ตอนที่ 1637

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,637 : สิ่งที่อ๋องเฉียนต้องการ!

 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การทะลวงผ่านไปยังด่านพลังเซียนของหลินตง เป็นเรื่องราวที่ผู้คนส่วนใหญ่สุดจะคิดคาดจินตนาการได้จริงๆ!

 

เหตุผลที่กล่าวว่าผู้คนส่วนใหญ่ ล้วนเป็นเพราะมีบางคนที่ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะแปลกอะไร!

 

และยังมากกว่าหนึ่งคน!

 

ในบรรดาคนของจวนอ๋องเฉียน ไม่ว่าจะเป็นตัวอ๋องเฉียนเองหรือชายชราทั้ง 2 ที่ประกบอยู่ด้านหลังอ๋องเฉียน แม้จะเห็นหลินตงทะลวงสู่ขอบเขตเซียนพวกมันก็ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย!

 

จากอาการไม่แปลกใจของพวกมัน ทั้งรอยยิ้มบางๆนั่น เผยให้เห็นชัดว่าพวกมันรู้แต่แรกแล้วว่าฉากเรื่องราวเช่นนี้จะปรากฏขึ้น!

 

และอันที่จริง พวกมันก็รู้เรื่องนี้มานานแล้ว!

 

หลินตงนั้น ตั้งแต่หลายเดือนที่แล้วมันก็สามารถทะลวงสู่ขอบเขตเซียนได้ทุกเวลา สาเหตุที่ยังไม่ทะลวงเพราะมันจงใจระงับพลังฝึกปรือเอาไว้ เพื่อมาประลองกับต้วนหลิงเทียน!

 

หากมันทะลวงด่านเซียนแต่แรก ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะไม่รับคำท้ามาสู้กับมันเลย ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะรับคำท้าและแพ้มัน มันก็คงถูกผู้คนรุมประนามหยามหยันดั่งผู้ใหญ่รังแกเด็กน้อย!

 

อย่างไรก็ตามการทะลวงด่านพลังในขณะประลองเป็นตายนั้น เรื่องราวจะแตกต่างออกไปแล้ว!

 

ถึงแม้มันจะฆ่าต้วนหลิงเทียนตอนนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าว่าอะไรมันแม้แต่น้อย!

 

อ๋องเฉียนกับชายชราด้านหลังทั้ง 2 รู้อยู่แล้วก็ไม่นับเป็นอะไร แต่คนอื่นๆที่ไม่รู้เรื่องนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะตกใจและประหลาดใจกันหมด!

 

ในบรรดาผู้ที่ประหลาดใจย่อมรวมถึง ซือถูหมิง อี้เฟิง และเยี่ยมู่ไป๋เช่นกัน!

 

ก่อนหน้านี้พอพวกมันเห็นความเร็วของต้วนหลิงเทียนท่องไปทั่วฟ้า พวกมันก็ไร้ความหวังเรื่องที่หลินตงจะฆ่าต้วนหลิงเทียนได้อีกต่อไป และนั่นทำให้พวกมันหัวเสียนัก!

 

อย่างไรก็ตามฉากเรื่องราวเบื้องหน้าอยู่ดีๆ ก็พลิกตลบลังกา พาลให้พวกมันรู้สึกเสมือนพึ่งตกนรกได้ไม่ทันไรก็โบยบินขึ้นสวรรค์อีกครั้ง!

 

หลินตงกลับทะลวงไปยังขอบเขตเซียน!

 

ความหมายคืออะไรพวกมันทราบดี!

 

“ต้วนหลิงเทียน คราวนี้เจ้าตายแน่!!”

 

ทั้ง 3 ล้วนหันไปถลึงตามองต้วนหลิงเทียนด้วยความอาฆาตอีกครา ในแววตายังเปี่ยมล้นไปด้วยความเย้ยหยัน!

 

หลายคนเมื่อเห็นหลินตงทะลวงไปถึงขอบเขตเซียนต่อหน้าต่อตา พวกมันก็ถึงกับอึ้งตะลึงงันด้วยไม่คาดคิด กว่าจะได้สติก็ต้องใช้เวลาหลายลมหายใจ ทั้งหลายยังเร่งจับสัมผัสพลังหลินตงกันยกใหญ่!

 

อย่างไรก็ตามฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทั้งกลิ่นอายพลัง บ่งบอกให้รู้ว่าพวกมันไม่ได้ฝันไป!

 

หลินตงกลับทะลวงผ่านไปยังขอบเขตเซียนแล้วจริงๆ!

 

บังเกิดความก้าวหน้าขณะต่อสู้ ไม่นับเป็นเรื่องแปลกอะไรในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า!

 

ทว่าเป็นการหักด่านบรรลุขอบเขตเซียนขณะต่อสู้แบบนี้ กระทั่งในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ายังหาดูได้ยากนัก!

 

“นี่หลินตงมัน…ทะลวงผ่านแล้วจริงๆ?”

 

“ให้ตายเถอะ ข้ายังพึ่งหัวเราะมันเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหลอยู่เมื่อครู่…ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าไม่ทันไรมันก็ทะลวงด่านสำเร็จจริงๆ!!”

 

“ต้วนหลิงเทียนเผยความเร็วยามท่องกระบี่ออกมาแบบนั้น ข้าคิดว่าหลินตงคงไร้หนทางทำอะไรได้แล้ว…แต่ไม่คิดเลยว่าในสถานการณ์อับจนเช่นนี้ หลินตงกลับผ่าทางตันด้วยการทะลวงเซียน!”

 

“ถึงแม้ว่าความเร็วของต้วนหลิงเทียนจะสูงล้ำ ถึงขั้นยากที่จะมีผู้ใดที่อยู่ใต้เซียนต้านติด…แต่ก็ยังไม่เท่ายอดฝีมือที่พึ่งบรรลุเซียนได้!”

 

“เรื่องนี้ย่อมเป็นธรรมดา! ยามทะลวงถึงขอบเขตเซียน มิว่าจะผู้ฝึกยุทธ์หรือผู้ฝึกเต๋า ก็ล้วนบังเกิดความเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าคว่ำดิน! ปราณแท้ยกระดับพัฒนาไปสู่ปราณแรกกำเนิด…และปราณแท้ย่อมมิอาจเทียบกับปราณแรกกำเนิดได้เลย! ไม่ว่าจะปราณแท้ก่อลักษณ์ศาสตรา สรรพสัตว์กระทั่งเขตแดน จะมีขุมพลังเป็นปราณแรกกำเนิดทั้งหมด!!”

 

“ต้วนหลิงเทียนนับว่าโชคร้ายยิ่งนัก!”

 

“มิผิด เขาโชคร้ายจริงๆ กลับไม่ย่อมลงมือสังหารหลินตงเสียตั้งแต่มีโอกาส เพราะคิดว่าความเร็วเหนือกว่าจักลงมือตอนใดก็ได้…น่ากลัวคงมิได้คิดเลยว่าในห้วงเวลาที่หลินตงคับขันอับจน แต่หลินตงจะสามารถทะลวงด่านเซียนได้เช่นนี้!!”

 

……

 

เหล่าผู้คนมองหลินตงด้วยความตื่นตระหนก และเริ่มระเบิดบทสนทนาอันร้อนระอุออกมา

 

ในวาจาทั้งหลาย บ่งบอกว่าทุกคนตกใจกับการทะลวงด่านพลังครั้งนี้ของหลินตงกันนัก และอดไม่ได้ที่จะสงสารต้วนหลิงเทียน เพราะเห็นใจต้วนหลิงเทียนที่ได้เปรียบอยู่ดีๆ มาตอนนี้คงมิแคล้วต้องตกตายด้วยน้ำมือหลินตงที่พึ่งทะลวงผ่านมาถึงขอบเขตเซียน!!

 

“เป็นไปได้อย่างไร! เรื่องพรรค์นี้มันเป็นไปได้อย่างไร!?”

 

ใบหน้าซือถูหังถอดสีไปทันใด ยังไม่เหลือเลือดฝาดแม้แต่น้อย!!

 

ก่อนหน้านี้พอเห็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตอย่างต้วนหลิงเทียนมีความเร็วเหนือกว่าหลินตง กระทั่งสมควรฆ่าหลินตงได้มันก็มีความสุขความยินดีนัก…แต่ไม่คิดเลยว่าเพียงเวลาแค่พริบตาทุกอย่างจะพลิกคว่ำลง!

 

สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้ว นี่นับเป็นหายนะอย่างแท้จริง!

 

ซือถูฮ่าวกับซือถูโฮ่วเองก็ยืนอื้ออึงด้วยไม่ทราบจะกล่าวอะไรออกมาดี ทั้งคู่จับจ้องไปยังหลินตงที่พึ่งทะลวงด่านพลังด้วยสายตาเลื่อนลอย

 

“ทะลวงผ่าน…ขอบเขตเซียนงั้นหรือ?”

 

เห็นความก้าวหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัวของหลินตง ป๋ายลี่หงและเหล่าสหายของต้วนหลิงเทียนก็รู้สึกตกตะลึงไม่น้อย!

 

แต่พอคิดถึงฉากที่ต้วนหลิงเทียนใช้กระบี่วิเศษสังหารอาวุโสสูงสุดของสำนักจันทร์จรัสแสงที่เป็นเซียน พวกมันจึงไม่ได้กังวลเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะถูกหลินตงฆ่าสักเท่าไร! ทว่าพวกมันเริ่มกังวลว่าหากต้วนหลิงเทียนหยิบกระบี่นั่นออกมา จะหลบเลี่ยงเภทภัยและมรสุมช่วงชิงได้อย่างไร?

 

น่ากลัวว่าหากได้เห็นกระบี่วิเศษนั่น ต่อให้เป็นสุดยอดฝีมือที่ร้ายกาจที่สุดในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า ก็ต้องบังเกิดกิเลศ!

 

พวกมันเชื่อมั่นนักหากต้วนหลิงเทียนเผยกระบี่ออกมา ต้วนหลิงเทียนต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่ยากจะควบคุมได้แน่!

 

ยิ่งไปกว่านั้น เกรงว่าผู้คนของคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนจะเร่งรุดมาด้วยความเร็ว!

 

“ต้วนหลิงเทียน เจ้าช่างอับโชคนัก…ที่ต้องมาเจอกับข้าที่ทะลวงขอบเขตเซียนได้อย่างไม่คิดฝันเช่นนี้! อาศัยความเร็วนั่นของเจ้า ถ้าข้ามิได้บรรลุเซียน น่ากลัวว่า 9 ใน 10 คงมิใช่คูมือเจ้า แต่ตอนนี้ข้าทะลวงด่านเซียนแล้ว ต่อหน้าข้าเจ้าก็เหมือนมดตัวกระจ้อยที่ข้าจะเหยียบย่ำเมื่อใดก็ได้!!”

 

หลังจากที่ทะลวงผ่านมายังขอบเขตเซียนแล้ว สีหน้าท่าทางทั้งสภาวะร่างของหลินตงก็แปรเปลี่ยนไปสิ้นเชิง มันมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาไร้แยแส กล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมยคล้ายไม่ยึดถือต้วนหลิงเทียนเป็นจริงจังอะไรอีก

 

“ทะลวงด่านเซียนได้อย่างไม่คิดฝัน?”

 

เผชิญหน้ากับหลินตงที่กล่าววาจาหยันหยามไม่เห็นหัว ต้วนหลิงเทียนเพียงฉีกยิ้มกล่าวสวนไปอย่างไม่เกรงกลัว “ไม่ใช่ว่าเจ้าวางแผนมาล่วงหน้าแล้วรึไง?”

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมสังเกตเห็นได้ไม่ยาก ว่าการทะลวงผ่านไปยังขอบเขตเซียนของหลินตงครั้งนี้ ในขณะที่ทุกคนตื่นตระหนกตกใจแต่อ๋องเฉียนกับชายชราทั้ง 2 ด้านหลัง กลับไม่แม้แต่จะแปลกใจอะไรเลย ราวกับล่วงรู้แต่แรกแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

 

ดังนั้นเขาจึงสรุปได้ในพริบตา ว่าหลินตงนั้นมีสามารถพอจะทะลวงด่านเซียนได้นานแล้ว หากแต่มันเลือกจะระงับพลังฝึกปรือเอาไว้ เพื่อรอมาทะลวงผ่านในเวลาแบบนี้!

 

“วางแผนมาล่วงหน้า?”

 

หลินตงตกใจไม่น้อยที่ได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน เห็นชัดว่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้รู้มาแต่แรก! ทว่ามันก็ไม่ได้ตกใจจนเสียอาการ เพียงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ไม่ว่าวันนี้เจ้าจะพูดอะไร เจ้าก็ต้องตาย!”

 

สิ้นคำ อาณาบริเวณรอบกายกินรัศมี 100 หมี่จากร่างหลินตงพลันบังเกิดความเปลี่ยนแปลง วังวนพลังทั้งหลายเริ่มแปรเปลี่ยนไป!

 

นอกจากวังวนพลังดังกล่าวจะมีสีเข้มขึ้น พวกมันยังคล้ายหมุนวนด้วยความเร็วรอบที่สูงขึ้นจนน่ากลัว!

 

ถึงแม้ปราณแรกกำเนิดก่อเขตแดน จะมีกลวิธีไม่ต่างจากปราณแท้ก่อเขตแดน แต่เนื่องจากคุณสมบัติของขุมพลัง เช่นนั้นแล้วพลังอำนาจของมันจึงเพิ่มพูนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ!

 

ตอนนี้เองทั่วกายหลินตงก็แผ่พุ่งปราณแรกกำเนิดออกมา ไม่ว่าใครก็มองเห็นมวลพลังหนาแน่นดังกล่าวได้ชัดเจน!

 

“หลินตงหากข้าเดาไม่ผิด อ๋องเฉียนได้ทำข้อตกลงอะไรบางอย่างกับเจ้าใช่ไหม? ถึงเชิญเจ้ามาจากคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวนได้…อย่างเช่นจะมอบของรางวัลมหาศาลหากฆ่าข้าได้ ส่วนมันจะเอาแต่แหวนพื้นที่ของข้าไปอะไรแบบนั้น?”

 

ต้วนหลิงเทียนมองหลินตงด้วยสายตาคมกล้า กล่าวออกเสียงเข้ม

 

และทันทีที่ต้วนหลิงเทียนพูดเรื่องนี้ออกมา ทุกคนก็หันไปมองอ๋องเฉียนทันที!

 

ก่อนหน้านี้ทุกคนก็แปลกใจด้วยไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆหลินตงที่เป็นอันดับ 1 ในรายนามนภาของเขตอิทธิพลคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน ถึงได้อุตริเดินทางมายังประเทศฝูเฟิงเพื่อท้าประลองกับต้วนหลิงเทียนที่มีอันดับด้อยกว่าขนาดนี้!

 

พอมาได้ฟังวาจาประโยคนี้ของต้วนหลิงเทียน พวกมันจึงคล้ายปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทันที!

 

ที่แท้หลินตงถูกอ๋องเฉียนเชิญตัวมา!

 

ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นความโลภในทรัพย์สมบัติที่ต้วนหลิงเทียนมี!

 

“อ๋องเฉียนต้องการทรัพย์สมบัติในแหวนของต้วนหลิงเทียนงั้นเหรอ? หรือว่าจะมีสมบัติเลิศล้ำอันใดในแหวนเขากัน?!”

 

“เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนอีกรึไร!? หากมิมีสมบัติเลิศล้ำอยู่ในแหวนต้วนหลิงเทียน ไฉนอ๋องเฉียนถึงได้กระทำถึงขั้นนี้! กลับจ้างหลินตงให้เดินทางมาจากคฤหาสน์หลิ่งหนานหยวน!!”

 

“การจ้างให้หลินตงมาถึงที่นี่ได้ ราคาที่ต้องจ่ายย่อมไม่น้อยแน่นอน…แล้วเช่นนั้นมูลค่าสิ่งของที่อยู่ในแหวนพื้นที่ต้วนหลิงเทียนจะมหาศาลถึงเพียงใดกันเล่า!?”

 

“สมควรเป็นอ๋องเฉียนที่ล่วงรู้ว่าต้วนหลิงเทียนมีป้ายเซียนที่บรรจุเคล็ดวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอดไว้แต่แรกแล้วหรือไม่? และอ๋องเฉียนไม่มีวิธีฆ่าต้วนหลิงเทียน เพราะเขาเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของตระกูลซือถูที่อยู่ฝ่ายเดียวกับอ๋องหรง…จึงเลือกที่จะใช้หลินตงเป็นหมาก?”

 

“เจ้ากล่าวมีเหตุผลนัก! หากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างก็เข้าทีแล้ว! อ๋องเฉียนต้องการวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอดของต้วนหลิงเทียนเป็นแน่! ด้วยเหตุนี้จึงเชิญหลินตงมาท้าประลองกับต้วนหลิงเทียน พอต้วนหลิงเทียนรับคำท้า ยังเปลี่ยนเป็นการประลองเป็นตาย! ที่แท้เพราะคิดให้หลินตงฆ่าชิงแหวน!!”

 

……

 

เหล่าผู้ชมที่เริ่มสนทนากันไม่นานพวกมันก็พอจะทราบสาเหตุความเป็นมาของเรื่องราว ทั้งหมดหลงคิดว่าที่อ๋องเฉียนต้องการ คือวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอด!

 

“เหอะ!”

 

ลูกตาของอ๋องหรงเผยประกายเย็นชา ยังแค่นเสียงออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะมันก็คิดเหมือนกันกับคนอื่นๆ!

 

อย่างไรก็ตามพอคิดว่าการที่หลินตงทะลวงขอบเขตเซียนได้แบบนี้ อย่างไรต้วนหลิงเทียนก็ต้องตาย มันก็จะได้เริ่มแผนการยุยงนิกายอัคคีล่องลอยใช้ประโยชน์จากแม่นางเฟิ่งอย่างที่คิดไว้ตอนแรก!

 

เมื่อทุกผู้คนหาข้อสรุปกันได้แล้ว ทั้งหมดก็ได้แต่หันมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเวทนาสงสาร

 

คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก!

 

วาจาดังกล่าว นับว่าเหมาะจะอธิบายสภาพการณ์ของต้วนหลิงเทียนนัก!

 

ตอนนี้เองมุมปากอ๋องเฉียนตัวต้นเรื่องกลับยกยิ้มแสยะขึ้นมา

 

วรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอด?

 

ก่อนหน้านี้มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้วนหลิงเทียนมีวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอด!

 

สิ่งที่มันต้องการนั้น มีค่าเหนือกว่าวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอดอย่างทาบไม่ติด!

 

แน่นอนว่าเรื่องนี้แต่อี้เฟิงกับมันและผู้คุ้มกันเท่านั้นที่รู้!

 

หากยังจะมีคนอื่นอีก ก็คงต้องเป็นตัวต้วนหลิงเทียนเอง!

 

“เหอะ!”

 

ถึงแม้ว่าต้วนหลิงเทียนจะเดาสาเหตุการมาของมันออก แต่หลินตงก็เพียงแค่นเสียงสบถตอบกลับ ไม่คิดจะตอบคำถามเขาแต่อย่างไร ทว่าเลือกที่จะกล่าวเย้ยออกมาแทน “ต้วนหลิงเทียน ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไร้ประโยชน์ที่เจ้าจะกล่าวอะไรให้มากความ! ต่อให้เจ้ามีลิ้นทองคำกล่าวอะไรเก่งแค่ไหน แต่สุดท้ายเจ้าก็หนีความจริงที่ต้องตายไม่พ้น!”

 

“หลินตง…นี่เจ้าคงไม่เหมือนคนอื่นๆหรอกนะ ที่คิดว่าอ๋องเฉียนมันลำบากจ้างเจ้ามาเพื่อวรยุทธ์เซียนระดับมนุษย์ชั้นยอดในแหวนพื้นที่ข้า?”

 

ต้วนหลิงเทียนมองหลินตงด้วยสีหน้าเฉยเมย ก่อนที่จะค่อยๆกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ไม่คล้ายตระหนักถึงสถานการณ์วิกฤติที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่แต่อย่างไร!