แดนนิรมิตเทพ บทที่ 721
เฉินโม่นั่งอยู่โต๊ะเดิม จี๋ต๋าจิ่วตูด่าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “คนถ่อยพวกนี้ พวกเขาตั้งใจกลั่นแกล้งไอ้เบื๊อกเฉิน!”

ห่าวเจี้ยนกะพริบตา และถามด้วยความระมัดระวัง “แล้วพวกเราจะทำอย่างไร? พวกเราจะไปช่วยเขาดีไหม?”

เหวินถิงอี้ยืดอกตรงและกล่าวด้วยสีหน้าโมโหว่า “คนโบราณกล่าวว่าเมื่อผ่านพบเรื่องไร้ความอยุติธรรม ต้องควักดาบออกมาช่วยเหลือ ยิ่งไปกว่านั้น เฉินโม่ยังเป็นรูมเมทของพวกเราด้วย!”

เจี่ยจวินซื่อเหลือมองพวกเขาและด่าว่า “จะรีบร้อนทำไม? รอดูก่อน!

เล่หรูหั่วขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น เธอเหลือบมองนักศึกษาสองคนด้วยความรังเกียจ แม้แต่เสิ่นเจี้ยนเหวินก็ถูกเธอทำเครื่องหมายว่ารังเกียจอยู่ในใจ

สีหน้าของเจียงเสวี่ยเต็มด้วยความเยาะเย้ย เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วมองเฉินโม่ด้วยความเหยียดหยาม

สายตาของเสิ่นเจี้ยนเหวินมีความลำพองใจที่ยากจะสังเกตเห็น เขากล่าวด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “เฮ้อ อย่าพูดเช่นนั้น พวกเราทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกัน การที่พวกเราสามารถเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันถือว่าเป็นวาสนาแล้ว ถึงแม้ว่าฐานะครอบครัวของเขาจะไม่ดี แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าอาย”

นักศึกษาคนอื่น ๆ มองเสิ่นเจี้ยนเหวินด้วยความชื่นชมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพวกผู้หญิง พวกเธอรู้สึกว่าเสิ่นเจี้ยนเหวินเป็นสุภาพบุรุษ

เจียงเสวี่ยเป็นคนที่อยู่ใกล้เสิ่นเจี้ยนเหวินมากที่สุด เธอได้รับอิทธิพลความเหนือกว่าที่เสิ่นเจี้ยนเหวินแสดงออกมามากที่สุด ยิ่งอยู่สายตาที่เธอมองเสิ่นเจี้ยนเหวินยิ่งอ่อนโยนมากขึ้นเรื่อย ๆ

เจียงเสวี่ยคิดอยู่ในใจว่า “คุณชายเสิ่นไม่เพียงร่ำรวยเท่านั้น แต่ฐานะครอบครัวยังดี หน้าตาหล่อเหลา นิสัยสุภาพอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษ เป็นเจ้าชายในฝันของผู้หญิงทุกคนจริง ๆ

เจียงเสวี่ยมองเฉินโม่ที่อยู่ข้างเล่หรูหั่วอีกครั้ง และขมวดคิ้วทันที เธอยิ่งรู้สึกรังเกียจเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

“ไม่เหมือนผู้ชายบางคน อาศัยว่าลัทธินอกรีด แล้วพูดจาโอ้อวดไปทั่ว แถมยังเป็นคนใจคอคับแคบ เมื่อเทียบกับคุณชายเสิ่นแล้ว ไม่สามารถเทียบอะไรได้เลย”

สีหน้าของพวกจี๋ต๋าจิ่วตูที่อยู่ไม่ไกล เต็มไปด้วยความรู้สึกแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม จี๋ต๋าจิ่วตูพ่นลมออกมาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “เสิ่นเจี้ยนเหวินแกล้งทำเป็นออกหน้าพูดแทนไอ้เบื๊อกเฉิน แต่ความจริงแล้วเขากำลังเยาะเย้ยว่าไอ้เบื๊อกเฉินเป็นคนยากจน ฮึ่ม คนถ่อย!”

ห่าวเจี้ยนไม่ได้หักล้างคำพูดของจี๋ต๋าจิ่วตู เขาขยับแว่นตาและจ้องเสิ่นเจี้ยนเหวินด้วยสายตาดุดันเหมือนงูพิษ “ไอ้อ้วน นายพูดถูก เขาเป็นคนถ่อยจริง ๆ!”

จี๋ต๋าจิ่วตูตบไหล่ห่าวเจี้ยนเบา ๆ ด้วยความซาบซึ้งและกล่าวว่า “เพื่อนรัก!”

ห่าวเจี้ยนกล่าวเสริมทันทีว่า“ แต่เขาร่ำรวยกว่านายจริง ๆ!”

จี๋ต๋าจิ่วตู “……”

เฉินโม่นั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเย็นชา สายตาของเขาจับจ้องเล่หรูหั่วเสมอ ราวกับเขาทำเหมือนพวกเสิ่นเจี้ยนเหวินเป็นอากาศ

เมื่อเห็นว่าเฉินโม่ไม่โกรธ เสิ่นเจี้ยนเหวินด่าอยู่ในใจว่า “เจ้าเด็กคนนี้รู้จักเจียมตัว ถ้าหากเขากล้าตอบโต้ ฉันก็สามารถใช้โอกาสนี้ไล่เขาออกไป!”

แต่ตอนนี้เฉินโม่ไม่สนใจเสิ่นเจี้ยนเหวิน ทำให้เสิ่นเจี้ยนเหวินไม่สามารถทำอะไรเขาได้

เสิ่นเจี้ยนเหวินทำได้เพียงละความสนใจจากเฉินโม่ แล้วเปลี่ยนไปสนใจเล่หรูหั่วแทน เขารู้สึกว่าในเมื่อเล่หรูหั่วสามารถพูดคุยกับเฉินโม่ได้ และพวกเขาพูดคุยด้วยความสนุกสนาน ถ้าเช่นนั้นเล่หรูหั่วคงจะปฏิบัติกับเขาไม่ด้อยไปกว่าเฉินโม่อย่างแน่นอน

“เล่หรูหั่ว ผมขอนั่งตรงนี้ได้ไหม?” เสิ่นเจี้ยนเหวินยกแก้วขึ้นมาแล้วยิ้มให้เล่หรูหั่ว

เล่หรูหั่วเหลือบมองเขาเบา ๆ และยิ้มเล็กน้อย “ขอโทษด้วย ที่นี่ค่อนข้างแออัด รบกวนคุณชายเสิ่นไปนั่งตรงที่ว่างทางโน้นเถอะ!”

นี่เป็นการปฏิเสธ!

เพื่อนนักศึกษาต่างรู้สึกตกตะลึง เล่หรูหั่วไม่ปฏิเสธเฉินโม่ แต่กลับปฏิเสธเสิ่นเจี้ยนเหวิน!

นี่มันอะไรกันแน่?