เมื่อเห็นฉินตูฟูกระโดดลงจากหน้าผา เหยียนหรูก็เหลือบมองแค่แวบเดียวเท่านั้น แต่ไม่หันกลับไปมองอีกเลย
เมื่อหยางโปกลับเข้ามานั่งในรถ จู่ๆ ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา นี่มันคือความแตกต่างของขั้นวรยุทธ์ที่ต่างกันมาก แต่เขาก็ยังเอาชนะคู่ต่อสู้มาได้ แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญเพราะเขามีไม้ตายอยู่เยอะและกระบี่หยกก็ค่อนข้างที่จะแข็งแกร่งกว่า
หยางโปอดที่จะนึกถึงการฝึกบำเพ็ญวรยุทธ์ทั้งหมดของตัวเองไม่ได้ จากที่เขาได้สัมผัสเรียนรู้มา เหมือนจะมีเพียงไม่กี่คนที่ใช้วรยุทธ์เป็น ถึงเขาจะมีวิชาเรียกลมฝนอยู่ในมือ แต่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ จะมีเวลามาแสดงความสามารถได้ยังไง ?
หลังจากคิดไตร่ตรองอยู่นาน หยางโปก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เหยียนหรูหยูอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเกล็ดบนแขนของฉินตูฟู เขาก็อดที่จะรู้สึกหนาวสั่นไม่ได้
เหยียนหรูหยูไม่ได้พูดอะไรเลยมาตลอดทาง ทำราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อกลับมาถึงตี้จิง ก็เป็นเวลาเช้าตรู่ของวันที่สามแล้ว หลินหลินและฮัวชิงหยุนมารอรับถึงสนามบิน เมื่อเห็นหยางโปไม่เป็นอะไร ทั้งสองคนถึงได้โล่งใจ ชายชราไม่ได้บอกเรื่องที่หยางโปได้รับบาดเจ็บให้รู้ ดังนั้นพวกเธอจึงไม่รู้กัน
ฮัวชิงหยุนชายตามองไปทางเหยียนหรูหยู ” ขอบคุณเธอด้วยนะที่ดูแลหยางโปมาตลอดทาง ! ”
เหยียนหรูหยูไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนจะไม่เข้าใจความหมายของฮัวชิงหยุน
ฮัวชิงหยุนเป้าประกาศอย่างโจ้งแจ้งว่าหยางโปมีเจ้าของแล้วส่วนเธอก็อย่าได้มาคิดเพ้อฝัน
แต่มีหรือที่เธอจะรู้ เหยียนหรูหยูไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้เลยเสียด้วยซ้ำ !
เมื่อทั้งกลุ่มกลับมาถึงบ้าน ก็ล้างเนื้อล้างตัว ไม่พูดอะไรกันมากแยกย้ายกันไปนอน
หยางโปรู้สึกสดชื่นหลังจากฝึกบำเพ็ญเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตอนเช้าก็ไปออกกำลังกายมารอบหนึ่ง แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำไมเหยียนหรูหยูถึงไม่ได้ตามเขาไปออกกำลังกายตอนเช้าด้วย
เมื่อหยางโปกลับมาถึงบ้าน หลินหลินก็ได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว เธอกับฮัวชิงหยุนมีสีหน้าที่ดูอ่อนเพลีย เมื่อคืนคงไม่ได้หลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแน่นอน
หยางโปค่อนข้างซาบซึ้งใจ “ แม่ ตอนเช้าไม่จำเป็นต้องเตรียมอาหารเช้ามากมายขนาดนี้ กินไม่หมดหรอก ”
หลินหลินยิ้มและหันไปส่ายหน้าให้ “ ไม่เป็นไร แม่ว่างเลยไม่มีอะไรทำ ”
“ เมื่อคืนพวกคุณนอนหลับพักผ่อนกันไม่เพียงพอ เดี๋ยวพวกคุณกลับไปนอนพักผ่อนเถอะ
ผมจะไปหาคุณปู่ก่อน ” หยางโปพูด
หลินหลินพยักหน้า และเหลือบมองไปทางฮัวชิงหยุนอีกครั้ง ยิ้มและกล่าวออกมาว่า ” แม่น่ะแก่แล้ว อาจจะทนกับความเหนื่อยล้าไม่ได้ แต่ชิงหยุนยังเด็กอยู่ ลูกพาเธอไปที่นั่นด้วยได้ ! ”
เมื่อฮัวชิงหยุนได้ยินคำพูดนี้ ก็ส่งยิ้มน้อยๆและหันไปทางหยางโป ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความคาดหวัง !
ช่วงนี้หยางโปไม่ได้อยู่บ้านมาสักพัก คิดไม่ถึงว่าหลินหลินกับฮัวชิงหยุนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันขนาดนี้ เขายิ้ม “ ครับ กินข้าวเสร็จแล้ว พวกเราจะไปด้วยกัน ”
หลังกินข้าวเช้า หยางโปก็ไม่เห็นเหยียนหรูหยูออกมา จึงมีอาการค่อนข้างที่จะสงสัย จากนั้นเขาก็ชายตาไปทางฮัวชิงหยุน “ คุณไปเคาะประตูเรียกหน่อยสิ ว่าเธอตื่นหรือยัง ผมเป็นผู้ชาย ไม่สะดวกที่จะเข้าไปในห้องของเธอ ”
เมื่อฮัวชิงหยุนได้ยินหยางโปบอกให้เธอไปเคาะประตู ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลของหยางโป ก็ยังเดินไปเคาะประตูของเหยียนหรูหยูให้
หลังจากเคาะประตูอยู่สักพัก แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ หยางโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดว่า ” คุณเปิดประตูเข้าไปดูหน่อยสิ “.novel-lucky.
ฮัวชิงหยุนเอื้อมมือมาผลักเปิดประตู จากนั้นจึงหันไปพูดกับหยางโป ” ไม่มีใครอยู่ข้างใน ”
หยางโปขมวดคิ้วเล็กน้อยและเดินเข้าไปในห้อง ในห้องยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นหอมจางๆ นี่คือกลิ่นกายของเหยียนหรูหยู หยางโปเห็นว่ามีกระดาษแผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ด้านบนเขียนไว้ด้วยอักษรภาษาจีนตัวเต็มสั้นๆด้วยอักษรสามคำ ” ฉันไปแล้ว ! ”
ฮัวชิงหยุนที่ยืนอยู่ข้างๆ น้ำเสียงดูน้อยเนื้อต่ำใจ “ คนก็ไปแล้ว คุณยังจะมองหาอะไรอีก ? ”
หยางโปพยักหน้า “ พวกเราไปกันเถอะ ! ”
พอมานั่งอยู่ในรถ หยางโปก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เหยียนหรูหยูไม่บอกสักคำอยู่ๆก็ไป หรือว่ามีเรื่องด่วนอะไร ? หรือว่าเธอจะไปช่วยชีวิตใคร ? แต่ทำไมเธอต้องมาถึงตี้จิงก่อนแล้วค่อยจากไป แทนที่จะไปช่วยเหลือผู้คนในตอนนั้นเลย ?
หยางโปคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ ฮัวชิงหยุนที่นั่งข้างๆมองดูท่าทีที่ใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของ
หยางโปก็ชักสีหน้าไม่ค่อยมีความสุข แต่กลับไม่พูดอะไรมาก
เมื่อมาถึงบ้านเก่า ชายชรากำลังทำงานอยู่ในสวนผักของเขา และเห็นหยางโปมองมาอย่างพินิจพิเคราะห์ “ บาดแผลหายเร็วจัง ? ”
หยางโปพยักหน้า “ คุณปู่ ทำให้เป็นห่วงแล้ว แค่บาดเจ็บเล็กน้อย เดี๋ยวก็หายดีแล้ว ”
ชายชราเหลือบมองฮัวชิงหยุน ” ช่วงนี้คุณปู่ของหนูเป็นยังไงบ้าง ? ”
“ สวัสดีค่ะคุณปู่ชุย คุณปู่ของหนูสบายดี ” ฮัวชิงหยุนรีบตอบกลับ
ชายชราพยักหน้า และมองไปทางหยางโป “ วันนี้แกพาแม่หนูนี่มาด้วย คืออยากจะบอกให้ฉันรู้ว่าแกตัดสินใจแล้วใช่ไหม ? ”
หยางโปพยักหน้า “ ตัดสินใจแล้ว ”
ฮัวชิงหยุนเหลือบมองหยางโปด้วยสีหน้าที่มีความสุข แต่ก็รู้สึกลังเลใจไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ปู่ชุยพยักหน้า “ ในเมื่อแน่ใจแล้ว งั้นก็เริ่มเตรียมตัว ! เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ ”
หยางโปพยักหน้า เขาพูดคุยกับชายชราอีกสองสามคำก่อนที่จะขอตัวลา
ชายชราก็ไม่ได้ขอให้เขาอยู่ต่อ พูดเพียงว่า ” เรื่องราวในครั้งนี้จัดการได้ไม่เลว เรื่องบางอย่างไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต เพราะมันจะทำให้หลายคนตื่นตระหนกเอาได้ แบบนี้ไม่ดีมันไม่เอื้อต่อความมั่นคง ! ”
หยางโปพยักหน้า เขารู้ดีว่าในสายตาของผู้ใหญ่เหล่านี้ ความมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เขาพยักหน้าและขานรับ “ ครับ ! ”
ไม่นาน หยางโปก็พาฮัวชิงหยุนออกไปจากที่นั่น
ฮัวชิงหยุนดูเหมือนจะกังวลใจ “ คุณปู่ชุยให้เตรียมการอะไรเหรอ ? ”
หยางโปหันไปมองฮัวชิงหยุน ” เตรียมเรื่องงานแต่ง คุณวางใจได้ ผมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม ”
ถึงแม้ฮัวชิงหยุนจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากหลินหลิน แต่เมื่อเห็นหยางโปพูดออกมาง่ายๆและถึงกับไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมากนักแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง “ แต่งงาน ? คุณยังไม่ถามฉันเลยนะ ? ”
หยางโปอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาเพิ่งจะตระหนักถึงปัญหาจุดนี้ เขาไม่ได้หารือเรื่องนี้กับฮัวชิงหยุนจริงๆ แถมเธอก็ยังไม่ได้ตอบตกลง แน่นอน เขาเดาว่า บางทีฮัวชิงหยุนคงอยากให้ขอแต่งงานก่อน ?
หยางโปนิ่งเงียบ เขามองหน้าฮัวชิงหยุนและจับมือของเธอไว้ ” ผมเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว ”
“ คุณเตรียมอะไรไว้พร้อมหมดแล้วเหรอ ? ” ฮัวชิงหยุนเค้นถาม
หยางโปยิ้ม “ พรุ่งนี้เดี๋ยวคุณก็รู้เอง ”
ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น โทรศัพท์ของหยางโปก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและก้มลงมอง เป็นสายโทรเข้าจากโจวซิน เขาลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังกดรับสาย
“ หยางโป คุณกลับมาหรือยัง ? หยางหลางใกล้จะหิวตายอยู่แล้ว สรุปว่าคุณเป็นห่วงเขาบ้างไหมเนี่ย ? ” โจวซินพูดออกมาอย่างจนปัญญา เขาไม่ทันตงิดใจเลยด้วยซ้ำว่าหยางโปไม่ร้อนใจอะไรเลย เพราะเขาคิดว่า อย่างน้อยโจวซินคงจะไม่ปล่อยให้หยางหลางหิวตาย
“ คุณยังไม่ปล่อยตัวเขาอีกเหรอ ? ตำรวจท้องที่หาตัวคุณไม่เจออีกรึไง ? ” หยางโปเอ่ยถาม
โจวซินตกตะลึง “ คุณไม่คิดที่จะสนใจเขาเลยใช่ไหม ? ”
หยางโปไม่พูดอะไรมาก เขาถือโทรศัพท์และคิดที่จะกดตัดสายทิ้ง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังตามสายมาอีกครั้ง เขาขมวดคิ้ว จึงไม่ได้กดตัดสายทิ้ง
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็ได้ยินว่าเสียงดังตามสายมาเปลี่ยนเป็นเสียงของอีกคน ” คุณหยาง
คุณหยาง ผมเสวียนจงจากชุมนุมยุทธภพ ! ”
หยางโปขมวดคิ้วเล็กน้อย “ สวัสดี ประธานเสวียน ! ”
เสวียนจงหัวเราะ “ คุณหยาง คือแบบนี้นะ จะมีการจัดงานแสดงสินค้าประจำปีขึ้นอีกครั้งในเร็วๆนี้ ไม่ทราบว่าคุณได้รับบัตรเชิญหรือยัง ? ”
“ งานแสดงสินค้าอย่างงั้นเหรอ ? ” หยางโปชะงักนิ่งอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง