ตอนที่ 402 ให้ท่านแม่ดีใจก็พอ / ตอนที่ 403 เผชิญหน้าครั้งแรก

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 402 ให้ท่านแม่ดีใจก็พอ

 

 

จากนั้นเขาก็พูดต่อ “แม้น้องรองจะพูดตรงไปตรงมา แต่ที่พูดก็ไม่ผิด เป็นความจริงซิ่นอ๋องไม่สามารถปกครองแผ่นดินได้ ถ้าเขาเป็นฮ่องเต้ คงสังหารขุนนางและราษฎรที่ไม่เห็นด้วยกับเขา

 

 

พอถึงตอนนั้นการนองเลือดก็ไม่อาจเลี่ยงได้ เป็นหายนะสำหรับราษฎรแคว้นเจียง ขุนนางไม่คำนึงถึงคุณธรรมคิดแต่จะเอาตัวรอด ไม่ใช่การกระทำของขุนนางที่จงรักภักดี

 

 

บางครั้งข้าเองก็สงสัย เรารักษาตัวรอดอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่

 

 

รัชทายาทเป็นคนมีความรู้มีความคิดอ่าน สุภาพอ่อนน้อม ฝ่าบาททรงเลือกเขา ก็คงเห็นคุณธรรมในตัวของเขา ท่านพ่อ เรื่องนี้อาจจะเป็นลิขิตฟ้า! ในเมื่อสวรรค์ให้เราเลือกทางนี้แล้ว เราก็ลองเสี่ยงเลือกรัชทายาทดีหรือไม่”

 

 

“มู่หย่ง นี่เป็นคำสอนของบรรพชนตระกูลมู่ การต่อสู้ในหมู่ราชตระกูลหากเข้าร่วมแล้วยากที่จะถอนตัว

 

 

ถ้ารัชทายาทพ่ายแพ้ ตระกูลมู่ของเราก็คงพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ พอถึงตอนนั้นตระกูลคงไม่มีอะไรเหลือ ตระกูลมู่ของเรามีผู้คนมากมาย ข้าไม่อยากให้ตระกูลมู่เสี่ยงอันตราย เวลานี้จึงได้แต่รอดูไปก่อน”

 

 

มู่อวิ๋นชางยังไม่แสดงท่าทีสนับสนุนฟู่เฉินหรง หากก้าวออกไปจากนี้ คงต้องจ่ายค่าตอบแทนสูงมาก เขาอยากดูว่าซูจิ่วซือจะทำอะไร ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งนี้

 

 

“ท่านพ่อพูดถูก เวลานี้พวกเราต้องรอดูก่อน ไม่มีใครรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราไม่อาจวางตัวอยู่ภายนอกอย่างแต่ก่อน ท่านพ่อเองก็ต้องเตรียมตัวให้ดี”

 

 

มู่อวิ๋นชางพยักหน้า “ไม่ว่านางจะเป็นซือซือหรือไม่ เวลานี้ให้ถือว่านางเป็นซือซือก่อนเถอะ! แม่เจ้าจะได้ดีใจ หลายปีมานี้ คนที่เสียใจที่สุดก็คือแม่เจ้า”

 

 

“ข้าเข้าใจ ขอแต่ให้ท่านแม่ดีใจ ซูจิ่วซือใช่ซือซือหรือไม่ไม่สำคัญ ถ้านางดูแลท่านแม่ดี ข้าก็จะถือว่านางเป็นน้องสาว”

 

 

มู่อวิ๋นชางไม่พูดอะไรอีก เขารับปากฮูหยินมู่แล้ว ก็ต้องทำอย่างนี้ก่อน

 

 

เมื่อก่อนเขาเคยคิดจะให้คนแอบอ้างเป็นมู่ซือซือ เพื่อให้ฮูหยินมู่ดีใจ

 

 

แต่พอฮูหยินมู่เห็นจี้หยกก็ดูออกทันที จี้หยกรูปผีเสื้อทำจากหยกที่หายากมาก หยกสีขาวมีจุดสีแดง ฮูหยินมู่จำจี้หยกได้แม่น ไม่อาจทำเลียนแบบได้ นางดูแวบเดียวก็รู้ทันที

 

 

เวลานี้นางรับซูจิ่วซือแล้ว อาจจะเป็นวาสนาอย่างในตำนาน บางทีซูจิ่วซืออาจจะเป็นลูกสาวของเขาจริงๆ ไม่เช่นนั้นฮูหยินมู่คงไม่สนิทสนมกับนางอย่างนี้

 

 

วันรุ่งขึ้น ร้านเหล้าเทียนหยาก็ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ กู้หลียวนชอบบรรยากาศคึกคัก จึงเชิญคณะเชิดสิงโต คาบผ้าแดงลงมาจากป้ายร้าน ท่ามกลางเสียงฆ้อง โรงเตี๊ยมเทียนหยาเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว

 

 

เขาจ้างคนรับใช้สามคน ผู้จัดการคนหนึ่ง กิจการดีมาก ห้องโถงกับห้องพิเศษชั้นบนเต็มหมดไม่มีที่ว่าง เขากับซูจิ่วซือต้องจัดการเองจึงพอจะทัน

 

 

“หลียวน ถ้ากิจการดีอย่างนี้ทุกวัน เจ้าคงรวยแน่”

 

 

เผยปิงปิงยกอาหารเข้าออกห้องครัว เจอกู้หลียวนที่มายกอาหารในครัวด้วย

 

 

กู้หลียวนเหงื่อเต็มหน้าผาก แม้อากาศจะเย็นแล้ว แต่วิ่งเข้าออกอย่างนี้ เขาถึงกับเหงื่อตก เหนื่อยจนไม่มีเวลาพักหายใจ

 

 

“ทำการค้าไม่ใช่เรื่องง่าย กิจการดีทุกวัน ก็ทั้งดีใจทั้งกลุ้มใจ”

 

 

“เถ้าแก่ จ้างคนครัวเพิ่มอีกคนได้ไหม”

 

 

พ่อครัวซึ่งยืนทำอาหารอยู่หน้าเตาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ออกจากเตา งานยุ่งจนหัวหมุน

 

 

“เดือนนี้ให้เงินค่าจ้างเพิ่มเป็นเท่าตัว ไม่ได้ยุ่งอย่างนี้ทุกวัน ช่วงนี้อดทนหน่อย”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 403 เผชิญหน้าครั้งแรก

 

 

เผยปิงปิงบ่น “พ่อครัวได้เงินเดือนเพิ่ม ข้ากับจิ่วซือไม่มีเงินเดือนเลย”

 

 

“คนกันเองจะเอาเงินเดือนอะไร”

 

 

“ใครเป็นคนกันเองของเจ้า”

 

 

พอได้ยินอย่างนี้ เผยปิงปิงซึ่งเดินเหนื่อยอยู่แล้วก็ยิ่งเหนื่อยมากขึ้น รีบซักต่อ

 

 

กู้หลียวนหลุดปากพูดออกมา “ก็เจ้ากับจิ่วซือ”

 

 

พอพูดจบก็รู้สึกว่าไม่เหมาะ แต่ไม่ได้พูดแก้ ได้แต่ยกอาหารที่หน้าเตาออกไป “ข้ายกอาหารไปก่อนละ”

 

 

“อาจาง คนกันเองหมายความว่าอย่างไร”

 

 

เผยปิงปิงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จู่ๆ ก็ถามอาจางซึ่งกำลังง่วนอยู่หน้าเตา

 

 

“ก็คือคนครอบครัวเดียวกัน แม่นางปิงปิง มันฝรั่งผัดเรียบร้อยแล้ว รีบยกไปเลย!”

 

 

“ได้” เผยปิงปิงยกมันฝรั่งผัดที่เพิ่งออกจากกระทะ มุมปากผุดรอยยิ้ม กู้หลียวนบอกว่านางเป็นคนกันเอง แสดงว่าในใจเขามีนางจริงๆ

 

 

กู้หลียวนคนนี้เมื่อไรหนอจึงจะบอกนางให้ชัดเจน ว่าเขาชอบนาง

 

 

ต้องให้นางคาดเดาอยู่เรื่อย ไม่ยอมพูดอะไรออกมา น่าเบื่อจริงๆ

 

 

ซูจิ่วซือกำลังจดบัญชีอยู่ที่โต๊ะยาว นี่เป็นงานที่นางถนัด จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเดินมาที่โต๊ะ นางนึกว่ามีคนมาจ่ายเงิน จึงเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็เห็นชายคนหนึ่งกับหญิงสองคน

 

 

ทั้งสามอายุน้อย สวมเสื้อคลุมหรู ดูก็รู้ว่าเป็นคนตระกูลใหญ่

 

 

ผู้ชายสวมเสื้อคลุมสีเขียวเข้ม ใบหน้าเคร่งขรึม ให้ความรู้สึกกดดันอยู่ลึกๆ ความหยิ่งทะนงบนใบหน้าเผยออกมาอย่างชัดเจน

 

 

หญิงสาวสองคนที่อยู่ข้างๆ คนหนึ่งสวมชุดสีน้ำเงิน เกล้าผมมวย สีหน้าร้ายกาจและฉลาด หน้าตาดี คงเป็นภรรยาของเขา

 

 

ข้างหลังยังมีหญิงสาวสวมชุดสีเหลืองดูเด่น หน้าตาน่ารัก ดูเหมือนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แต่สายตาล้ำลึก มองแวบเดียว ซูจิ่วซือก็ดูออกทันที นี่ไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนต่อโลก

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้ “ขออภัยท่านทั้งสาม ตอนนี้แขกเต็มแล้ว ไม่มีที่ว่าง ท่านทั้งสามเชิญนั่งทางนี้ก่อน

 

 

ซูจิ่วซือจัดเก้าอี้เป็นแถวที่หน้าโต๊ะยาว พอพูดจบก็ทำท่าเชิญทั้งสามนั่ง

 

 

พอได้ยินว่าไม่มีที่ว่าง ฟู่อี้หานก็หน้าบึ้งทันที วันนี้เขาตั้งใจมาหาเรื่อง “ข้าโอรสไม่เคยต้องรอใคร แม่นาง รีบจัดห้องพิเศษให้ข้า เอาห้องพิเศษที่ดีที่สุดของที่นี่”

 

 

เขาเรียกตัวเองเป็นโอรส นางจึงเดาฐานะของเขาได้ ถ้าทายไม่ผิด เขาน่าจะเป็นลูกชายของซิ่นอ๋อง แต่ซิ่นอ๋องมีลูกชายสี่คน ไม่รู้ว่าเป็นคนไหน ถ้าไม่ใช่คนจวนซิ่นอ๋อง ไม่มีใครที่ไหนวางอำนาจอย่างนี้

 

 

ตูเฉิงอยู่ภายใต้การเบื้องพระบาทโอรสสวรรค์ การจะเปิดร้านใหญ่อย่างนี้ได้ ต้องมีคนหนุนหลัง

 

 

ฟู่เฉินหรงก็ไม่เคยปิดบังความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกู้หลียวน และยังช่วยหาลูกค้าให้ร้านเหล้าเทียนหยา และมีมู่หยางช่วยแนะนำลูกค้า วันนี้จึงมีคนมาอุดหนุนมากมาย

 

 

หลังจากเริ่มกิจการมาระยะหนึ่ง เรื่องนี้จึงไม่ใช่ความลับในหมู่คนชั้นสูง คนชั้นสูงทั้งสามที่อยู่เบื้องหน้าจึงน่าจะรู้ความเป็นมาของร้านเหล้านี้ ทั้งๆ ที่รู้ก็ยังก่อกวน แสดงว่าตั้งใจมาหาเรื่อง

 

 

ซูจิ่วซือแววตาเย็นชา แต่รอยยิ้มบนใบหน้าไม่ได้จางหาย นางยังคงยิ้มน้อยๆ “คุณชาย กินอาหารยังต้องมีลำดับก่อนหลัง เราเปิดร้านไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับแขก เวลานี้ชั้นบนยังไม่มีห้องพิเศษเหลือ คุณชายโปรดรอสักครู่”