ตอนที่ 512 ถูกคนตามฆ่า / ตอนที่ 513 ไป๋หลิงตายแล้ว

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 512 ถูกคนตามฆ่า

 

 

“ขอบคุณค่ะแม่” ฉู่เจียเสวียนเธอพูดพร้อมมองแผ่นหลังของซูซาน รอยยิ้มปรากฏอยู่ในดวงตา ถอนหายใจแผ่วเบา หยิบนิตยสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่าน

 

 

           เหยียดมือขึ้นนวดคลึงคิ้ว วางนิตยสารในมือลง เดินไปยืนที่ระเบียง ในหัวก็นึกถึงเผยหนานเจวี๋ยโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง

 

 

           ขณะที่ความคิดกำลังล่องลอย โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น

 

 

           “ฮัลโหล” ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน

 

 

           “ฮัลโหลที่รัก ไม่เห็นเธอตั้งหลายวัน ยุ่งมากเหรอ” เสียงอันไพเราะของถังถังดังขึ้น น้ำเสียงสบายๆ เหมือนอารมณ์ดี

 

 

           “เป็นอะไรไป คิดถึงฉันเหรอ” ฉู่เจียเสวียนพูด ริมฝีปากยกยิ้ม มีเพียงความสูญเสียในแววตาของเธอที่ทำให้เธอดูเศร้าเล็กน้อย

 

 

           “ก็ต้องคิดถึงเธออยู่แล้ว เธอนั่นแหละที่ใจร้ายไม่คิดถึงฉัน” ถังถังพูดขึ้นทันทีอย่างไม่พอใจ เธอไม่มาที่ร้านชุดแต่งงานตั้งหลายวันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

 

 

           แน่นอนเธอรู้ว่าฉู่เจียเสวียนยุ่งมาก เธอไม่เพียงแต่มีร้านเจ้าสาวที่ต้องดูแล แต่เธอยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องจัดการเหมือนกัน การที่เธอจะมาหรือไม่มาร้านชุดแต่งงานนั้น ที่จริงถังถังแค่ถามก็พอแล้ว

 

 

           “ฉัน…” เมื่อได้ยินคำพูดของถังถังแล้ว ฉู่เจียเสวียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่หยุด เธอไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับถังถังหรือเปล่า

 

 

           “เป็นอะไรไปที่รัก เธอมีอะไรจะบอกฉันเหรอ” ได้ยินฉู่เจียเสวียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่หยุดไป ถังถังเลิกคิ้ว

 

 

           “เปล่า พรุ่งนี้ฉันจะไปร้านชุดแต่งงาน” ฉู่เจียเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

 

           “ดีเลย งั้นพวกเราเจอกันพรุ่งนี้นะ” ทันทีที่ถังถังได้ยินก็ยิ้ม ต้องการจะวางสาย แต่ก่อนที่ถังถังวางสาย เสียงของฉู่เจียเสวียนก็ดังขึ้น “เธอโทรมาแค่จะบอกว่าคิดถึงฉันเหรอ”

 

 

           “ไม่งั้นจะให้พูดว่าอะไรล่ะ เธอคิดว่าฉันอยากพูดอะไรกับเธองั้นเหรอ” ถังถังเลิกคิ้ว ถามฉู่เจียเสวียนกลับ

 

 

           เธอเพียงแค่เหนื่อยล้าจากการทำงานมากเกินไป เธอกำลังออกแบบต้นฉบับ แต่ทันใดนั้นความคิดก็หายไป ดังนั้นเธอจึงต้องการโทรศัพท์มาหาฉู่เจียเสวียน พูดคุยกับเธอ ปลดปล่อยสมอง แล้วดูว่าจะมีแรงบันดาลใจผุดขึ้นมาหรือไม่

 

 

           “ไม่มีอะไร งั้นก็แค่นี้แหละ” ฉู่เจียเสวียนพูดจบก็วางสาย หลังจากยืนตากลมอยู่ที่ระเบียงสักพัก เสียงของซูซานก็ดังขึ้น

 

 

           “เจียเสวียน กินข้าวได้แล้ว” ซูซานไปหาฉู่เจียเสวียนที่ระเบียง เมื่อเห็นเธอก็พูดขึ้น

 

 

           “ค่ะ” เมื่อได้ยินแล้วฉู่เจียเสวียนก็หันหลังและเดินไปที่ห้องกินข้าว

 

 

           วิกฤตของกลุ่มบริษัทกงได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในระหว่างที่ฉู่เจียเสวียนทำข้อตกลงกับเผยหนานเจวี๋ยเป็นเวลาสามวันนั้น ความยุ่งยากของกลุ่มบริษัทกงที่ต่างประเทศก็หายไป ในเวลานี้ขอเพียงกงจวิ้นฉือจัดการกับเรื่องสำคัญบางอย่างก็สามารถกลับประเทศได้แล้ว

 

 

เวลายังคงเดินไปอย่างเงียบๆ มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นในแต่ละวัน บางคนทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อทุกวัน ในขณะที่บางคนเดินทางไปต่างประเทศทุกวันไม่หยุด

 

 

           แต่ไม่ว่าทุกคนจะพยายามอย่างหนักเพียงใด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะมาเมื่อไหร่

 

 

           ที่ร้านชุดแต่งงาน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่ในออฟฟิศ กำลังดูต้นฉบับในมือที่เพิ่งออกแบบเสร็จ มุมปากยกยิ้ม เมื่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเผยหนานเจวี๋ยแล้ว ชีวิตก็ดูเหมือนจะเริ่มเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เธอค่อยๆ ลืมวันเวลาเหล่านั้นที่อยู่กับเผยหนานเจวี๋ยทีละน้อย

 

 

           หลังจากนั้นเรื่องบางอย่างก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และมีเรื่องไม่คาดฝันมากมายที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกำลังชื่นชมผลงานที่เพิ่งออกแบบเสร็จ ก็เห็นถังถังปรี่เข้ามาด้วยความร้อนรน

 

 

           “เธอเป็นอะไรน่ะ ถูกคนตามฆ่าเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองถังถังพร้อมกับพูด แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

 

 

           “เธอเห็นข่าวหรือยัง”ถังถังไม่ได้ตอบฉู่เจียเสวียน เดินเข้ามาหาเธอแล้วพูด

 

 

 

 

       ตอนที่ 513 ไป๋หลิงตายแล้ว

 

 

           “ข่าว?” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากด้วยความสงสัย สองวันนี้เธอดูโทรศัพท์มือถือน้อยมาก บวกกับงานออกแบบที่วุ่นวายทำให้ไม่มีเวลาดูข่าวเลยจริงๆ

 

 

           เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉู่เจียเสวียน ถังถังก็รู้ว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้ดู เอื้อมมือวางหนังสือพิมพ์ในมือลงตรงหน้าฉู่เจียเสวียนเสียงดัง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกวาดตามอง อ่านพาดหัวข่าวขนาดใหญ่ที่สะดุดตาบนหนังสือพิมพ์ ‘เรือนจำเขตชานเมืองตะวันตกถูกเพลิงไหม้เมื่อเช้า หนึ่งเสียชีวิตหนึ่งบาดเจ็บอีกสาม’

 

 

           ขณะที่ฉู่เจียเสวียนกำลังจะถามถังถังว่าให้เธอดูเพื่ออะไร ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นชื่อ ‘ไป๋หลิง’ เธอมองชื่อผู้ตาย ‘ไป๋หลิง’ ที่อยู่บนหนังสือพิมพ์ด้วยความเหลือเชื่อ ดวงตาเบิกโต

 

 

           ฉู่อีอีตายแล้ว? ข่าวนี้โจมตีสมองของเธออย่างรวดเร็ว เธอตายแล้ว? อีกทั้งยังตายในเรือนจำหญิง?

 

 

ฉู่เจียเสวียนไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของตัวเองได้ในขณะนี้ แม้ว่าเธอจะเกลียดไป๋หลิง เกลียดที่เธอทำให้เธอต้องเสียลูก แต่เมื่อได้ยินข่าวว่าเธอตายแล้ว ในใจกลับไม่รู้สึกมีความสุข

 

 

           มือของฉู่เจียเสวียนถือหนังสือพิมพ์สั่นเล็กน้อย เธอวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ

 

 

           “เจียเสวียน เธอกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” เห็นท่าทางที่เลื่อนลอยของฉู่เจียเสวียน ถังถังยื่นมือตบๆ ไหล่ของฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดกับเธอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ยังคงจ้องหนังสือพิมพ์ต่อ

 

 

           “เธอน่ะอย่าคิดมากเลย คนประเภทนี้สมควรได้รับกรรมตามสนองแล้ว” ถังถังนึกว่าฉู่เจียเสวียนกำลังคิดถึงการตายของไป๋หลิง ดังนั้นจึงกล่าวขึ้น

 

 

           เธอไม่ได้มีความประทับใจกับผู้หญิงที่ชื่อไป๋หลิงมากนัก รู้เพียงว่าไป๋หลิงคนนี้เคยทำร้ายฉู่เจียเสวียนเมื่อสามปีก่อน

 

 

           “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งเธอจะมาตายแบบนี้” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยขึ้นเบาๆ เธอสงบอารมณ์ลงมาแล้ว          ไป๋หลิงตายแล้ว แม้ว่าในอดีตเธอจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอมากมายแค่ไหน มันก็ควรจะหายไปด้วย

 

 

           “นี่มันเรียกว่ากรรมตามสนอง แต่ฉันกลับรู้สึกว่าเขาตายแบบนี้ที่จริงก็น่าเสียดายอยู่” ถังถังส่ายหน้าด้วยความเศร้าหมองเล็กน้อย มองฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

           การที่ไป๋หลิงตาบแบบนี้เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ผู้หญิงที่ชั่วช้าแบบนั้น เธอควรได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานก่อนที่เธอจะตาย

 

 

           “พอเถอะ คนก็ตายไปแล้ว พวกเราก็อย่าพูดถึงอีกเลย” พูดจบ ฉู่เจียเสวียนก็นำหนังสือพิมพ์ออกไป แล้วก้มหน้าดูงานออกแบบ

 

 

           การตายของไป๋หลิงไม่ได้ส่งผลต่อเธอนานนัก ไม่ช้าฉู่เจยเสวียนก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

 

 

           แต่การตายของไป๋หลิงกลับทำให้เธอเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น ว่าบางครั้งความหลงใหลมากเกินไปก็ไม่สามารถต้านทานอุบัติเหตุได้ในท้ายที่สุด

 

 

เธออดไม่ได้ที่จะเริ่มทบทวนความสัมพันธ์ของเธอกับเผยหนานเจวี๋ยอีกครั้ง เธอมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความเจ็บปวดที่เผยหนานเจวี๋ยเคยมอบให้เธอ เธอหมกมุ่นอยู่กับการตายของลูก เธอควรให้โอกาสกันและกันอีกครั้งหรือเปล่า เธอทําผิดไปหรือเปล่า          

 

 

           ตอนที่เธอจากเมืองนี้ไปเมื่อสามปีก่อน คิดว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาแก้แค้นเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าเมื่อได้พบกันอีกครั้ง เธอก็พบว่าเธอไม่สามารถเกลียดหรือลงมือกับเขาได้เลย

 

 

           เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอจึงพบว่าแท้จริงแล้วในใจของเธอไม่เคยลืมเขา

 

 

           “เธอกำลังคิดอะไรอยู่” ตั้งแต่ที่เห็นข่าวการตายของไป๋หลิง ฉู่เจียเสวียนก็จมอยู่ในความคิดตลอดเวลา ถังถังเอ่ยถาม

 

 

           “อ๋อ ไม่มีอะไร” ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมา พูดกับถังถัง ขมวดคิ้วกันจบแทบมองไม่เห็น

 

 

           ถังถังมองดูแต่ไม่ได้พูดอะไรอีกและไม่ได้ถามอะไรอีก เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเริ่มทำงาน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนครุ่

       ตอนที่ 512 ถูกคนตามฆ่า

 

 

“ขอบคุณค่ะแม่” ฉู่เจียเสวียนเธอพูดพร้อมมองแผ่นหลังของซูซาน รอยยิ้มปรากฏอยู่ในดวงตา ถอนหายใจแผ่วเบา หยิบนิตยสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่าน

 

 

           เหยียดมือขึ้นนวดคลึงคิ้ว วางนิตยสารในมือลง เดินไปยืนที่ระเบียง ในหัวก็นึกถึงเผยหนานเจวี๋ยโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง

 

 

           ขณะที่ความคิดกำลังล่องลอย โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น

 

 

           “ฮัลโหล” ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน

 

 

           “ฮัลโหลที่รัก ไม่เห็นเธอตั้งหลายวัน ยุ่งมากเหรอ” เสียงอันไพเราะของถังถังดังขึ้น น้ำเสียงสบายๆ เหมือนอารมณ์ดี

 

 

           “เป็นอะไรไป คิดถึงฉันเหรอ” ฉู่เจียเสวียนพูด ริมฝีปากยกยิ้ม มีเพียงความสูญเสียในแววตาของเธอที่ทำให้เธอดูเศร้าเล็กน้อย

 

 

           “ก็ต้องคิดถึงเธออยู่แล้ว เธอนั่นแหละที่ใจร้ายไม่คิดถึงฉัน” ถังถังพูดขึ้นทันทีอย่างไม่พอใจ เธอไม่มาที่ร้านชุดแต่งงานตั้งหลายวันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย

 

 

           แน่นอนเธอรู้ว่าฉู่เจียเสวียนยุ่งมาก เธอไม่เพียงแต่มีร้านเจ้าสาวที่ต้องดูแล แต่เธอยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องจัดการเหมือนกัน การที่เธอจะมาหรือไม่มาร้านชุดแต่งงานนั้น ที่จริงถังถังแค่ถามก็พอแล้ว

 

 

           “ฉัน…” เมื่อได้ยินคำพูดของถังถังแล้ว ฉู่เจียเสวียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่หยุด เธอไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับถังถังหรือเปล่า

 

 

           “เป็นอะไรไปที่รัก เธอมีอะไรจะบอกฉันเหรอ” ได้ยินฉู่เจียเสวียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่หยุดไป ถังถังเลิกคิ้ว

 

 

           “เปล่า พรุ่งนี้ฉันจะไปร้านชุดแต่งงาน” ฉู่เจียเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

 

           “ดีเลย งั้นพวกเราเจอกันพรุ่งนี้นะ” ทันทีที่ถังถังได้ยินก็ยิ้ม ต้องการจะวางสาย แต่ก่อนที่ถังถังวางสาย เสียงของฉู่เจียเสวียนก็ดังขึ้น “เธอโทรมาแค่จะบอกว่าคิดถึงฉันเหรอ”

 

 

           “ไม่งั้นจะให้พูดว่าอะไรล่ะ เธอคิดว่าฉันอยากพูดอะไรกับเธองั้นเหรอ” ถังถังเลิกคิ้ว ถามฉู่เจียเสวียนกลับ

 

 

           เธอเพียงแค่เหนื่อยล้าจากการทำงานมากเกินไป เธอกำลังออกแบบต้นฉบับ แต่ทันใดนั้นความคิดก็หายไป ดังนั้นเธอจึงต้องการโทรศัพท์มาหาฉู่เจียเสวียน พูดคุยกับเธอ ปลดปล่อยสมอง แล้วดูว่าจะมีแรงบันดาลใจผุดขึ้นมาหรือไม่

 

 

           “ไม่มีอะไร งั้นก็แค่นี้แหละ” ฉู่เจียเสวียนพูดจบก็วางสาย หลังจากยืนตากลมอยู่ที่ระเบียงสักพัก เสียงของซูซานก็ดังขึ้น

 

 

           “เจียเสวียน กินข้าวได้แล้ว” ซูซานไปหาฉู่เจียเสวียนที่ระเบียง เมื่อเห็นเธอก็พูดขึ้น

 

 

           “ค่ะ” เมื่อได้ยินแล้วฉู่เจียเสวียนก็หันหลังและเดินไปที่ห้องกินข้าว

 

 

           วิกฤตของกลุ่มบริษัทกงได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในระหว่างที่ฉู่เจียเสวียนทำข้อตกลงกับเผยหนานเจวี๋ยเป็นเวลาสามวันนั้น ความยุ่งยากของกลุ่มบริษัทกงที่ต่างประเทศก็หายไป ในเวลานี้ขอเพียงกงจวิ้นฉือจัดการกับเรื่องสำคัญบางอย่างก็สามารถกลับประเทศได้แล้ว

 

 

เวลายังคงเดินไปอย่างเงียบๆ มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นในแต่ละวัน บางคนทำงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อทุกวัน ในขณะที่บางคนเดินทางไปต่างประเทศทุกวันไม่หยุด

 

 

           แต่ไม่ว่าทุกคนจะพยายามอย่างหนักเพียงใด ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะมาเมื่อไหร่

 

 

           ที่ร้านชุดแต่งงาน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนนั่งอยู่ในออฟฟิศ กำลังดูต้นฉบับในมือที่เพิ่งออกแบบเสร็จ มุมปากยกยิ้ม เมื่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเผยหนานเจวี๋ยแล้ว ชีวิตก็ดูเหมือนจะเริ่มเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง เธอค่อยๆ ลืมวันเวลาเหล่านั้นที่อยู่กับเผยหนานเจวี๋ยทีละน้อย

 

 

           หลังจากนั้นเรื่องบางอย่างก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และมีเรื่องไม่คาดฝันมากมายที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกำลังชื่นชมผลงานที่เพิ่งออกแบบเสร็จ ก็เห็นถังถังปรี่เข้ามาด้วยความร้อนรน

 

 

           “เธอเป็นอะไรน่ะ ถูกคนตามฆ่าเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองถังถังพร้อมกับพูด แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

 

 

           “เธอเห็นข่าวหรือยัง”ถังถังไม่ได้ตอบฉู่เจียเสวียน เดินเข้ามาหาเธอแล้วพูด

 

 

 

 

       ตอนที่ 513 ไป๋หลิงตายแล้ว

 

 

           “ข่าว?” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากด้วยความสงสัย สองวันนี้เธอดูโทรศัพท์มือถือน้อยมาก บวกกับงานออกแบบที่วุ่นวายทำให้ไม่มีเวลาดูข่าวเลยจริงๆ

 

 

           เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉู่เจียเสวียน ถังถังก็รู้ว่าฉู่เจียเสวียนไม่ได้ดู เอื้อมมือวางหนังสือพิมพ์ในมือลงตรงหน้าฉู่เจียเสวียนเสียงดัง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกวาดตามอง อ่านพาดหัวข่าวขนาดใหญ่ที่สะดุดตาบนหนังสือพิมพ์ ‘เรือนจำเขตชานเมืองตะวันตกถูกเพลิงไหม้เมื่อเช้า หนึ่งเสียชีวิตหนึ่งบาดเจ็บอีกสาม’

 

 

           ขณะที่ฉู่เจียเสวียนกำลังจะถามถังถังว่าให้เธอดูเพื่ออะไร ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นชื่อ ‘ไป๋หลิง’ เธอมองชื่อผู้ตาย ‘ไป๋หลิง’ ที่อยู่บนหนังสือพิมพ์ด้วยความเหลือเชื่อ ดวงตาเบิกโต

 

 

           ฉู่อีอีตายแล้ว? ข่าวนี้โจมตีสมองของเธออย่างรวดเร็ว เธอตายแล้ว? อีกทั้งยังตายในเรือนจำหญิง?

 

 

ฉู่เจียเสวียนไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของตัวเองได้ในขณะนี้ แม้ว่าเธอจะเกลียดไป๋หลิง เกลียดที่เธอทำให้เธอต้องเสียลูก แต่เมื่อได้ยินข่าวว่าเธอตายแล้ว ในใจกลับไม่รู้สึกมีความสุข

 

 

           มือของฉู่เจียเสวียนถือหนังสือพิมพ์สั่นเล็กน้อย เธอวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ

 

 

           “เจียเสวียน เธอกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” เห็นท่าทางที่เลื่อนลอยของฉู่เจียเสวียน ถังถังยื่นมือตบๆ ไหล่ของฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดกับเธอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า ยังคงจ้องหนังสือพิมพ์ต่อ

 

 

           “เธอน่ะอย่าคิดมากเลย คนประเภทนี้สมควรได้รับกรรมตามสนองแล้ว” ถังถังนึกว่าฉู่เจียเสวียนกำลังคิดถึงการตายของไป๋หลิง ดังนั้นจึงกล่าวขึ้น

 

 

           เธอไม่ได้มีความประทับใจกับผู้หญิงที่ชื่อไป๋หลิงมากนัก รู้เพียงว่าไป๋หลิงคนนี้เคยทำร้ายฉู่เจียเสวียนเมื่อสามปีก่อน

 

 

           “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งเธอจะมาตายแบบนี้” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยขึ้นเบาๆ เธอสงบอารมณ์ลงมาแล้ว          ไป๋หลิงตายแล้ว แม้ว่าในอดีตเธอจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอมากมายแค่ไหน มันก็ควรจะหายไปด้วย

 

 

           “นี่มันเรียกว่ากรรมตามสนอง แต่ฉันกลับรู้สึกว่าเขาตายแบบนี้ที่จริงก็น่าเสียดายอยู่” ถังถังส่ายหน้าด้วยความเศร้าหมองเล็กน้อย มองฉู่เจียเสวียนพร้อมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

           การที่ไป๋หลิงตาบแบบนี้เป็นเรื่องน่าเสียดายมาก ผู้หญิงที่ชั่วช้าแบบนั้น เธอควรได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานก่อนที่เธอจะตาย

 

 

           “พอเถอะ คนก็ตายไปแล้ว พวกเราก็อย่าพูดถึงอีกเลย” พูดจบ ฉู่เจียเสวียนก็นำหนังสือพิมพ์ออกไป แล้วก้มหน้าดูงานออกแบบ

 

 

           การตายของไป๋หลิงไม่ได้ส่งผลต่อเธอนานนัก ไม่ช้าฉู่เจยเสวียนก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

 

 

           แต่การตายของไป๋หลิงกลับทำให้เธอเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น ว่าบางครั้งความหลงใหลมากเกินไปก็ไม่สามารถต้านทานอุบัติเหตุได้ในท้ายที่สุด

 

 

เธออดไม่ได้ที่จะเริ่มทบทวนความสัมพันธ์ของเธอกับเผยหนานเจวี๋ยอีกครั้ง เธอมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความเจ็บปวดที่เผยหนานเจวี๋ยเคยมอบให้เธอ เธอหมกมุ่นอยู่กับการตายของลูก เธอควรให้โอกาสกันและกันอีกครั้งหรือเปล่า เธอทําผิดไปหรือเปล่า          

 

 

           ตอนที่เธอจากเมืองนี้ไปเมื่อสามปีก่อน คิดว่าสักวันหนึ่งจะกลับมาแก้แค้นเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าเมื่อได้พบกันอีกครั้ง เธอก็พบว่าเธอไม่สามารถเกลียดหรือลงมือกับเขาได้เลย

 

 

           เมื่อเห็นเขาปรากฏตัวอยู่ข้างกายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอจึงพบว่าแท้จริงแล้วในใจของเธอไม่เคยลืมเขา

 

 

           “เธอกำลังคิดอะไรอยู่” ตั้งแต่ที่เห็นข่าวการตายของไป๋หลิง ฉู่เจียเสวียนก็จมอยู่ในความคิดตลอดเวลา ถังถังเอ่ยถาม

 

 

           “อ๋อ ไม่มีอะไร” ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมา พูดกับถังถัง ขมวดคิ้วกันจบแทบมองไม่เห็น

 

 

           ถังถังมองดูแต่ไม่ได้พูดอะไรอีกและไม่ได้ถามอะไรอีก เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองแล้วเริ่มทำงาน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนครุ่นคิดอยู่หลายวัน เธอตั้งใจจะรวบรวมความกล้าเพื่อไปหาเผยหนานเจวี๋ย เธอต้องคุยเรื่องระหว่างพวกเขา

นคิดอยู่หลายวัน เธอตั้งใจจะรวบรวมความกล้าเพื่อไปหาเผยหนานเจวี๋ย เธอต้องคุยเรื่องระหว่างพวกเขา