บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 658

“เจเรมี่ วิทแมน ตอนนี้แกก็ได้แหวนกลันคืนไปแล้ว แต่จำเอาไว้ด้วยนะ ว่าอย่าโผล่หน้าไปให้คุณเอวลีนเห็นอีก ถ้าไม่อย่างนั้น แกจะได้รู้ซึ้งถึงผลที่ตามมาแน่นอน” ชายในชุดสูทกล่าวเตือน

เจเรมี่หัวเราะเยาะเบา ๆ “ขนาดเจ้านายแกยังไม่กล้ามาเจอหน้าฉันตรง ๆ เลย แล้วทำไมฉันจะต้องปล่อยให้คนอย่างแกมาสอนด้วยว่าต้องทำยังไง?

“แก…” ชายคนนั้นได้แต่กัดฟันกรอด เขาจ้องมองเจเรมี่ด้วยดวงตาอันน่าเกลียด

“ส่งแหวนมาได้แล้ว” น้ำเสียงของเจเรมี่เยือกเย็นและกดดันอย่างมาก

เมื่อเห็นมือที่ยื่นออกมา ชายคนนั้นเยาะเย้ยขึ้นมาทันที “ผมจะคืนแหวนให้คุณเดี๋ยวนี้แหละครับ คุณวิทแมน เอารับนะ”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงของชายคนนั้น มันส่อเจตนาไม่ดีออกมาอย่างชัดเจน

ความจริง เขาจงใจขว้างแหวนให้มือเจเรมี่

แหวนหลุดผ่านร่องนิ้วมือเจเรมี่และกลิ้งตกลงบนพื้นปูนเสียงดังกริ๊ง

ชายคนนั้นหัวเราะชอบใจอย่างผู้ชนะ จากนั้นขึ้นรถและขับออกไป

เจเรมี่รีบคุกเข่าลง ยื่นมือไปข้างหน้าคลำหาแหวนที่ตกอยู่บนพื้นอย่างกังวล

เมเดลีนสลดไปทั้งใจเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า

‘ชายคนนั้นคือเจเรมี่ วิทแมนอย่างนั้นเหรอ?

‘ใช่คนเดียวกับคุณชายวิทแมนที่สูงส่งและสง่างามในสายตาคนอื่นนั่นจริง ๆ เหรอ?

ตอนนี้เขาดูสิ้นหวังมาก เขาได้แต่คลำหาแหวนที่ตกอยู่ใกล้กับเท้าเขานิดเดียวอย่างน่าสงสาร

เขาหาไม่เจอเลยไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ความวิตกกังวลปกคลุมใบหน้าอันหล่อเหลาและละมุนของเขา

เขาดูเหมือนเด็กกำลังโตที่สูญเสียของรักไป และทำได้เพียงคลำหาของสิ่งนั้นไปทั่วอย่างเป็นกังวล

เขามองไม่เห็นจริง ๆ

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา และยืนมองชายหนุ่มที่น่าสงสารอยู่

เมเดลีนรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันใด ราวกับว่ามีหนามแหลมทิ่มแทงจิตใจอยู่ในตอนนั้น

สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดมาอีกครั้ง และขอบตาของเธอก็แสบร้อน

สายตาที่ว่างเปล่าของเธอจ้องมองไปยังเจเรมี่อย่างเงียบเชียบ และเธอไม่ได้ขยับตัวทำอะไรเลย

ในเวลานี้ แจ็คสันปล่อยมือเมเดลีน เด็กน้อยรีบวิ่งไปหาเจเรมี่และหยิบแหวนแต่งงานขึ้นมากวางไว้บนมือเจเรมี่

“พ่อครับ นี่ครับ”

เจเรมี่รู้สึกถึงแหวนแต่งงานที่อยู่ในมือ ความสิ้นหวังก่อนหน้าหายไปหมด จากนั้นถูกแทนที่ด้วยความปีติยินดีที่ครั้งหนึ่งเคยหายไปและตอนนี้ได้กลับคืนมาแล้ว

เขาจับแหวนขึ้นมาเป่าฝุ่นออก และใส่กลับเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายอีกครั้ง เขาลูบไล้แหวนวงนั้นในขณะที่ใส่กลับเข้าไป เขาหมุนมันไปรอบ ๆ ราวกับว่าเขารู้สึกสนุกสนานที่ได้ทำแบบนั้น

ดวงตาของเมเดลีนพร่ามัวในทันใด

กลับกลายเป็นว่าเขาไม่ได้ถอดแหวนแต่งงานออก แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง มันเลยหายไปก่อนหน้านี้

ดูเหมือนว่าเจเรมี่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างแล้วในตอนนี้

เขายื่นมือออกไปและสัมผัสได้ถึงเด็กน้อยตรงหน้า “แจ็คสัน?”

“ใช่แล้ว แจ็คเอง” แจ็คสันตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

สายตาของเจเรมี่อ่อนโยนลง เขาลูบไล้แก้มของเด็กน้อยอย่างรักใคร่ “แจ็ค ทำไมลูกมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? ไม่ได้ขึ้นเครื่องบินไปกับแม่เหรอลูก?

“แจ็คกำลังจะไป แต่อยู่ดี ๆ แม่ก็พาแจ็คมาหาพ่อ” แจ็คสันพูดขึ้นพลางมองไปยังเมเดลีนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“…” เจเรมี่ชะงักไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น สายลมที่พัดผ่านทำให้หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะไปครู่หนึ่ง “แม่ของลูกก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”

“ครับ” แจ็คสันตอบออกมาอย่างไม่ลังเล “แม่ครับ มานี่เร็วสิครับ พ่อเขามองไม่เห็น พวกเราเลิกเล่นซ่อนหากับพ่อได้แล้วนะครับ”

น้ำตาของเมเดลีนร่วงหล่นลงมาทันใด

เจเรมี่นิ่งไปสักพัก จากนั้นจึงยืนขึ้นอย่างช้า ๆ เขารีบมองไปยังที่ที่เมเดลีนยืนอยู่ด้วยสัญชาตญาณ ความรีบร้อนบางอย่างปรากฏขึ้นบนใบหน้าในขณะที่ดวงตาส่องประกายฉายแววของความกระอักกระอ่วนออกมาในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม เขาเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยนออกมา

“เด็กโง่ พ่อจะมองไม่เห็นได้ยังไง? ไปขึ้นเครื่องบินกับแม่ของลูกเถอะ” เขายิ้มออกมาพลางผลักแจ็คสันไปทางที่เมเดลีนยืนอยู่ก่อนที่จะพูดขึ้น “ลินนี่ พาแจ็คกลับไปเถอะ ผมมีอะไรต้องทำน่ะ หวังว่าในอนาคตเราจะได้เจอกันอีกนะ”

เขารีบหันหลังกลับไปเมื่อพูดจบ แต่ด้วยสภาพที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทำให้เข้าสูญเสียประสาทรับรู้เรื่องทิศทางไป ทันทีที่หันหลังกลับ เขาชนเข้ากับกระถางดอกไม้จนเกือบล้ม

เมเดลีนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เธอหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “เจเรมี่ นายไม่อยากเจอหน้าฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”