ตอนที่ 698

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“ต้องการสู้กับข้าอีกครั้ง?” หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย แน่นอนว่าที่เจียหมิงเป็นฝ่ายล่าถอยไปก่อนเพราะเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะหลิงฮันได้ ไม่ใช่นั้นเขาจะยอมเสียหน้าต่อหน้าเหวินเหรินเชียนเชียนและจูเสวียนเอ๋อรึ?

หลิงฮันหัวเราะอย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นพลังปราณหรือความแข็งแกร่งของกายหยาบ เขาล้วนแต่ไร้พ่ายในระดับพลังเดียวกัน!

เมื่อเขาพลังต่อสู้ของเขาพัฒนาจนถึงขั้นที่สามารถใช้งานทักษะศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามได้อย่างเชี่ยวชาญ จะมีใครที่เขาต้องหวาดกลัวอีก?

“พี่ชายหลิงฮันช่างอัจฉริยะยิ่งนัก ท่านสามารถทัดเทียมได้แม้แต่สุดยอดอัจฉริยะของห้านิกายโบราณ เชียนเชียนนับถือเป็นอย่างยิ่ง!” เหวินเหรินเชียนเชียนหัวเราะ แววตาอันงดงามของนางเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน แม้นางจะไม่มีความรู้สึกพิเศษต่อหลิงฮัน แต่นางต้องการจะเป็นสหายกับอัจฉริยะเช่นนี้

เพราะเมื่อใดที่เจียหมิงมาตามตื้อนางอีก นางจะได้มีตัวช่วยเพิ่ม

หลิงฮันยิ้ม “เอาล่ะ พวกเราก็ควรเข้าไปกันได้แล้ว”

“ที่โบราณสถานแห่งนี้ บางทีอาจจะมีสมุนไพรหายากอยู่ พวกเราคงต้องใช้จมูกสุนัขเป็นตัวช่วยในการดมกลิ่นตามหา” หลิงฮันกล่าว

“เหอะ เจ้าน่ะสิที่จมูกสุนัข ตระกูลของเจ้าก็มีคนจมูกสุนัข อ้ากก…” เจ้ากระต่ายรู้ตัวว่ามันถูกพาดพิง แต่ยังไม่ทันที่มันจะได้พูดด่าจบ ฮูหนิวก็กัดก้นของมันจนมันร่วงลงไปในหลุมลึก “คิดจะฆ่าท่านกระต่ายรึไง!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นลงมาหลุมลึก แต่น้ำเสียงของเจ้ากระต่ายกลับค่อยๆห่างไกลออกไปเรื่อย เห็นได้ชัดว่ามันตกลงไปด้วยความเร็วที่สูงขนาดไหน

หลิงฮันคว้าร่างของจูเสวียนเอ๋อมาไว้ในอ้อมแขนและกระโดดลงไปในหลุม

‘ฟุบ ฟุบ ฟุบ’ คนอื่นๆตามลงมาเช่นกัน เหวินเหรินเชียนเชียนถอนหายใจ แม้นางจะคัดเลือกคนเข้าร่วมกลุ่มมามากมาย แต่เมื่อถึงเวลาคับขันกลับไม่มีใครอยู่ช่วยเหลือนางเลยซักนิด ตอนนี้นางไม่สนใจที่จะไปตามคนเหล่านั้นกลับมาแล้ว

นางก้าวไปข้างหน้าและกระโดดลงหลุมไปเช่นกัน

หลิงฮันจ้องมองไปยังจูเสวียนเอ๋อ นางกอดรัดร่างเขาแน่นราวกับปลาหมึก ใบหน้าของนางประดับไว้ด้วยเสน่ห์ที่แสนน่าดึงดูด

ช่างย้ำยวนใจอะไรเช่นนี้

หลิงฮันเกือบจะอดทนไม่ไหว เขาต้องการจะพาจูเสวียนเอ๋อเข้าไปในหอคอยทมิฬและกระทําชําเรานางให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องฝืนอดทนเอาไว้ หลังจากที่พวกเขากระโดดลงหลุมมาซักพัก จู่ๆร่างของเขารู้สึกเหมือนกับถูกโคลนดูด ทำให้ความเร็วของเขาค่อยๆช้าลง และในขณะเดียวกันด้านหน้าของเขาก็เริ่มมีแสงสว่างปรากฏขึ้น

ราวกับว่าเขาได้หลุดเข้ามาในโลกใบใหม่ ด้านล่างของพวกเขาเป็นพื้นราบที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ในบริเวณที่ห่างไกลสามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่และภูเขาที่เรียงราย

‘ตุบ ตุบ ตุบ’ คนที่ตามหลังเริ่มลงมาถึงแล้ว ฮูหนิวนั้นอยู่หน้าเขา โดยนางยังคงกัดหางเจ้ากระต่ายไม่ปล่อย ส่วนเจ้ากระต่ายก็ทำได้เพียงวิ่งกรีดร้องไปมาด้วยความเจ็บปวด

“โบราณสถานแห่งนี้… อยู่ในมิติพิเศษ!” ทุกคนอุทานพร้อมกัน ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นแล้วใต้หลุมจะมีพื้นที่ที่ใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร

หากมองขึ้นฟ้าจากตรงนี้ พวกเขายังสามารถมองเห็นก้อนเมฆที่ล่องลอยไปมาได้อยู่ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีดวงอาทิตย์ปรากฏให้เห็นด้วย ถ้าหากมีสัมผัสที่แกร่งกล้าพอจะรู้ว่านั่นไม่ใช่ดวงอาทิตย์ของจริง มันคือบอลเพลิงขนาดใหญ่ที่หากมองไกลๆจะดูเหมือนดวงอาทิตย์

“ช่างยอดเยี่ยม!” หลิงฮันกล่าวชม เขาเคยเข้าไปยังดินแดนลี้ลับอย่างเช่นดินแดนลี้ลับอสูรฟ้าและดินแดนลี้ลับสิบสองพระราชวังมาแล้วมันคือการหลอมสร้างสวรรค์และปฐพีเข้าไปสู่โลกใบเล็ก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดวงอาทิตย์ในโลกใบเล็ก

“ไม่แปลกใจเลยที่จักรพรรดิจันทราม่วงและห้านิกายโบราณหลุดสงครามกันชั่วคราวเพื่อมาสำรวจที่นี่” จูเสวียนเอ๋อพยักหน้า นางออกจากอ้อมแขนของหลิงฮันอย่างไม่เต็มใจ

“พวกเราจะไปที่ไหนต่อดี?” หลี่ซือเชียนถาม

หลิงฮันชี้ไปยังดวงอาทิตย์เทียมและกล่าว “ตามดวงอาทิตย์นั่นไป”

“ตกลง!” ทุกคนพยักหน้า ในเมื่อไม่มีทิศทางที่แน่นอน การเดินตามสัญลักษณ์อะไรบางอย่างไปก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ

เจ้ากระต่ายและฮูหนิวรีบไล่ตามกลุ่มหลิงฮันมา

“สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก!” พวกเขาบินผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึงเป็นเวลานาน แต่ทิวทัศน์ด้านหน้าก็ยังคงเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีและหุบเขาที่สูงเสียดฟ้า

‘ตูม!’

จู่ๆเสียงปะทะจากการต่อสู้ก็ดังขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว

เพียงแค่ฟังจากเสียงต่อสู้พวกหลิงฮันไม่สามารถบอกถึงระดับพลังของคนที่กำลังสู้อยู่ได้ พวกเขาทำได้เพียงแค่ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น

ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่เคยมีการต่อสู้เกิดขึ้น บนพื้นดินมีหลุมมากมายปรากฏอยู่ แสดงให้เห็นว่าการต่อสู้ที่รุนแรงเพิ่มจะผ่านไปไม่นาน

.

หลิงฮันปล่อยหมัดลงไปที่พื้นทำให้พื้นเกิดหลุมขึ้นมาทันที

กลุ่มของหลิงฮันเกิดอาการตกตะลึง นั่นเพราะหลุมที่หลิงฮันสร้างขึ้นนั้นมีขนาดเล็กกว่าหลุมที่ปรากฏอยู่ก่อนหน้านี้

ถึงแม้หลิงฮันจะปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่จริงจัง แต่สิ่งที่ต่อสู้กันเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นสิ่งที่ทรงพลังอย่างมาก

“คนที่ต่อสู้ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นเจียหมิง” หลิงฮันคาดเดา “ดูเหมือนว่าศัตรูของเขาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาเสียอีก”

“ตอนนี้ศัตรูที่เจียหมิงพบคงกำลังไล่ตามเขาไปอยู่” เหวินเหรินเชียนเชียนแสดงความคิดเห็น

“ถ้าเจียหมิงหนีรอดไปได้ คงเป็นเป็นพวกเราแทนที่ต้องพบเจอกับศัตรูสุดแข็งแกร่งที่ว่า!” หลี่เฟิงหยู่หน้าเปลี่ยนสี แม้แต่เจียหมิงยังต้องเผ่นหนี แล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้กับศัตรูเช่นนั้นได้

“บัดซบ เจ้าคนปากเสีย!” เจ้ากระต่ายกล่าวตำหนิ และทันใดนั้นเองก็มีหนอนขนาดมหึมาเลื้อยกลับมาโผล่ที่ด้านหน้าพวกเขา

หนอนตัวนี้มีขนาดยาวเกือบจะหนึ่งร้อยฟุต รูปร่างของมันคล้ายตะขาบ ร่างของมันแบ่งออกเป็นปล้องๆ ซึ่งแต่ละปล้องมีขาคู่หนึ่งงอกออกมา ครึ่งร่างของมันเป็นสีดำและอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว

ด้วยร่างที่ยาวเช่นนั้น ความสูงของมันก็ไม่แพ้กัน ขาและส่วนสูงของมันรวมกันแล้วสูงเกือบถึงห้าฟุต

หนอนตัวยาวนี้ไม่มีตาและจมูก ทั่วใบหน้าของมันประดับเอาไว้เพียงปากขนาดใหญ่ที่เมื่ออ้าออกมาก็จะมองเห็นฟันมากมายที่เรียงกันเป็นวงกลม