ตอนที่ 356 โมโหจนจะคว่ำเตียง / ตอนที่ 357 นัดตีกันแล้ว

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 356 โมโหจนจะคว่ำเตียง

 

 

           หมอทำหน้างุนงง นี่ตกลงจะให้พูดหรือไม่พูดกันแน่

 

 

           “พูด”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนต้องการเป็นคู่ตรงข้ามกับซือเหยี่ยน “ไม่พูด!”

 

 

           ซือเหยี่ยนขบกราม “คุณอย่าทำตัววุ่นวายจะได้ไหม”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนหน้าเปลี่ยนสี เขาทำตัววุ่นวายเมี่อไหร่กัน เห็นว่าเขาเป็นเด็กเหรอ อย่าทำตัววุ่นวายอีก

 

 

           “คุณมีสิทธิ์มาพูดอะไรที่นี่ด้วยหรือไง” ฟู่เหยี่ยนเสียดสีกลับ

 

 

           แววตาซือเหยี่ยนจมดิ่งลง กำลังจะเตรียมโต้แย้ง ก็ได้ยินเจียงมู่เฉินที่นอนไข้ขึ้นอยู่บนเตียงต่อว่าด้วยความเดือดดาล “พวกนายแม่งอย่าพูดมากกันขนาดนี้จะได้ไหม”

 

 

           หัวร้อนผ่าวจนใกล้จะระเบิดอยู่แล้ว ทั้งสองคนนี้ยังมีทะเลาะกันเสียงดังอยู่ที่นี่อีก

 

 

           ทันทีที่ฟู่เหยี่ยนได้ยินเสียงของเจียงมู่เฉิน ก็คร้านจะต่อปากต่อคำกับซือเหยี่ยน เขารีบเดินเข้าไปหาในทันใด

 

 

           เขาเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง มองเจียงมู่เฉินด้วยความเป็นห่วง “เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินปวดหัว คร้านจะสนใจเขา มองบนใส่ทันที

 

 

           ซือเหยี่ยนเองก็เดินเข้าไป เขายื่นมือไปจับมือของเจียงมู่เฉินไว้ “เฉินเฉิน…”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนถลึงตาใส่เขา รู้สึกว่า เจ้าหมอนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังกล้าจับมือเจียงมู่เฉิน ยังเรียกกันอย่างสนิทสนมอีก

 

 

           เขาแย่งมือเจียงมู่เฉินกลับคืนมาจากมือซือเหยี่ยน

 

 

           “คุณพักผ่อนดีๆ นะ อย่าสนใจพวกนี้เลย”

 

 

            ซือเหยี่ยนรู้สึกว่าคนคนนี้ทำตัวเป็นเด็กถึงขั้นสุดแล้ว เขาแย่งมือเจียงมู่เฉินกลับคืนมาจากมือฟู่เหยี่ยน

 

 

           มือเฉินเฉินของเขา นอกจากเขาแล้วใครก็มาจับไปไม่ได้

 

 

           เจียงมู่เฉินสติกำลังพร่าเลือน ยังโดนทั้งสองคนนี้แย่งมาแย่งไปอีก แย่งกันจนปวดหัวกว่าเดิม

 

 

           เขาสะบัดมือออกแรงๆ อยากชักมือออกมาจากมือซือเหยี่ยน

 

 

           แต่จะทำอย่างไรได้ทั้งร่างกายไร้เรี่ยวแรง มือไม้อ่อนปวกเปียก สะบัดไม่ออก

 

 

           เจียงมู่เฉินกัดฟัน ออกแรงชักมือออกมาจากมือซือเหยี่ยน ผลปรากฏว่าออกแรงมากเกินไป ไม่ทันระวังฝ่ามือโบกสะบัดกระทบเข้าใบหน้าของซือเหยี่ยนเข้าอย่างจัง

 

 

           เพียะ! พลันเกิดเสียงกระทบดังฟังชัดอย่างยิ่ง

 

 

            เจียงมู่เฉินตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าจะสะบัดมือใส่ซือเหยี่ยนได้ ชั่วขณะหนึ่งยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

 

 

           แต่เมื่อฟาดก็ฟาดไปแล้ว เขาเองก็คร้านจะชี้แจงแถลงไข

 

 

           ฟู่เหยี่ยนมองซือเหยี่ยนอย่างเห็นใจ คิดว่ายังดีที่เมื่อครู่ตัวเองไม่ได้ดึงมือเจียงมู่เฉินไว้ ไม่อย่างนั้นคนที่โดนตบต่อหน้าสาธารณชนก็เป็นเขาไปแล้ว

 

 

           เขามองซือเหยี่ยนราวกับดูฉากเด็ดในละคร อยากเห็นว่าคนเย่อหยิ่งหัวสูงขนาดนี้อย่างซือเหยี่ยนโดนตบฉาดหนึ่ง จะอับอายจนพาลโกรธอย่างไรได้

 

 

           พอเขาโกรธ แล้วทะเลาะกันกับเจียงมู่เฉิน ถึงตาเขาก็จะได้เป็นตาอยู่เอาพุงปลาไปกินพอดี

 

 

           คนในห้องต่างมองซือเหยี่ยนกันเป็นตาเดียว

 

 

           ก็เห็นเพียงแค่ซือเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากมองเจียงมู่เฉิน

 

 

           ความรักใคร่เอ็นดูซึมซับอยู่ในเสียงของเขา “อยากเปลี่ยนอีกข้างให้คุณชักมือออกมาอีกไหม”

 

 

           ผู้ชมงุนงงกันโดยพร้อมเพรียง “…”

 

 

‘ยังทำเรื่องหน้าไม่อายแบบนี้ก็ได้เหรอ’

 

 

‘ช่างเป็นการเปิดโลกกว้างจริงๆ เพิ่งเคยเจอคนที่โดนตบหน้าซ้าย แล้วยังส่งหน้าขวาให้ตบอีก’

 

 

เจียงมู่เฉินเองก็งุนงงไม่แพ้กัน รู้สึกว่าการตอบสนองแบบนี้ของซือเหยี่ยนค่อนข้างจะหน้าไม่อายเกินไปแล้ว

 

 

‘บุคลิกเย็นชาเฉพาะตัวของเขาล่ะ’

 

 

เจียงมู่เฉินหลับตาลงเอนตัวลงนอนไปเสียเลย ไม่อย่างนั้นมาเอาเรื่องกับซือเหยี่ยนอยู่แบบนี้ กลัวว่าเขาจะกระอักเลือดตายได้

 

 

ซังจิ่งยืนอยู่ข้างๆ ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเองถึงเอาเจียงมู่เฉินไว้ไม่อยู่

 

 

ทำไมเจียงมู่เฉินถึงคบกับซือเหยี่ยนได้

 

 

ด้วยการกระทำที่หน้าไม่อายของซือเหยี่ยน คนทั่วไปก็เทียบได้ไม่ติด

 

 

ซือเหยี่ยนเองก็ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร เขานั่งลงที่ฝั่งหนึ่งของเตียงข้างเจียงมู่เฉิน จ้องมองใบหน้าที่ค่อนข้างขึ้นสีแดงของเจียงมู่เฉิน

 

 

กว่าฟู่เหยี่ยนจะคืนสติกลับมาจากความตกตะลึงไม่ใช่ง่ายๆ ก็เห็นท่าทางแสดงรักใคร่เอ็นดูของซือเหยี่ยน

 

 

เขาจ้องมองซือเหยี่ยน เอ่ยถามด้วยความไม่สบอารมณ์ “คุณไม่กลับไปดูคุณชายน้อยซูของคุณ มาดูเฉินเฉินที่นี่ทำไม”

 

 

ซือเหยี่ยนกวาดสายตามองฟู่เหยี่ยนปราดเดียว นัยน์ตาเจือแรงสังหาร

 

 

“ผมจะบอกคุณให้นะ บนเกาะนี้เป็นคนของผมทั้งหมด ถ้าคุณคิดทำอะไรล่วงเกินผม ผมรับประกันจะให้คุณตายโดยไม่มีที่ฝังศพเลย”

 

 

‘ในอาณาบริเวณของตัวเอง ยังมาโดนซือเหยี่ยนเอาเปรียบได้อีกเหรอ…

 

 

…ที่พูดออกไปไม่ใช่มุขตลกสักหน่อย’

 

 

ซือเหยี่ยนมองบนใส่เขาเงียบๆ คร้านจะสนใจเขา “เด็กน้อย”

 

 

ฟู่เหยี่ยนโกรธจนอยากจะโจมตีกลับ เจียงมู่เฉินฟังต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ เขาเป็นคนไม่สบายที่กำลังเป็นไข้อยู่นะ!

 

 

โมโหจนเจียงมู่เฉินอยากจะคว่ำเตียงแล้วจริงๆ

 

 

“แม่งเอ๊ย พวกนายแม่งอย่าทะเลาะกันไปมาจะได้ไหม ฉันแม่งเป็นคนป่วยนะ!”

 

 

เจียงมู่เฉินคว้าหมอนใกล้มือฟาดใส่เข้าไปทันที

 

 

           

 

 

       ตอนที่ 357 นัดตีกันแล้ว

 

 

           ทั้งสองคนโดนเจียงมู่เฉินด่ากราดขนาดนี้ ก็ทำตัวดีขึ้นทันที ไม่มีใครกล้าพูดสักคน นั่งอยู่ข้างๆ อย่างเจี๋ยมเจี่ยม

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเห็นซือเหยี่ยนไม่ไป เขาก็ไม่ไป

 

 

           เจียงมู่เฉินคร้านจะสนใจเรื่องน่าเบื่อพวกนี้ของพวกเขา เขาหลับตาลงไม่มอง จะได้ไม่เห็นแล้วหงุดหงิดใจ

 

 

           อีกอย่างทั้งสองคนนี้ ไม่มีใครสักคนทำให้เขาสบายใจได้

 

 

           เจียงมู่เฉินหลับตาลงเพียงไม่นานก็เข้าสู่นิทรา ฟู่เหยี่ยนและซือเหยี่ยนทั้งคู่เหมือนเทพอารักษ์ประตู เฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ไหวติง

 

 

           ฟู่เหยี่ยนมองซือเหยี่ยนอย่างไม่สบอารมณ์ ความยั่วยุอยู่ในแววตา

 

 

           ซือเหยี่ยนมองความหมายของเขาออก กลับไม่พูดอะไร สายตาของเขาเอาแต่จดจ่อจ้องมองเจียงมู่เฉินโดยไม่ละสายตาไปไหน

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเห็นท่าทีเป็นห่วงเป็นใยของซือเหยี่ยน ในใจไฟก็ลุกโชน

 

 

           ถ่อมาถึงถิ่นของเขา ยังคิดมาแย่งคนกับเขาอีก

 

 

           เขาโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยเจอคนแบบนี้เลยจริงๆ

 

 

           ฟู่เหยี่ยนถลึงตาใส่ซือเหยี่ยน เอ่ยปากก็อยากจะโจมตีซือเหยี่ยนด้วยคำพูด ซือเหยี่ยนเห็นเขาอ้าปากพูด ก็เอ่ยเสียงต่ำ “มีอะไรก็ออกไปพูดกัน”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนพยักหน้ารับ “ได้ ออกไปพูดก็ออกไปพูด”

 

 

           เขายังกลัวว่าจะเสียงดังจนทำให้เจียงมู่เฉินตื่น

 

 

           ซือเหยี่ยนไม่ขยับ ฟู่เหยี่ยนก็ไม่ขยับ ทั้งสองคนเหมือนเด็กไม่มีผิด แข่งกันไปแข่งกันมา

 

 

           สุดท้ายยังเป็นซือเหยี่ยนที่รู้สึกว่าเขาทำตัวเป็นเด็กเกินไป คร้านจะแข่งกับเขาต่อไปแล้ว

 

 

           ลุกขึ้นยืนขึ้นมาก่อนแล้วเดินออกไป

 

 

           ฟู่เหยี่ยนเห็นสถานการณ์แล้ว ก็ก้าวเท้ายาวๆ ตามเข้าไป

 

 

           พอพ้นประตูห้องมา ฟู่เหยี่ยนก็ยื่นมือไปปิดประตู หันกลับหลังมองซือเหยี่ยนที่อยู่ด้านข้าง ในใจเดือดดาล พุ่งเข้าไปจะสู้กับซือเหยี่ยน

 

 

           ถ้าฟู่เหยี่ยนต้องการ เขาต้องคอยเป็นลูกคู่เป็นธรรมดา

 

 

           เขาซือเหยี่ยนยังไม่ได้อ่อนแอถึงขั้นนี้ เพียงแต่ว่าเขามีเงื่อนไข

 

 

           “ต่อยตีกันกับคุณก็ได้ ผมมีเงื่อนไข”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนโกรธจนคิ้วกระตุกไม่หยุด อยู่ในที่ของเขายังกล้าเสนอเงื่อนไขอีกเหรอ

 

 

           “ใครให้สิทธิ์คุณมาเสนอเงื่อนไขกับผม”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเขาด้วยท่าทีสงบนิ่ง “อะไรกัน กลัวว่าจะสู้ผมไม่ได้ เลยไม่กล้ารับปากงั้นสิ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนโมโหแล้ว สู้เจียงมู่เฉินไม่ชนะ เขายอมจำนนแต่โดยดี แต่สู้ซือเหยี่ยนไม่ชนะ

 

 

           เขายอมรับไม่ได้

 

 

           “ได้ คุณต้องการเสนอเงื่อนไขอะไร”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองเขา พลางเอ่ยเน้นทีคำต่อคำ “แข่งกันนัดเดียว ถ้าผมชนะ คุณก็ยอมผมอยู่ที่นี่ต่อ”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนรีบเอ่ยต่อทันที “ถ้าคุณแพ้ รีบพาซังจิ่งไสหัวออกไปด้วย”

 

 

           ซือเหยี่ยนมองฟู่เหยี่ยนอย่างไม่หวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย “ได้ งั้นพนันกัน”

 

 

           ฟู่เหยี่ยนหรี่ตาลงมอง “ผมรับประกันจะทำให้คุณเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้”

 

 

           ซือเหยี่ยนเชิดมุมปากขึ้น แววตาลึกล้ำ “รอคุณลองแพ้ผมดูก่อน ค่อยพูด”

 

 

           ทั้งสองคนออกจากห้องของเจียงมู่เฉิน ก็ลงชั้นล่างออกไปพื้นที่ว่างข้างนอก

 

 

           พ่อบ้านหลินและซังจิ่งย้ายเก้าอี้นั่งมานั่งอยู่ข้างนอก พ่อบ้านหลินมองดูคนสองคนที่กำลังอารมณ์เดือดและดุดัน อดจะเอ่ยถามอย่างสงสัยใคร่รู้ไม่ได้ “คุณว่า ใครจะชนะครับ”

 

 

           ซังจิ่งคิ้วขมวด เขาเองก็ไม่รู้

 

 

           ฝีมือของซือเหยี่ยน เขาไม่เคยเห็น ยังไม่น่าชี้ขาดได้

 

 

           แต่ฝีมือของฟู่เหยี่ยน เขารู้อยู่พอตัว ผู้สืบทอดตำแหน่งของตระกูลฟู่ จะเป็นคนไร้ความสามารถได้อย่างไร

 

 

           หลายปีมานี้ ให้คนมาฝึกอบรมอยู่เสมอ ส่วนตัวเขาเองก็ไม่แน่ว่าจะสู้ฟู่เหยี่ยนชนะได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซือเหยี่ยนเลย

 

 

           การที่ซือเหยี่ยนท้าพนันต่อสู้กับฟู่เหยี่ยนกะทันหันแบบนี้ เขาเองก็คิดไม่ถึง

 

 

           ถ้าว่าซือเหยี่ยนแพ้ หรือว่าพวกเขาจะต้องออกไปจากเกาะเล็กๆ เกาะนี้จริงๆ

 

 

           กว่าพวกเขาจะหาเจียงมู่เฉินเจอไม่ใช่ง่ายๆ อีกอย่างตามระดับความโรคจิตของฟู่เหยี่ยน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเจียงมู่เฉิน

 

 

           แต่ใครจะรับประกันได้ ว่าจะเป็นแบบนี้กับเจียงมู่เฉินตลอด  

 

 

           ถ้าหากว่าวันนั้นฟู่เหยี่ยนเปลี่ยนความคิด ถึงเวลานั้นลงมือกับเจียงมู่เฉินขึ้นมา พวกเขามาช่วยอีกทีก็ไม่ทันแล้ว

 

 

           ซังจิ่งมองดูการแข่งขันนัดนี้ด้วยตื่นตระหนกเป็นพิเศษ