ตอนที่ 417 จะเป็นฮองเฮาหรือไม่ / ตอนที่ 418 เงินสกปรก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ตอนที่ 417 จะเป็นฮองเฮาหรือไม่ 

 

 

 

 

 

เพราะอย่างนั้นแล้วหลังจากทานอาหาร ฉู่เกอจึงโยนชาวช้อนตะเกียบทิ้งแล้ววิ่งหนีไป ไม่อยากอยู่ในห้องนี้อีกต่อไปแล้ว 

 

 

เมื่อนางจากไป อวี้อาเหราถึงค่อยวางตะเกียบลง แล้วเงยหน้าขึ้นถลึงตาจ้องฉู่ป๋าย 

 

 

“เจ้าจ้องข้าทำไมกัน” ฉู่ป๋ายสัมผัสได้ถึงสายตาไม่พอใจของนาง เช่นนั้นจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นกวาดตามอง ในสายตาแฝงไปด้วยรอยยิ้มล้ำลึก ถามขึ้นมาราวกับคนซื่อบริสุทธิ์ยิ่งนัก ราวกับไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น 

 

 

เสแสร้ง! เสแสร้งชัดๆ! อวี้อาเหรากำมือที่อยู่ในแขนเสื้อแน่น 

 

 

ฉู่ป๋ายยังคงยิ้ม จากนั้นก็ร้องเรียกเมี่ยวอวี้เข้ามา เหลือบสายตามองอวี้อาเหรา “เจ้าไปยกยาที่ต้มให้คุณหนูของเจ้าเข้ามาเถิด” 

 

 

“เจ้าค่ะ” เมี่ยวอวี้มองคุณหนูของตัวเองทำหน้าตาเหยเกด้วยสายตายิ้มๆ แล้วจึงถอยไปยกยาเข้ามา 

 

 

ยาน้ำสีดำสนิทวางไว้ตรงหน้า อวี้อาเหราได้กลิ่นแล้วก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะ ยาชนิดนี้เหม็นมาก อย่าได้พูดถึงว่าต้องดื่มเข้าไปเลย ทว่าหากดื่มลงไปจริงๆ คงสำรอกเอาอาหารที่ทานเข้าไปออกมาจนหมดแน่ นางคิดว่ายาแบบตะวันตกนั้นสะดวกสบายกว่ามาก ยาจีนเช่นนี้ก็แสนทรมานนัก! 

 

 

“ดื่มเถิด” ฉู่ป๋ายว่า เมื่อเห็นนางมีทีท่าลังเล จึงพูดขึ้นอีกว่า “หากเจ้าไม่ทานยา อาการป่วยของเจ้าก็จะไม่หายเสียที ต่อไปจะเป็นอาการเรื้อรัง เจ้าจะเลิกแสร้งป่วยก็ไม่ได้เสียแล้ว” 

 

 

“เจ้ารู้ได้อย่างไร…” อวี้อาเหราตกใจเสียจนอ้าปากค้าง 

 

 

“เจ้าถามว่าข้ารู้ได้อย่างไรว่าเจ้าแสร้งป่วยน่ะหรือ” ฉู่ป๋ายเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วกวาดสายตาไปทางเมี่ยวอวี้ 

 

 

อวี้อาเหรามองตาม นางรู้สึกตกใจยิ่งนัก นางแอบคิดว่าฉู่ป๋ายคงจะฉลาดเฉลียววิเคราะห์ได้เอง ที่แท้ก็เป็นเมี่ยวอวี้บอกเขาหรอกหรือ? 

 

 

เมี่ยวอวี้รีบก้มหน้าลง “คุณหนูอย่าได้โกรธเลยเจ้าค่ะ ไม่ใช่ว่าบ่าวอยากจะพูด แต่เป็นตอนที่เซิ่นซื่อจื่อตรวจวัดชีพจรท่านนั้นสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ดังนั้นจึงถามบ่าวว่าเกิดอะไรขึ้น บ่าวไม่กล้าปิดบัง ดังนั้นจึงบอกไปเจ้าค่ะ” 

 

 

ราวกับมีอะไรติดอยู่ในคอของอวี้อาเหรา นางรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก 

 

 

เป็นฉู่ป๋ายที่ตรวจพบด้วยตัวเองจริงๆ เพียงแค่ถามเมี่ยวอวี้เพื่อพิสูจญ์เท่านั้น ดูแล้วแม้แต่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็คงจะปิดบังเขาไม่ได้ ราวกับมีสายตาแหลมคมจ้องมองแผ่นหลังอยู่ตลอดเวลา รู้สึกไม่สบายตัวเลยแม้แต่น้อย 

 

 

แต่เมื่อถูกเปิดโปง นางกลับไม่โกรธเคืองอวี้อาเหราเลยแม้แต่น้อย นางนั่งกุมศีรษะบนโต๊ะ “ช่างเถิด ข้าไม่โทษเจ้าหรอก” 

 

 

“ขอบพระคุณคุณหนู!” เมี่ยวอวี้ยิ้มหน้าบานด้วยความยินดี 

 

 

อวี้อาเหรามองถ้วยยาที่อยู่ตรงหน้า นางมีท่าทีลังเลเล็กน้อย แล้วมองไปทางฉู่ป๋ายอีกครั้ง “ข้าไม่ได้มีใจอยากจะแสร้งป่วยเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นเพราะไทเฮาบีบบังคับข้า หากไม่แสร้งป่วย ไม่ช้าก็เร็ว เรื่องแต่งงานของข้าและจวินฉางอวิ๋นก็คงถูกยกมาพูด หากถึงตอนนั้นแล้ว ข้าไม่ยอมก็คงต้องทำตามราชโองการ” 

 

 

“เจ้าไม่อยากแต่งงานกับรัชทายาทหรือ” ฉู่ป๋ายชะงัก ชั่วพริบตา สายตาก็รวมตัวกัน “รัชทายาทเป็นว่าที่ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ หากเจ้าแต่งกับเขา ต่อไปเจ้าจะได้กลายเป็นฮองเฮาผู้เป็นมารดาของแผ่นดิน ตำแหน่งฮองเฮานั้นเป็นตำแหน่งที่สตรีทุกคนบนโลกนี้ปรารถนา แต่เจ้ากลับไม่อยากได้หรือ?” 

 

 

“ไม่อยาก!” อวี้อาเหราส่ายหน้าทันที 

 

 

เป็นฮองเฮาแล้วอย่างไร? อวี้อาเหรามีชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้อย่างสง่างาม ไหนเลยจะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อผู้ชายคนเดียวด้วย นั่นไม่ใช่นิสัยของนางเลย หากต้องเป็นเช่นนั้น ไม่ช้าก็เร็วนางก็ต้องเฉาตายเป็นแน่ 

 

 

มุมปากของฉู่ป๋ายโค้งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “ทว่าถ้าหากคนที่เจ้าชอบได้นั่งตำแหน่งฮ่องเต้เล่า” 

 

 

ใบหน้าของอวี้อาเหราดูเย็นชาขึ้นมา นางจ้องมองพื้นโต๊ะ ทันใดนั้นนางก็ยกยิ้มขึ้น “วาจานี้ของเจ้าก็จะเกินไปแล้ว ข้าจะมีคนที่ชอบหรือไม่หรือว่าจะได้นั่งตำแหน่งฮ่องเต้หรือไม่แล้วอย่างไรหรือ หรือถ้าเป็นไปได้ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเรื่องไร้สาระเช่นนี้หรืออย่างไร” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 418 เงินสกปรก 

 

 

 

 

 

ฉู่ป๋ายเข้าใจเจตนาของนางดี ประกายในสายตาจึงค่อยๆ หายลับไป ชายหนุ่มผู้มีสายตาสว่างไสวเมื่อครู่ราวกับไม่ใช่เขา ผ่านไปเพียงชั่วครู่ก็ขุ่นมัว สายตากลายเป็นความเย็นชา 

 

 

“เจ้าเป็นอะไรไป” อวี้อาเหรามองไปที่เขาอย่างแปลกใจ เหตุใดนางถึงได้รู้สึกว่าเขาแปลกๆ จู่ๆ ก็ถามคำถามเช่นนี้ขึ้นมาด้วยเหตุใดกัน นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเขาเลยมิใช่หรือ 

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก ดื่มยาเถิด” น้ำเสียงของฉู่ป๋ายฟังดูเย็นชากว่าเดิมมาก  

 

 

“อ้อ” อวี้อาเหราก้มหน้าลง เมื่อเห็นถ้วยยาน้ำจึงเงยหน้าขึ้น “ข้าไม่ดื่ม ไทเฮาคอยจับตาดูเรื่องสุขภาพของข้าอยู่เสมอ บางครั้งก็ส่งหมอหลวงมาดูอาการ ถ้าหายดีขึ้นมาแล้ว…” 

 

 

ฉู่ป๋ายชะงัก จึงออกปากเอ่ยขึ้นว่า “ข้ามียาอยู่ตัวหนึ่ง ทานเข้าไปแล้วจะมีอาการเหมือนแสร้งป่วย แต่ไม่มีอาการหรือผลกระทบต่ออาการ และไม่เหลืออาการของโรคไว้ หากเจ้าไม่ต้องการที่แสร้งป่วยแล้ว ก็เพียงหยุดทานก็ได้” 

 

 

“มียาแบบนั้นด้วยหรือ” อวี้อาเหราตื่นเต้น 

 

 

“มีสิ” ฉู่ป๋ายพยักหน้า 

 

 

อวี้อาเหรายื่นมือขาวนวลของตัวเองออกมาด้วยความยินดี “เช่นนั้นเจ้าก็รีบเอามายาให้ข้าสิ” 

 

 

“จะให้เจ้าก็ได้อยู่หรอก” ฉู่ป๋ายพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โค้งตัวลง “แต่ข้าต้องใช้ยาสมุนไพรเป็นร้อยเป็นพันชนิดจึงจะสามารถทำยาชนิดนี้ขึ้นมาได้ ต้องผ่านการศึกษามาหลายปีจึงจะได้สักเม็ด เพียงเจ้าอยากได้ข้าก็ต้องให้หรือ” 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องการเท่าไหร่” อวี้อาเหรากัดริมฝีปาก เมื่อได้ยินว่ายาชนิดนี้ไม่ได้มาง่ายๆ เขาอาจจะบอกราคาจนทำให้นางเจ็บปวดใจ แต่สุดท้ายเรื่องของนางซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ แม้ว่าจะใช้เงินทองแลกมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ จึงต้องยอมกัดฟันจ่ายเงินไป 

 

 

หากเป็นอย่างที่ฉู่ป๋ายพูดจริงๆ การแสร้งป่วยต่อไปเรื่อยๆ นั้นไม่ใช่เรื่องดี เพราะจะส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังส่งผลต่อความอยากอาหาร เพราะฉะนั้นก็ควรจะซื้อยาชนิดนี้มาเสีย จะได้ไม่ต้องแสร้งป่วย ทั้งยังไม่ต้องลำบาก ง่ายกว่าการแสร้งป่วยตั้งมาก หากเป็นเช่นนี้ก็จะสามารถปิดบังได้นาน 

 

 

ฉู่ป๋ายขยับริมฝีปาก “หนึ่งหมื่นตำลึง” 

 

 

“เจ้านี่มัน…” อวี้อาเหราสูดลมหายใจเข้าไป กล้ำกลืนคำพูดของตัวเอง หนึ่งหมื่นตำลึง เช่นนี้มันขูดเลือดขูดเนื้อชัดๆ! 

 

 

น้ำเสียงของฉู่ป๋ายเฉยเมย “หากเจ้าต้องการก็มาเอาไป หากไม่ต้องการข้าก็จะเอาไปขายให้คนอื่น แต่หากเจ้าอยากรู้ ตอนนี้ข้าเหลือเพียงเม็ดสุดท้าย หากพลาดโอกาสนี้ไป แม้ว่าจะมีเงินมากกว่านี้เป็นสิบเท่าก็ซื้อไม่ได้ เพราะมีเงินแต่ไม่มีของ!” 

 

 

มีเงินไม่มีของ? อวี้อาเหราลังเล สุดท้ายจึงตัดใจ  

 

 

“ซื้อ!”  

 

 

“ยินดี!” 

 

 

ฉู่ป๋ายหัวเราะ  

 

 

“แต่เจ้าว่าพวกเราก็รู้จักกันมาตั้งนานเช่นนี้ เจ้าลดให้ข้าหน่อยไม่ได้หรือ คนกันเองมิใช่หรืออย่างไร” ใบหน้าของอวี้อาเหราเผยให้เห็นรอยยิ้มออกมา ทว่านางก็กลับลอบกลอกตา เขาไม่ต้องจ่ายเงินนี่ ก็ต้องยินดีเป็นธรรมดา 

 

 

“ไม่ได้” ฉู่ป๋ายปฏิเสธอย่างสบายใจ “แม้แต่พี่น้องแท้ๆ ข้ายังคิดราคาเต็ม แล้วเราเป็นอะไรกันเล่า” 

 

 

“เจ้า!” อวี้อาเหราถูกตอกกลับมาเช่นนี้ก็พูดไม่ออก ในที่สุดนางก็เข้าใจ หากต้องการที่จะต่อรองราคากับเขานั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย 

 

 

เหตุใดน่ะหรือ นี่ก็เป็นเพราะว่าเขาขี้งกน่ะซี! 

 

 

“หากเจ้ายังด่าข้าอยู่ในใจเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ขายแล้ว” ฉู่ป๋ายมองมาที่นาง 

 

 

อวี้อาเหราพ่นลมหายใจออกมา ก้มหน้าลง ชายผู้นี้อ่านใจคนได้หรือ? แม้แต่ใจของนางเองยังมองออกทะลุปรุโปร่ง หากชายหนุ่มที่คิดเล็กคิดน้อยไม่ยอมเสียเงินเช่นนี้ต่อไปได้ควบคุมการเงินแล้วคงจะลดเรื่องเงินสกปรกได้มากโข ซึ่งเงินนั้นก็เป็นเงินที่ได้มาจากคนอื่นมิใช่หรือ? เป็นเงินที่ขู่เข็ญผู้อื่นมาแท้ๆ แต่ทำให้คนอื่นไม่สามารถที่จะโต้ตอบได้ ตัวเองก็รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ