ตอนที่ 390 มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เจ้า / ตอนที่ 391 ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร ข้าก็ชอบ

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 390 มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เจ้า

 

 

“โง่จริงๆ เจ้าทำกับตัวเองถึงขนาดนี้ ไปหาตระกูลโจวก็ได้ ข้ารับมือไหว ข้าอยากให้เจ้ามีความสุข”

 

 

“งั้นก็ส่งข้ากลับจิงเฉิงเสียเลยสิ”

 

 

“ไม่ได้ อย่าหวังเลย”

 

 

“ก็ใช่สิ เฉินหรง ข้ารู้สภาพของเจ้า เราจับมือกันแก้ปัญหา ข้าไม่ใช่คนที่ทนเจ็บไม่ได้ สำหรับข้าแค่นี้ไม่เป็นไร เจ้าเสี่ยงชีวิตเพื่อข้าตั้งหลายครั้ง ไม่โง่หรอกหรือ”

 

 

“ข้าเป็นผู้ชาย การปกป้องเจ้าเป็นเรื่องธรรมดา” ฟู่เฉินหรงจับมือซูจิ่วซือ แววตาเต็มไปด้วยความสงสาร

 

 

จิ่วซือเงยหน้าขึ้น แววตาอ่อนโยน “บางครั้งข้าก็ปกป้องเจ้าได้”

 

 

“จิ่วซือ เจ้า…”

 

 

“ข้าไม่ใช่คนไร้ความสามารถ เจ้าเคยบอกข้าไว้ เจ้าไม่ยอมเสียเปรียบใคร ข้าก็เหมือนกัน เจ็บแค่นี้แลกกับตระกูลมู่ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เฉินหรง ข้าไม่เป็นไรจริงๆ”

 

 

ฟู่เฉินหรงเป็นห่วงซูจิ่วซือ หนทางที่เขาเดินเต็มไปด้วยอันตราย ซูจิ่วซือเคียงข้างเขาเผชิญกับอันตรายนับครั้งไม่ถ้วน พอเห็นนางเจ็บปวด เขาก็ละอายใจ

 

 

ซูจิ่วซือไม่ปล่อยให้เขาคิดอย่างนี้ รีบพูดขึ้น “ข้าต้องการตำแหน่งพระชายารัชทายาท พอถึงตอนนั้นเจ้าต้องมอบให้ข้าเป็นการชดเชย”

 

 

ฟู่เฉินหรงลูบหัวซูจิ่วซือ “ตำแหน่งนั้นเป็นของเจ้าอยู่แล้ว ข้ามอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เจ้า จึงจะเป็นการชดเชย ไม่สิ รวมทั้งตัวข้าด้วย”

 

 

ซูจิ่วซือหัวเราะ “ข้าจะรอวันนั้น”

 

 

ฟู่เฉินหรงมองซูจิ่วซือ จับมือนางไว้แน่น สิ่งที่เขาจะชดเชยให้ซูจิ่วซือก็คือความรักชั่วชีวิต เขาจะใช้ความรักนี้ชดเชยความเจ็บปวดของซูจิ่วซือ

 

 

รอให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปแล้ว เขาจะไม่ยอมให้ซูจิ่วซือได้รับความเจ็บปวดอีก

 

 

ซูจิ่วซือพอถึงตอนนี้จึงนึกขึ้นได้ว่าเสื้อนอกของตนยังคลุมอยู่บนไหล่ นางเบนหน้าหนีอย่างขวยเขิน “เฉินหรง เจ้าออกไป ข้าจะใส่เสื้อ”

 

 

“ข้าช่วยเจ้า”

 

 

ฟู่เฉินหรงพูดอย่างหน้าไม่อาย

 

 

“ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไป ต้องรักษาแบบแผน”

 

 

“นั่นใช้กับคนอื่น ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดอย่างนั้น” ฟู่เฉินหรงมองซูจิ่วซือด้วยความเอ็นดู “จิ่วซือ ให้ข้าช่วย”

 

 

“แต่…”

 

 

ฟู่เฉินหรงเอามือปิดปากซูจิ่วซือ “ถือว่าให้ข้าฝึกไว้ก่อนว่าจะดูแลเจ้าอย่างไร”

 

 

พูดจบไม่รอให้ซูจิ่วซือพูดต่อ เขาเอาเสื้อนอกสวมให้ซูจิ่วซืออย่างเบามือ เขาไม่กล้าทำแรง เกรงว่าถ้าไม่ระวังอาจจะทำให้ซูจิ่วซือเจ็บ จึงทำอย่างช้าๆ เงอะงะ ใส่เสื้อนอกตัวเดียวใช้เวลาตั้งนาน สุดท้ายจึงช่วยซูจิ่วซือรัดสายคาดเอว

 

 

ซูจิ่วซือรู้สึกเหมือนหัวเราะไม่ได้ร่ำไห้ไม่ออก “ใส่เสี้อตัวเดียวต้องใช้เวลานานอย่างนี้หรือ”

 

 

“ข้ากลัวเจ้าเจ็บ”

 

 

“ข้าไม่เจ็บ”

 

 

“ปากแข็ง” ฟู่เฉินหรงถอนหายใจเบาๆ “อยู่กับข้าอย่าอวดเก่ง เจ็บก็บอก ปากแข็งอย่างนี้ ข้าเป็นห่วง”

 

 

ฟู่เฉินหรงพูดจบก็ดึงซูจิ่วซือไปนั่งที่ขอบเตียง ซูจิ่วซือเอนตัวพิงไหล่ฟู่เฉินหรง

 

 

เดิมทีนางเป็นคนเข้มแข็ง ไม่รู้จักเผยความอ่อนแอ ซูหลิ่วตอนที่เป็นสาวรุ่นเคยอ้อนพ่อแม่ แต่พอแต่งงานแล้ว นางไม่เคยอ้อนอีกเลย

 

 

กู้เหยี่ยนไม่ใช่คนที่จะทำให้นางอ้อน เวลาอยู่ต่อหน้ากู้เหยี่ยนนางจะเคร่งครัดมาก

 

 

นางเคยคิดว่าทำอย่างนี้จึงจะเป็นภรรยาที่ดี หลังจากรู้จักฟู่เฉินหรงจึงรู้ว่าไม่ใช่ หลังจากความรักของทั้งสองลึกซึ้งขึ้น เวลาที่อยู่กับฟู่เฉินหรงนานครั้งนางจึงแสดงความอ่อนโยนอ่อนแอและพึ่งพิงเขา

 

 

ความรู้สึกอย่างนี้ นางไม่เคยเกิดกับคนอื่น

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 391 ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร ข้าก็ชอบ

 

 

“ข้าก็เป็นอย่างนี้แหละ”

 

 

“วันหลังไม่ต้องเป็นอย่างนี้ จิ่วเอ๋อร์ เมื่อก่อนข้าไม่ได้อยู่กับเจ้า ข้าไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ต่อไปไม่อนุญาตให้เจ้าทำอย่างนี้อีก จำไว้นะ วันหลังมีข้าอยู่ด้วย ต่อหน้าข้า อยากร้องไห้ก็ร้อง อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร ข้าก็ชอบ”

 

 

ฟู่เฉินหรงยื่นมือไปโอบไหล่ซูจิ่วซือ “ตอนที่เพิ่งรู้จักเจ้า ข้าเห็นเจ้าดึงดัน รู้สึกเป็นห่วง อยากช่วยเจ้า อยากดูแลเจ้าให้ดี เวลาที่เจ้าดึงดันข้าเข้าใจดี”

 

 

ซูจิ่วซือบอกความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก ทั้งซาบซึ้ง อบอุ่น ขอบตาเริ่มรื้นขึ้นมา “อยู่ดีๆ มาพูดกับข้าอย่างนี้ทำไม”

 

 

“ข้าแค่อยากบอกเจ้าว่า เจ้าเชื่อและพึ่งพิงข้าได้”

 

 

“จะมีวันเปลี่ยนไหม”

 

 

“ไม่มีวัน”

 

 

“ทำไมถึงมั่นใจอย่างนี้”

 

 

ซูจิ่วซือถามต่อ

 

 

ฟู่เฉินหรงมองซูจิ่วซือแวบหนึ่ง แววตานั้นอ่อนโยน “เพราะข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่ข้าต้องการ จิ่วซือ เราเคยผ่านอุปสรรคมามาก ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว ข้าอยากอยู่กับเจ้าไปจนแก่เฒ่า”

 

 

“พอเจ้าเป็นฮ่องเต้ มีสาวงามข้างกายนับไม่ถ้วน ข้าก็แก่ตัวหน้าตาไม่สวย ถ้าเจ้าเปลี่ยนไป ข้ายังจะไปจากเจ้า” ซูจิ่วซือกอดแขนฟู่เฉินหรง พูดน้ำเสียงอ่อนโยน แต่หนักแน่น

 

 

“สาวงามแต่ไม่ฉลาด พอถึงตอนนั้นข้ายิ่งแก่กว่าเจ้า อยู่กับเจ้าดีแล้ว”

 

 

ซูจิ่วซือหัวเราะ “เจ้ากล้าว่าเจ้าแก่กว่าข้า”

 

 

“ไม่ใช่หรือ ร่างกายข้าแก่กว่าเจ้ามาก พอถึงตอนนั้นเจ้าอย่ารังเกียจตาแก่อย่างข้า ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ใส่ใจ ชาตินี้ข้าจะอยู่กับเจ้า ถึงเจ้ารังเกียจข้า ข้าก็จะอยู่กับเจ้า”

 

 

คำพูดของฟู่เฉินหรงทำให้ซูจิ่วซือหัวเราะร่า “ไม่รักหน้าเลย”

 

 

“ข้ารักแต่เจ้า”

 

 

“เฉินหรง”

 

 

“หือ…”

 

 

“มีเจ้าอยู่ด้วยข้ามีความสุขมาก”

 

 

“จิ่วเอ๋อร์ ทำไมแย่งข้าพูด นี่เป็นคำที่ข้าจะพูด แย่งข้าพูดต้องถูกลงโทษ”

 

 

ฟู่เฉินหรงหันมามองหน้าซูจิ่วซือ รอยยิ้มเต็มใบหน้า แม้แต่ตาก็ยิ้ม

 

 

“ลงโทษยังไง”

 

 

ซูจิ่วซือมองหน้าฟู่เฉินหรงด้วยสีหน้าจนใจ

 

 

ฟู่เฉินหรงยื่นมือไปเชยคางซูจิ่วซือ ก้มลงจูบริมฝีปากซูจิ่วซือ จูบนี้ดูดดื่มซาบซ่าน

 

 

วันรุ่งขึ้น ซูจิ่วซือตามกู้หลียวนไปที่ร้านเหล้าเทียนหยา เป็นร้านเหล้าที่กู้หลียวนซื้อกิจการ

 

 

ร้านเหล้านี้เปิดอยู่ก่อนแล้ว แต่เนื่องจากเถ้าแก่ติดหนี้พนัน จึงขายร้านเพื่อใช้หนี้ กู้หลียวนซื้อต่อด้วยการแนะนำของมู่หยาง แค่เปลี่ยนป้ายหน้าร้านก็เปิดกิจการได้แล้ว

 

 

หลายวันมานี้กู้หลียวนง่วนอยู่กับการจัดการร้าน ป้ายหน้าร้านทำเสร็จแล้ว เขาตั้งชื่อว่าร้านเหล้าเทียนหยา วันนี้เป็นวันขึ้นป้ายพอดี

 

 

หลายวันที่คบหากันมา เขากับมู่หยางกลายเป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน

 

 

ขณะขึ้นป้าย ก็มีชายหนุ่มสวมชุดยาวสีเขียวเดินเข้ามา เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริง

 

 

“จิ่วซือ นี่มู่หยาง”

 

 

กู้หลียวนพูดเบาๆ แล้วเข้าไปต้อนรับ

 

 

“พี่มู่ มาแล้ว”

 

 

กู้หลียวนเดินเข้าไปหามู่หยางอย่างกระตือรือร้น

 

 

มู่หยางเป็นคนร่าเริง หัวเราะร่า “พี่กู้ วันนี้เป็นวันที่เจ้าขึ้นป้ายหน้าร้าน ข้าต้องมาร่วมแน่ ยังอยากจะดื่มกับเจ้าอีก”

 

 

“ไม่เมาไม่เลิก พี่มู่ เข้ามาคุยข้างใน” กู้หลียวนพามู่หยางเข้าไปในร้าน พอถึงตอนนี้มู่หยางเห็นซูจิ่วซือกับเผยปิงปิงยืนอยู่ก่อนแล้ว