เสวียนจงรีบพูดต่อ “ ใช่ งานแสดงสินค้าสำหรับชาวยุทธ ! ”
หยางโปค่อนข้างที่จะตกใจ เขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เขาลังเลใจเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงย้อนถามเสวียนจงไปว่า ” คุณได้รับบัตรเชิญแล้วเหรอ ? ”
เสวียนจงพยักหน้าทันที “ ใช่ ผมได้รับมาแล้ว วันมะรืนนี้คุณพอมีเวลาไหม พวกเราไปที่นั่นด้วยกันไหม ? ”
หยางโปตอบตกลงไปด้วยความมึนงง เขารู้สึกค่อนข้างที่จะแปลกใจ ทำไมเขาไม่เคยได้ยินเรื่องงานแสดงสินค้ามาก่อน หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก หยางโปก็โทรไปหาอวี่เหวินและถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
อวี่เหวินมีท่าทีเอือมระอา “ นายอย่าไปที่นั่นดีกว่า งานแสดงสินค้าบ้าบออะไร มันก็แค่กลุ่มคนนอกที่ไม่รู้ว่าวรยุทธ์คืออะไรก็เท่านั้น ! นอกจากนี้ งานแสดงสินค้านี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย
ขั้นวรยุทธที่นายมีอยู่ในตอนนี้ยังต่ำเกินไป รอให้อนาคตขั้นวรยุทธ์สูงขึ้นมาแล้ว ก็จะได้ติดต่อสัมพันธ์กับชาวยุทธ์ที่แท้จริงเอง ”
เมื่อหยางโปได้ยินอวี่เหวินพูดแบบนี้ ก็เข้าใจทันที เขาพยักหน้าตอบรับ และไม่ถามอะไรมากอีก
หลายวันไม่เจอกัน หยางโปเลยไปช้อปปิ้งอยู่เป็นเพื่อนฮัวชิงหยุน พอพูดคุยกัน เขาถึงสัมผัสได้
ฮัวชิงหยุนอารมณ์ดีขึ้นมาก นับตั้งแต่ที่เขาพาเหยียนหรูหยูกลับมา ฮัวชิงหยุนก็ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี หยางโปก็รู้สาเหตุดี แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
เหยียนหรูหยูและฉินตูฟูเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน มันเป็นสิ่งที่หยางโปคาดคิดไม่ถึง นามสกุลของพวกเขาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ในเมื่อพูดถึงตระกูลซีหูฉินซื่อ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่านามสกุลของ เหยียนหรูหยูต้องมีปัญหาอยู่แน่นอน
เรื่องราวมันค่อนข้างที่จะยุ่งยาก หยางโปเองก็คงไม่สามารถเข้าใจทุกอย่างได้ในชั่วครู่ชั่วยาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระยะนี้ เพราะมีเหยียนหรูหยูอยู่ข้างกายเขา เขาเลยไม่มีเวลามาฝึกฝนวรยุทธ์ขั้นที่สองได้ เขารู้สึกใจหวิวๆ มีเพียงแต่เขาทะลวงผ่านขั้นหยินชี่ไปได้เท่านั้นถึงจะบรรลุถึงขั้นเลี่ยนชี่ได้ ถึงสามารถแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาได้
การอยู่เป็นเพื่อนฮัวชิงหยุนก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก หยางโปล้วงเครื่องประดับหยกสีเขียวมรกตออกมามอบให้ฮัวชิงหยุนในเวลานั้น ทำเอาเธอตกใจและดีใจเอามากๆ !
หยางโปมองดูสีหน้าท่าทางที่มีความสุขของฮัวชิงหยุน ก็รู้สึกมีความสุขมากเช่นกัน แต่เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ขาดหายไปในความสัมพันธ์นี้ แต่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถบรรยายออกมาได้
แต่พอมาถึงเวลานี้แล้ว หยางโปกลับพูดอะไรออกมามากไม่ได้ แต่ในใจก็คิดว่า ฮัวชิงหยุนก็ไม่ได้ดูแย่ หน้าตาสวยขนาดนี้ อีกทั้งยังมีความประพฤติที่ดีว่านอนสอนง่าย เป็นตัวเลือกที่ดีของการเป็นภรรยา
วันที่สอง เสวียนจงโทรมาหาอีกครั้งเพื่อยืนยันเวลาและสถานที่กับหยางโป ทางด้านหยางโปก็ตอบกลับไปแบบขอไปที แต่กลับไม่คิดที่จะไปที่นั่น.ไอลีนโนเวล.
แต่ทันใดนั้น เฉาหยวนเต๋อก็โทรมาหาเขา
“ พวกเราไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้วนะ ทำไมนายไม่โทรหาฉันบ้างเลยล่ะ ? ” เฉาหยวนเต๋อบ่นว่าให้
หยางโปรู้สึกจนใจที่จะตอบ “ ทุกครั้งที่คุณโทรหาผม ก็มีแต่ธุระที่จะคุยด้วย คุณยังจะมาว่าผมอีก ! ”
เฉาหยวนเต๋อหัวเราะฮ่าๆชอบใจ ” เรื่องนี้จะมาโทษฉันไม่ได้เหมือนกัน มันก็มักจะมีแต่เรื่องอะไรเยอะแยะเข้ามาหา นายมันคนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น ! “.novel-lucky.
เมื่อพูดถึงคนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น หยางโปก็นึกถึงสายที่โทรเข้ามาเมื่อวาน เขาไปหลงซูโกว ก็ถือว่าทำงานได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานได้โทรหาเขา หัวหน้าก็ได้พูดคุยกับเขาสองสามคำ และมีหลายครั้งที่เอาแต่พูดถึงหัวข้อเรื่องคนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นนี้
หยางโปหัวเราะออกมา “ พวกคุณมันไร้ยางอายจริงๆ ผมไม่รู้จะว่าอะไรคุณแล้ว ! ”
เฉาหยวนเต๋อก็ไม่ได้ถือสาเช่นกัน เขาพูดต่อไปว่า “ เรื่องราวในครั้งนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แค่ช่วงนี้ฉันได้รับรายงานเบาะแสหนึ่งมา จะมีงานแสดงสินค้าวัตถุโบราณขึ้น ฉันอยากไปดูกับนาย
ถ้ามีของดีอยู่จริงๆ มหาเศรษฐีอย่างนายสามารถใช้เงินกวาดซื้อมาทั้งหมดได้ ”
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่น “ คุณก็เป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูงในระดับผู้อำนวยการสำนัก ทำไมถึงยังสนใจเรื่องซุบซิบนินทาแบบนี้อยู่ตลอด อีกทั้งยังกล้าหนีงานไปดูความครื้นเครง คุณว่าคุณมีคุณธรรมพอไหม ! ”
เฉาหยวนเต๋อตอบกลับ ” ฉันไม่ได้หนีงาน พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันพักผ่อนพอดี ไม่อย่างนั้น นายคิดว่าฉันจะมีเวลามาเล่นตลกกับนายหรือไง ! ”
“ ได้ ขนาดพูดคุณยังไม่พูดดีเลย ขนาดเรื่องสัพเพเหระคุณยังมาพาผมไปด้วยเนี่ยนะ ! ”
ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย พอรู้จักกันนานเข้า ก็เลยเริ่มพูดเล่นกัน
หลังจากยืนยันเวลาแล้ว เฉาหยวนเต๋อก็บอกว่าพรุ่งนี้จะมารับเขาแต่เช้า แต่หยางโปกลับไม่สนใจ
วันที่สอง หยางโปพาฮัวชิงหยุนขึ้นรถไปกับเฉาหยวนเต๋อ เฉาหยวนเต๋อหันไปมองฮัวชิงหยุนและอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามมาด้วยความแปลกใจ “ โอ้ พ่อหนุ่มน้อยเก่งจริงๆนะ อย่างนายเนี่ย ยังสามารถหาภรรยาที่สวยขนาดนี้ได้อีกเหรอ ต้องทำบุญมากี่ชาติถึงจะได้มา นายต้องทะนุถนอมไว้ให้ดีๆนะ ! ”
ประโยคนี้ทำเอาฮัวชิงหยุนมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มด้วยความดีใจทันที เฉาหยวนเต๋อถึงกับหันไปกระพริบตาให้หยางโป
หยางโปรู้สึกพูดอะไรไม่ออก นับวันเฉาหยวนเต๋อก็ยิ่งชอบพูดเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ “ วันนี้วันเสาร์ คุณในฐานะหัวหน้าของหน่วยงาน ควรจะเป็นแบบอย่างไปทำโอที ! ”
เฉาหยวนเต๋องที่นั่งข้างคนขับ ก็หันมาโต้กลับทันที “ ทำไมฉันต้องไปทำโอที ? ถ้าฉันทำโอที นั่นก็หมายความว่าระหว่างวันที่ไปทำงานฉันเคลียร์ไม่เสร็จ มันก็จะแสดงให้เห็นว่าไม่มีความรับผิดชอบต่องานที่ทำ ! ”
หยางโปจ้องหน้าเฉาหยวนเต๋อ ” ทั้งหมดนั่นเป็นเงินภาษี คุณควรให้คนเสียภาษีได้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า ! ”
เฉาหยวนเต๋อไม่ยอมแพ้ ” อะไรที่ฉันควรทำ ก็ได้ทำไปหมดแล้ว ถ้าฉันทำโอที มันจะเป็นการขอโทษลูกน้องของฉัน ทุกคนล้วนแล้วแต่มีครอบครัว พวกเขาลำบากกันมามากกว่าจะมีเวลาหยุดพักในช่วงสุดสัปดาห์ ควรจะอยู่เป็นเพื่อนภรรยาและลูกๆที่บ้าน ใช้เวลาทั้งวันไปกับการทำงาน
นั่นเป็นสิ่งที่ขาดความรับผิดชอบ ! ”
“ ข้ออ้าง ! ” ระหว่างที่พูดคุยหยางโปก็เถียงข้างๆคูๆ
เฉาหยวนเต๋อกลับหัวเราะฮ่าๆเสียงดังออกมา “ ฉันค้นพบว่า หลังจากที่เถียงกับนายจนชนะมาได้นั้น มันทำให้รู้สึกหยิ่งในศักดิ์ศรีทำให้ฉันรู้สึกสะใจจริงๆ ! ”
“ คุณมันไม่ได้เรื่องจริงๆ ! ” หยางโปกล่าว
เฉาหยวนเต๋อก็ไม่ได้ถือสาเอาความเช่นกัน เขาบอกทางให้คนขับรถ และพลางโต้เถียงกับหยางโปต่ออีกสองสามคำ
ฮัวชิงหยุนรู้สึกค่อนข้างที่จะแปลกใจ เธอพอจะมองออกว่าความสัมพันธ์ที่ลืมอายุตัวเองไปของคนคู่นี้ดีเอามากๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดหยอกกันเล่นแน่ๆ
หลังจากรถขับมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดรถก็มาจอดอยู่ที่ด้านนอกโรงแรม หยางโปเงยหน้ามองขึ้นไปที่ชื่อของโรงแรม ” เซียนเต๋อ ” เขารู้สึกว่าชื่อนี้คุ้นหู ทันใดนั้นก็นึกถึงที่เสวียนจงพูดมาในสาย โรงแรมที่อีกฝ่ายพูดถึงไม่ใช่โรงแรมแห่งนี้หรอกเหรอ ?
มันบังเอิญขนาดนั้นจริงๆเหรอ ? งานแสดงสินค้าทั้งสองงานจัดขึ้นในโรงแรมเดียวกัน ?
ขณะที่หยางโปกำลังสงสัย เฉาหยวนเต๋อก็เดินเข้าไปแล้ว เขาเลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องตามเข้าไป
ฮัวชิงหยุนยืนอยู่ข้างๆ เหมือนจะสังเกตเห็นอาการหยางโปที่ดูแปลกๆไป จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
” เกิดอะไรขึ้น ? ”
หยางโปก็ไม่ได้ปิดบัง ตอบกลับไปว่า “ คุณยังจำเรื่องเมื่อวานที่ผมพูดกับคุณได้ไหม ? มีคนพูดถึงการจัดงานแสดงสินค้าหนึ่งกับผม และยังจัดงานในโรงแรมนี้ด้วยเหมือนกัน ”
ฮัวชิงหยุนก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน “ คงไม่ได้หมายถึงงานแสดงสินค้าที่เดียวกันหรอกนะ ?
ถ้าพวกเราเข้าไปแล้วพบกับคนที่โทรหาคุณอีกครั้ง มันคงอึดอัดน่าดู ”
หยางโปโบกมือ “ ไม่เป็นไร ผมหน้าด้าน เจอหน้ากันก็คงไม่รู้สึกอึดอัดหรอก ”
ในขณะที่พูด เฉาหยวนเต๋อก็ไปแสดงบัตรเชิญให้ดู และชี้ไปทางหยางโปสองคนนั้นอีกครั้ง เพื่อให้รู้ว่าพวกเขามาด้วยกัน
“ คุณหยาง คุณเป็นคนตรงเวลาจริงๆ มาซะเช้าเลย ! ” จู่ๆหยางโปก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย