ตอนที่ 530 เมื่อคืนลำบากเจ้าแล้ว
หลิงอวี้จื้อแทบสำลัก หรูเยียนหมายความว่ากับข้าวทั้งโต๊ะที่เธอเพิ่งกินไปเซียวเหยี่ยนเป็นคนทำทั้งหมดเหรอ
มิน่าถึงอร่อยอย่างนี้ เธอเคยกินกับข้าวที่เซียวเหยี่ยนทำครั้งหนึ่งแล้ว นึกไม่ถึงว่าเมื่อครู่จะชิมไม่รู้ ก็ใช่ ครั้งที่แล้วสภาพแวดล้อมอัตคัด มีเครื่องปรุงหลายอย่างที่ขาดไป ครั้งนี้เครื่องปรุงชนิดต่างๆ ครบครัน ดังนั้นเธอจึงชิมไม่รู้ว่าเป็นฝีมือเซียวเหยี่ยน
เซียวเหยี่ยนเข้าครัวในวันแรกของการแต่งงานเพื่อเธอ หลิงอวี้จื้อรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ยิ้มแป้นเป็นดอกไม้บานทันใด
“หรูเยียน เจ้านี่ก็จริงๆ เลย ไม่ยอมบอกข้า”
“นี่ท่านอ๋องก็สั่งเอาไว้เจ้าค่ะ บอกไปก็เกรงว่าพระชายาจะไม่กล้ากินดีๆ ท่านอ๋องอยากให้พระชายาเห็นอาหารมื้อนี้เป็นมื้อธรรมดาๆ ยังบอกอีกว่าหากพระชายาชอบ ต่อไปหากมีเวลาก็จะเข้าครัวเพื่อพระชายาเจ้าค่ะ”
หรูเยียนพูดไปยิ้มไป รู้สึกมีความสุขแทนหลิงอวี้จื้อ เซียวเหยี่ยนรักใคร่เอ็นดูหลิงอวี้จื้อมากจริงๆ อ๋องที่ทำอาหารเป็น นางก็เพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรก ไม่ใช่แค่เห็นเป็นครั้งแรก แต่ได้ยินเป็นครั้งแรกด้วย
หลิงอวี้จื้อลูบท้องอย่างพึงพอใจ กินจนจุก
เธอยืนขึ้นกลับไปที่ห้อง นั่งเขียนคิ้วอยู่หน้ากระจกทองแดง เพราะว่าหิว เธอล้างตัวแล้วก็ไปกินข้าวเลย ยังไม่ทันได้แต่งหน้าให้ดีๆ แต่งงานวันแรกต้องแต่งตัวให้ดีๆ ตอนบ่ายรู้สึกว่ายังต้องเข้าวังไปคารวะมู่หรงกวานเย่ว์อีก
เพราะว่าอารมณ์ดี เธอจึงวาดคิ้วเอง ถือพู่กันเขียวคิ้ว ปากก็ฮัมเพลงไป จู่ๆ ก็มีมือข้างหนึ่งมาจับมือห้ามหลิงอวี้จื้อไว้ ไม่ต้องหันกลับไป หลิงอวี้จื้อก็รู้ว่าเป็นใคร ลมหายใจบนร่างกายของเขา หลิงอวี้จื้อคุ้นเคยเป็นอย่างดี
นึกถึงเมื่อคืน คราวนี้หลิงอวี้จื้อมองเซียวเหยี่ยนก็ยังรู้สึกเขินอาย หน้าร้อนผ่าวทันทีโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อวี้จื้อ ได้ยินหรูเยียนบอกว่าวันนี้เจ้าเจริญอาหารมาก”
“ท่านทำอร่อยขนาดนั้น ข้าก็ต้องเจริญอาหาร มิเช่นนั้นก็รู้สึกผิดต่อท่านสิ ท่านจับมือข้าไว้เช่นนี้ อยากจะวาดคิ้วให้ข้าหรือเพคะ”
หลิงอวี้จื้อยิ้มจนตาโค้ง หน้ายังไม่หายแดง แต่ก็ดีขึ้นนิดหน่อยแล้ว
ในละครมักจะมีฉากพระเอกวาดคิ้วให้นางเอก เธอไม่รู้ว่าเซียวเหยี่ยนคิดจะแสดงฝีมือหรือไม่ ในเมื่อแม้แต่ทำกับข้าวก็ทำเป็นแล้ว หากบอกว่าวาดคิ้วเป็นด้วย ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกอีกแล้ว
เซียวเหยี่ยนก้มตัวลงมองหลิงอวี้จื้อ จูบที่ติ่งหูของเธอ พูดเบาๆ ว่า
“ข้าสามารถดูเจ้าวาดคิ้วได้”
“ข้านึกว่าท่านเก่งทุกเรื่องเสียอีก ที่แท้ก็มีเรื่องที่ท่านทำไม่เป็น”
เซียวเหยี่ยนไม่ได้พูดอะไร นั่งมองหลิงอวี้จื้ออยู่อย่างนั้น หลิงอวี้จื้อที่ฮัมเพลงอยู่ก็เริ่มเกร็งๆ ที่จะฮัมต่อไป การทำให้มือไม่สั่นภายใต้สายตาเร่าร้อนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
เธอมาจากวงการบันเทิง ถึงแม้ว่าจะมีช่างแต่งหน้า แต่ก็ค่อยๆ ออกมาแต่งเองทีละก้าว
เธอเป็นคนเชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าและบำรุงความงามมาก อยู่ที่แคว้นตะวันตกเมื่อก่อนเธอขี้เกียจ และใช้เครื่องสำอางยุคโบราณไม่ค่อยจะเป็น
ปกติจะให้หรูเยียนจัดการให้เธอ แต่เห็นมาเยอะแล้ว ก็ค่อยๆ ทำเป็น ด้วยเหตุนี้ให้นางลงมือทำเองก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
หลิงอวี้จื้อใช้มืออย่างชำนาญ เห็นดวงตาเซียวเหยี่ยนจ้องมองตนตาไม่กะพริบจากในกระจกทองแดง ในที่สุดก็เริ่มทนไม่ไหวแล้ว
“อาเหยี่ยน ท่านจ้องมองข้าเช่นนี้ทำไม”
“เมื่อคืนมืดเกินไป เห็นไม่ชัด วันนี้ข้าจึงต้องการชดเชย”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลิงอวี้จื้อก็ตกใจจนเกือบจะทิ้งสีผึ้งในมือลง เธอถลึงตาใส่เซียวเหยี่ยน หน้าแดงอีกแล้ว
“ห้ามพูดเรื่องเมื่อคืนนะ”
เห็นหลิงอวี้จื้อร้อนใจแล้ว มุมปากของเซียวเหยี่ยนก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเปรมปรีดิ๋ พูดเบาๆ ข้างหูหลิงอวี้จื้อว่า
“อวี้จื้อ เมื่อคืนลำบากเจ้าแล้ว”
ตอนที่ 531 ออกจากเรือนด้วยสถานะพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นครั้งแรก
“คืนนี้พักผ่อน”
หลิงอวี้จื้อถือโอกาสต่อคำ
“สามีคิดว่าภรรยายังต้องฝึกอีกสามสี่ครั้ง เช่นนี้ก็จะรู้สึกไม่ลำบากแล้ว”
เซียวเหยี่ยนตอบกลับอย่างจริงจัง
หลิงอวี้จื้อเห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของเซียวเหยี่ยน ก็หน้าแดงอีกครั้ง
“ไม่รู้จักอาย”
เป็นอีกครั้งที่ต้องยอมรับว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียวเหยี่ยน กับเซียวเหยี่ยนเธอโดนโจมตีครั้งเดียวก็ร่วง
หน้าบางราวกับกระดาษ ไม่มีพลังโจมตีกลับเลย เป็นแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ ต่อไปเธอต้องหน้าหนาขึ้นหน่อย จะได้ไม่โดนแทะโลมทุกครั้ง คราวหน้าเธอต้องแกล้งเซียวเหยี่ยนให้สาสมให้ได้
แต่งหน้าเสร็จ หลิงอวี้จื้อก็กะพริบตาปริบๆ ให้เซียวเหยี่ยน ถามอย่างคาดหวัง
“ดูดีหรือไม่เพคะ”
หลิงอวี้จื้อที่อยู่ตรงหน้านี้ดูมีสง่าราศี ผิวพรรณเรียบเนียนเปล่งปลั่ง แววตาเป็นประกาย ใสแจ๋วมาก ราวกับน้ำพุ
ผมที่ยาวประบ่าถูกเกล้าขึ้น ทำให้ความเป็นสาวน้อยขี้อายลดลงไป แต่กลับมีกลิ่นอายความเป็นผู้หญิงมากขึ้น ปิ่นระย้าส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งตามการเคลื่อนไหวของเธอ
แววตาของเซียวเหยี่ยนอ่อนโยนราวกับจะละลายเป็นสายน้ำ พูดเสียงต่ำ
“อวี้จื้อ เจ้าดูดีตลอดอยู่แล้ว”
หลิงอวี้จื้อหัวเราลั่น ยื่นนิ้วมือขาวราวกับหยกออกมา
“สามีข้าช่างตาถึงจริงๆ พวกเรายังต้องไปคารวะไทเฮาอีกมิใช่หรือ ไปกันตอนนี้เลยเถิดเพคะ!”
“หากเจ้าเหนื่อย อยากจะพักอีกสักครู่ ไม่ไปหาไทเฮาก็ไม่เป็นไร”
“แต่งหน้าสวยแล้วไปนอน รู้สึกเสียดายเพคะ ในเมื่อเป็นธรรมเนียม ข้าจะทำผิดธรรมเนียมตั้งแต่วันแรกก็ไม่ดี อย่างไรก็ต้องไปเพคะ! ถือโอกาสออกจากเรือนแล้วแวะไป”
เซียวเหยี่ยนจับมือหลิงอวี้จื้อ ช่วยเธอลุกขึ้น พูดเสียงต่ำข้างหูเธอ
“หากเจ้ารู้สึกเหนื่อยจะไม่ไปก็ย่อมได้”
เซียวเหยี่ยนดูแลหลิงอวี้จื้ออย่างดีตลอดทาง ประคองหลิงอวี้จื้อขึ้นรถม้าที่จอดอยู่ข้างนอก หลิงอวี้จื้อพิงไหล่เซียวเหยี่ยน เอื้อมมือมาคล้องแขนเขา
“หากเหนื่อย ก็หลับสักครู่ เมื่อถึงแล้ว ข้าจะเรียกเจ้า”
เซียวเหยี่ยนกลัวว่าหลิงอวี้จื้อจะเหนื่อยเกินไป พูดเตือนขณะลูบผมหลิงอวี้จื้อๆ เบา
“อืม เช่นนั้นข้าจะนอนสักครู่”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกเหนื่อยล้านิดหน่อยจริงๆ ประกอบกับรถม้าโคลงเคลงไปมา ช่วยกล่อมให้หลับ สุดท้ายก็สะลึมสะลือหลับไป
เห็นหลิงอวี้จื้อเหนื่อยล้าเช่นนี้ เซียวเหยี่ยนก็รู้สึกผิดเล็กน้อย โทษตัวเองที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเอง คืนนี้จะต้องให้เธอพักผ่อนให้ดีๆ
หลิงอวี้จื้อขนตายาวมาก ขณะหลับตา ขนตาดำขลับงอนขึ้นเล็กน้อย เซียวเหยี่ยนประคองแก้มเธอเบาๆ เกิดรอยยิ้มบนใบหน้า ทุกครั้งที่เห็นหลิงอวี้จื้อก็รู้สึกอยากสัมผัสเธอโดยไม่รู้ตัว
หลิงอวี้จื้อที่นอนอยู่รู้สึกคันๆ ที่แก้ม ยกมือขึ้นปัดมือทั้งคู่นั้นออกไป เซียวเหยี่ยนจับมือของเธอไว้ พูดเบาๆ ว่า
“อวี้จื้อ นอนให้ดีๆ เถิด!”
เดินทางไประยะหนึ่ง รถม้าก็ถึงประตูวังแล้ว รถม้าหยุดลง เดิมทีเซียวเหยี่ยนอยากให้หลิงอวี้จื้อได้พักอีกสักหน่อย คิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อจะหลับตื้นมาก รถม้าเพิ่งจอด เธอก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เธอหาวขณะถามว่า
“ถึงแล้วหรือ”
“ตื่นแล้วหรือ”
“อีกสักครู่ยังต้องทำธุระอีก ออกจากเรือนด้วยสถานะพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นครั้งแรก จะทำตัวเปิ่นๆ ไม่ได้”
“มีข้าเพียงคนเดียวที่กล้าล้อเจ้า”
“ท่านยังกล้าพูดถึงเรื่องเหล่านั้นอีก ตอนนั้นข้าโชคไม่ดีต่างหาก”
นึกถึงที่ตัวเองทำเรื่องเปิ่นๆ ต่อหน้าเซียวเหยี่ยนได้ หลิงอวี้จื้อก็รีบเถียง
“ลงรถเถิด!”
เห็นหลิงอวี้จื้อเริ่มเคือง เซียวเหยี่ยนก็พูดเรื่องนี้ต่อไม่ได้ ยื่นมือไปประคองหลิงอวี้จื้อลงจากรถม้า