กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 747

ก่อนที่ชาร์ลีจะเตรียมอาหารเย็นเสร็จ สตีเฟนโทรหาเขาเพื่อบอกว่าพวกเขาซื้อ TikTok ไปเรียบร้อยแล้ว

ชาร์ลีเปิด TikTok และเห็นว่าวิดีโอถูกกู้คืนแล้ว นอกจากนั้น วิดีโอของสแตนด์อัพคอมเมดี้ยังเป็นวิดีโอแรกที่จะปรากฏขึ้นบนหน้าจอหลักของผู้ใช้ TikTok ทั้งหมด จำนวนไลค์บนวิดีโอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและขณะนี้มียอดไลค์เกินห้าล้านแล้ว

ชาร์ลีรู้สึกมีความสุขและพอใจมาก

โดนัลด์คงไม่คิดว่าเขาจะสามารถใช้เงินเพื่อลบวิดีโอออกจาก TikTok ได้สินะ? ดังนั้นตอนนี้โดนัลด์จะต้องตกใจในตอนนี้ที่เขาเข้าซื้อกิจาร TikTok แล้วใช่ไหม?

นี่คือสิ่งที่เขาตั้งเป้าไว้จริง ๆ !

ดูเหมือนว่าตระกูลเวบบ์จะอยู่ในจุดที่น่าอึดอัดใจเสียจริง ๆ

วิดีโอนี้จะอยู่ใน TikTok เป็นเวลานานอย่างแน่นอน แม้ว่าตระกูลเวบบ์จะหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

หลังจากที่เขาเตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว ชาร์ลีก็เก็บโทรศัพท์มือถือของเขาไว้ก่อนที่เขาจะนำจานออกจากห้องครัว ตอนนั้นเองที่เขาพบว่าภรรยาของเขา แคลร์ กลับมาถึงบ้านแล้ว ยิ่งกว่านั้น เธอยังจ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์มือถือของเธอขณะที่เธอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น

ในเวลานี้ แคลร์ไม่ใช่คนเดียวที่จ้องที่โทรศัพท์มือถือของเธอ แม้แต่จาค็อบพ่อตาของเขาและแม่ยายของเขา เอเลนต่างก็จ้องดูโทรศัพท์มือถือของพวกเขา

เอเลนมองดูโทรศัพท์มือถือของเธอและเธอก็ถอนหายใจขณะที่เธอพูดว่า “พ่อและลูกชายจากตระกูลลอยด์ช่างกล้าหาญมาก! ใครให้ความกล้าแก่พวกเขาในการพูดเรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวกับตระกูลเวบบ์กันนะ? พวกเขาไม่กลัวเหรอไงว่าตระกูลเวบบ์จะส่งคนไปตามล่าและฆ่าพวกเขา?”

แคลร์ยังมีสีหน้ากังวลใจอย่างมากบนใบหน้าของเธอ

เธอจำมาร์คัสได้ในวิดีโอ

เธอยังรู้ด้วยว่าอัลเบิร์ตเป็นคนที่สลักคำว่า ‘ไอ้ขี้แพ้น่าสมเพช’ บนหน้าผากของมาร์คัส

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อเธอไปที่รีสอร์ทน้ำพุร้อนกับชาร์ลีสามีของเธอและลอเรนเพื่อนสนิทของเธอ พวกเขามีความขัดแย้งกับมาร์คัสกันในลานจอดรถ ในเวลานั้น จู่ ๆ อัลเบิร์ตก็ปรากฏตัวขึ้นและเขายังช่วยชาร์ลีทุบตีมาร์คัสอย่างรุนแรงอีกด้วย

หลังจากนั้น ชาร์ลียังเป็นคนเดียวที่ขอให้อัลเบิร์ตสลักคำว่า ‘ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช’ บนหน้าผากของมาร์คัส

ตอนนี้ในวิดีโอบน TikTok หน้าผากของพ่อของมาร์คัสก็ถูกสลักด้วยคำว่า ‘พ่อของไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช’ จู่ ๆ แคลร์ก็นึกถึงชาร์ลีและเธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับชาร์ลีโดยสัญชาตญาณ

ดังนั้น เมื่อแคลร์เห็นชาร์ลีออกมาจากครัวพร้อมกับจานที่อยู่ในมือ เธอก็รีบเดินไปหาเขาขณะที่เธอถามเสียงต่ำว่า “ชาร์ลี บอกความจริงกับฉัน วันนี้คุณมีความขัดแย้งกับมาร์คัสและพ่อของเขามาใช่ไหมคะ?”

“ไม่นะ!” ชาร์ลีโกหกแคลร์ “ผมยังไม่ได้เจอพวกเขาเลย!”

“จริงเหรอคะ?” แคลร์ตอบขณะที่เธอขมวดคิ้ว ในเวลานี้ จู่ ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่าเห็นจัสมินมารับชาร์ลีขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เมื่อเช้าวันนี้ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกหึง

ดังนั้นเธอจึงถามเสียงต่ำว่า “ถ้าอย่างนั้น ขอถามอีกอย่าง ทำไมหญิงสาวจากตระกูลมัวร์ถึงมารับคุณตอนที่คุณออกจากบ้านเมื่อเช้านี้ด้วยล่ะคะ?”

ชาร์ลีตกใจ หลังจากนั้นเขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “วันนี้เธอมารับผมเพราะปู่ของเธอเป็นคนชวนผมไปงานเลี้ยงวันเกิดของเขาน่ะ”

“นั่นคือเรื่องจริงเหรอคะ?” แคลร์มีท่าทีสงสัยเล็กน้อย

ชาร์ลีรีบตอบ “ทำไมผมต้องโกหกคุณด้วย? ผมไม่ได้บอกคุณเหรอว่าผมมีเพื่อนที่กำลังฉลองวันเกิดของเขาในวันนี้? เพื่อนของผมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายท่านมัวร์จากตระกูลมัวร์นั่นเอง”

แคลร์พึมพำ “แล้วทำไมจัสมินถึงดีและให้เกียรติคุณขนาดนี้? ทำไมเธอถึงมารับคุณเป็นการส่วนตัว? เธอยังเปิดประตูรถให้คุณ เธอสุภาพและให้เกียรติคุณมากเพราะเธอชอบคุณหรือเปล่า?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ชาร์ลีหัวเราะเสียงดังก่อนจะพูดว่า “ภรรยาที่รักของผม คุณรู้ไหมว่าสามีคุณเป็นใคร? ผมมันก็แค่คนไร้ค่าที่ไม่มีงานทำ! ทั้งหมดที่ผมทำทั้งวันคือดูฮวงจุ้ยให้ผู้คน คุณคิดว่าคนในตระกูลมัวร์จะสนใจคนอย่างผมเหรอ?

ตระกูลมัวร์คือตระกูลระดับท็อปของโอลรัส ฮิลล์! ผมจะคู่ควรกับตระกูลมัวร์ได้อย่างไร? นอกจากนี้ ผมยังเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ไม่มีใครในโอลรัส ฮิลล์ที่ไม่รู้ว่าผมกำลังใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและครอบครัวของเธอ…”

แคลร์รีบพูดว่า “ชาร์ลี! อย่าพูดให้ตัวเองตกต่ำแบบนี้!”

ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “ผมไม่ได้พูดให้ตัวเองตกต่ำหรอกนะ นี่ไม่ใช่ความจริงเหรอ? เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นผม สิ่งแรกที่พวกเขามักจะพูดกับผมคือเรียกผมว่าเศษขยะและลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ที่อยู่กับภรรยาและครอบครัวของเธอ อันที่จริงผมชินกับมันแล้วแล้วล่ะ”

แคลร์ตอบอย่างจริงจังว่า “แต่ถึงยังไง ไม่ว่าใครจะพูดอะไร คุณก็ยังเป็นสามีของฉัน คุณไม่ใช่เศษขยะและไม่ใช่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ที่อาศัยอยู่กับภรรยาของคุณนะคะ!”

ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ภรรยาของผมเป็นคนเดียวที่ให้ค่าผม อันที่จริง ผมรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่ให้ผมมีค่ามากที่สุดในโอลรัส ฮิลล์!”