แดนนิรมิตเทพ บทที่ 726
จี๋ต๋าจิ่วตูจับไหล่กู่หลินเฟิงและเขย่าอย่างแรง นับตั้งแต่เขาเห็นคลิปวิดีโอข้ามทัณฑ์บนโลกโซเชียล เจ้าหมอนี้ก็สงสัยว่าจะเป็นคนนี้หรือเป็นคนนั้นมาโดยตลอด แล้วบอกว่าบุคคลนั้นซ่อนตัวอยู่ข้างกายพวกเขา

ตอนนี้เขารู้สึกตกใจกับทักษะการต่อสู้ของกู่หลินเฟิง ดังนั้นทำให้จี๋ต๋าจิ่วตูคิดโยงไปถึงคลิปวิดีโอข้ามทัณฑ์ทันที

กู่หลินเฟิงถูกจี๋ต๋าจิ่วตูเขย่าจนอยากจะอาเจียน แต่เขาไม่อยากใช้พลังบู๊เพื่อให้ตนเองหลุดพ้น และเขาใช้เวลานานกว่าจะหลุดจากมือของจี๋ต๋าจิ่วตูได้ จากนั้นเขาก็รีบอธิบายว่า “ไม่ใช่! ฉันไม่ใช่คนนั้นอย่างแน่นอน ฉันสาบาน!”

ดวงตาของจี๋ต๋าจิ่วตูเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

กู่หลินเฟิงรู้สึกปวดหัว “มันเป็นเรื่องจริง ระดับของฉันอยู่ห่างจากบุคคลนั้นมาก? การที่ฉันฝึกวิชาบู๊โบราณเพื่อบริหารร่างกายเท่านั้น ฉันไม่ได้เก่งอย่างที่พวกนายคิด!”

แน่นอนว่าจี๋ต๋าจิ่วตูยังคงไม่เชื่อ เขาเลิกคิ้วให้กู่หลินเฟิง “ไอ้กู่ วางใจเถอะ ฉันรู้กฎของผู้บำเพ็ญอย่างพวกนายดี ฉันไม่เปิดเผยสถานะตัวตนของนายออกมาหรอก”

กู่หลินเฟิงรู้ว่าถึงแม้ตอนนี้ตนเองจะแก้ต่างอย่างไร มันก็ฟังไม่ขึ้น ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจที่ลงมือโดยไม่ทันคิด ถ้าเขารู้แต่แรกว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขายอมถูกทุบตีดีกว่า!

เพื่อนนักศึกษาที่เหลือก็รู้สึกเหมือนกับจี๋ต๋าจิ่วตู พวกเขาพูดคุยกันเบา ๆ ส่วนใหญ่เดาและเชื่อมโยงกู่หลินเฟิงกับบุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอนั้น

ทุกคนคิดว่าถึงแม้กู่หลินเฟิงจะไม่ใช่คนในคลิปวิดีโอ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นลูกศิษย์หรือศิษย์น้องของบุคคลนั้น พวกเขามองกู่หลินเฟิงด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน

สำหรับตัวการก่อเหตุตัวจริง ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างเล่หรูหั่วอย่างเงียบ ๆ และยิ้มแปลก ๆ

สีหน้าของเสิ่นเจี้ยนเหวินแย่ลงเล็กน้อย ความจริงแล้วเป้าหมายของเขาคือเฉินโม่ แต่เล่หรูหั่วปกป้องเฉินโม่อยู่ ทำให้เขาลงมือไม่ได้ เมื่อเขาไม่มีทางเลือก เขาจึงทำได้เพียงส่งสัญญาณให้ลูกน้องตนเองโจมตีรูมเมทของเฉินโม่แทน และอาศัยเรื่องนี้ปรามเฉินโม่

แต่เขานึกไม่ถึงว่าในบรรดารูมเมทของเฉินโม่ จะมียอดฝีมืออยู่คนหนึ่ง!

ตอนนี้เท่ากับว่าเสิ่นเจี้ยนเหวินไม่สามารถทำอะไรรูมเมทของเฉินโม่ได้ แต่คนของตนเองกลับถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ

ถ้าเขาไม่ออกหน้าแทนลูกน้องเหล่านี้ ต่อไปก็จะไม่มีใครยอมเป็นลูกน้องของเขาอีก แต่ถ้าเขาออกหน้าแทน เขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะกู่หลินเฟิงได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม เพื่อนนักศึกษามากมายต่างจ้องมองเขา ดังนั้นเขาจะต้องเป็นตัวเด่น มิฉะนั้น ต่อไปเขาจะมีบารมีในมหาวิทยาลัยได้อย่างไร?

เสิ่นเจี้ยนเหวินยืนขึ้น เดินไปอยู่ข้างเพื่อนนักศึกษาที่ล้มอยู่บนพื้น ช่วยพยุงพวกเขาลุกขึ้นทีละคน

“พวกนายไม่เป็นไรใช่ไหม?” เสิ่นเจี้ยนเหวินถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ไม่…ไม่เป็นไรครับ! ขอบคุณ คุณชายเสิ่นมาก!” พวกเขาก้มหน้าด้วยความละอายใจ

ผู้ชายทั้งสิบคนได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนรู้สึกประหลาด เพราะพวกเขาทำงานไม่สำเร็จ ทำให้เสิ่นเจี้ยนเหวินอับอายขายหน้า ไม่เพียงแค่เสิ่นเจี้ยนเหวินไม่ตำหนิพวกเขา แต่กลับช่วยพยุงพวกเขาลุกขึ้น ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกซาบซึ้งมาก

“อืม!” เสิ่นเจี้ยนเหวินพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นหันไปมองกู่หลินเฟิง

“เพื่อนนักศึกษาคนนี้อาศัยว่าตนเองมีทักษะฝีมือในการต่อสู้ แล้วรังแกเพื่อนนักศึกษาคนอื่น ไม่เห็นฉันเสิ่นเจี้ยนเหวินอยู่ในสายตาใช่ไหม?” เสียงของเสิ่นเจี้ยนเหวินเย็นชา และมีความโกรธเล็กน้อย

คุณชายเสิ่นโมโหแล้ว!

เพื่อนนักศึกษาต่างรู้สึกตกใจ และมองเสิ่นเจี้ยนเหวินด้วยความหวาดกลัว การล่วงเกินเสิ่นเจี้ยนเหวินในเมืองหนานหัว เท่ากับล่วงเกินตระกูลเสิ่นแห่งเมืองหนานหัว การกระทำนี้ไร้สติปัญญา

พวกจี๋ต๋าจิ่วตูอดไม่ได้ที่หดคอ พวกเขาสามารถต่อสู้กับน้องลูกของเสิ่นเจี้ยนเหวินได้ แต่ถ้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเสิ่นเจี้ยนเหวินจริง ๆ ถ้ามีทางเลือกอื่น พวกเขาก็ไม่อยากจะทำเช่นนั้น

แต่กู่หลินเฟิงไม่ได้รู้สึกกังวลขนาดนั้น เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองเสิ่นเจี้ยนเหวินด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “ทำไมฉันต้องเห็นนายอยู่ในสายตาด้วย? ฉันกู่หลินเฟิงไม่เคยกลัวใครในหนานหัว?”