แดนนิรมิตเทพ บทที่ 728
จี๋ต๋าจิ่วตูพยักหน้า “หลังจากนายไปไม่นาน ไอ้เบื๊อกเฉินก็มา ส่วนคนนั้นชื่อเจี่ยจวินซื่อ เขามาช้ากว่าไอ้เบื๊อกเฉินเล็กน้อย”

กู่หลินเฟิงแสดงความสุภาพกับเจี่ยจวินซื่อ เขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย

เฉินโม่รู้สึกว่ากู่หลินเฟิงไม่ชอบตนเอง เขารู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่เขาไม่สามารถอธิบายกับพวกเขาได้

เฉินโม่ทำได้แค่เพียงแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรและนิ่งเงียบ ปล่อยให้จี๋ต๋าจิ่วตูบ่นต่อไป

“เอาล่ะ มืดค่ำแล้ว กลับไปก่อนแล้วค่อยคุยกัน!” เจี่ยจวินซื่อขัดขวางไม่ให้จี๋ต๋าจิ่วตูบ่นเฉินโม่อีก มิฉะนั้นเกรงว่าเจ้าหมอนี้คงจะบ่นจนถึงดึกดื่นเที่ยงคืน

“เอาล่ะ วันนี้ฉันปล่อยไอ้เบื๊อกเฉินชั่วคราวก่อน พรุ่งนี้นายต้องให้คำอธิบายกับพวกเรา” จี๋ต๋าจิ่วตูยื่นคำขาด

ตอนที่พวกเขาเดินไปถึงประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัย กู่หลินเฟิงกล่าวว่า “ช่วงนี้ฉันจะไม่กลับไปที่หอพักชั่วคราว พวกนายกลับหอพักกันก่อนเถอะ!”

เฉินโม่กล่าวเช่นกันว่า “ฉันเช่าบ้านอยู่ข้างนอก ฉันก็ไม่กลับหอพักกับพวกนายด้วยเช่นกัน”

“พวกนาย…….” จี๋ต๋าจิ่วตูมองเฉินโม่และกู่หลินเฟิงด้วยความเหยียดหยามชั่วครู่ จากนั้นกล่าวกับเฉินโม่ว่า “โดยเฉพาะไอ้เบื๊อกเฉิน เห็นสาวสวยก็กระโจนใส่ทันที นายระวังตัวให้ดี แล้วสักวันหนึ่งนายจะเสียใจ”

เฉินโม่มีความทุกข์แต่ยากที่จะพูดออกมาได้ เขาไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังได้

“รู้แล้ว วางใจเถอะ!” เฉินโม่กล่าว

“ถ้าเช่นนั้นพวกนายสองคนก็รีบไปเถอะ ระวังตัวด้วย!” เจี่ยจวินซื่อกำชับ

“โอเค”

เฉินโม่และกู่หลินเฟิงเดินออกไปจากประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยหัวหนานด้วยกัน พวกเขาสองคนเป็นคนเย่อหยิ่งเหมือนกัน ไม่มีใครเอ่ยปากก่อน และบรรยากาศระหว่างทางค่อนข้างอึมครึม

ขณะที่เดินไปถึงทางแยก เฉินโม่กล่าวว่า “ถึงที่พักของฉันแล้ว”

กู่หลินเฟิงกล่าวว่า “ลาก่อน!”

“ลาก่อน!”

เฉินโม่มองแผ่นหลังของกู่หลินเฟิง เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “นายยังคงเหมือนเดิม!”

ชาติก่อนฉายาของกู่หลินเฟิงคือเจ้าอารมณ์ ฉายานี้สามารถอธิบายลักษณะนิสัยของกู่หลินเฟิงได้อย่างชัดเจน เกรงว่าชาตินี้กู่หลินเฟิงยังคงไม่สามารถเลี่ยงฉายาเจ้าอารมณ์ได้

ถึงแม้เฉินโม่รู้ว่ากู่หลินเฟิงเข้าใจตนเองผิด แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไร เพราะการอธิบายนั้นมันเหมือนเป็นการแก้ตัว สู้พิสูจน์ด้วยการกระทำไม่ได้

เฉินโม่รู้ว่าความจริงแล้วกู่หลินเฟิงเป็นสมาชิกของตระกูลบู๊ พลังบำเพ็ญของเขาอยู่ในระดับแดนนอกชั้นสมบูรณ์แล้ว และวันพรุ่งนี้กู่หลินเฟิงจะพบกับความพ่ายแพ้ ทำให้กู่หลินเฟิงเสียหน้าอย่างรุนแรง และกลายเป็นรอยด่างในชีวิตของกู่หลินเฟิง

ชาติก่อนเฉินโม่ไม่มีความสามารถที่จะช่วยกู่หลินเฟิงได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองกู่หลินเฟิงอับอายขายหน้า แต่ครั้งนี้แตกต่างกัน เฉินโม่มีความสามารถที่จะช่วยกู่หลินเฟิงแก้ไขปัญหานี้ได้ และทำให้ชีวิตของเขาปราศจากรอยด่างดังกล่าว

แต่เฉินโม่จำช่วงเวลาแน่นอนในวันพรุ่งนี้ที่กู่หลินเฟิงพบเจอปัญญาไม่ได้ เขาจำได้เพียงแค่ว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นหลังจากการประชุมแลกเปลี่ยนหนึ่งวัน

เช้าตรู่ เฉินโม่สิ้นสุดการฝึกตลอดคืน ตอนนี้ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพดีที่สุด

จากนั้นเขาใช้พลังทิพย์ขจัดฝุ่นบนเสื้อผ้าของตนเองทันที ตอนนี้เฉินโม่ไม่จำเป็นต้องชำระร่างกายเหมือนคนธรรมดาแล้ว

ชั้นหกแดนรวมพลัง ทำให้ร่างกายของเฉินโม่จะถูกโอบรอบด้วยชั้นเกราะพลังงานที่มองไม่เห็น ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาไม่เปียกฝน และไม่เปื้อนฝุ่นเหมือนกับเซียน

เมื่อเฉินโม่มาถึงมหาวิทยาลัย เห็นกลุ่มคนล้อมอยู่รอบประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย

เฉินโม่ยืนอยู่บนที่สูงแล้วมองเข้าไป เห็นกู่หลินเฟิงและชายหนุ่มสวมชุดกีฬาสีดำอยู่ข้างใน

และด้านข้างของชายหนุ่มคนนั้น ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่รูปร่างเตี้ย และอายุไล่เลี่ยกับกู่หลินเฟิงยืนอยู่

กู่หลินเฟิงตะโกนด้วยความโมโหว่า “จี้ชิง นายเป็นคนที่เคยพ่ายแพ้ให้กับฉัน นายไม่สามารถเอาชนะฉันได้ ก็เลยไปหาคนมาช่วย แบบนี้ไม่ถือว่ามีความสามารถหรอก?”