หยางโปเกลี้ยกล่อมหมอจนเลื่อนเวลาผ่าตัดออกไปได้ รอจนกระทั่งคนอื่นๆออกจากห้องผู้ป่วยไปแล้ว เหลือเพียงเหยียนหรูหยูที่อยู่ในห้องเท่านั้น
  หยางโปถึงได้เหลือบมองไปที่เหยียนหรูหยู เขาอึกๆอักๆอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาจนเหยียนหรูหยูขมวดคิ้ว ทำเสียงฮึดฮัดหันหลังกลับและเดินออกไป
  หยางโปรู้สึกละอายใจมาก แต่พูดอะไรมากไม่ได้ เหยียนหรูหยูอยู่ที่นี่เพื่อดูแลปกป้องเขา แต่เขากลับเชิญให้เธอออกไป มันยากที่จะเอ่ยปาก แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน
  ประกายแสงวาบผ่านตาหยางโป และทำการรักษาอีกครั้ง
  ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางโปฟื้นตัวขึ้นมา เขาลุกขึ้นจากเตียงไปวิ่งออกกำลังกายมารอบหนึ่ง พอกลับมาถึงห้องผู้ป่วย ก็เห็นพยาบาลตัวน้อยที่มาดูแลรีบร้อนพะว้าพะวง เมื่อเห็นหยางโปเดินกลับมา นางพยาบาลตัวน้อยก็ถามออกมาอย่างกังวลว่า “ คุณไปไหนมา ? บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ยังจะออกไปวิ่งอีก ? ”
  หยางโปค่อนข้างจะเขินอาย ยิ้มเหยเก “ ไม่เป็นไร ผมรู้ ”
  “ คุณควรนอนเพื่อพักอาการ ! ” พยาบาลพูดด้วยความโกรธ
  หยางโปมองหน้ารูปไข่ที่น่ารักของนางพยาบาลและส่งยิ้มให้ “ เอาล่ะ เอาล่ะ ! คุณช่วยไปตามหมอเจ้าของไข้มาให้ผมหน่อย และบอกว่าวันนี้ผมอยากตรวจร่างกายใหม่อีกครั้ง ”
  นางพยาบาลตัวน้อยถลึงตามองมาที่เขา เมื่อพบว่าใบหน้าของเขาแดงก่ำมาก ดูแข็งแรงขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะถามไปอย่างสงสัยว่า “ นี่คุณเป็นอะไรไป ? ทำไมหน้าตาดูดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากเลย ? ”
  หยางโปยิ้ม “ ผมมีวิธีออกกำลังกายที่บรรพบุรุษถ่ายทอดไว้ให้ สามารถรักษาโรคได้เป็นร้อย สาวน้อย ผมว่าคุณมีกระดูกที่วิเศษมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนวรยุทธ์ อยากเรียนรู้จากผมไหม ? ”
  เวลานี้ เหยียนหรูหยูได้ผลักเปิดประตูและเดินเข้ามา และได้ยินคำพูดเหล่านี้เข้าพอดี เธอจ้องมองไปที่หยางโปด้วยใบหน้าที่แปลกใจ
  พยาบาลตัวน้อยหน้าแดง จีบปากจีบคอ ” เชอะ คุณก็ได้แต่พูดจาไร้สาระ คิดที่จะหลอกฉัน ไม่มีทาง ! ”
  เมื่อเห็นเหยียนหรูหยูนั่งอยู่ข้างๆ พยาบาลตัวน้อยก็รีบฟ้องทันทีว่า “ คุณรีบมาดูเขานะ ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ ยังคิดที่จะมาหลอกฉันอีก ! ”
  แต่คิดไม่ถึงว่าเหยียนหรูหยูตอบจะตอบกลับไปว่า ” เขาพูดถูก เขามีวรยุทธ์จริงๆ คุณเห็นไหม เมื่อวานนี้เขายังดูเหมือนจะเป็นจะตาย แต่ตอนนี้กลับมีชีวิตอยู่และสบายดี ! ” นางพยาบาลตัวน้อยชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหันไปเผชิญหน้ากับหยางโป เธอจ้องเขม็ง “ จริงด้วย ! ”
  หยางโปยิ้ม “ เอาล่ะ ช่วยไปพูดกับหมอให้หน่อยนะ ! ”
  ตอนที่พยาบาลตัวน้อยเดินออกไปก็ยังมีสีหน้าท่าทางมึนงงอยู่ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหยางโปทำแบบนี้ได้ยังไง !
  หยางโปมองไปที่เหยียนหรูหยู ” คุณเรียนรู้ที่จะพูดเล่นเป็นกับเขาได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ”
  เหยียนหรูหยูนั่งลงโดยที่ไม่สนใจหยางโป และกลับมาเข้าสู่โหมดเย็นชาทันที ทำให้หยางโปไม่สามารถพูดในสิ่งที่อยากถามออกมาได้
  หยางโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “ เมื่อวานฉินตูฟูได้รับบาดเจ็บ คุณก็น่าจะเห็นแล้ว
  เขาจะรักษาอาการบาดเจ็บนานแค่ไหน ? ”
  หยางโปพอจะเดาได้ว่าตอนที่เขาต่อสู้กันเมื่อวานนี้ เหยียนหรูหยูน่าจะอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ต่อมาพอฉินตูฟูได้รับบาดเจ็บ สาเหตุที่ไม่ได้ฆ่าเขา เหยียนหรูหยูเองก็อาจมีเหตุผลเช่นกัน ความคิดแบบนี้ ทำให้คนยากที่จะเข้าใจ ทำไมเหยียนหรูหยูถึงทำแบบนี้ ? เธอไม่สามารถไปช่วยหยางโปได้เร็วกว่านี้จริงๆเหรอ หรือไม่ก็ฆ่าฉินตูฟูทิ้งไปซะ ?.novel-lucky.
  หยางโปคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายแล้วยังไงเหยียนหรูหยูก็ช่วยชีวิตเขาไว้
  ดูเหมือนว่าเหยียนหรูหยูไม่คิดที่จะสนใจหยางโปเลย รออยู่นานพอสมควร ถึงเอ่ยปากตอบกลับมาคำหนึ่ง “ อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสมาก เกรงว่าคงจะไม่หายและฟื้นตัวได้ไปอีกสักพัก ”
  หยางโปพยักหน้าไม่พูดอะไร
  ไม่นาน แพทย์เจ้าของไข้ก็เข้ามา เมื่อเห็นท่าทีที่แข็งแรงของหยางโปก็ถึงกับตกใจ แต่ก็ให้เขาเข้ารับการตรวจร่างกายใหม่อีกครั้ง การตรวจครั้งนี้ หยางโปมีสุขภาพที่แข็งแรงมากจริงๆ
  แพทย์เจ้าของไข้ออกจากที่นี่ไปด้วยความมึนงงเป็นอย่างมาก แต่ระหว่างนั้นก็อยู่สนทนาด้วยสักพัก
  นี้เป็นครั้งแรกที่หยางโปเผชิญหน้ากับอันตรายถึงกับชีวิต และเป็นครั้งแรกที่รู้สึกหวงแหนชีวิตตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกไม่เคยชินและอึดอัดมาก
  ดังนั้นเมื่อเหลียงหรงมาถึง หยางโปจึงจงใจถามเขาเป็นพิเศษว่า “ ได้ส่งหมาตำรวจไล่ตามเขาไปไหม ? ”
  เหลียงหรงพยักหน้า “ ไม่ต้องกังวล ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้ต้องนำความยุติธรรมกลับคืนมาให้กับคุณให้ได้ ! ”
  หยางโปส่ายหัว “ ถามหาความยุติธรรมกลับคืนมาให้ผม ผมไม่เก็บเอามาใส่ใจเท่าไหร่ แค่เขาฆ่าคนบริสุทธิ์ไปจำนวนมาก มันก็ทำให้ผู้คนโกรธแค้นกันจริงๆ ผมหวังว่าจะจับเขาให้ได้โดยเร็วที่สุด ! ”
  เหลียงหรงพยักหน้าตอบรับ และสอบถามหยางโปเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บอย่างห่วงใย เขาไม่ได้อยู่ด้วยนานนัก หลังจากนั้นก็ของตัวกลับและจากไป
  เหยียนหรูหยูเหลือบมองหยางโปด้วยสายตาที่ดูแคลน
  หยางโปยิ้มและหันไปมอง “ ทำไม ? ”
  “ หน้าซื่อใจคด ! ” เหยียนหรูหยูพูดอย่างเปิดเผย
  หยางโปนิ่งเงียบ ไม่สามารถหาข้ออ้างปฏิเสธได้ เพราะเขาต้องการล้างแค้นให้ตัวเองจริงๆ แต่กลับพูดออกมาซะเด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผายแบบนั้น เขาไม่มีข้ออ้างอื่นจึงไม่พูดอะไรอีก
  บรรยากาศในห้องผู้ป่วยอึดอัดขึ้นมาทันที โชคดีที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาก้มหน้าดูก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้ามาของโจวซิน เดิมทีเขาไม่คิดที่จะรับสาย แต่พอเขาชายตามองเหยียนหรูหยู
  ก็กดรับสายไปอย่างไม่รู้ตัว
  “ หยางโป ผมโจวซิน คุณอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่โผล่หน้ามาสักที ? ” โจวซินเอ่ยปากถาม
  หยางโปยิ้ม ” โจวซินเหรอ ตามหาผมมีธุระอะไร ? ”
  “ พี่ชายของคุณอยู่กับผม เขาหิวโซมาเกือบสองวันแล้วใกล้จะไม่ไหวแล้ว พ่อของคุณไม่ได้โทรหาคุณหรือไง ? คุณไม่มีความเห็นอกเห็นใจสักนิดหนึ่งเลยหรือไง ? ” โจวซินกล่าว
  หยางโปรู้เรื่องนี้นานแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าโจวซินจะอดทนน้อยขนาดนี้ และโทรมาแล้ว เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ อ้อ คุณกำลังพูดถึงเรื่องนี้อยู่เหรอ ? ผมรู้แล้ว คุณไม่ให้เขากินข้าวจริงๆเหรอ ? ”
  โจวซินทำเพื่อบีบบังคับหยางโป จงใจเปิดเสียงลำโพงโทรศัพท์ จากนั้นเขาก็หันไปวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆหยางหลางและส่งซิกให้รู้ หยางหลางไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้วเขาหิวจนตาลาย เมื่อเห็นโทรศัพท์วางลง มีหรือที่จะลังเล เขาพูดเสียงดังทันที “ หยางโป รีบมาช่วยฉันออกไปที ฉันอยากจะหนีไปจากสถานที่บ้าๆนี่ แกรีบมาช่วยฉันด้วย ! ฉันจะหิวตายอยู่แล้ว ! ”
  โจวซินหยิบโทรศัพท์กลับคืน และหันไปพูดกับหยางโปว่า “ เป็นไง ? คุณจะกลับมาเมื่อไหร่ ? ”
  “ โจวซินคุณให้ผมกลับไปมีธุระใช่ไหม ? คุยกันทางโทรศัพท์ก็ได้ ” หยางโปกล่าว
  เมื่อเห็นหยางโปใจอ่อนให้ โจวซินก็ดีใจมาก ” คุณควรทำแบบนี้นานแล้ว ? ผมให้เวลาคุณสองวัน รีบกลับมาตี้จิง ไม่อย่างนั้นพี่ชายของคุณจะต้องหิวตาย ! ”
  “ รีบกลับไปภายในสองวันเหรอ ? รีบร้อนเกินไปนะ ! ” หยางโปกล่าว
  “ ไม่รีบร้อนเลย เวลาสองวันก็เยอะมากแล้ว ! ” โจวซินตอบกลับมาด้วยความภาคภูมิใจ
  “ ช่างเถอะ ผมคงรีบกลับไปไม่ได้ ในเมื่อคุณจับตัวหยางหลางไว้แล้ว พวกคุณก็สนุกกันให้เต็มที่
  ถ้ามีเรื่องอะไร รอผมกลับไปแล้วค่อยว่ากันอีกที ” หยางโปกล่าว
  โจวซินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ขนาดเขาจับตัวหยางหลางไว้แล้ว หยางโปยังจะไม่ยอมกลับมาอีก ?
  คิดไม่ถึงว่าหยางโปจะพูดต่อโดยไม่คิดว่า “ ผมยังยุ่งมาก เอาแบบนี้ก็แล้วกัน มีเวลาแล้วเราค่อยคุยกัน ! ”
  พอพูดจบ หยางโปก็กดตัดสายทิ้ง จากนั้นเขาก็เหลือบมองเหยียนหรูหยู นารีเป็นเหตุจริงๆ ทั้งหมดที่โจวซินอยากจะพบเธอ ครึ่งหนึ่งคืออยากจะจีบเหยียนหรูหยู แต่ถ้าตามที่โจวซินพูดมา การได้มารู้จักกับเหยียนหรูหยูมันจะเป็นโอกาสและโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจริงๆเหรอ ?