ตอนที่ 534 ข่มขู่เซียวเหยี่ยน / ตอนที่ 535 เจ้าสามารถหาเรื่องมาให้ข้าได้ตลอดชีวิต

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 534 ข่มขู่เซียวเหยี่ยน

 

 

“เราให้เจ้าอยู่ต่อ ย่อมมีธุระสำคัญอยู่แล้ว เซียวเหยี่ยน ตอนนี้เรามีหลักฐานการกบฏของเว่ยอ๋องแล้ว

 

 

ตอนนี้หลิงจื่อเฉิงก็มีส่วนร่วมด้วย หลักฐานชัดเจน หวังว่าท่านอ๋องจะไม่เห็นแก่พรรคพวก เพื่อหลีกเลี่ยงความอยุติธรรม คนพวกนี้ถูกส่งให้ฝ่าบาททรงจัดการแล้ว ท่านอ๋องไม่ต้องเข้าไปยุ่งเรื่องนี้แล้ว”

 

 

ได้ยินชื่อหลิงจื่อเฉิง สีหน้าเซียวเหยี่ยนก็เปลี่ยนไปทันที หลิงจื่อเฉิงเป็นคนอย่างไร เขารู้ดียิ่ง ถึงแม้จะให้เขายืมความกล้าไปสักสิบเท่า หลิงจื่อเฉิงก็ไม่กล้าก่อกบฏ เรื่องนี้ถูกคนใส่ร้ายแน่นอน

 

 

“ไทเฮาสืบรู้เรื่องนี้ชัดเจนแล้วหรือ”

 

 

“เราไม่ปรักปรำใคร เรื่องนี้หลักฐานชัดเจน ไม่มีทางปฏิเสธ เราออกคำสั่งให้คนไปจับแล้ว ท่านอ๋องเพิ่งจะแต่งงาน ก่อนหน้านี้ก็ลำบากเรื่องเว่ยอ๋องแล้วด้วย พักผ่อนสักพักก่อนดีกว่า ให้ฝ่าบาทจัดการเรื่องนี้เอง”

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ไม่อยากให้เซียวเหยี่ยนยุ่งเรื่องนี้จริงๆ มิเช่นนั้นคงไม่จงใจให้เขาอยู่ต่อเพื่อบอกเรื่องนี้กับเขา เห็นๆ อยู่ว่าหลิงจื่อเฉิงเป็นคนอ่อนหัด จะอยู่หรือตายก็ไม่กระทบอะไรสักเท่าไร

 

 

นางรู้ดีว่าหลิงจื่อเฉิงอาจจะถูกคนใส่ร้าย แต่นางก็ไม่คิดจะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้ง แต่ก็จงใจใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างไปทำการอื่น นั่นคือต้องการบีบเซียวเหยี่ยนให้ขอร้องนาง นางรู้ดี เมื่อใดที่มีความสัมพันธ์กับหลิงอวี้จื้อแล้ว เซียวเหยี่ยนก็ไม่สามารถยืนดูอยู่เฉยๆ ได้

 

 

เจตนาของมู่หรงกวานเย่ว์นั้นเซียวเหยี่ยนย่อมรู้ ในเมื่อคนไปอยู่ในมือของมู่หรงกวานเย่ว์แล้ว และมีหลักฐานชัดเจนด้วย การช่วยหลิงจื่อเฉิงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

 

 

คิดไม่ถึงว่ามาถึงวันนี้ มู่หรงกวานเย่ว์ยังคงใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อทำให้หลิงอวี้จื้อลำบากไม่หยุดหย่อน แต่เรื่องเหล่านี้ล้วนไม่ได้เป็นฝีมือของมู่หรงกวานเย่ว์ ด้วยเหตุนี้ เขาก็ไม่สามารถโทษมู่หรงกวานเย่ว์ได้

 

 

“ในเมื่อไทเฮาทรงจัดแจงเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ไทเฮาทรงจัดการอย่างเป็นธรรมก็พอ ข้ายังมีธุระ ขอตัวทูลลาก่อน”

 

 

เซียวเหยี่ยนพูดจบก็คารวะมู่หรงกวานเย่ว์ จากนั้นก็เดินก้าวยาวๆ ออกจากวังฉางเล่อกง

 

 

หลิงอวี้จื้อกำลังคุยเล่นหัวเราะกับมั่วชิงอยู่ คุยถึงตอนสนุกๆ ก็อดใจไม่ไหวหัวเราะฮาลั่นกัน เห็นเซียวเหยี่ยนเดินออกมา หลิงอวี้จื้อก็รีบวิ่งไปหา ยังไม่ทันเก็บรอยยิ้มที่ค้างอยู่บนใบหน้า

 

 

“ออกมาเร็วจังเลยเพคะ”

 

 

เซียวเหยี่ยนพยักหน้า ยื่นมือออกมากุมมือหลิงอวี้จื้อ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

 

 

“ไปเถิด!”

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้าหงึกหงัก เดินออกจากวังตามเซียวเหยี่ยนไป ขึ้นรถม้าแล้วเซียวเหยี่ยนก็โอบไหล่หลิงอวี้จื้อ เขาไม่ได้บอกหลิงอวี้จื้อว่าหลิงจื่อเฉิงเกิดเรื่องแล้ว แต่ให้อู่จิ้นไปตรวจสอบเรื่องนี้ ดูว่าเหตุใดหลิงจื่อเฉิงถึงถูกลากเข้าไปในเรื่องนี้ด้วย

 

 

หากมู่หรงกวานเย่ว์ไม่พูดขึ้นมา เขาก็ไม่รู้เลยว่าหลิงจื่อเฉิงจะเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย

 

 

หลิงอวี้จื้อเห็นเซียวเหยี่ยนไม่พูดอะไรเลย ดูเหมือนจะคิดอะไรอยู่ ก็กระทุ้งแขนเซียวเหยี่ยนเบาๆ

 

 

“อาเหยี่ยน ท่านเป็นอะไรไป ไทเฮาพูดเรื่องอะไรน่าประหลาดใจหรือ ถึงทำให้ท่านขรึมขนาดนี้”

 

 

“วันนี้เว่ยอ๋องจะถูกจับแล้ว”

 

 

“เร็วขนาดนี้เชียว”

 

 

หลิงอวี้จื้อตกใจ

 

 

“ข้ายังนึกว่าต้องรออีกสักพัก เว่ยอ๋องทำผิดอะไรถึงถูกจับหรือเพคะ”

 

 

“ก่อกบฏ”

 

 

หลิงอวี้จื้อเข้าใจแล้ว ก่อกบฏมีโทษถึงชีวิต เมื่อใดที่ยุ่งเกี่ยวแล้วจะต้องตายสถานเดียว หนำซ้ำจะถูกสาวไส้เป็นวงกว้าง ทุกครั้งที่มีคนอภิปรายกันเรื่องการก่อกบฏ มักจะสาวได้พรรคพวกเดียวกันจำนวนมาก และทำให้คนมากมายพลอยเดือดร้อน หากเจอฮ่องเต้ที่โหดหน่อย เหตุการณ์เลือดนองเป็นสายน้ำก็คงไม่เป็นคำพูดเกินจริง

 

 

นี่เป็นข้อกล่าวหาที่ดีที่ฮ่องเต้จะใช้กำจัดผู้คัดค้าน ก่อกบฏหนึ่งครั้งก็คือการล้างไพ่หนึ่งครั้ง

 

 

หากเว่ยอ๋องถูกจับเพราะก่อกบฏ เช่นนั้นไม่ใช่เพียงเขาที่จะจบสิ้น แม้แต่ครอบครัวของพระชายาเว่ยอ๋องก็จะจบสิ้นไปด้วย ทั้งจวนเว่ยอ๋องก็จะถูกตัดหัวทั้งตระกูล

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 535 เจ้าสามารถหาเรื่องมาให้ข้าได้ตลอดชีวิต

 

 

“พระชายาเว่ยอ๋องถูกจับแล้วหรือ”

 

 

“เข้าคุกพร้อมกัน อวี้จื้อ มีเรื่องที่ข้าอยากบอกเจ้า เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องไปถึงจื่อเฉิงด้วย”

 

 

น้ำเสียงเซียวเหยี่ยนเป็นปกติ แต่ใบหน้าตึงเครียดมาก

 

 

“หา…”

 

 

หลิงอวี้จื้อนึกว่าตัวเองฟังผิด การก่อกบฏของอู๋อ๋องจะมาเกี่ยวกับหลิงจื่อเฉิงได้อย่างไร แปลกแท้

 

 

จากครั้งที่แล้ว เพราะเรื่องชิวจวี๋ทำให้ไม่สบอารมณ์ จากนั้นหลิงอวี้จื้อกับหลิงจื่อเฉิงก็ไม่ได้เจอหน้ากันนาน และไม่ได้คุยอะไรกันแล้ว เธอขี้เกียจไปหาหลิงจื่อเฉิง จึงไม่รู้เลยว่าหลิงจื่อเฉิงกำลังทำอะไร ที่แท้เขาไปเข้ากับเว่ยอ๋องแล้วหรือ

 

 

ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยฉลาดเท่าไร แต่ก็คงไม่ทำเรื่องเลอะเลือนถึงเพียงนี้

 

 

“เรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับพี่ชายได้อย่างไร”

 

 

ถึงแม้หลิงอวี้จื้อจะไม่อยากยุ่งเรื่องหลิงจื่อเฉิง แต่อย่างไรหลิงจื่อเฉิงก็เป็นพี่ชายในร่างนี้ของเธอ เธอมาจากตระกูลหลิง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ก็ต้องยุ่งหน่อย หากไม่เกินความคาดหมายของเธอ หลิงจ้ายเทียนก็คงมาขอความช่วยเหลือจากเธอถึงชานเรือน ในเมื่อหลิงจื้อเฉิงเป็นบุตรชายภรรยาหลวงเพียงคนเดียวของตระกูล

 

 

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ยังไม่รู้ ให้อู่จิ้นไปสืบหาแล้ว ไม่นานก็คงได้ข่าว อวี้จื้อ เจ้าไม่ต้องกังวล ไม่เป็นอะไรหรอก”

 

 

“เรื่องนี้จะทำให้จวนมหาเสนาบดีพลอยเดือดร้อนด้วยหรือไม่”

 

 

“การมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ข้าจะพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะปกป้องจวนมหาเสนาบดี เพียงแต่เรื่องทำนองนี้ข้าเจอมาเยอะแล้ว เกรงว่าพ่อตาคงต้องเกษียณกลับบ้านเก่าเสียแล้ว”

 

 

“รักษาชีวิตรอดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่างไรอายุเขาก็ใกล้จะถึงเกณฑ์อยู่แล้ว จะเกษียณก็เกษียณไปเถิด

 

 

พี่ชายนี่ก็จริงๆ เลย วันทั้งวันไม่รู้จักทำงานทำการ ยังถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเว่ยอ๋องโดยไม่มีเหตุผลอีก เขาไร้เดียงสาขนาดนี้ โดนคนหลอกใช้อีกแน่นอน เจ้าพี่โง่คนนี้ ไม่รู้ว่าจะด่าอย่างไรแล้ว”

 

 

แค่พูดถึงหลิงจื่อเฉิง หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกปวดหัว เรื่องชิวจวี๋ก็ทำให้เธออยากด่าหลิงจื่อเฉิงว่าไอ้คนสมองหมูแล้ว คิดไม่ถึงว่าหลิงจื่อเฉิงยังไม่พอ คราวนี้เกี่ยวพันไปถึงชีวิต

 

 

ใช่แล้ว ช่วงนี้หลิงจื่อเฉิงไม่ค่อยอยู่ในจวน ได้ยินสาวใช้พูดว่า ดูเหมือนจะไปหาชิวจวี๋บ่อยๆ หรือว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชิวจวี๋ ถ้าหากชิวจวี๋คิดไม่ดีกับเขาขึ้นมา จะใส่ร้ายเขาก็คงง่ายมาก ร้ายดีอย่างไรก็เป็นคนร่วมเรียงเคียงหมอน

 

 

หลิงอวี้จื้อยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น เดิมทีชิวจวี๋ก็มิใช่ตะเกียงที่ประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว เมื่อไล่ออกจากจวนไป หลิงอวี้จื้อก็ไม่เคยถามถึงเรื่องชิวจวี๋อีก เธอต้องให้มั่วชิงไปเอาตัวชิวจวี๋มาถามให้รู้เรื่อง

 

 

“กลับจวนแล้วค่อยว่ากัน แม้จะไม่มีทางลบล้างข้อกล่าวหาของจื่อเฉิงได้ ข้าก็จะรักษาชีวิตเขาไว้ อวี้จื้อ ไม่ต้องกังวลเกินไป”

 

 

หลิงอวี้จื้อก้มหน้าอย่างรำคาญใจ

 

 

“อาเหยี่ยน หาเรื่องให้ท่านอีกแล้ว”

 

 

“เจ้าสามารถหาเรื่องมาให้ข้าได้ตลอดชีวิต”

 

 

“ท่านไม่กลัวรำคาญหรือ”

 

 

“เจ้าเป็นของข้า เรื่องวุ่นวายของเจ้าก็เป็นเรื่องวุ่นวายของข้า เช่นนี้แล้วจะรำคาญได้อย่างไร คนที่จะรำคาญก็คือท่านเทวดาบนสวรรค์”

 

 

“ท่านเทวดารำคาญอะไรหรือ”

 

 

“กว่าจะสร้างเรื่องวุ่นวายมาได้ ไม่ง่ายเลย แต่ข้าก็แก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย ทำให้ท่านเทวดาเสียแรงเปล่าๆ ท่านก็ต้องรำคาญเป็นธรรมดา”

 

 

หลิงอวี้จื้ออึ้ง จากนั้นก็หัวเราะ

 

 

“สาวน้อยคนนี้ยอมแล้วเจ้าค่ะ”

 

 

“ข้าเพียงแต่หวังว่าเจ้าจะไม่กังวลใจเพราะเรื่องเหล่านี้ ให้ข้าไปจัดการก็พอแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้า กอดแขนเซียวเหยี่ยนแน่น เรื่องที่เซียวเหยี่ยนสัญญากับเธอไว้ เขาทำได้หมดแล้ว หากไม่มีเซียวเหยี่ยน อาศัยเทคโนโลยีความงามของเธอก็สามารถทำมาหากินได้สบาย แต่คงแตกต่างกับชีวิตในตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิง

 

 

ตอนนี้เธอต้องเดินบนทางที่ยากลำบากและทุกคนคอยจับจ้องอยู่

 

 

เดิมทีเธอก็เป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้แสงสปอตไลท์อยู่แล้ว ชินกับการจ้องมองจากสายตาผู้คน ด้วยเหตุนี้จึงสามารถรับมือกับความเจิดจรัสของเซียวเหยี่ยนได้สบายๆ และยังสามารถเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าเส้นนี้ต่อไปได้ เพราะว่าข้างกายเธอมีเขา สำหรับการเลือกทางเดินนี้ เธอไม่เคยเสียใจเลย