เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 486
เย่เมิ่งเหยียนจ้องเขาตาเขม็ง
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าจ๋อยๆ: “ที่รัก ก็ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
เย่เมิ่งเหยียนก็เอามือก่ายหน้าผากตัวเองทันที
“หยางเฟิง คุณหัวเราะอะไร”
หลังจากที่ได้ยินเสียงหัวเราะของหยางเฟิง
หลันซินหันกลับมาทันที พร้อมกับตะโกนเสียงดัง
หยางเฟิงกลอกตามองบนและพูดว่า “นี่ผมหัวเราะอยู่ในบ้านของตัวเอง ก็ยังผิดหรอ หรือว่ามันผิดกฎหมาย?”
“นี่คุณ……”
หลันซินโดนคำพูดของหยางเฟิงทำให้โกรธจนพูดอะไรไม่ออก
ณ ตอนนี้ หลันซินก็รู้สึกขึ้นมาได้ทันใดว่า
หยางเฟิงเกิดมาเพื่อเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเธอแน่ๆ!
ตราบใดที่อยู่กับหยางเฟิง
เธอไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขแน่!
ในขณะนี้
หยางเฟิงมองไปรอบๆ และถามด้วยความสงสัยว่า “แล้วคุณป้าโจวหล่ะ ทำไมผมไม่เห็นเธอเลย”
ตั้งแต่เข้ามาในบ้าน
หยางเฟิงก็ยังไม่เห็นโจวซู่เอ๋อร์เลย
เรื่องนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสงสัย
หลันซินกล่าวอย่างอารมณ์เสีย “ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ามันอยู่ที่ไหน มันก็อาจจะแค่ไปแอบขี้เกียจอยู่ที่ไหนสักที่!”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลันซิน
สีหน้าของหยางเฟิงก็เปลี่ยนเป็นมืดมนไปทันที
เพราะเขารู้ว่าโจวซู่เอ๋อร์ไม่ใช่คนขี้เกียจ
ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ
พอคิดได้ดังนั้น
ดวงตาทั้งสองของหยางเฟิงก็จ้องเขม็งไปที่หลันซิน
เมื่อได้เห็นสายตาที่เยือกเย็นของหยางเฟิง
จู่ๆหลันซินก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
เธอยืดคอขึ้นตรงและพูดว่า “หยางเฟิง ทำไมคุณถึงมองมาที่ฉันแบบนี้?”
“หลันซิน คุณบอกผมมาตามตรงดีกว่าว่าคุณทำอะไรกับคุณป้าโจว” หยางเฟิงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หยางเฟิง นี่คุณหมายความว่าอะไร มาหาว่าฉันกลั่นแกล้งคน หลักฐานก็ไม่มี อย่ามาพูดมั่วซั่วนะ!”
แม้ว่าใจของหลันซินจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เธอก็ยังแสดงออกด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว
“ฮึ!”
หยางเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “คุณก็อย่าไปทำอะไรคุณป้าโจวแล้วกัน ไม่งั้น ผมไม่ปล่อยคุณไปแน่!”
พูดจบ หยางเฟิงก็หันหลังแล้วเดินจากไป
จากที่รู้จักหลานซินมา
หยางเฟิงมั่นใจว่าหลานซินไม่ได้พูดความจริงอย่างแน่นอน
เขาต้องการไปหาโจวซู่เอ๋อร์ด้วยตัวเองเพื่อถามหาความจริง
พอเห็นหยางเฟิงเดินจากไป
หลันซินก็เริ่มรู้สึกร้อนรนขึ้นมา
เธอรู้ว่าหยางเฟิงจะต้องไปหาโจวซู่เอ๋อร์เพื่อถามหาความจริงอย่างแน่นอน
ถ้าหากโจวซู่เอ๋อร์พูดความจริงขึ้นมา
ตัวเธอเองก็จะต้องงานเข้าแน่ๆ?
หลังจากที่หยางเฟิงเดินจากไป
เย่เมิ่งเหยียนก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “แม่ แม่ไม่ได้ทำอะไรคุณป้าโจวใช่มั้ย?”
“ทำไมแม้แต่แกก็ยังไม่เชื่อฉัน ฉันเป็นแม่ของแกนะ!” หลันซินพูดด้วยท่าทีที่รู้สึกเหมือนโดนปรักปรำ: “อีกอย่าง โจวซู่เอ๋อร์มันก็เป็นแค่คนรับใช้ที่ต่ำต้อย ถึงฉันจะทำอะไรกับมัน มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
เย่เมิ่งเหยียนก็รู้ได้ทันทีว่า หลันซินต้องรังแกคุณป้าโจวแน่ๆ
เธอพูดอย่างเย็นชา: “คำพูดนี้ แม่ควรจะไปพูดให้หยางเฟิงฟังเองนะ! แล้วมาดูกันว่าหยางเฟิงจะจัดการกับแม่ยังไง?”
พอพูดจบ
เย่เมิ่งเหยียน ก็เดินตรงกลับไปที่ห้องทันที
“เมิ่งเหยียน…”
หลันซินรีบตะโกนเรียกลูกด้วยความร้อนร้น
แต่เย่เมิ่งเหยียนก็ปิดประตูทันทีโดยไม่หันกลับมามอง
เมื่อเห็นเช่นนี้
หลันซินนั่งบนโซฟา รู้สึกกระวนกระวายใจ
ตอนนี้เธอกลัวหยางเฟิงมากจริงๆ
หยางเฟิงกล้าฆ่าแม้กระทั่งพี่ชายของตน
แล้วก็ไม่มีอะไรที่รับประกันได้ว่าเขาจะไม่ลงมือกับเธอ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น
หลันซินก็เริ่มร้อนรนและรีบตะโกนว่า “ใครก็ได้ เอารถมา ฉันจะออกไปเต้นรำ!”
ในกลยุทธ์ร้อยเล่มเกวียนทั้งหลาย การหนีออกไปก่อนเป็นวิธีที่ดีที่สุด!
ในเวลาเดียวกันนั้น
หยางเฟิงมาถึงที่หน้าประตูห้องของโจวซู่เอ๋อร์
มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังมาจากข้างในห้อง
หยางเฟิงผลักเปิดประตูออก
เห็นโจวซู่เอ๋อร์กำลังนั่งก้มหัวร้องไห้อยู่บนเตียง
“คุณป้าโจว คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” หยางเฟิงถาม
โจวซู่เอ๋อร์รีบหยุดร้องไห้ทันทีและรีบตอบกลับอย่างลุกลี้ลุกลนว่า “คุณหยาง ฉันสบายดี ไม่ต้องเข้ามาค่ะ!”
หยางเฟิงพูดด้วยสีหน้าซีดเผือด: “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”