ตอนที่ 518 กงจวิ้นฉือกลับมาแล้ว / ตอนที่ 519 ผมคิดถึงคุณมาก

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 518 กงจวิ้นฉือกลับมาแล้ว

 

 

           เวลาผ่านไปไวมาก เพียงครู่เดียวก็ผ่านไปแล้วครึ่งวันแล้ว ฉู่เจียเสวียนวางปากกาในมือลง ขยับคอที่ปวดเมื่อยเล็กน้อย เห็นถังถังเดินถือเอกสารมาจากที่ไกลๆ

 

 

           มองดูถังถังที่ทั้งมั่นใจและงดงาม ฉู่เจียเสวียนยิ้ม   

 

 

           “ที่รัก เมื่อกี้ฉันเพิ่งเปิดบิลได้” ถังถังเข้ามาในออฟฟิศ โยนเอกสารลงบนโต๊ะ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยความสดใสพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

 

 

           แม้ว่าถังถังก็เป็นดีไซเนอร์ของร้านด้วย แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ของบริษัทล้วนมาจากการพูดคุยของเธอเพียงคนเดียว ส่วนด้านการออกแบบ เธอไม่ได้เก่งเหมือนฉู่เจียเสวียน

 

 

           “รู้ว่าเธอเก่งที่สุดเลย วันนี้กงจวิ้นฉือกลับมาแล้ว พวกเรามีนัดกันกินข้าวเย็น เธออยากมาด้วยกันไหม” ฉู่เจียเสวียนยิ้มเอ่ย มองถังถังพร้อมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

           “ไม่ล่ะ พวกเธอสองคนไม่ได้เจอกันนานแบบนั้น ฉันไม่รบกวนดีกว่า” ถังถังปฏิเสธทันทีโดยไม่คิด

 

 

           เธอไม่อยากเป็นก้างขวางคอ พวกเขาสองคนไม่ได้เจอกันนานแบบนั้น ถ้าหากเธอไปจริงๆ ล่ะก็

 

 

กงจวิ้นฉือจะต้องประชดประชันเธอตลอดมื้อแน่ๆ? เธอไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว

 

 

           ได้ยินคำตอบของถังถังแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็ส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไรอีก ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ยังเหลืออีกสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดกับกงจวิ้นฉือ เธอตัดสินใจจะทำงานต่ออีกสักพัก

 

 

           เมื่อถึงเวลาหกโมงเย็น ฉู่เจียเสวียนมาถึงที่ร้านอาหารซีเฉิง สถานที่นัดหมายตามเวลา

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเดินเข้าไป หลังจากมองไปรอบๆ ห้องอาหารแล้วก็ไม่เห็นเงาของกงจวิ้นฉือ เธอเอื้อมมือไปหยุดบริกรที่กำลังจะเดินผ่านเธอพอดี

 

 

           “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณกงจองไว้ตรงไหนคะ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยถามอย่างมีมารยาท บนใบหน้ามีรอยยิ้ม

 

 

           “คุณฉู่ใช่ไหมครับ เชิญมากับผมทางนี้เลยครับ” หลังจากที่บริกรมองฉู่เจียเสวียนแล้วอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาดึงสติกลับมาทันที แล้วพาฉู่เจียเสวียนไปยังห้องส่วนตัว

 

 

           “คุณฉู่เชิญครับ” บริกรเปิดประตูห้อง ทันทีที่เห็นกงจวิ้นฉือนั่งอยู่ข้างใน มุมปากยกยิ้ม ฉู่เจียเสวียนเดินเข้าไป

 

 

           หลังจากที่บริกรพาฉู่เจียเสวียนเข้ามาแล้ว ก็ปิดประตูลงอย่างระมัดระวัง

 

 

           เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนมาแล้ว กงจวิ้นฉือรีบลุกขึ้นยืน ลากเก้าอี้ให้ฉู่เจียเสวียนนั่งลงอย่างสุภาพบุรุษ

 

 

           “ขอบคุณค่ะ” ฉู่เจียเสวียนกล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาท แววตาที่มองเขาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม

 

 

           ทั้งสองคนนั่งลงไม่นาน บริกรก็มาเสิร์ฟอาหาร

 

 

           กงจวิ้นฉือมองดูฉู่เจียเสวียนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาสักพัก เขาอดไม่ไหวต้องการกอดเธอไว้ในอ้อมแขน และบอกเธอถึงความทุกข์ทรมานจากการคิดถึงของเขา

 

 

           แต่ว่าเมื่อนึกว่าช่วงที่เขาไม่อยู่ ฉู่เจียเสวียนกับเผยหนานเจวี๋ย…เฮ้อ เขาถอนหายใจเบาๆ

 

 

           “ช่วงนี้ทุกอย่างโอเคไหม” กงจวิ้นฉือถามพร้อมมองฉู่เจียเสวียน ในสมองนึกถึงกองภาพถ่ายอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยิ้มพยักหน้า มองกงจวิ้นฉือที่ไม่ได้เจอกันสักพัก เขาดูเหมือนจะผอมลง

 

 

           “ดีค่ะ ก็มีแค่เรื่องงาน” พอฉู่เจียเสวียนพูดถึงตรงนี้ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอ บริษัทกงก็คงไม่เจอกับความวุ่นวาย

 

 

           “ไม่เป็นไร ตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว” เสียงที่อบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น แววตาที่มองเธอเปี่ยด้วยความอ่อนโยน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็พยักหน้า แล้วไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

           กงจวิ้นฉือมองฉู่เจียเสวียน ข่มคำถามในใจทั้งหมดที่อยากถามเอาไว้ เขาไม่ต้องการทำลายความสุขระหว่างพวกเขาที่ได้มาอย่างยากลำบาก เขาควรจะเชื่อเธอ

 

 

           “เจียเสวียน นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจซื้อให้คุณ” ขณะที่อาหารค่ำดำเนินมาได้สักพัก กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก ยื่นของขวัญที่เขาตั้งใจเตรียมมาเป็นพิเศษให้กับฉู่เจียเสวียน

 

 

 

 

       ตอนที่ 519 ผมคิดถึงคุณมาก

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้า มองดูกงจวิ้นฉือที่มีสีหน้าลึกซึ้ง ก็เกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาดเล็กน้อย

 

 

           เขาจากไปนานแบบนั้น เธอดูเหมือนว่าไม่เคยคิดถึงเขาเลย เดิมทีนึกว่าการที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกาย เธอจะรู้สึกเสียใจไม่มากก็น้อย แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกลับไม่มีความห่วงหาเลย

 

 

           ตอนนี้เขากลับมาแล้ว เมื่อได้เจอเขา หัวใจของเธอก็ยังสงบนิ่งไร้ซึ่งอารมณ์

 

 

           “ขอบคุณค่ะ” ฉู่เจียเสวียนยื่นมือรับ กล่าวขอบคุณกงจวิ้นฉืออย่างมีมารยาท

 

 

           เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว ความผิดหวังวูบผ่านแววตาของกงจวิ้นฉือ เพราะว่าเขาไม่รู้สึกถึงความดีใจเวลาที่ฉู่เจียเสวียนเจอเขา

 

 

           “เจียเสวียน พวกเราเป็นแฟนกัน ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก” กงจวิ้นฉือกล่าวอย่างไม่พอใจ เอื้อมมือกุมมือของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ขณะที่มือของกงจวิ้นฉือกำลังเอื้อมไปที่มือของเธอ เธอยกแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นดื่มด้วยสีหน้าปกติ

 

 

           ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เมื่อฉู่เจียเสวียนได้ยินกงจวิ้นฉือบอกว่าเธอคือแฟนของเขานั้น หัวใจของเธอเริ่มต่อต้านอย่างประหลาด

 

 

           กงจวิ้นฉือไม่ได้กุมมือของฉู่เจียเสวียน ความผิดหวังในหัวใจยิ่งหนักหน่วงขึ้น แต่ว่าเขาไม่ได้แสดงออกมา ยังคงมองเธอด้วยรอยยิ้มจางๆ

 

 

           “ดูสิว่าชอบหรือเปล่า” เสียงที่อบอุ่นของกงจวินฉือดังขึ้น บอกให้ฉู่เจียเสวียนดูว่าชอบของขวัญที่เขามอบให้เธอหรือเปล่า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนได้ยินแล้วก็เปิดออกดู ภายในกล่องมีสร้อยข้อมือที่ดูเรียบง่ายเส้นหนึ่ง ฉู่เจียเสวียนรู้ว่าสร้อยเส้นนี้ราคาแพงอย่างแน่นอน

 

 

           “จวิ้นฉือ คุณซื้อของแพงๆ ให้ฉันอีกแล้ว” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย บนใบหน้ามีรอยยิ้ม

 

 

           “เห็นว่ามันเหมาะกับคุณดีก็เลยซื้อ” กงจวิ้นฉือเอ่ย บนใบหน้ามีรอยยิ้มอบอุ่น

 

 

           หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว กงจวิ้นฉือก็ส่งฉู่เจียเสวียนกลับมาที่วิลล่า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนลงจากรถ กงจวิ้นฉือลงรถตาม

 

 

           “เจียเสวียน ผม…ไปตั้งนาน คุณไม่มีอะไรอยากบอกผมเหรอ” กงจวิ้นฉือพูดขึ้น ก้มหน้ามองดูใบหน้าน้อยๆ ที่งดงามของฉู่เจียเสวียน เขาจากไปนานขนาดนั้น เธอเคยคิดถึงเขาบ้างหรือเปล่า

 

 

           ฉู่เจียเสวียนอึ้งไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ กงจวิ้นฉือจะถามแบบนี้ ในเวลานั้นเธอไม่รู้ว่าจะต้องตอบอย่างไร ก่อนที่เธอจะตอบ กงจวิ้นฉือก็กอดเธอ

 

 

           “ผมคิดถึงคุณมาก” กงจวิ้นฉือกอดเธอเบาๆ จากนั้นเสียงที่ทุ้มต่ำก็ดังขึ้นเหนือศีรษะของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าจะต้องตอบเขาอย่างไร ช่วงระยะเวลาที่เขาจากไป เธอไม่เคยคิดถึงเขาเลย แต่ว่าเธอจะพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไรกัน

 

 

           “ฉันก็คิดถึงคุณ” ฉู่เจียเสวียนกล่าว เสียงหลุดออกมาจากปากของเธอ

 

 

           แม้จะรู้ว่าคำพูดของฉู่เจียเสวียนเป็นเพียงการปลอบใจเขา แต่ว่ากงจวิ้นฉือก็ยังรู้สึกมีความสุขมาก อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากให้เขาเป็นทุกข์ไม่ใช่เหรอ

 

 

           “ผมรู้ เอาเถอะ คุณรีบเข้าไปเถอะ นอนเร็วหน่อย อย่านอนดึก รู้ไหม” กงจวิ้นฉือกล่าว ดวงตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ยื่นมือลูบผมของเธอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยิ่งดูมีเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัดภายใต้แสงจันทร์ โดยเฉพาะคืนนี้เธอในเดรสสีแดงดูสวยงามอย่างไร้ที่เปรียบ

 

 

           “ค่ะ คุณขับรถดีๆ ล่ะ” คลายกอดจากกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองเขา กำชับให้เขาขับรถอย่างระมัดระวัง

 

 

           “โอเค” กงจวิ้นฉือพยักหน้า มองเธอแล้วยิ้ม

 

 

           ไม่ได้พูดอะไรมากอีก หลังจากกงจวิ้นฉือตอบรับแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็โบกมือให้เขา แล้วหันหลังเข้าบ้านไป ทิ้งให้กงจวิ้นฉือยืนอยู่ที่เดิมตามลำพัง จนกระทั่งประตูปิดลงบดบังสายตาของเขา เขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน

 

 

           สายลมยามค่ำคืนพัดมาจนเสื้อโค้ทของเขาขยับไหว ผมก็ถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงเล็กน้อย เมื่อรู้สึกหนาวเย็นเล็กน้อยแล้ว กงจวิ้นฉือจึงหันหลังจากไป