจะต้องเตรียมการให้พร้อม สังคมโลกมืด เอาคืนประเทศพวกนายแน่”

ใบหน้าของซาโต้เขียวคล้ำ เขารีบพูดด้วยความตื่นตระหนก “หัวหน้าได้กล่าวไว้ หากไร้เหตุสุดวิสัย ไม่สามารถลงมือได้!”

“วิธีที่ดีที่สุดคือหลังจากที่พวกคุณเฉลิมฉลองวันเกิดกันแล้วก็ให้กลับไปอย่างปลอดภัย”

“พวกเราต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน!”

เฉินเอ้อร์กั่ว “ก็ไม่ใช่ว่าไม่สามารถเป็นไปได้ ประการแรกคือพี่ใหญ่ของเราจะปรากฏตัวได้ทันเวลา”

“นายรู้ไหม? คนเหล่านี้ อันที่จริงก็มาเพื่อพี่ใหญ่ของพวกเรา…อึก!”

ซาโต้แทบจะร้องไห้ กัดฟันแน่น พูดด้วยน้ำเสียงที่เกือบจะอ้อนวอน “ราชาหมา สามารถบอกได้หรือไม่ พี่ใหญ่ของพวกคุณคือใครกันแน่?”

“พวกเราสามารถช่วยตามหาได้!”