บทที่181

ผู้แปล : N.

เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า: “พ่อขอคิดอีกซักพักนะ แล้วพ่อจะให้คำตอบลูก”

เรื่องใหญ่แบบนี้เขาไม่สามารถรีบตัดสินใจได้ และเขาต้องการความเห็นจากผู้ถือหุ้นทุกคนมาประกอบการตัดสินใจในเรื่องนี้ เพราะการที่บริษัทลู่เทคโนโลยีจะมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั้นมันคงต้องสงผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นทุกคนอย่างแน่นอน

ซู่ชิใช้เวลาคิดเรื่องนี้จนกระทั่งกลางดึกเขาก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้

เยรุนถามว่า: “ฉันจำไม่เห็นได้แล้วว่าคุณนอนดึกแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?”

ซู่ชิได้พูดเรื่องที่ลูกสาวของเขามาพูดกับเขาให้ภรรยาฟัง เยรุนได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนที่พูดว่า: “คุณมักจะคิดมากเสมอเมื่อเกี่ยวกับเรื่องของบริษัท ทำไมเราถึงไม่เริ่มพูดกันในเรื่องมุมมองของวัตถุประสงค์กันก่อนละ”

“ ถ้าบริษัทลู่เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดจริง มันจะส่งผลด้านดีหรือไม่ดีกับบริษัทของคุณ? ”

” แน่นอนมันเป็นสิ่งที่ดี! “ซู่ชิพูดต่อว่า “ถ้าเราได้รวมมือกันจริงๆ เราก็จะสามารถใช้ทรัพยากรของบริษัทลู่เทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ และเราจะไม่ถูกมองว่าเป็นแบรนด์ล่างอีกต่อไป ”

“และเราสามารถก้าวกระโดดไปยังตลาดโฮมสมาร์ทระดับไฮเอนด์ได้อีกด้วย ”

เยรุนได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมา “ฮิฮิ ฉันได้ฟังมุมมองของคุณแล้ว งั้นคุณมาฟังมุมมองส่วนตัวของฉันบ้าง”

“คุณต้องการโครงการโฮมสมาร์ทใช้ไหม?”

“ใช่” ซู่ชิพยักหน้า

“และผู้ถือหุ้นคนอื่นๆของบริษัทได้มีความคิดเช่นเดียวกับคุณไหม? ก็ไม่! พวกเขาหวังเพียงให้คุณนำเดินการพัฒนาในโครงการปกติเท่านั้น ”

“แต่มันจะเปลี่ยนไปทันที เมื่อมีบริษัทลู่เทคโนโลยีมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในเวลานั้นจะไม่มีใครกล้ามาตัดงบ หรือขู่ว่าจะยุบโครงการของคุณ เพราะคนที่มีอำนาจตัดสินใจที่สุดคือลูชินและลูชินก็เป็นลูกเขยของคุณ ”

” โอ้ … มันฟังดูสมเหตุสมผล! “ซู่ชิได้พยักหน้าเข้าใจ

“ ดังนั้นคุณต้องเป็นคนตัดสินใจว่าจะยังอยากล้มเลิกโครงการที่คุณรักเพราะพวกผู้ถือหุ้นคนอื่นๆที่ไม่สนับสนุนคุณ หรือว่าจะสานต่อความฝันของคุณรวมกับบริษัทของลูกเขยของคุณ?” เยรุนได้พูดออกมา

“มันก็จริงของคุณ!” ซู่ชิคิดเล็กน้อยและพูดต่อว่า: “ฉันตัดสินใจได้แล้ว ขอบคุณเธอมากนะ”

“ถ้าคุณคิดได้แล้วก็ควรไปนอนซักที”

… …

ซู่ชิได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของลูชิน จากนั้นเขาก็ไปชักชวนผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ นอกเหนือจากหุ้นที่กระจายไปกับผู้ถือหุ้นรายเล็กๆแล้วบริษัทของเขาได้มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งหมด 9 คน

ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งของจำนวนหุ้นทั้งหมด คนเก้าคนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้บริหารของบริษัท ซึ่งหุ้นในสามส่วนที่มากที่สุดนั้นมีเขาซึ่งเป็นเจ้าของ 12.3% ของหุ้นทั้งหมด รองประธานของบริษัทเชียหยุนซึ่งคิดเป็น 14.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทคือหลีชูในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งเป็นซีอีโอของบริษัท คิดเป็นสัดส่วน 18% ของจำนวนหุ้น     โดยพื้นฐานแล้วตราบใดที่ทั้งสองคนนี้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เขารับลองว่าเรื่องทุกอย่างจะง่ายขึ้น

ดังนั้นงานของเขาคือการโน้มน้าวให้ทั้งสองคนเห็นดีด้วยกับเรื่องนี้ เขาจึงไม่สามารถรอให้ถึงวันหลังปีใหม่ได้ เขาได้ทำการนัดพบเชียหยุนและหลีชูทันที

จะพบว่าหลีชูนั้นเป็นชายวัย 50 ปี เขาถือว่าเป็นคนที่มีอายุมากที่สุดในพวกเขา ในตอนแรกเขา หลีชู และเชียหยุนสามคนได้เป็นคนเริ่มต้นธุรกิจนี้ขึ้นมา ตอนแรกพวกเขาได้ทำธุรกิจในเมืองเจียงเฉิงก่อนที่จะย้ายมายังเมืองหลวงแห่งนี้

ในสำนักงานหลีชูได้พูดอย่างไม่เต็มใจว่า: “เฒ่าซู่ นายรู้ไหมว่านี้คือช่วงปีใหม่ ทำไมนายถึงได้โทรเรียกให้พวกฉันมาที่บริษัท?”

เชียหยุนได้เดาขึ้นมาว่า: “คงไม่ใช้เรื่องกล่องอัจฉริยะอีกนะ? “

“อะไรนะ! “หลีชูได้พูดต่อว่า”ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็ฉันได้บอกนายไปแล้วว่าผู้ถือหุ้นได้ลงความเห็นแล้วว่าโครงการของนายต้องทำการปิดลง ดังนั้นถ้านายจะมาต่อรองอะไรละก็รอให้ผ่านวันปีใหม่ไปก่อนไม่ได้หรือไง ”

อย่างไรก็ตามซู่ชิไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังเหมือนอย่างที่เขาคิดไว้ แต่ซู่ชิกับพูดขึ้นว่า: “ไม่ใช้เรื่องกล่องอัจฉริยะ เรื่องนั้นฉันทำสำเร็จไปแล้ว”

“นายพูดว่าอะไรนะ?” ทั้งสองคนรู้สึกประหลาดใจ

“พวกนายสามารถไปลองด้วยตัวเองได้” ซู่ชิได้พาคนสองคนไปที่ห้องปฏิบัติการโฮมสมาร์ทและปล่อยให้พวกเขาได้สัมผัสกับฟังก์ชั่นกล่องอัจฉริยะรุ่นล่าสุดนี้ด้วยตัวเอง

ทันใดนั้นทั้งสองก็แสดงสีที่มีความสุขและพูดว่า: “เยี่ยมมาก! กล่องอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้ดีกว่าเดิมอย่างมาก”

“นี้ไม่ใช้การปรับปรุงเล็กๆแล้ว เฒ่าซู่! ฉันต้องแสดงความยินดีกับนายด้วย ฮาฮาฮา!”

หลีชูได้แสดงรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะพูดว่า:“ ตอนนี้บริษัทของเราก็ถือได้ว่ามีอาวุธหนักเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้น นี้ถือได้ว่าเป็นเครดิตของนาย! การประชุมครั้งหน้าฉันจะประกาศเรื่องนี้ผู้ถือหุ้นทุกคน!”

“ นี่ไม่ใช่ฉันที่พัฒนาขึ้นมาหรอก “คำพูดของซู่ชิทำให้ทั้งสองสงสัย

“นายหมายถึงอะไร?”

“ กล่องอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้ได้รับการปรับปรุงโดยบริษัทลู่เทคโนโลยีและเซนเซอร์ที่ใช้อยู่ก็มาจากบริษัทของพวกเขา” ซู่ชิยิ่งอธิบายทั้งสองคนก็ยิ่งสับสน

“บริษัทลู่เทคโนโลยี! สิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นได้อย่างไง บริษัทของเราไม่ได้ขอความร่วมมือหรือติดต่อกันด้วยซ้ำ!”

ซู่ชิได้อธิบายต่อว่า “คือบริษัทลู่เทคโนโลยีได้แสดงความต้องการที่จะลงทุนในบริษัทของเราอีกด้วยเพื่อที่พวกเขาจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโฮมสมาร์ทขึ้นมาและ…”

“ถ้าเป็นการลงทุนปกติฉันก็ยินดีต้อนรับพวกเขา แต่นี้พวกเขาต้องการที่จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด … “หลีชูได้ขมวดคิ้วก่อนพูดว่า ” พวกเขาคิดจะเข้ามาควบคุมบริษัทของเราหรือไม่ ”

ซู่ชิได้พูดขึ้นว่า:” ในเรื่องนั้นนายไม่ต้องกังวล พวกเขาได้บอกมาว่าพวกเขาจะไม่ยุ้งเกี่ยวกับธุรกิจหลักของพวกเราโดยเด็ดขาด .! พวกเขาขอแค่อำนาจตัดสินใจทั้งหมดเกี่ยวกับโครงการโฮมสมาร์ทเท่านั้น”

“ฉันเห็นว่าการลงทุนของพวกเขานั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพวกเรามากนัก “

เชียหยุนได้พยักหน้าและพูดว่า ” ถ้าเป็นแบบที่นายพูดมาก็น่าสนใจ!”

“แต่ฉันกลัวว่าเมื่อพวกเขาได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จริงๆ พวกเขาจะไม่ทำอย่างที่พูดนะสิ!”

ซู่ชิได้พูดเหตุผลที่สำคัญออกมาว่า:“ นายไม่เห็นหรือว่าบริษัทของเราไม่ได้เติบโตขึ้นเลยตั้งแต่สองปีก่อน นายอยากให้บริษัทของเราเป็นแบบนี้ต่อไปหรือไง?”

หลีชูไม่ได้แสดงความคิดเห็นของเขา เพราะเขากำลังใช้ความคิดอย่างนักเพื่อทำการวิเคราะห์ผลได้ผลเสียในเรื่องนี้ หากบริษัทลู่เทคโนโลยีได้มาลงทุนในบริษัทของเขาจริง หุ้นในมือของผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะมีค่ามากขึ้นอย่างแน่นอนและบริษัทของเขาเองก็จะได้รับโอกาสเติบโตขึ้นอีกระดับหนึ่งอีกด้วย

แต่มันมีจุดที่สำคัญที่สุดคือเขาจะไม่ได้เป็นผู้บริหารสูงสุดอีกต่อไป นั้นคือสิ่งที่เขาต้องทำการตัดสินใจ

“เฒ่าเชี่ยนนายคิดว่าไง?” หลีชูได้ถามเชียหยุน

ในความเป็นจริงเชียหยุนมีความสุขอย่างมากเมื่อได้ยินว่าจะมีการลงทุนจากบริษัทลู่เทคโนโลยีเพราะนั้นหมายถึงว่ามูลค่าสุทธิของเขาจะเพิ่มขึ้น

ดังนั้นเขาจึงได้รีบตอบไปว่า:“ ฉันคิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดี แต่ฉันคงต้องขออ่านเงื่อนไขทั้งหมดก่อน”

“ ฉันเองก็ต้องการเวลาในการพิจารณาเรื่องนี้เช่นกัน” หลีชูได้พูดต่อว่า “เราจะมาคุยเรื่องนี้กันต่อหลังจากหมดช่วงปีใหม่แล้ว”

หลีชูไม่สามารถตัดสินใจได้ในขณะนี้ และเป็นเช่นเดียวกันสำหรับผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ พวกเขานั้นหวังเพียงว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีจะอยู่ในธุรกิจเกมมือถือเพียงอย่างเดียว แต่มันไม่ใช้แบบนั้นตอนนี้พวกนั้นต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดของอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านด้วย

ดังนั้นพวกเขาจึงมีความลังเลอยู่บ้างหากบริษัทลู่เทคโนโลยีเข้ามาในบริษัทของพวกเขา แล้วตำแหน่งของพวกเขาละ นี้คือเรื่องที่พวกเขาต้องทำการหารือกันอย่างเร่งด่วน

ซู่ชิยังบอกลูชินเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลูชินได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมา : “ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่พวกเขาจะเห็นด้วย”