ตอนที่ 385 สายสืบ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 385

สายสืบ

“ขอบคุณจริงๆที่ช่วยอาณาจักรของพวกเราเอาไว้”องค์จักรพรรดิไชน์ว่าพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินที่กลับเข้ามาในเมืองหลังจากขับไล่ข้าศึกไปจนหมดแล้ว

“อาณาจักรไชน์เป็นอาณาจักรของสหายข้า เรื่องช่วยเหลือเป็นเรื่องธรรมดาขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มรับ

“องค์จักรพรรดิ ข้าศึกคราวนี้มาจากไหนหรือขอรับ ข้าไม่คุ้นหน้าพวกมันเลย”เพิร์ลถามพลางเดินเข้ามาหาองค์จักรพรรดิเช่นกัน แม้จะไปอยู่อาณาจักรไป๋มาหลายปี แต่เพิร์ลก็เป็นหนึ่งในคนตระกูลโรซารี่ มันเคยผ่านสนามรบมาหลายสนาม แต่ไม่เคยเห็นเกราะและลักษณะภายนอกของข้าศึกคราวนี้เลย

“พวกมันเป็นคนของตะวันออก พวกมันบุกยึดดินแดนมาแล้วนับสิบจนกระทั่งมาถึงอาณาจักรของเรา”องค์จักรพรรดิถอนหายใจออกมา อาณาจักรไชน์อยู่ทางตะวันตกสุดเขตแผ่นดิน หากจะไปต่อก็คงต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปจนถึงอาณาจักรอู๋เท่านั้น นั่นหมายความว่าอาณาจักรของศัตรูยึดมาเกือบจะทั้งแผ่นดินแล้วนั่นเอง

“ดูเหมือนพวกมันจะมาจากอาณาจักรที่ชื่อว่าอีมอร์ พวกมันแข็งแกร่งมากจนทัพของเราแทบจะแตกพ่ายในทันที”องค์จักรพรรดิถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยอ่อน กองทัพของพวกมันแข็งแกร่งพอจะต้านกำลังของอาณาจักรอื่นๆรอบข้างเอาไว้ได้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่หลังจากอาณาจักรอีมอน์เข้ามา พวกมันก็ยึดอาณาจักรรอบข้างทีเดียวหลายอาณาจักร แถมยังลามมาถึงอาณาจักรไชน์ด้วย ราวกับว่าตั้งใจจะยึดทั้งแผ่นดินเลยก็ว่าได้

“กองทัพของพวกมันมีกันเท่าไหร่หรือขอรับ ที่เราเจอเมื่อครู่ไม่น่าจะเป็นทัพหลักของพวกมัน”เพิร์ลถามออกไปเพราะในจดหมายบอกว่าอาณาจักรอีมอร์ยึดหลายๆอาณาจักรพร้อมกัน นั่นคงเพราะอาณาจักรอีมอร์มีกองทัพจำนวนมากคอยโจมตีอาณาจักรต่างๆไปพร้อมกันใช่หรือไม่

“เท่าที่ข้าสืบมาได้ พวกมันมีทัพหลักอยู่ 20 ทัพ แต่ละทัพนำด้วยขุนพลที่เก่งกาจมาก”ได้ยินเช่นนั้นแม้แต่ไป๋จูเหวินยังมีท่าทีกังวล หากเมื่อวานเป็นเพียง 1 ใน 20 ทัพหลีกของอาณาจักรอีมอร์เท่านั้นละก็ ยามที่กองทัพทั้งหมดของอีมอร์โถมเข้ามาพร้อมกันคงเกิดศึกใหญ่มากอย่างแน่นอน แถมแม่ทัพเมื่อวานยังรับการโจมตีของไป๋ไป่ได้ แสดงว่าอย่างน้อยๆมันก็น่าจะอยู่ระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 1 และหากขุนพลคนอื่นๆในอีก 19 ทัพต่างก็มีพลังระดับนี้กันทั้งหมด ศึกคราวนี้คงเอาชนะไม่ง่ายนัก

“ทำไมมันถึงมีกำลังขนาดนั้นได้”เพิร์ลถามด้วยความงุนงง กองทัพเมื่อวานก็ว่ามีจำนวนมากแล้วแท้ๆ แต่หากรวมทั้ง 20 ทัพเข้าด้วยกัน กำลังมันเยอะเกินกว่าอาณาจักรเดียวจะมีได้เชียวนะ

“พวกมันยึดอาณาจักรต่างๆแล้วเอาทหารของอาณาจักรนั้นๆมาเป็นพวกด้วย จำนวนกองทัพของพวกมันก็มาจากอาณาจักรที่พวกมันยึดมานั่นล่ะ”องค์จักรพรรดิตอบ แต่ไป๋จูเหวินกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องจำนวนเท่าไหร่

“ทำไมพวกมันถึงมีคนระดับเจ้าสวรรค์มากมายถึงเพียงนั้น”ไป๋จูเหวินถามออกมาเพราะจำนวนขุนพลมีมากถึง 20 คน แม้ไม่ทราบว่าจะมีระดับเจ้าสวรรค์ทั้ง 20 คนหรือไม่ แต่การมีคนระดับนี้ออกมามากมายไม่ใช่เรื่องปกติ แม้แต่อาณาจักรไป๋ที่มีผลผลิตจากเขตอสูรมากมายทำให้มนุษย์สามารถฝึกฝนพลังวิญญาณได้รวดเร็วยังไม่มีใครก้าวถึงระดับเจ้าสวรรค์เลยนอกจากไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินเท่านั้น แม้เด็กรุ่นใหม่จะเติบโตเร็วมาก แต่อาวุโสหลายๆคนก็ยังทะลุระดับเจ้าสวรรค์ไม่ได้เสียที

“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ทราบ”จักรพรรดิไชน์ถอนหายใจพลางมองไปที่นอกหน้าต่าง

“หรือข้าควรจะยอมแพ้แล้วยอมเข้าร่วมกับอาณาจักรอีมอร์ดี”องค์จักรพรรดิไชน์พูดพลางมองความเสียหายของบ้านเมือง พวกมันสู้ไม่ได้เลยแม้จะเป็นแค่กองทัพเดียวก็ตาม

“อีกอย่าง กองทัพของท่านจะได้ไม่ต้องมาเสียหายเพราะพวกเราด้วย”ได้ยินจักรพรรดิไชน์พูดแบบนั้นไป๋จูเหวินกลับส่ายหน้า

“หากอาณาจักรของพวกท่านโดนยึด ข้าเชื่อว่าพวกมันไม่หยุดอยู่แค่นั้นแน่ๆ เมื่อยึดแผ่นดินนี้ได้แล้ว ไม่นานพวกมันต้องข้ามมาที่แผ่นดินของพวกเรา หากเป็นเช่นนั้นข้าขอสู้พวกมันตั้งแต่ตรงนี้เสียดีกว่า”ไป๋จูเหวินตอบออกไปตามที่มันคิด พวกมันบุกยึดอาณาจักรอื่นๆรวดเร็วปานนี้ ไม่นานก็คงข้ามมาบุกอาณาจักรอู๋เป็นแน่ เมื่อถึงตอนนั้นกองทัพอาณาจักรไป๋ก็ต้องยกมาช่วยอยู่ดี ไม่ว่าจะยอมแพ้จตอนนี้หรือสู้ตอนนี้ผลลับก็ไม่ต่างกัน

“เช่นนั้นเราก็ต้องเตรียมรับมือเอาไว้ให้ดี”เพิร์ลว่าพลางเดินไปที่แผนที่ของอาณาจักรไชน์ ตอนนี้มีเพียงอาณาจักรไชน์เท่านั้นที่รอดจากการโจมตีของอาณาจักรอีมอร์ ไม่ช้าก็เร็วพวกมันต้องส่งทัพหลักของพวกมันเข้ามาโจมตีแน่ๆ

“องค์จักรพรรดิ เรามีแผนที่บอกตำแหน่งรังปีศาจหรือไม่ขอรับ”เพิร์ลถามพลางพยายามหาตำแหน่งเขตอสูรในแผนที่ของอาณาจักรไชน์

“รังปีศาจ? เจ้าจะเอาตำแหน่งรังปีศาจไปทำไม”องค์จักรพรรดิถามพลางมองมาทางเพิร์ลด้วยสีหน้างุนงง

“เราต้องการกำลังเสริมมากกว่านี้ขอรับ”ได้ยินที่เพิร์ลพูด อยู่ๆองค์จักรพรรดิก็นึกภาพของเหล่าปีศาจที่เข้ามาช่วยรบก่อนหน้านี้ขึ้นมาทันที

“หรือว่าพวกเจ้าจะใช้ปีศาจพวกนั้น…”จักรพรรดิไชน์เข้าใจเสียที แม้จะไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินใช้วิธีใด แต่กองทัพของมันก็ต่อสู้ร่วมกับปีศาจจริงๆ เพียงแต่เวลาที่เหลืออยู่จะเพียงพองั้นหรือ…

“ไป๋หลิน ลูกช่วยพอหน่อยได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินถามพลางมองไปทางไป๋หลิน

“เจ้าค่ะ”ไป๋หลินยิ้มพลางยกมือขึ้นเหมือนจะเสนอตัวเองอยู่แล้ว

.

.

“องค์จักรพรรดิ มีข่าวมาจากกองทัพที่ 14 ขอรับ”ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในเต้นท์ขนาดใหญ่ที่มีเหล่าทหารล้อมอยู่มากมาย

“ข่าว…”องค์จักรพรรดิของอาณาจักรอีมอร์ถามพลางมองท่าทีประหม่าของเหล่าทหารด้วยท่าทีประหลาดใจ นานมากแล้วที่ไม่มีรายงานด้านเลวร้ายเลย ทำให้ทหารนายนี้มีท่าทีแปลกกว่าปกติมาก

“กองทัพที่ 14 แตกพ่ายกลับมาขอรับ กองทัพหนุนของอาณาจักรไชน์แข็งแกร่งมากทีเดียว”ได้ยินเช่นนั้นองค์จักรพรรดิอาณาจักรอีมอร์ก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทางสนใจ

“งั้นหรือ พ่ายแพ้มางั้นหรือ”องค์จักรพรรดิหัวเราะราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตรงกันข้าม มันแอบดีใจเสียด้วยซ้ำที่ทราบว่ามีกองทัพที่สามารถต่อสู่กับกองทัพของมันได้

“เรียกขุนพลทุกคนกลับมา แล้วก็ส่งสายสืบเข้าไปในอาณาจักรไชน์ สืบมาให้แน่ว่าอีกฝ่ายมีกำลังพลแบบไหน และมีเท่าไหร่”องค์จักรพรรดิว่าพลางสั่งให้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆไปจัดการเสีย เรื่องสั่งรวมพลนั้นไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลา ขุนพลของอาณาจักรอีมอร์ส่วนใหญ่อยู่ตามอาณาจักรที่ถูกส่งไปยึด พวกมันสามารถยึดอาณาจักรต่างๆมาได้ไม่ยาก แต่เพราะระยะทางไกลพอสมควร กว่าจะเรียกกองทัพทั้งหมดกลับมาได้ก็ใช้เวลาอีกราวๆ 2 เดือน

ส่วนเรื่องส่งสายสืบเข้าไปนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย พวกมันมีหน่วยที่รับทำหน้าที่พวกนี้อยู่แล้ว

“เข้าใจนะ ลักลอบเข้าไปในอาณาจักรไชน์ แล้วสืบกำลังของพวกมันมา”ผู้ช่วยขององค์จักรพรรดิสั่งพลางเดินออกจากเต้นท์หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในฐานที่ตั้งของพวกมันไป ภายในเต้นท์หลังนี้มีเหล่านักลอบสังหารผู้เก่งกาจเป็นจำนวนมาก แม้จะไม่มีคนระดับเจ้าสวรรค์ แต่ก็สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้หน่วยของนักลอบสังหารกลุ่มนี้มักจะถูกส่งไปสืบข่าวเสมอ

“เร็วเข้า เราต้องทำงานให้เสร็จก่อนทัพใหญ่จะตามมา”กลุ่มนักลอบสังหารว่าพลางควบม้าข้ามไปยังอาณาจักรไชน์ การเดินทางจากฐานที่ตั้งของอาณาจักรอีมอร์มายังอาณาจักรไชน์โดยใช้ม้านั้นใช้เวลาราวๆ 15 วัน พวกมันต้องทำงานให้เสร็จภายใน 1 เดือนแล้วกลับไปรายงานก่อนที่พวกขุนพลจะกลับมาจนครบ

“หัวหน้า…”ชายคนหนึ่งในหน่วยลอบสังหารพูดพลางชี้ไปบนท้องฟ้า

“นั่นมันอะไร..”ชายที่เหมือนจะเป็นหัวหน้าหน่วยพึมพำเบาๆพลางมองไปบนท้องฟ้าตามที่ลูกน้องตนเองชี้

“ปีศาจนกงั้นเหรอ”ชายคนหนึ่งพูดพลางมองอสูรปักษาที่บินตรวจตราอยู่บนท้องฟ้า ข่าวเรื่องทัพของไป๋จูเหวินใช้อสูรสู้ร่วมกับมนุษย์รู้ไปถึงจักรพรรดิอาณาจักรอีมอร์แล้ว การมีอสูรปักษาบินอยู่รอบๆเมืองทำให้หัวหน้าหน่วยระวังตัวขึ้นมากทีเดียว

“พยายามเดินทางในร่มไม้เอาไว้ ลงจากม้า เมื่อถืงตอนกลางคืนเราจะลอบเข้าไปในเมือง”หัวหน้าหน่วยว่าพลางลงจากหลังม้า พร้อมปิดบังพลังวิญญาณของตน

“เจ้าพวกนั้นมันทำยังไงนะถึงเอาปีศาจมาเป็นพวกได้”ชายคนหนึ่งถามพลางมองอสูรแรดที่ยืนอยู่หน้าประตู ขืนพวกมันบุกเข้าไปตรงๆมีหวังโดนอสูรแรดไล่กระเจิงแน่ๆ

“เรื่องนั้นข้าก็ไม่รู้หรอก แต่ที่พวกเราต้องหาคำตอบคือพวกมันมีกำลังเท่าไหร่ เก็บข้อมูลมาให้หมด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจ”หัวหน้าหน่วยว่าพลางนั่งลงกับพื้น ตอนนี้พวกมันยังลอบเข้าเมืองไปไม่ได้ นอกจากจะมีอสูรปักษาคอยตรวจตราแล้ว เวรยามยังมีมากอีกด้วย มันยังต้องการเวลาอีก 1 หรือ 2 วันเพื่อดูตารางผลัดเปลี่ยนเวรยามให้ดี

“เจ้าพวกปีศาจนั่นน่ารำคาญจริงๆ”หัวหน้าหน่วยว่าพลางมองอสูรปักษาที่บินออกมาตรวจตราตอนกลางคืน เมื่อตะวันลับฟ้าอสูรปักษาที่สามารถมองเห็นในที่มืดได้อย่างอสูรนกฮูกก็ออกมาราดตระเวนแทน ทำให้พวกมันหาทางเข้าไปในเมืองได้ยากกว่าเดิม

“แบบนี้จะเอายังไงดี”ชายคนหนึ่งถามพลางมองไปรอบๆ ปกติพวกมันยังสามารถอาศัยช่วงเวลากลางคืนเพื่อแอบเข้าไปได้ แต่พอเจออสูรนกฮูกเข้าการเข้าไปกลางคืนก็ไร้ความหมาย

“รุ่งสาง..”หัวหน้าหน่วยพูดพลางเอาเนื้อตากแห้งเข้าปาก ในเมื่อเข้าไปตอนกลางคืนไม่ได้ ก็ต้องรอจังหวะรุ่งสางที่กำลังจะเปลี่ยนเวรเท่านั้น

“น่าเสียดาย ถึงจะเป็นตอนรุ่งสางก็ไม่รอดหรอก”เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆตัวหัวหน้าหน่วยทำเอาพวกมันแตกตื่นกันยกใหญ่

“ใคร”หัวหน้าหน่วยถามพลางมองไปรอบๆ พวกมันสัมผัสไม่ได้เลยว่ามีใครเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่

“พวกเราก็เพื่อนร่วมอาชีพของพวกเจ้าไง”อสูรกิ้งก่าพูดก่อนจะทิ้งตัวลงมาจากต้นไม้ แม้จะเริ่มโจมตีแล้วแต่หน่วยลอบสังหารของอาณาจักรไป๋ที่เต็มไปด้วยอสูรที่สามารถกลืนไปกับสภาพแวดล้อมได้ก็ยังหาตัวได้ยากอยู่ดี เมื่อเทียบกับความสามารถของพวกที่ทำได้แค่ปิดพลังวิญญาณเอาไว้เท่านั้นแล้ว กองทัพปักษาของจื่อหนิงที่ได้ชิงชิวมาช่วยฝึกสามารถหาตัวได้ง่ายดายกว่ามาก

“อากก”อสูรกิ้งก่าแทงดาบล่องหนที่ทำเลียนแบบอาวุธของชิงชิวเข้าไปที่ร่างของพวกนักลอบสังหารอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองไปรอบๆ ลูกน้องของมันช่วยกันไม่นานก็จัดการศัตรูได้ไม่ยากเย็นนัก

.

.

ตุบ….ร่างของอสูรกิ้งก่าที่เป็นลูกน้องของขุนพลกิ้งก่ากระโดดเข้าไปภายในเต้นท์ของอาณาจักรอีมอร์ ไม่ใช่แค่ฝ่ายอีมอร์หรอกที่ส่งสายสืบเข้าไป เพียงแต่สายสืบของอาณาจักรไป๋นั้นมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเท่านั้น