บทที่ 1395 ขับไล่สามผู้อมตะระดับเจ็ด

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

มันอยู่ในรูปลักษณ์ของแรดขนาดเท่าฝ่ามือของฟางหยวน

 

ฟางหยวนรู้สึกถึงน้ำหนักของมัน

 

มันคือวิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งกฎ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้!

 

วิญญาณอมตะเป็นกำไรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวนในการเดินทางครั้งนี้

 

ด้วยสถานะผู้นำนิกายเงา ฟางหยวนสามารถปรับแต่งมันได้อย่างง่ายดาย

 

สำหรับวิญญาณอมตะอีกดวง มันเป็นวิญญาณอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปฐพีที่เรียกว่าทรายเหลือง

 

วิญญาณอมตะระดับเจ็ดจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และวิญญาณอมตะระดับหกทรายเหลืองรวมถึงวิญญาณระดับมนุษย์อีกมากมายเรียงตัวเป็นค่ายกลวิญญาณสายป้องกัน

 

เมื่อฟางหยวนเก็บวิญญาณทั้งหมดเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ค่ายกลวิญญาณจึงพังทลายลง

 

ฟางหยวนเพ่งจิตเข้าไปในเมืองศพ

 

ภายในคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์หลังนี้มีทรัพยากรอมตะอยู่มากมาย

 

สิ่งล้ำค่าที่สุดคือความกล้าหาญของจันทราศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดที่ก่อตัวเป็นดวงจันทร์ลอยอยู่กลางอากาศมานับหมื่นปี

 

สิ่งนี้ไม่สามารถประเมินค่า

 

เพราะมันหายากมาก กระทั่งผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่ก็ไม่เคยพบเห็น

 

ทรัพยากรที่มีมากที่สุดคือทรัพยากรอมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งไม้ มันถือกำเนิดขึ้นในทะเลทรายผีดุ

 

“นี่แสดงให้เห็นถึงรากฐานที่ยิ่งใหญ่ของนิกายเงา!”

 

“น่าเสียดาย เพื่อหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ พวกเขาลงทุนไปมาก หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน กองกำลังที่เหลืออยู่ของพวกเขาตกเป็นเป้าหมายของเจตจำนงสวรรค์รวมถึงข้า”

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

อิงอู๋เซี่ยไปเยี่ยมสาขาอื่นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

 

เหลือเพียงทรัพยากรของทะเลทรายตะวันตกเท่านั้นที่ตกอยู่ในมือของฟางหยวน

 

นี่คือโชคลาภชิ้นสุดท้ายที่นิกายเงามี

 

ในถ้ำใต้พิภพเทพธิดาเมี่ยวหยินและฟางหยวนรออยู่ชั่วครู่

 

หลังจากไม่นานหญิงชุดคลุมขาวก็เดินเข้ามา นางก็คือเทพธิดามังกรไป่หนิงปิง

 

นางจับเชลยเอาไว้ในมือด้วยการแสดงออกที่เย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง

 

เชลยผู้นี้ไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเทพธิดาซุ้ยป๋อ

 

ตอนนี้นางกลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็ง ดวงตาของนางปิดสนิท ร่างกายของนางไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

ไป่หนิงปิงจับเทพธิดาซุ้ยป๋อที่ยังมีชีวิตอยู่

 

ผลลัพธ์นี้ทำให้เทพธิดาเมี่ยวหยินรู้สึกยกย่องไป่หนิงปิงขณะที่ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

แม้ไป่หนิงปิงจะเป็นผู้อมตะระดับหกแต่นางครอบครองพลังการต่อสู้ระดับเจ็ดที่แท้จริง

 

สุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดช่วยสนับสนุนมรดกที่แท้จริงไป่เซียงให้สามารถแสดงประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกหลายเท่า

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือไป่หนิงปิงไม่กลัวตาย นางเป็นคนที่มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ

 

ย้อนกลับไปที่ภาคใต้ นางต่อสู้กับผู้อมตะระดับเจ็ดสามคนพร้อมกันและนางยังสามารถสังหารสองคนขณะที่คนสุดท้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ผลลัพธ์นี้น่าเหลือเชื่อมาก ตอนนี้นางเป็นรองเพียงฟางหยวนเท่านั้น

 

‘แม้เราจะสามารถจับกุมเทพธิดาซุ้ยป๋อ แต่ข้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนกลืนกินมิติช่องว่างของนาง’ ฟางหยวนคิด

 

ประการแรก สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยปราณพิภพแต่ปราศจากปราณสวรรค์ มันไม่เหมาะที่จะวางมิติช่องว่างลง

 

ก่อนหน้านี้ยุงอสูรกลายเป็นทราย ทั้งมิติช่องว่างและซากศพของเขาไม่มีค่าอีกต่อไป

 

ตอนนี้ฟางหยวนยังไม่หิว มันยังไม่ถึงเวลาให้อาหารร่างทารกอมตะ

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือเทพธิดาซุ้ยป๋อเกี่ยวข้องกับบรรพชนพันเปลี่ยนแปลง ฟางหยวนสามารถใช้นางเพื่อต่อต้านแผนการของเจตจำนงสวรรค์

 

“เมื่อเจ้าเป็นคนจับนาง เจ้าสามารถเก็บนางไว้ในมิติช่องว่างของเจ้า” ฟางหยวนกล่าวกับไป่หนิงปิง

 

ไป่หนิงปิงพยักหน้า

 

นางไม่สามารถหันหลังกลับ ตอนนี้นางถูกไล่ล่าโดยวังสวรรค์และผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาคใต้ นางยังต้องการความช่วยเหลือจากนิกายเงาเพื่อหลอมรวมวิญญาณ

 

ไห่ลั่วหลันกลับมาแล้วเช่นกัน

 

มีร่องรอยของเลือดติดอยู่บนร่างของนาง “เด็กชายขนนกถูกเผ่าเป็นเถ่าถ่าน มิติช่องว่างของเขาถูกทำลายเช่นกัน นอกจากนี้การต่อสู้ยังดึงดูดกลุ่มผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตก แต่ข้าไม่ได้ต่อสู้กับพวกเขาและกลับมาทันที กลิ่นอายของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ธรรมดา”

 

ฟางหยวนพยักหน้า

 

แม้ไห่ลั่วหลันจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะได้ไม่นาน แต่นางมีความเข้าใจและสัญชาตญาณที่เฉียบคมมาก

 

การประเมินของนางไม่ควรผิดพลาด กลุ่มผู้อมตะเหล่านั้นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

 

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก

 

กองกำลังพันธมิตรผีดิบของทะเลทรายตะวันตกเคยเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องปกติที่ผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกจะออกค้นหาสมบัติที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอกจากนั้นอย่าลืมว่าเจตจำนงสรรค์อยู่ที่นี่และพยายามสร้างปัญหาให้กับพวกเขา

 

“เราจะไปเดี๋ยวนี้” ฟางหยวนกล่าวแต่ในจังหวะนี้สามร่างกลับปรากฎขึ้นจากด้านซ้าย ด้านขวา และด้านบน

 

“สหาย พวกเจ้ากำลังฝันไปหากต้องการออกจากที่นี่หลังจากได้รับมรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ” ผู้อมตะที่ดูอ่อนเยาว์และมีขนสีรุ้งจากด้านซ้ายหัวเราะ

 

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งทาส เทพไก่ฟ้า

 

“พวกเจ้าสามารถจากไปแต่พวกเจ้าต้องทิ้งมรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบไว้ให้พวกเรา” ผู้อมตะหญิงในชุดคลุมโบราณสีขาวและปิดใบหน้าไว้ด้วยม่านผ้ากล่าว

 

นางเป็นหญิงงามที่มีชื่อเสียงของทะเลทรายตะวันตก สถานะของนางเทียบเท่ากับเฉียวซื่อหลิวและเทพธิดาเมี่ยวหยิน นางถูกเรียกว่า เทพธิดาอูฐ

 

ด้านขวาคือผู้อมตะชายที่มีเคราและเปลือยหน้าอก เขามีผิวสีทองแดงและดูทรงพลังมาก

 

เขามาจากตระกูลตงซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังใหญ่ของทะเลทรายตะวันตก

 

ตงลี่เฟิง ผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งวายุที่มีความสามารถในการตรวจสอบ

 

‘ภาคใต้สอง ภาคเหนือหนึ่ง และทะเลทรายตะวันตกอีกหนึ่ง เหตุใดพวกเขาถึงสามารถรวมกลุ่ม?’ ตงลี่เฟิงขมวดคิ้ว

 

ฟางหยวนมีร่างทารกอมตะที่สามารถเปลี่ยนกลิ่นอาย ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะของทะเลทรายตะวันตกไปแล้ว ไห่ลั่วหลันเป็นผู้อมตะภาคเหนือ ขณะที่ไป่หนิงปิงและเทพธิดาเมี่ยวหยินเป็นผู้อมตะภาคใต้

 

ผู้อมตะต่างภูมิภาคมักจะถูกต่อต้าน

 

นอกจากทะเลตะวันออก ผู้อมตะอีกสี่ภูมิภาคมักเกลียดชังบุคคลภายนอก เมื่อพวกเขาพบคนต่างถิ่น พวกเขามักจะต่อสู้

 

ไม่ว่าจะเป็นเทพไก่ฟ้า เทพธิดาอูฐ หรือตงลี่เฟิง พวกเขาต่างแสดงออกด้วยความรังเกียจ

 

สิ่งสำคัญคือกลุ่มของฟางหยวนได้รับมรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบที่พวกเขาต้องการ

 

“พวกเขามาจากภูมิภาคอื่น พวกเราควรละทิ้งความขัดแย้งและร่วมมือกันกำจัดคนนอกก่อน!”

 

“ถูกต้อง มรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแห่งทะเลทรายตะวันตกเป็นของคนท้องถิ่น แต่ตอนนี้คนนอกกลับขโมยสมบัติของพวกเรา!”

 

“ส่งมรดกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบมาแล้วพวกเราจะไว้ชีวิตพวกเจ้า!”

 

ผู้อมตะทั้งสามลอบสื่อสารกันและตะโกน

 

“ระวัง สองคนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด อีกสองเป็นผู้อมตะระดับหก”

 

“สองผู้อมตะระดับหกไม่ธรรมดา กลิ่นอายของพวกเขาแปลกมาก”

 

“เจ้าหนูระดับเจ็ดผู้นั้นดูค่อนข้างคุ้นเคย ข้าเคยเห็นเขาจากที่ใด…หือ!?”

 

รูม่านตาของตงลี่เฟิงหดเล็กลงขณะที่เขาตระหนักถึงอัตลักษณ์ของฟางหยวน

 

ฟางหยวนอยู่ในร่างจริงของเขา เนื่องจากเขาถูกติดตามตัวตลอดเวลาขณะที่ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยต้องใช้พลังงานอมตะและพลังจิต ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจหยุดปกปิดตัวตนเพราะมันไร้ประโยชน์

 

‘เขาคือหลิวกวนซื่อ!’ ตงลี่เฟิงคิดด้วยความตกใจและเร่งล่าถอยทันที

 

เขาหมุนตัวและจากไปอย่างรวดเร็ว

 

เทพธิดาอูฐและเทพไก่ฟ้าตะลึง

 

เกิดสิ่งใดขึ้น?

 

ก่อนหน้านี้พวกเขายังเต็มไปด้วยความมั่นใจและตั้งใจที่จะต่อสู้ พวกเขากระทั่งวางกลยุทธ์ในการต่อสู้เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้ตงลี่เฟิงกลับหลบหนีไปอย่างกะทันหัน?

 

เขาถูกโจมตีโดยท่าไม้ตายที่แปลกประหลาดจากศัตรูหรือไม่?

 

หรือ..เขาถอยด้วยความตั้งใจของตนเอง?

 

“เดี๋ยว!” การแสดงออกของเทพธิดาอูฐเปลี่ยนไปในเวลานี้ นางตระหนักถึงตัวตนของหลิวกวนซื่อในที่สุด

 

หลังการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน ชื่อเสียงของหลิวกวนซื่อกระจายไปทั้งห้าภูมิภาค รูปลักษณ์ของเขาเป็นที่รู้จักของผู้อมตะทั้งหมด

 

ภาคเหนือได้รับข้อมูลมากที่สุดขณะที่ภาคกลางก็รู้มากเพราะวังสวรรค์มีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนั้น

 

สำหรับอีกสามภูมิภาค บางคนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของหลิวกวนซื่อ แต่บางคนเพียงได้ยินเรื่องเล่าเท่านั้น

 

ในความคิดของพวกเขาหลิวกวนซื่อเป็นผู้อมตะของภาคเหนือ เขาไม่ได้อยู่ในภูมิภาคเดียวกับพวกเขา

 

เช่นเดียวกับก่อนหน้าที่เทพธิดาซุ้ยป๋อไม่รู้จักฟางหยวนและจบลงด้วยการตกเป็นเชลย

 

เทพธิดาอูฐอ้าปากค้าง

 

เหตุใดนางต้องอยู่ต่อ?

 

นางหลบหนีทันที!

 

หลิวกวนซื่อสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปด แล้วนางจะต่อสู้กับคนเช่นนี้ได้อย่างไร? การหาเรื่องเขาก็คือการรนหาที่ตาย!

 

ในเวลาเดียวกันเทพธิดาอูฐก็ก่นด่าตงลี่เฟิงอยู่ในใจ เขาวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่แจ้งเตือนคนอื่นๆแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตามหากเป็นเทพธิดาอูฐที่ค้นพบตัวตนของฟางหยวนเป็นคนแรก นางก็จะทำเช่นเดียวกับตงลี่เฟิง

 

ในการหลบหนี นอกจากพวกเขาต้องรวดเร็วกว่าศัตรู สิ่งสำคัญอีกประการก็คือพวกเขาต้องรวดเร็วกว่าพันธมิตร

 

เทพไก่ฟ้ามึนงง

 

เทพธิดาอูฐหลบหนีไปด้วย!?

 

โอ้ ไม่!

 

เทพไก่ฟ้ารู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ แม้เขาจะไม่เข้าใจ แต่ด้วยประสบการณ์ชีวิต เขาสามารถตอบสนองทันที

 

ร่างของเขาสั่นสะท้านขึ้นขณะที่เขาบินออกไปราวกับสายฟ้า เขากระทั่งรวดเร็วกว่าเทพธิดาอูฐผู้งดงาม

 

ก่อนที่ฟางหยวนจะทำสิ่งใด ผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งสามของทะเลทรายตะวันตกก็หลบหนีไปแล้วด้วยความหวาดกลัวเรียบร้อยแล้ว

 

ฟางหยวนมองขึ้นไปด้านบนและหัวเราะเย้ยหยัน

 

แม้เจตจำนงสวรรค์จะวางแผนไว้ แล้วอย่างไร?

 

ตราบเท่าที่ฟางหยวนแข็งแกร่งพอ ไม่ว่าผู้ใดจะถูกปั่นหัว สัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของพวกเขาก็จะเข้าแทนที่ในช่วงเวลาสำคัญ

 

ก่อนหน้านี้เขาต้องหลบหนีไปรอบๆภาคใต้ นั่นเป็นเพราะศัตรูของเขาแข็งแกร่งเกินไป

 

แต่ในความเป็นจริงผู้อมตะระดับเจ็ดทั่วไปไม่สามารถเผชิญหน้ากับฟางหยวนได้โดยตรง!